ป่าเต็มไปด้วยเงามืด และอีธานวิ่งฝ่ามันอย่างไร้ทิศทาง ปอดของเขาแสบไหม้ในทุกครั้งที่หายใจ พื้นดินขรุขระและรกครึ้มจากรากไม้ที่พันเกี่ยวราวกับพยายามจะดึงเขาลงไป ส่วนต้นไม้สูงใหญ่เหนือศีรษะคล้ายยักษ์เฝ้าประตูที่บิดเบี้ยว อากาศกลางคืนที่เย็นยะเยือกอบอวลไปด้วยกลิ่นดินเปียกชื้นและความเน่าเปื่อย เสียงเดียวที่ดังกว่าเสียงหัวใจที่เต้นรัวของเขาคือเสียงเห่าของสุนัขจากระยะไกล สุนัขล่าของบารอนราสค์ พวกมันตามรอยเขาอย่างไม่ลดละ
Sponsored Ads
เขาหยุดไม่ได้ ไม่ใช่ตอนนี้
อกของเขากระเพื่อมขณะสะดุดล้มบนพื้นขรุขระ กิ่งไม้ฟาดเข้าที่ใบหน้าของเขา รอยประทับบนฝ่ามือของเขาเผาไหม้เป็นเหมือนการเตือน ความรู้สึกเจ็บปวดจากรอยประทับแห่งเอลด์ริชที่คอยดึงขอบจิตใจของเขาไปเรื่อยๆ ทุกครั้งที่เจ็บปวดคือสัญญาณ สัญญาณบอกว่าเวลาของเขากำลังจะหมดลง
ฉันต้องรอด อีธานคิดในใจ ขณะที่สมองของเขาแล่นไปอย่างรวดเร็ว แต่เขาจะไปไหนได้ ป่าที่ทอดยาวไปเบื้องหน้าดูเหมือนไม่มีที่สิ้นสุด เส้นทางคดเคี้ยวที่ไม่คุ้นเคยและเต็มไปด้วยอันตราย แม้เขาจะหนีทหารของบารอนราสค์มาได้ แต่ก็แทบจะเอาชีวิตไม่รอด การปะทะกับบารอนทิ้งบาดแผลทั้งทางร่างกายและจิตใจไว้กับเขา และเขารู้ดีว่าทหารเหล่านั้นยังคงตามล่าทุกย่างก้าวของเขา
รอยประทับบนฝ่ามือปะทุขึ้นอีกครั้ง อีธานกัดฟันทนกับความเจ็บปวด เขาไม่สามารถปล่อยให้ความสนใจหลุดลอยไปได้ ไม่ใช่ตอนนี้ เขาต้องหาทางซ่อนตัวและหลบหนีจากนักล่า
ทันใดนั้น เสียงหนึ่ง เสียงกิ่งไม้หัก ทำให้อีธานตื่นตัวขึ้น เขาหยุดชะงัก ลมหายใจติดขัดในลำคอ ขณะที่เขาเงี่ยหูฟัง เสียงเห่าได้หยุดลงแล้ว ถูกแทนที่ด้วยเสียงใบไม้ไหวและเสียงพูดคุยเบาๆ ของทหาร พวกเขาอยู่ใกล้มาก
Sponsored Ads
อีธานก้มตัวหมอบหลบอยู่หลังต้นไม้ กดแผ่นหลังแนบกับเปลือกไม้ที่หยาบกระด้าง หัวใจของเขาเต้นรัว และเขาหลับตาลงชั่วครู่ พยายามปรับการหายใจให้คงที่ เขาไม่สามารถวิ่งหนีได้ตลอด เขาต้องวางแผน
คิดสิ ใช้สิ่งที่รู้
เขาก้มมองถุงยาในมือ ที่ภายในมีขวดเล็กๆ บรรจุสารเคมีผสมกันดังกริ่งเบาๆ เขาได้ทดลองมาตลอดตั้งแต่ก้าวเข้าสู่โลกใบนี้ ผสมผสานความรู้ทางวิทยาศาสตร์จากโลกเดิมของเขากับวัตถุดิบแปลกประหลาดที่เขาพบในที่นี่ แต่ทรัพยากรของเขามีจำกัด และทุกครั้งที่ใช้ มันเสี่ยงอันตราย
เสียงพูดดังขึ้นอีก คราวนี้ใกล้เข้ามา อีธานเหลือบมองไปด้านหลังต้นไม้ ดวงตาของเขาสำรวจผ่านเงามืด เห็นทหารสองคน สวมเกราะที่สะท้อนแสงจันทร์เบาๆ เดินผ่านป่า พร้อมอาวุธในมือ สุนัขของพวกเขาก็ตามหลังอย่างใกล้ชิด จมูกติดพื้น ดมกลิ่นตามรอยเขาอย่างไม่ลดละ
หัวใจของอีธานเต้นแรงขึ้น เขาล้วงเข้าไปในถุง หยิบขวดเล็กๆ ใบหนึ่งออกมา ขวดหมอกพิษ ส่วนผสมทดลองที่ทำจากสมุนไพรและตัวทำละลายทางเคมี หากมันทำงาน ควันหนาทึบจะก่อตัวขึ้นและทำให้สุนัขเสียสมดุล ทำให้เขามีโอกาสหลบหนี
หากมันไม่ได้ผล…เขาก็ไม่มีทางเลือกมากนัก
Sponsored Ads
อีธานเปิดจุกขวดแล้วขว้างลงไปที่พื้น ขวดแก้วแตกกระจายทันที ควันดำหนาทึบพวยพุ่งขึ้นมา ลอยคละคลุ้งผ่านต้นไม้เหมือนเงามืด สุนัขเห่าอย่างสับสน เสียงหอนแหลมสูงกลายเป็นเสียงร้องโหยหวนอย่างตื่นตระหนกขณะที่พวกมันสูญเสียร่องรอยกลิ่นของอีธานท่ามกลางหมอกหนานั้น
แผนได้ผลชั่วขณะหนึ่ง ทหารสะดุดล้ม ไอและใช้มือปัดหน้าขณะที่พวกเขาพยายามเดินฝ่ากลุ่มควัน อีธานใช้โอกาสนี้ลอบหนีเข้าไปในป่าลึก ควันที่ลอยตามหลังเขาราวกับเงาผี
แต่รอยประทับบนฝ่ามือร้อนขึ้น ความเจ็บปวดแล่นไปทั่วแขนเป็นระลอก เขาสะดุดล้ม สายตาพร่ามัวเมื่อเสียงกระซิบเอลด์ริชเกาะกุมจิตใจของเขา ดึงเขาไปหาบางสิ่งที่มืดมนและมองไม่เห็น ห้วงลึกกำลังรอคอย และจับจ้องเขาอยู่
“ยังไม่ได้” เขาคิดอย่างสิ้นหวัง “ยังล้มไม่ได้”
เขาเร่งฝีเท้าไปข้างหน้า ร่างกายสั่นสะท้านด้วยความเหนื่อยล้า ป่าดูเหมือนไม่มีที่สิ้นสุด ต้นไม้แต่ละต้นดูคล้ายกันไปหมด ราวกับว่าผืนดินกำลังสมคบคิดเพื่อกักขังเขาไว้ ความคิดของเขาเริ่มเลือนลางเป็นหมอกหนาของความกลัวและความเจ็บปวดที่บดบังการรับรู้ของเขา
Sponsored Ads
เพียงแค่คิดว่าเขาจะวิ่งต่อไปไม่ไหว เสียงหนึ่งก็ดังฝ่าความสับสนเข้ามา เสียงที่ทำให้เขาสะดุ้งด้วยความคุ้นเคย
“อีธาน!”
เขาหยุดชะงัก ดวงตาเบิกกว้าง แบรน เสียงของแบรน
“ตรงนี้!” แบรนตะโกน ร่างของเขาปรากฏขึ้นจากเงามืด
ขาของอีธานแทบทรุดเมื่อเขาวิ่งตรงไปหาเสียงนั้น ความโล่งใจท่วมท้นในใจ แบรนอยู่ที่นั่นแล้ว ดาบของเขาชักออก ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความกังวลเมื่อเห็นสภาพอันย่ำแย่ของอีธาน
“แบรน…” อีธานพูดเสียงหอบ จับที่สีข้างของเขาขณะทรุดลงพิงต้นไม้ “คุณ…คุณหาฉันเจอได้ยังไง?”
แบรนหันไปมองข้างหลัง ดวงตาของเขาเฉียบคม “ฉันตามหาคุณที่วัลเมียร์” เขาพูดด้วยน้ำเสียงตึงเครียด “พอฉันได้ยินว่าพวกทหารของราสค์ตามล่าคุณ ฉันก็รู้ว่าคุณต้องมุ่งหน้ามาที่ป่า เลยคิดว่าจะดักเจอคุณก่อนพวกนั้นจะเจอ”
อีธานพยักหน้าอ่อนแรง เกินกว่าจะพูดอะไรได้ จิตใจของเขายังคงหมุนติ้ว อะดรีนาลีนยังสูบฉีดผ่านเส้นเลือด เขาวิ่งหนีมาตลอดเหมือนว่ามันไม่มีวันสิ้นสุด และอิทธิพลของรอยประทับก็ยิ่งรุนแรงขึ้นทุกขณะ แต่ตอนนี้แบรนมาแล้ว เขาไม่ได้อยู่คนเดียวอีกต่อไป
Sponsored Ads
แบรนมองไปที่แสงเรืองจางๆ จากรอยประทับบนฝ่ามือของอีธาน ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความกังวล “สภาพคุณดูไม่ดีเลย”
อีธานขมวดคิ้วด้วยความเจ็บปวด “เป็นเพราะรอยประทับ…มันแย่ลงเรื่อยๆ ”
แบรนส่ายหน้า สีหน้าของเขาเคร่งขรึม “เราค่อยคุยกันทีหลัง ตอนนี้เราต้องไปก่อน พวกของราสค์ยังอยู่ข้างนอกนั่น และควันนั่นคงกันพวกมันได้ไม่นาน”
อีธานพยักหน้า พยายามดันตัวเองลุกจากต้นไม้ด้วยความช่วยเหลือจากแบรน ขาของเขาหนักเหมือนตะกั่ว ร่างกายประท้วงด้วยความเจ็บปวด แต่เขาไม่สามารถหยุดตอนนี้ได้ ไม่ใช่เมื่อพวกเขาใกล้จะหลุดพ้นแล้ว
ทั้งสองเดินลึกเข้าไปในป่า แบรนนำทางขณะที่พวกเขาลัดเลาะผ่านพงหญ้าหนาทึบ เสียงของพวกนักล่าเริ่มจางหายไปไกล แต่อีธานรู้ดีว่าพวกเขายังไม่ปลอดภัย รอยประทับบนฝ่ามือของเขายังคงแผดเผา เป็นการเตือนเขาอยู่เสมอว่าเวลาใกล้จะหมดลงแล้ว
ป่ารอบตัวพวกเขาปิดลง เงากลืนกินแสงจากกองไฟ แต่อีธานไม่หยุด เขาไม่สามารถหยุดได้
จนกว่าจะเป็นอิสระจากรอยประทับ
จนกว่าจะเป็นอิสระจากเทพเจ้าแห่งความมืด
Sponsored Ads