ความมืดปกคลุมเมืองวัลเมียร์ราวกับผ้าห่มหนาที่อึดอัด มันเต็มไปด้วยหมอกและภัยคุกคาม อีธาน รูคยืนอยู่ที่หน้าต่างของห้องเล็ก ๆ ที่แบรนจัดหาให้ จ้องมองลงไปยังตรอกแคบ ๆ ด้านล่าง ตะเกียงถนนที่กระพริบเป็นครั้งคราวแทบจะไม่สามารถตัดผ่านความมืดได้เลย เงายาวบิดเบี้ยวทอดตัวไปตามพื้นหินที่ปูไว้ เมืองนี้รู้สึกชั่วร้ายมากขึ้นเมื่อกลางคืนมาถึง ราวกับว่าเงาพวกนั้นมีชีวิต ซ่อนเร้นบางสิ่งที่แย่ยิ่งกว่ากระซิบจากเอลด์ริชที่คอยหลอกหลอนความคิดของเขา
Sponsored Ads
มือของเขาคันอยู่ภายใต้ถุงมือ รอยประทับแห่งเอลด์ริชเต้นเป็นจังหวะด้วยความร้อนแผ่ว ๆ เขาเหลือบมองฝ่ามือของเขาเป็นครั้งที่ร้อยตั้งแต่ที่มาถึง รู้สึกถึงพลังงานผิดธรรมชาติของสัญลักษณ์ ยิ่งเขาอยู่ที่นี่นานเท่าไหร่ มันก็ยิ่งดูเหมือนจะเพิ่มขึ้น ไม่ใช่แค่ในด้านความเข้มข้น แต่ในตัวตน เหมือนสิ่งชั่วร้ายที่เกาะติดวิญญาณของเขา และมันไม่ใช่แค่รอยประทับที่เปลี่ยนไป เขารู้สึกถึงแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นในจิตใจ ความรู้สึกเหมือนมีบางสิ่งกำลังจ้องมองเขาอยู่
เขาหันหลังออกจากหน้าต่าง พยายามสลัดความรู้สึกถูกเฝ้ามองออกไป ห้องนั้นคับแคบ แทบจะไม่พอสำหรับเตียงเล็ก ๆ และโต๊ะไม้ที่โยกเยกในมุมห้อง แบรนหายไปหลายชั่วโมงแล้ว ลอบออกไปตามท้องถนนเพื่อหาข้อมูล ในขณะที่อีธานต้องซ่อนตัวอยู่ที่นี่ ไม่ให้ใครเห็น
แต่มันรู้สึกเหมือนการซ่อนตัวนั้นไร้ประโยชน์ บางสิ่งบางอย่างกำลังคืบคลานมาหาเขา เขารู้สึกได้ถึงมันในกระดูกของเขา
ทันใดนั้น เสียงเคาะประตูดังขึ้นเบา ๆ แต่สม่ำเสมอ ทำลายความเงียบสงบ
อีธานหยุดนิ่ง หัวใจเต้นกระหน่ำในอก เขาไม่ได้คาดหวังให้ใครมา และแบรนก็เตือนให้เขาอย่าไว้ใจใครในวัลเมียร์ ความคิดของเขาหมุนวนไปถึงความเป็นไปได้ต่าง ๆ อาจจะเป็นแบรน กลับมาพร้อมกับข่าว หรืออาจจะเป็นสิ่งที่แย่กว่านั้น
Sponsored Ads
[พวกมันอยู่ที่นี่]
เสียงกระซิบในหัวของเขาแผ่วเบา แต่ชัดเจน เขาไม่สามารถบอกได้ว่ามันเป็นเสียงจากรอยประทับหรือแค่ความหวาดระแวงของเขาเอง แต่เขาได้เรียนรู้ที่จะฟังสัญชาตญาณของตัวเอง บางอย่างไม่ถูกต้องแน่
เสียงเคาะดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้หนักกว่าเดิม ใครก็ตามที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของประตูคงไม่จากไปง่าย ๆ
อีธานดึงดาบออกจากเข็มขัด มือของเขากำด้ามดาบแน่นขณะที่เขาเคลื่อนตัวไปยังประตูอย่างเงียบ ๆ เขาเอาหูแนบกับไม้หยาบฟัง ไม่มีเสียงพูด ไม่มีเสียงฝีเท้า มีเพียงความเงียบที่น่าหวาดหวั่น
เขาค่อย ๆ เอื้อมมือไปจับกลอนประตู หายใจถี่ ๆ กล้ามเนื้อเตรียมพร้อมสำหรับการลงมือ ด้วยการเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว เขากระชากประตูเปิด ดาบในมือเตรียมพร้อม
แต่โถงทางเดินเบื้องหน้ากลับว่างเปล่า
ชีพจรของเขาเต้นเร็วขึ้นเมื่อเขาก้าวออกไป สอดส่องสองด้านของโถงทางเดิน ตะเกียงที่ปลายสุดของโถงทางเดินกระพริบอย่างอ่อนแรง ทอดเงาที่ดูเหมือนจะเต้นไปมาตามผนัง แต่ไม่มีใครอยู่ ไม่มีวี่แววของคนที่เคาะประตู
Sponsored Ads
อีธานลังเล สัญชาตญาณทุกอย่างร้องเตือนให้เขากลับเข้าไปในห้อง ล็อกประตู แล้วรอแบรนกลับมา แต่บางสิ่งกำลังดึงดูดเขา แรงดึงดูดที่ไม่อาจต้านทานได้ นำเขาลงไปตามโถงทางเดิน มุ่งหน้าไปยังบันไดที่นำลงไปยังชั้นล่าง
[ไป]
เสียงกระซิบในหัวของเขาแข็งแกร่งขึ้นตอนนี้ ราวกับเป็นคำสั่ง มันไม่ใช่เสียงของเขาเอง แต่มาจากรอยประทับ
มือของอีธานกระชับด้ามดาบไว้แน่นขณะเขาก้าวลงบันได ฝีเท้าของเขาไร้เสียงอย่างน่าประหลาดบนไม้ที่ส่งเสียงดังเอี๊ยดทุกครั้งที่เหยียบ ทุกมุม ทุกช่องมืดรู้สึกเหมือนกับเป็นกับดัก ราวกับว่าเงาพวกนั้นกำลังคืบคลานเข้าหาเขา อาคารดูเหมือนจะถูกทิ้งร้าง ไม่มีเสียงพูดคุยของผู้คน แม้แต่เจ้าของโรงแรมก็หายไป
เมื่อมาถึงด้านล่างของบันได ห้องหลักส่องสว่างเพียงเล็กน้อยจากกองไฟที่ใกล้จะดับลง เปลวไฟที่กระพริบทำให้แสงสีส้มหม่นหมองทอดเงายาวบนเก้าอี้และโต๊ะที่กระจัดกระจาย รอบ ๆ ควรจะรู้สึกอบอุ่นต้อนรับ แต่กลับรู้สึกเหมือนอยู่ในสุสาน
บางอย่างขยับเคลื่อนในมุมสายตาของเขา การเคลื่อนไหวแผ่วเบาในเงามืด
Sponsored Ads
อีธานหันตัวทันที ดาบในมือพร้อม แต่การเคลื่อนไหวนั้นหายไปแล้ว ดวงตาของเขากวาดไปรอบห้อง สำรวจทุกมุม ทุกเงา เขาไม่เห็นอะไรเลย แต่เขารู้สึกได้ถึงบางสิ่ง ผิวหนังของเขาขนลุกด้วยความรู้สึกที่ชัดเจนว่ากำลังถูกจ้องมองอยู่
[พวกมันอยู่ที่นี่]
รอยประทับยบนฝ่ามือของเขาลุกโชนขึ้น ร้อนแรงกว่าเดิม ราวกับกำลังดูดกลืนพลังงานจากบางสิ่งที่อยู่ใกล้ อีธานหายใจแรงขึ้น จิตใจของเขาเต็มไปด้วยความคิดสับสนพยายามประติดประต่อเรื่องราว แต่มันก็ไร้ความหมาย
ทันใดนั้น ร่างหนึ่งก้าวออกมาจากมุมห้อง
หัวใจของอีธานกระตุกเมื่อร่างนั้นโผล่พ้นเงามา เป็นชายคนหนึ่ง สวมเสื้อคลุมสีดำ ใบหน้าถูกปกปิดใต้ฮู้ดลึก การเคลื่อนไหวของเขาไม่เป็นธรรมชาติ ลื่นไหลราวกับร่างนั้นลอยผ่านพื้น แต่สิ่งที่ทำให้อีธานรู้สึกไม่สบายใจที่สุดคืออากาศรอบ ๆ ชายผู้นั้นที่บิดเบี้ยวเหมือนกับว่าพื้นที่นั้นบิดเบี้ยวไปด้วยการปรากฏตัวของเขา
ชายคนนั้นหยุดห่างจากอีธานเพียงไม่กี่ก้าว ศีรษะสวมฮู้ดเอนเอียงเล็กน้อย ราวกับกำลังพิจารณาเขาอยู่
“คุณเป็นใคร?” อีธานถาม เสียงของเขาสงบนิ่งแม้ความหวาดกลัวจะกัดกินในอก
ชายคนนั้นเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงต่ำและสงบน่าหวาดหวั่น “คำถามไม่ใช่ว่าข้าเป็นใคร คำถามคือเจ้าคืออะไร”
มือของอีธานกระชับด้ามดาบแน่นขึ้น “ฉันไม่สนใจปริศนา”
ชายคนนั้นหัวเราะเบา ๆ เสียงหัวเราะนั้นส่งความหนาวสั่นไปถึงกระดูกสันหลังของอีธาน
Sponsored Ads
“เจ้าโดนหมายหัวแล้ว เจ้าหนุ่ม ข้ารู้สึกได้ เทพแห่งเอลด์ริชกำลังจับตามองเจ้า รอยประทับนั้น…มันคือสัญญาณ”
จิตใจของอีธานแล่นไปมา พวกบูชาลัทธิ พวกเขาต้องส่งชายคนนี้มาแน่
“ฉันไม่รู้ว่าคุณพูดถึงอะไร” เขาโกหก พร้อมขยับถอยหลังไปหนึ่งก้าว
มือของชายคนนั้นยื่นออกมาจากเสื้อคลุม ขาวซีดและผอมเรียวยาวผิดปกติ
“เจ้าไม่สามารถหนีพวกเขาไปได้ตลอดกาล”
อีธานรู้สึกถึงรอยประทับบนฝ่ามือเต้นรัวมากขึ้น ความเจ็บปวดรุนแรงพุ่งขึ้นไปที่แขน เขากัดฟัน พยายามไม่ร้องออกมา “คุณต้องการอะไร?”
ชายคนนั้นก้าวเข้ามาใกล้ น้ำเสียงของเขาแผ่วเบาราวกับกระซิบ
“ข้าอยากได้สิ่งที่เทพเจ้าต้องการ และพวกเขาก็ต้องการเจ้า”
ทันใดนั้น มือของชายคนนั้นพุ่งออกมาเร็วกว่าอีธานจะตอบสนองทัน นิ้วยาวเรียวของเขากำข้อมือของอีธานไว้แน่น กุมมือข้างที่มีรอยประทับไว้ด้วยความแข็งแกร่งราวกับเหล็ก อีธานร้องออกมาในขณะที่รอยประทับลุกโชนขึ้น แผดเผาด้วยความร้อนที่ไม่อาจทนได้
ห้องที่อยู่รอบตัวพวกเขาดูเหมือนจะบิดเบี้ยว ผนังเริ่มโค้งเข้าหากันขณะที่แสงไฟกระพริบอย่างบ้าคลั่ง เงารอบตัวลึกขึ้น บิดตัวราวกับว่าพวกมันมีชีวิต
Sponsored Ads
สายตาของอีธานพร่ามัว เขารู้สึกถึงแรงดึงดูด รุนแรงกว่าเคย ดึงเขาไปสู่บางสิ่งที่มืดมนและโบราณ ชายคนนั้นบีบข้อมือของเขาแน่นขึ้น เสียงของเขาเปลี่ยนเป็นบทสวดต่ำ ๆ คำพูดแปลกประหลาดและเสียงกระซิบแห่งเอลด์ริชก้องอยู่ในจิตใจของอีธาน
[เจ้าเป็นของพวกมัน]
ตอนนี้เสียงกระซิบนั้นดังไปทั่วทุกหนทุกแห่ง บดบังความคิดและความรู้สึกของเขา เขารู้สึกได้ถึงพลังแห่งเอลด์ริชกำลังปกคลุมตัวเขา เขาสัมผัสได้ถึงการมีอยู่ของสิ่งเหนือธรรมชาติที่เข้ามาบีบรัดเขาจนหายใจไม่ออก
แต่ลึกลงไป ท่ามกลางความกลัวและความเจ็บปวด ประกายหนึ่งถูกจุดขึ้น
[ไม่]
ด้วยแรงกระตุ้นจากจิตใจ อีธานบิดข้อมือให้หลุดจากการจับกุมของชายคนนั้นแล้วแทงดาบไปข้างหน้า ใบดาบกระทบเข้ากับเนื้อด้วยเสียงที่น่าขนลุก และบทสวดของชายคนนั้นหยุดลงทันทีพร้อมเสียงหอบ เลือดไหลทะลักออกมาจากบาดแผลขณะที่ชายคนนั้นเซถอยหลัง ฮู้ดหลุดออก เผยให้เห็นใบหน้าซีดผอมที่บิดเบี้ยวด้วยความตกใจ
อีธานไม่รอช้า เขาหันหลังและวิ่งออกไป รอยประทับบนฝ่ามือยังคงลุกไหม้อยู่ แต่จิตใจของเขาชัดเจนเป็นครั้งแรกตั้งแต่การเผชิญหน้าครั้งนี้เริ่มขึ้น
ข้างหลังเขา เสียงของชายคนนั้นดังขึ้นในความมืด เต็มไปด้วยความเคียดแค้นและคำมั่นสัญญา “เจ้าไม่สามารถหนีพวกเขาได้ อีธาน รูค พวกเขาจะตามหาเจ้าเจอ”
อีธานพุ่งผ่านประตูออกไปสู่ความหนาวเย็นของค่ำคืน หัวใจเต้นแรงในอก หมอกหมุนวนรอบตัวเขาเมื่อเขาวิ่งไปตามตรอกแคบ ๆ จิตใจของเขาวิ่งไปมา
เงาพวกนั้นไม่ใช่แค่เงาอีกต่อไป
พวกมันคือศัตรู
Sponsored Ads