เสียงกรุ๊งกริ๊งของสร้อยทองและเสียงดุของแม่ทำลายการนอนหลับของธนาเหมือนนาฬิกาปลุกที่ไม่มีใครต้องการ เขาครางเบา ๆ พลิกตัวในเตียงคิงไซส์นุ่ม ๆ ของเขา ก่อนจะซุกหน้าลงกับหมอน แต่เสียงเหล่านั้นไม่หยุด
Sponsored Ads
“ธนา! ลุกเดี๋ยวนี้! ลูกค้ารออยู่ ฉันไม่ได้จ้างแกให้นอนอุตุแบบนี้!”
“จริง ๆ แล้วแม่ไม่ได้จ้างผมเลยสักบาท” เขาบ่นอู้อี้อยู่ในหมอน
ไม่กี่นาทีต่อมา ธนาก็พบว่าตัวเองมายืนอยู่หลังเคาน์เตอร์ในร้านทองของครอบครัว ดวงตาสีเข้มแทบไม่ลืม แต่รอยยิ้มเอกลักษณ์ที่ดูง่าย ๆ สบาย ๆ ยังอยู่ครบ ด้วยส่วนสูง 180 เซนติเมตร และน้ำหนัก 70 กิโลกรัมที่กำลังดี ธนามีบุคลิกที่ดึงดูดสายตาโดยไม่ต้องพยายาม ผมสีดำยุ่ง ๆ และเสน่ห์แบบเด็กหนุ่มของเขา รวมกับรอยยิ้มมุมปากที่ขี้เล่น ทำให้เขากลายเป็นขวัญใจของลูกค้าประจำในร้านเสมอ น่าเสียดายที่แม่ของเขาซึ่งมีภูมิคุ้มกันต่อเสน่ห์นี้ จ้องเขาด้วยสายตาเหมือนเหยี่ยวคอยจ้องจับตาเหยื่อ
“อย่ามัวแต่ยืนคุยเล่น ธนา ไปเช็กสต็อกของเดี๋ยวนี้!” แม่พูดพลางกับยัดกระดานคลิปบอร์ดไว้ในมือของเขา
Sponsored Ads
———————
ความเพี้ยนของธนา: ไลฟ์สตรีม
ทันทีที่แม่หันหลัง ธนาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เปิดกล้องหน้าเพื่อเริ่มไลฟ์ให้ผู้ติดตามที่จงรักภักดีแม้จะมีเพียงน้อยนิด
“สวัสดีตอนเช้าครับ ผู้ติดตามที่รัก!” เขาเริ่มกระซิบพร้อมรอยยิ้มกว้าง “หัวข้อวันนี้: เอาชีวิตรอดจากการกดขี่ของแม่ในร้านทอง”
แชตเริ่มขึ้นข้อความเต็มพรึ่บ
– “คอนเทนต์คลาสสิกของธานา!”
– “แม่ยังดุอยู่อีกเหรอ?”
– “กระพริบตาสองทีถ้าต้องการความช่วยเหลือ!”
ธนายิ้มมุมปาก และเอียงกล้องไปเหนือไหล่หันไปที่แม่ซึ่งกำลังดุพนักงานอย่างเคร่งครัด “เห็นไหมครับ หัวหน้าใหญ่วันนี้อยู่ในฟอร์มที่สมบูรณ์แบบสุดๆ ช่วยอธิษฐานให้ผมด้วย”
แชตระเบิดด้วยอีโมจิหัวเราะและข้อความว่า “หนีเลยธนา หนี!” แต่ก่อนที่เขาจะพูดอะไรเพิ่มเติม เสียงแหลมของแม่ก็ดังขึ้นทะลุอากาศ
“ธนา! แกกำลังไลฟ์อีกแล้วใช่ไหม?!”
เขาสะดุ้ง รีบวางโทรศัพท์ลงเกือบหลุดมือแล้วปิดการไลฟ์อย่างเร่งด่วน
Sponsored Ads
———————
แผนหลบหนี
ธนาฉีกยิ้มที่ดูน่าสงสารที่สุด ซึ่งมักจะช่วยให้เขารอดพ้นจากปัญหาได้ “เอ่อ…ผมต้องออกไปข้างนอกแป๊บนึงนะครับ มีนัดกับซัพพลายเออร์ สำคัญมาก”
แม่ของเขาจ้องตาอย่างจับผิด “อย่าให้รู้ว่าแกแอบไปร้านซ่อมนั่นอีกนะ”
“ไม่มีทาง!” ธนาพูดด้วยน้ำเสียงโมโหปลอมๆ “ผมเป็นมืออาชีพนะครับ”
ห้านาทีต่อมา เขาก็ออกจากร้าน วิ่งเหยาะ ๆ ไปสู่เสรีภาพ พร้อมกับรอยยิ้มกว้างบนใบหน้า และทันทีที่พ้นสายตา เขาก็เปิดไลฟ์สตรีมอีกครั้ง
“ภารกิจหลบหนีสำเร็จ!” เขาประกาศพร้อมรอยยิ้ม “ตอนนี้ ไปดูสิว่า นาวินกำลังทำอะไรอยู่”
Sponsored Ads
———————
ร้านนาวินซ่อมคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์
ธนาเปิดประตูร้านซ่อมของนาวินอย่างแรงจนกระดิ่งที่แขวนอยู่เหนือประตูดังกรุ๊งกริ๊ง แม้จะเป็นเช้าที่อากาศร้อนอบอ้าว แต่ภายในร้านกลับเย็นสบาย มีกลิ่นจาง ๆ ของตะกั่วบัดกรีและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เก่า ๆ ธนาคาดว่าจะเจอนาวินนั่งเอกเขนกอยู่หลังเคาน์เตอร์ จิบชา หรือไม่ก็กำลังซ่อมแล็ปท็อป แต่สิ่งที่เขาเจอคือเพื่อนของเขากำลังง่วนอยู่กับวิทยุเก่าที่ดูพัง ๆ พร้อมกับบ่นพึมพำ
นาวิน สูง 178 เซนติเมตร เตี้ยกว่าธนาเล็กน้อย แต่ท่าทางของเขาแฝงด้วยความมุ่งมั่นสงบนิ่ง ดวงตาที่คมกริบและรอยแผลเป็นจาง ๆ บนคิ้วซ้ายทำให้เขาดูเหมือนคนที่มักจะก้าวนำหน้าคนอื่นเสมอ แต่วันนี้ เขาดูหงุดหงิดมากกว่าจะดูสุขุม
“นายทำอะไรน่ะ?” ธนาถาม พลางเอนตัวพิงเคาน์เตอร์แบบสบาย ๆ เสื้อเชิ้ตสีขาวของเขายับเล็กน้อย แต่ข้อมือที่สวมด้วยนาฬิกาสีทองกลับสะท้อนแสงไฟในร้าน “แล้วฉันจะทำให้มันแย่ลงได้ยังไง?”
โดยไม่เงยหน้าขึ้นมอง นาวินถอนหายใจ “ถ้านายแตะอะไร ฉันจะคิดเงินนายสองเท่า”
ธนายิ้มกวน “อืม เสียงหวาน ๆ ของมิตรภาพ” เขาเอียงศีรษะมองวิทยุ “แล้วนี่อะไรอีกล่ะ? โดนคำสาป? มีผี? หรือมันเริ่มร้องเพลงป๊อปเก่า ๆ เอง?”
ในที่สุดนาวินก็เงยหน้าขึ้น สีหน้าของเขาไม่แสดงอารมณ์ขันแม้แต่น้อย “มันเป็นวิทยุต้องสาป มันสุ่มกระจายเสียงกระซิบหลอน ๆ แทนที่จะเล่นเพลง และไม่ นายไลฟ์สตรีมไม่ได้”
ธนายกมือขึ้นเหมือนยอมแพ้ “ใจเย็น ๆ ฉันไม่ทำหรอก…มั้ง”
Sponsored Ads
———————
น่าตื่นเต้น
ก่อนที่นาวินจะตอบอะไร วิทยุก็ปล่อยเสียงแทรกออกมาอย่างดัง ตามด้วยเสียงกระซิบเบา ๆ ที่ชวนขนลุกจนบรรยากาศในร้านเย็นวาบ ธนาเผลอทำหน้าตกใจ ก่อนจะเอนตัวเข้ามาใกล้
“เอ่อ นาวิน… มันพูดอะไรใช่ไหม?”
นาวินขมวดคิ้ว จ้องไปที่วิทยุ “ใช่ และถ้านายไม่อยากให้มันเริ่มพูดอะไรกับนาย นายก็อยู่ฝั่งนั้นของเคาน์เตอร์ไว้เลย”
ธนาก้าวถอยหลัง ความกล้าหาญที่เคยมีลดลงเล็กน้อย “ฉันจะ… คอยดูจากตรงนี้แล้วกัน”
ขณะที่เสียงกระซิบเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ นาวินคว้ามีดหมอมาถือไว้ พร้อมกับบ่นพึมพำว่า “ทำไมฉันถึงยอมให้นายเข้ามาในร้านนะ?”
และนั่นคือจุดเริ่มต้นของความโกลาหลในวันนั้น
Sponsored Ads