เช้าวันใหม่ของธนาเริ่มต้นด้วยความวุ่นวายเหมือนเช่นเคย เสียงกระทบของสร้อยทองและเสียงแม่ที่ดังก้องปลุกเขาจากความง่วงงุน
Sponsored Ads
“ธนา!” แม่ตะโกนจากหลังเคาน์เตอร์ พร้อมถือกระดานคลิปบอร์ดไว้ในมือ “เมื่อวานนี้แกหายหัวไปโดยไม่บอกใคร! คิดว่าร้านนี้จะดูแลตัวเองได้หรือไง?”
ธนาค่อย ๆ ลุกจากเตียงในชุดนอน พลางบ่นงึมงำ “ผมแค่พยายามหนีจากการเกษียณด้วยความเครียดนะครับ แม่”
คำพูดประชดประชันของเขาทำให้ได้รับสายตาคมกริบที่เหมือนจะตัดเหล็กได้จากแม่ กว่าจะลากตัวเองไปถึงร้าน ลูกค้าก็ยืนรอต่อแถวอยู่แล้ว พวกเขาต่างกระตือรือร้นที่จะจับผิดจุดบกพร่องเล็กๆ น้อยๆ ของสร้อยข้อมือและสร้อยคอทองคำที่พวกเขากำลังตรวจดู
ธนาพยายามใส่หน้ากาก “ลูกชายผู้มีเสน่ห์” ตอบคำถามลูกค้าด้วยความเชี่ยวชาญที่ฝึกฝนมานาน ในขณะที่ในใจเขานับถอยหลังถึงเวลาที่จะหลบหนีได้อีกครั้ง
Sponsored Ads
———————
ไลฟ์สตรีมแผนหลบหนี
พอแม่เผลอสนใจสิ่งอื่น ธนาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาไลฟ์สดทันที พร้อมรอยยิ้มขี้เล่นที่ทำให้จอสดใส
“สวัสดีตอนเช้าครับเหล่าผู้ติดตามที่รักของผม!” เขาทักทาย พร้อมถือสร้อยทองเส้นใหญ่ให้กล้องดู “หัวข้อวันนี้: วิธีขายของแพงให้ดูมีค่า พร้อมหลีกเลี่ยงการถูกแม่ด่า—สปอยล์: ผมล้มเหลวอยู่ดี”
แชตเด้งพรึบพรั่บ
– “คอนเทนต์คลาสสิกของธนา!”
– “ผีล่ะ? เมื่อไหร่จะมา?”
– “แม่แกจะด่าอีกมั้ย?”
ธนาหัวเราะเบา ๆ พลางยกโทรศัพท์เข้าใกล้ “คอนเทนต์ผีช่วงนี้หายากครับ แต่บอกเลยว่าของต้องสาปเนี่ย มีมากกว่าที่คิดนะ อาจจะอยู่ในร้านนี้ก็ได้” เขาค่อย ๆ หมุนกล้องพาให้ดูสร้อยทองที่วางเรียงราย
Sponsored Ads
———————
การขัดจังหวะเหนือธรรมชาติ
จู่ ๆ จอภาพก็กระพริบ เสียงเริ่มแปลกไป ธนาขมวดคิ้ว เคาะโทรศัพท์ “ขอโทษครับทุกคน คงเป็นเพราะ Wi-Fi เก่าของฉัน”
แต่แชตพากันแตกตื่น:
– “เสียงอะไรน่ะ?!”
– “ฉันได้ยินเสียงกระซิบ! ธนา ได้ยินมั้ย?”
– “ธนา แกโดนคำสาปอีกแล้ว!”
ธนาชะงัก รอยยิ้มเริ่มจางหาย “กระซิบอะไรเหรอ?”
จู่ ๆ โทรศัพท์ก็มีเสียงกระซิบเบา ๆ แผ่ว ๆ แต่ได้ยินชัดเจนท่ามกลางเสียงในร้าน
“โอเค… นี่เริ่มแปลกแล้ว” ธนาว่า น้ำเสียงแฝงความตื่นเต้นและหวาดหวั่น “ผมขอจบไลฟ์ก่อนนะครับ ขอบคุณที่รับชม!”
เขาปิดการไลฟ์แล้ววิ่งพรวดออกจากร้าน ท่ามกลางสายตาสงสัยของลูกค้าคนหนึ่งที่กำลังเลือกซื้อทอง
Sponsored Ads
———————
ร้านนาวินซ่อมคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์
ธนาเปิดประตูร้านอย่างแรง ทำให้นาวินที่กำลังซ่อมวิทยุต้องสาปอยู่สะดุ้ง
“นายต้องช่วยฉันนะ!” ธนาประกาศ พร้อมยื่นโทรศัพท์ขึ้นราวกับว่าเป็นระเบิดที่กำลังจะระเบิด
นาวินไม่เงยหน้ามอง “เดี๋ยวฉันเดานะ—โทรศัพท์นายโดนผีสิง เพราะนายเอาแต่วิพากษ์ของต้องสาปในไลฟ์เมื่อเช้า”
“ใช่เลย!” ธนาพยักหน้าอย่างจริงจัง โดยไม่ทันสังเกตว่านาวินประชด “มันเริ่มกระซิบระหว่างไลฟ์ แชตบอกว่าฉันโดนคำสาป ช่วยแก้ก่อนที่ฉันจะกลายเป็นผีจริง ๆ!”
นาวินถอนหายใจยาว ก่อนวางเครื่องมือในมือลง “นายไม่ได้โดนคำสาป โทรศัพท์นายแค่เกลียดนายเท่านั้นเอง”
Sponsored Ads
———————
เสียงกระซิบเริ่มต้น
ราวกับนัดกันไว้ เสียงกระซิบเบา ๆ ดังขึ้นในร้าน ธนาแข็งทื่อ “บอกทีว่าเป็นวิทยุของนายที่รวนอีกแล้ว”
“ไม่ใช่วิทยุ” นาวินตอบด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
เสียงกระซิบเริ่มดังขึ้น ชัดเจนขึ้น และเติมเต็มบรรยากาศในร้านด้วยความรู้สึกบางอย่างที่มองไม่เห็น ทั้งสองคนหันไปมองลำโพงของร้าน ซึ่งจู่ ๆ ก็เล่นเสียงกระซิบเหมือนกับในโทรศัพท์
ธนาถอยหลัง พร้อมกอดโทรศัพท์ไว้แน่น “มันตามฉันมาจริง ๆ ใช่มั้ย? ฉันโดนคำสาปแน่ ๆ ใช่มั้ย?!”
สายตาคมของนาวินสลับไปมาระหว่างลำโพงกับโทรศัพท์ของธนา “ใจเย็นก่อน เราต้องรู้ก่อนว่ามันเกิดอะไรขึ้น ก่อนที่นายจะเริ่มเขียนพินัยกรรม”
เสียงกระซิบเริ่มเปลี่ยนเป็นคำพูดที่ฟังได้ไม่ชัดเจนแต่ยังเข้าใจ [ช่วย…หา…ทอง]
นาวินหันมามองธนา พร้อมเลิกคิ้วข้างหนึ่ง “นายทำอะไรไว้?”
ธนากะพริบตาปริบ ๆ ใบหน้าซีดเผือด “ฉันไม่ได้ทำอะไร! ถ้าไม่นับไลฟ์เมื่อเช้า แต่นั่นไม่น่า—”
เสียงกระซิบขัดจังหวะด้วยคำสั่งที่ดังขึ้น [ทอง…เอามา…ทอง!]
นาวินยกมือกุมหน้าผาก “ดีล่ะ ไม่ใช่แค่โดนผีสิง ผีของนายยังโลภอีก”
Sponsored Ads
———————
น่าตื่นเต้น
ก่อนที่ธนาจะทันตอบ ไฟในร้านกระพริบ และบรรยากาศรอบตัวเริ่มหนักอึ้งด้วยพลังงานบางอย่างที่มองไม่เห็น เสียงกระซิบเปลี่ยนเป็นคำพูดที่ชัดเจนจนทำให้ขนลุก [คืนสิ่งที่เอาไป]
ดวงตาของนาวินหรี่ลง เสียงของเขาต่ำและจริงจัง “ธนา นายแน่ใจนะว่าวันนี้ไม่ได้ขโมยอะไรมา?”
ธนากลืนน้ำลายฝืด “ขโมย…คือยังไง?” และทันทีที่ได้ยิน นาวินก็รู้ว่าวันนี้จะเป็นอีกวันที่วุ่นวายอย่างไม่จบสิ้น