อีธานทรุดตัวลงคุกเข่า ลมหายใจหอบถี่ ร่างกายของเขาเจ็บแสบไปทั่วจากความเหนื่อยล้า พวกสาวกลัทธิคนสุดท้ายล้มลงกระจัดกระจายไปทั่วห้อง เสื้อคลุมของพวกมันชุ่มไปด้วยเลือดสีเข้มและพลังแห่งเอลด์ริชที่ยังคงแตกประกายอยู่ในอากาศ แสงเทียนที่สั่นไหวฉายเงายาวที่ดูน่ากลัวเหนือแท่นบูชานไนอาลาโธเทป ซึ่งตอนนี้เศษซากของการต่อสู้ อ้อมกอดแห่งซิบิลิสเย็นลง บรรยากาศที่กดดันยิ่งหนักหน่วงขึ้นด้วยความหวาดกลัวที่ทวีความรุนแรง กำแพงหินดูเหมือนจะบีบตัวเข้ามา ราวกับมันกำลังดูดซับความวุ่นวายที่เพิ่งเกิดขึ้น
Sponsored Ads
แบรนยืนอยู่ใกล้ ๆ ดาบของเขายังชักออก แต่สายตาจับจ้องไปที่อีธาน “คุณต้องพัก” เขากล่าวด้วยเสียงที่แฝงไปด้วยความกังวล
อีธานส่ายหัว พยายามที่จะดันตัวเองให้ลุกขึ้นยืน น้ำยาแห่งดาราเพลิงได้มอบพลังให้เขา แต่มันก็ทำให้เขาอ่อนล้าด้วยเช่นกัน การหลอมเลือดด้วยพลังอีเธอร์ที่ไหลผ่านเส้นเลือดของเขาทำให้เขาอ่อนแอจนแทบยืนไม่ไหว เขายังคงรู้สึกถึงความร้อนจากรอยประทับบนฝ่ามือของเขา ซึ่งตอนนี้สว่างขึ้นและชัดเจนมากกว่าเดิม มันเต้นแรงด้วยพลังมืดที่รู้สึกราวกับเป็นส่วนหนึ่งของห้วงลึก และเสียงกระซิบของซาราธ โคลก็กลายเป็นสิ่งที่ไม่อาจหยุดยั้งได้ในจิตใจของเขา
[เจ้าเป็นของพวกเรา อีธาน รูค ห้วงลึกเรียกหาเจ้า จงโอบรับมัน]
ทุกครั้งที่เสียงนั้นกลับมา มันแข็งกร้าวและเร่งรัดมากขึ้น อีธานขบฟันแน่น ปฏิเสธที่จะยอมแพ้ แต่เขารู้ว่าเวลาของเขากำลังจะหมดลง ชิ้นส่วนของคธูลูกำลังเคลื่อนไหว เขาสัมผัสได้ลึกลงไปใต้มหาสมุทร การหลับใหลอันยาวนานของมันถูกรบกวนจากพลังที่เพิ่มขึ้นของรอยประทับ
“เราต้องจบเรื่องนี้” อีธานพูดเสียงแหบแห้ง ขณะที่เขาพิงกำแพงหินเย็น ๆ เพื่อประคองตัวเอง
“พิธีกรรม… มันต้องทำตอนนี้”
แบรนเช็ดเลือดออกจากดาบของเขาและเก็บมันเข้าฝัก หน้าผากของเขาย่นด้วยความกังวล “ลิเรียยังเตรียมตัวอยู่ คุณต้องพักสักครู่ อีธาน เราทุกคนก็ต้องการพักเหมือนกัน”
Sponsored Ads
แต่ถ้าเขาไม่ทำ โลกนี้ก็จะจบสิ้น ห้วงลึกจะกลืนกินทุกสิ่ง
เขาหันไปมองอีกฝั่งของห้องโถง ที่ซึ่งลิเรียกำลังคุกเข่าอยู่ข้างแท่นบูชา เตรียมส่วนประกอบสุดท้ายของพิธีกรรมตัดสัมพันธ์ เธอเคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่ว ผสมขวดของเหลวแปลก ๆ ที่เป็นประกายและวางมันในตำแหน่งที่แม่นยำรอบแท่นบูชา อักขระที่สลักไว้บนกำแพงหินดูเหมือนจะเรืองแสงสว่างขึ้นเรื่อย ๆ พลังงานแห่งเอลด์ริชในอากาศหนาขึ้นและกดดันมากขึ้น
“ลิเรีย” อีธานเรียกเสียงแหบแห้ง เธอเงยหน้าจากงานของเธอ สายตาของเธอเคร่งเครียด
“ข้ารู้” เธอกล่าว สายตาของเธอเหลือบมองที่รอยประทับบนฝ่ามือของเขา “เศษเสี้ยวนั้นกำลังตื่น พลังของรอยประทับนั้นแข็งแกร่งเกินไปแล้ว”
อีธานเดินเข้าหาเธอด้วยก้าวที่ไม่มั่นคง “ถ้าเราทำพิธีกรรมต่อไป จะเกิดอะไรขึ้นกับฉัน”
ลิเรียยืดตัวตรง ปัดปอยผมสีเงินออกจากใบหน้า “เจ้าจะเปลี่ยนไป อีธาน รอยประทับนี้ได้ถักทอเข้ากับจิตวิญญาณของเจ้าแล้ว การตัดมันออกจะฉีกส่วนหนึ่งของจิตวิญญาณนั้นทิ้งไป ทำให้เจ้า…ไม่สมบูรณ์ ห้วงลึกจะยังคงยึดเหนี่ยวเจ้าไว้เสมอ”
น้ำหนักของคำพูดของเธอกดดันเขาราวกับแรงกายภาพ อีธานรู้มาตลอดว่าพิธีกรรมนี้จะมาพร้อมกับต้นทุน แต่ตอนนี้ ยืนอยู่ที่ขอบแห่งความสูญสิ้น ความจริงของมันถาโถมเข้ามาอย่างเต็มแรง
Sponsored Ads
“ถ้าฉันไม่ทำเรื่องนี้” อีธานพูดเบา ๆ “โลกก็จะจบสิ้น”
ลิเรียพยักหน้า “ใช่ เศษเสี้ยวของคธูลูจะผงาดขึ้น และไม่มีสิ่งใดจะหยุดมันได้”
อีธานก้มมองที่มือของเขา มองดูรอยประทับที่เรืองแสง ซึ่งกลายเป็นสิ่งที่กำหนดการดำรงอยู่ของเขา เขาได้ต่อสู้ดิ้นรนอย่างหนักเพื่อหนีจากห้วงลึก ต่อต้านการดึงดูดของมัน แต่ตอนนี้เขาเข้าใจว่าไม่มีทางหนีจริง ๆ ห้วงลึกได้ครอบครองเขาแล้ว และตอนนี้เขาต้องตัดสินใจว่าจะปล่อยให้มันครอบครองโลกไปพร้อมกับเขาหรือไม่
“ฉันกลัว” อีธานยอมรับ เสียงของเขาแทบจะเป็นเสียงกระซิบ
แบรนวางมือบนบ่าของเขา “คุณไม่ได้อยู่คนเดียวในเรื่องนี้ อีธาน พวกเราจะผ่านมันไปด้วยกัน”
แต่แม้คำพูดของแบรนก็ฟังดูกลวงเปล่า อีธานรู้ดีว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป เขาจะต้องเผชิญกับมันเพียงลำพัง แค่เพียงลำพังกับห้วงลึก
ลิเรียก้าวเข้ามาใกล้ สายตาของเธอมั่นคง “มีบางอย่างที่เจ้าต้องรู้ อีธาน รอยประทับที่เจ้าแบกรับไว้…มันไม่ใช่แค่คำสาป มันถูกฝังลงในร่างที่ถูกเลือกตลอดประวัติศาสตร์ ทุกคนล้วนถูกดึงเข้าสู่ห้วงลึก ถูกกลืนกินโดยพลังของมหาเทพโบราณ”
อีธานเงยหน้าขึ้นด้วยความตกใจ “ฉัน…ไม่ใช่คนแรก?”
ลิเรียส่ายหัว “ไม่ใช่ ไนอาลาโธเทปได้บงการอารยธรรมทั้งมวล ฝังรอยประทับไว้ในผู้ที่ถูกกำหนดให้ถูกทำลาย เจ้าเป็นเพียงเหยื่อคนล่าสุดในบรรดาเหยื่อทั้งหมด แต่เจ้า…เจ้าแตกต่างออกไป เจ้าก้าวใกล้ความจริงมากกว่าคนอื่น ๆ ที่ผ่านมา”
Sponsored Ads
ลมหายใจของอีธานติดขัด รอยประทับไม่ได้เป็นเพียงสัญลักษณ์แห่งความเสื่อมทราม มันเป็นกุญแจ กุญแจที่จะปลดล็อกพลังที่สามารถเปลี่ยนแปลงความเป็นจริงได้ และเขาได้ถือมันไว้มาตลอด โดยไม่รู้ถึงขอบเขตของพลังที่กำลังเล่นอยู่
“รอยประทับนี้เป็นส่วนหนึ่งของคาถาโบราณ” ลิเรียกล่าวต่อ เสียงของเธอจริงจัง “มันผูกผู้ถือครองไว้กับห้วงลึก ค่อย ๆ ดึงพวกเขาเข้าไปจนกระทั่งกลายเป็นร่างสำหรับมหาเทพโบราณ ไนอาลาโธเทปได้ฝังมันไว้เพื่อให้แน่ใจว่า เมื่อดวงดาวเรียงตัวกัน เศษเสี้ยวของคธูลูจะผงาดขึ้น”
เลือดของอีธานเย็นเยียบ “งั้นฉันก็ถูกกำหนดให้ล้มเหลวตั้งแต่แรกแล้ว”
ลิเรียมองสบตาเขา ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความเข้าใจที่ลึกซึ้งจนแทงทะลุถึงใจ “ไม่ใช่ อีธาน เจ้าไม่ได้ถูกกำหนดให้ล้มเหลว แต่ถูกกำหนดให้เลือก รอยประทับไม่ใช่แค่คำสาป มันคือบททดสอบ บททดสอบที่จะตัดสินว่าห้วงลึกจะครอบครองเจ้า หรือว่าเจ้าจะสามารถต้านทานมันได้”
หัวใจของอีธานเต้นแรง ห้วงลึกได้ดึงเขาเข้าไปใกล้ขึ้นทุกก้าว แต่ตอนนี้… ตอนนี้เขาเข้าใจแล้ว ตราคือทางเลือก การต่อสู้เพื่อจิตวิญญาณของเขา
แต่การเลือกนี้ต้องแลกด้วยต้นทุน
Sponsored Ads
ลิเรียหันกลับไปที่แท่นบูชา มือของเธอเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วขณะที่เธอเตรียมขั้นตอนสุดท้ายของพิธีกรรม “การตัดขาดต้องทำตอนนี้ ก่อนที่เศษเสี้ยวจะตื่นขึ้นเต็มที่ รอยประทับกำลังส่งสัญญาณ เรียกหามันอยู่ เราไม่มีเวลาเหลือมากแล้ว”
อีธานพยักหน้า ความคิดของเขาวิ่งวุ่น เขาสัมผัสได้ถึงห้วงลึกที่เริ่มขยับตัวอยู่ใต้พื้นผิวจิตสำนึกของเขา เสียงกระซิบยิ่งดังขึ้น ยิ่งเร่งเร้ามากขึ้น
[เจ้าไม่อาจหนีจากพวกเราได้ อีธาน เจ้าคือกุญแจ เจ้าคือของห้วงลึก]
ขณะที่เขาก้าวไปยังแท่นบูชา พลังบางอย่างระเบิดผ่านร่างของเขา รอยประทับบนฝ่ามือของเขาแผดเผา ร้อนกว่าเดิม และสายตาของเขาพร่ามัว เพียงชั่วขณะอันน่าสะพรึงกลัว เขาไม่ได้อยู่ในอ้อมกอดแห่งซิบิลิสอีกต่อไป แต่เขาอยู่ที่อื่น สถานที่กว้างใหญ่และโบราณ
มหาสมุทรไม่มีที่สิ้นสุดขยายตัวอยู่เบื้องหน้า น้ำดำมืดที่เคลื่อนไหวด้วยพลังชั่วร้าย และใต้ผิวน้ำ เขาเห็นมัน ร่างมหึมาที่หลับไหลอยู่ กำลังกระตุ้นตัวในส่วนลึก คธูลู การปรากฏตัวของมหาเทพโบราณนั้นช่างท่วมท้น เป็นพลังที่ทำให้จิตใจสั่นคลอนจนแทบจะดึงเขาลงไปในห้วงลึก
อีธานอ้าปากหอบ ถอยหลังอย่างสะบักสะบอมเมื่อภาพลวงตานั้นจางหายไป เขารู้สึกได้แล้ว เศษเสี้ยวของคธูลูกำลังตื่นขึ้น รอยประทับบนฝ่ามือของเขาเต้นเป็นจังหวะเดียวกับการเคลื่อนไหวของสิ่งมีชีวิตนั้น ดึงมันให้เข้าใกล้มากขึ้นทุกจังหวะการเต้นของหัวใจ
Sponsored Ads
เสียงของลิเรียตัดผ่านม่านหมอกในจิตใจของเขา “อีธาน ตั้งสติ! พิธีกรรมต้องเริ่มเดี๋ยวนี้!”
ด้วยมือที่สั่นเทา อีธานวางฝ่ามือลงบนแท่นบูชา หินเย็นเยียบอยู่ใต้สัมผัสของเขา อักขระบนหินเรืองแสงเป็นสีเขียวหม่นที่น่าขนลุก เขารู้สึกถึงพลังแห่งเอลด์ริชที่ก่อตัวขึ้นรอบตัวเขา แข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ ขณะที่ลิเรียเริ่มท่องบทสวดครั้งสุดท้าย
อากาศสั่นไหวไปด้วยพลังงาน และร่างกายของอีธานตึงเครียด เขารู้สึกถึงห้วงลึกที่ดึงตัวเขาไว้ หนวดดำของมันพันรอบจิตวิญญาณของเขา แต่เขายังต้องยืนหยัด เขาต้องทำให้ได้ พิธีกรรมได้เริ่มต้นแล้ว