เช้าวันต่อมา ผมกลับมาที่ร้านซาโตะซูชิด้วยความรู้สึกพึงพอใจที่หายากหลังจากภารกิจสำเร็จและคำสาปถูกขับไล่ออกไป ร้านอาหารคึกคักเหมือนปกติ แตกต่างจากความเงียบสงัดที่ผมเจอเมื่อคืนอย่างสิ้นเชิง พนักงานทำงานกันอย่างสดใสและเป็นกันเอง โดยที่ไม่รู้เลยว่าครัวของพวกเขาเคยเป็นสนามรบระหว่างเชฟที่ไม่สงบเงียบ เงามืดจากจักรวาล และช่างซ่อมที่มีความตั้งใจแน่วแน่
Sponsored Ads
ซาโตะทักทายผมที่หน้าร้าน ดวงตาเขาเบิกกว้างด้วยความตื่นเต้นและโล่งอก ผมอยากจะคิดว่าเขาดีใจที่ได้เจอผม แต่จริงๆ แล้วคงแค่ดีใจที่ผมไม่ได้มาพร้อมข่าวเรื่องสิ่งลึกลับอื่นๆ ที่อาจปรากฏในครัวเพิ่มขึ้น
“เอ่อ… มันเป็นยังไงบ้าง?” เขาถามพร้อมบีบมือตัวเองเบาๆ ด้วยความกังวล
ผมพยักหน้ารับเบาๆ อย่างสงบ “เรียบร้อยแล้ว ความมืดถูกจัดการแล้ว ครัวของคุณไม่ได้ถูกสิงโดยวิญญาณของเชฟเคนจิหรืออะไรจากห้วงลึกอีกแล้ว”
ใบหน้าของเขาสว่างขึ้นด้วยความโล่งอกและทึ่งเล็กน้อย “หมายความว่ามันเป็น… ปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติจริงๆ หรือ?”
ผมยิ้มขำๆ เล็กน้อย เลี่ยงตอบตรงๆ “อ๋อ แค่ซ่อมธรรมดาๆ เท่านั้นแหละ”
ซาโตะหัวเราะเบาๆ อย่างประหม่า ยังไม่แน่ใจว่าผมล้อเล่นหรือเปล่า แต่ผมว่าแบบนี้ดีกว่า คนเรามักจะนอนหลับสบายกว่าถ้าไม่รู้ว่าอาหารในจานบางครั้งอาจอัญเชิญเอาเงามืดจากอีกมิติขึ้นมาได้
Sponsored Ads
“ว่าแต่เรื่องค่าตอบแทน…” ผมพูดพร้อมกับยืนกอดอกแล้วยิ้ม “ช่วยชีวิตร้านคุณจากความมืดชั่วนิรันดร์ คิดว่าน่าจะต้องมีค่าตอบแทนพิเศษสำหรับงานเสี่ยงและชดเชยความรู้สึกบอบช้ำทางจิตใจหน่อยนะ”
ซาโตะชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะหัวเราะออกมา “เอาล่ะๆ ฉันคิดว่าน่าจะเพิ่มงบประมาณสำหรับค่าธรรมเนียมในการปราบวิญญาณได้อีกหน่อย แต่ครั้งหน้านะ ไม่ต้องมีอุปกรณ์อาถรรพ์อีกแล้วนะ โอเคไหม”
ผมเลิกคิ้ว “ถ้ามีครั้งหน้า ผมจะขอไม่ใช่แค่ซูชิฟรีนะ แต่เอาซาซิมิแบบไม่อั้นไปเลยดีกว่า”
เราจับมือกัน แล้วเขาก็พาผมเข้าไปดู aPad สั่งอาหารในครัว ซึ่งตอนนี้ทุกตัวสะอาดหมดจด ไม่มีข้อความแปลกๆ จากวิญญาณอีก หน้าจอแต่ละอันสว่างใสเหมือนไม่เคยมีวิญญาณเชฟเคนจิมาสัมผัสกับมันเลย
Sponsored Ads
———————
ข้อสรุป
พนักงานต่างก็เดินไปเดินมาทั่วครัว แต่ละคนทักทายขอบคุณผม ไม่ว่าจะโค้งหัวเล็กน้อยหรือยิ้มอย่างโล่งใจ ทุกคนรู้สึกได้ถึงน้ำหนักของการปรากฏตัวของเชฟเคนจิที่เบาบางลง แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้รายละเอียดทั้งหมด ครัวรู้สึกสว่างสดใสขึ้น ราวกับเงาหนักๆ นั้นถูกยกออกไป
ผู้ช่วยเชฟไอโกะพยักหน้าให้ผมอย่างเคารพขณะเช็ดเคาน์เตอร์ “ขอบคุณนะคะ ครัวรู้สึก… เบาขึ้น ราวกับว่าเขาได้พักผ่อนแล้ว”
ผมพยักหน้าตอบ ยิ้มเล็กๆ ด้วยความพึงพอใจ “ตอนนี้เขาไปอยู่ในที่ที่เขาควรอยู่แล้ว เขาอาจจะ… จริงจังไปบ้าง แต่ว่าเขาก็ใส่ใจในงานของเขาจริงๆ และตอนนี้ผมคิดว่าเขาน่าจะปล่อยวางได้แล้ว”
พนักงานทดสอบ aPad ครั้งสุดท้าย แต่ละคนยืนยันว่ามันปลอดจากข้อความแปลกๆ ของเชฟแล้ว ข้อความที่ปรากฏมีแค่รายการเมนูปกติและตัวเลือกซูชิที่ดูเป็นมิตรและปราศจากวิญญาณหลอน
ผมมองครัวครั้งสุดท้าย รู้สึกเหมือนผมได้ปกป้องมากกว่าร้านอาหาร ผมได้ปกป้องชิ้นส่วนหนึ่งของมรดกของเชฟเคนจิ—ศิลปะของเขาที่ไม่ถูกทำลายด้วยความหมกมุ่นของเขา ในที่สุดเขาก็ได้รับการพักผ่อนอย่างสงบ
Sponsored Ads
———————
ส่งท้าย
ขณะที่ผมเดินออกจากร้านซูชิซาโต้ สายลมอุ่นๆ พัดเข้ามากระทบใบหน้า ไล่เศษความเย็นที่เคยรู้สึกได้จากในครัวออกไป ในที่สุดผมรู้สึกถึงอิสรภาพที่แท้จริงจากความหนาวเย็นนั้น ผมเอื้อมมือไปแตะพระสมเด็จที่ห้อยอยู่ที่คอ พึมพำขอบคุณสำหรับงานที่ทำสำเร็จ
ผมคิดในใจว่า “วันนี้ ขอกิน คาเนียวมูยะ ดีกว่า” แล้วผมก็เดินจากไปท่ามกลางแสงอรุณ ทิ้งร้านซูชิผีสิงและเงามืดจากห้วงลึกไว้ข้างหลัง
Sponsored Ads