NOVEL / The Signal Beyond the Veil · December 27, 2024 0

042-Extra สัญญาณแห่งแสง-สุขสันต์ปีใหม่จากนาวินและธนา (2/2)

ผมเหลือบมองกระดาษโน้ตอีกครั้ง หมึกที่ซีดจางแต่ลายมือยังคงคุ้นเคยไม่เปลี่ยน

“ขอให้โชคดี จากย่าน้อย”

ไม่มีเสียงอะไรในร้าน นอกจากเสียงหึ่ง ๆ ของป้ายไฟนีออนจากภายนอก และเสียงพลุที่ดังอยู่ไกลๆ

Sponsored Ads

แต่ในขณะที่ผมจ้องมองไปที่รูปปั้นแมวกวักนั้น เพียงเสี้ยววินาที—แผ่วเบาจนเหมือนอุปทานไปเอง—ผมได้ยินเสียงของเธอ

เสียงกระซิบแผ่วเบา อบอุ่น และคุ้นเคยเหลือเกิน

“ดูแลกันและกันนะ นาวิน และอย่าลืมดูแลตัวเองด้วย”

ผมผ่อนลมหายใจออกมาช้าๆ ความรู้สึกหนักอึ้งในอกจางหายไปบางส่วน เหลือไว้เพียงความอบอุ่นลึกๆ ในใจ

“สุขสันต์วันปีใหม่ครับ ย่าน้อย” ผมพึมพำเบาๆ

Sponsored Ads

———————

ข้อความถึงผู้อ่าน

ผมหันไปมองเว็บแคมเก่าๆ ที่วางพาดอยู่บนโต๊ะทำงานของผม ไฟสถานะเล็กๆ บนมันเรืองแสงจางๆ

“ธนา,” ผมพูดขึ้นลอย ๆ พลางเอนตัวพิงเก้าอี้, “นายรู้สึกไหม เหมือนมีใครบางคนกำลังดูเราอยู่”

ธนาหันขวับไปที่กล้องทันที พร้อมทำหน้าตกใจเกินเบอร์ราวกับตัวประกอบในละครเวที

“โอ้ ไม่! เราถูกไลฟ์สดอีกแล้วเหรอ? เราดังแล้วใช่ไหมเนี่ย!”

ผมถอนหายใจ พลางใช้นิ้วนวดขมับตัวเอง “มีสมาธิหน่อย ธนา บางทีอาจจะมีใครบางคนกำลังฟังเราอยู่จริง ๆ ก็ได้ บางทีพวกเขาอาจจะอยู่กับเรามาตลอดทั้งปีสุดวุ่นวายนี้”

ธนาขยับตัวให้ตรง แสร้งทำหน้าจริงจัง—ซึ่งจริงๆ ก็แค่หน้าธนาปกติ แต่ยิ้มน้อยลงหน่อย

“ถึงทุกคนที่อยู่ตรงนั้น—ไม่ว่าคุณจะเป็นนักล่าผี นักทำลายคำสาป หรือแค่พยายามเอาตัวรอดจากปีที่เต็มไปด้วยความหลอนในแบบของคุณเอง—ขอบคุณที่อยู่กับเรามาตลอดนะครับ”

“และจำไว้,” ธนาเสริมพลางชี้นิ้วขึ้นเหมือนคุณครูในชั่วโมงเรียน, “ถ้าไม่มั่นใจว่าจะแก้ปัญหายังไง ให้ลองถอดปลั๊กออกก่อนเสมอ”

ผมหัวเราะพรืด ส่ายหัวช้าๆ “แต่พูดจริงๆ นะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้—ไม่ว่าจะเป็นประตูมิติ คำสาป หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าสุดเฮี้ยนอะไรอีก—พวกคุณก็อยู่กับเรามาทุกย่างก้าว และนั่นสำคัญกับเรามาก”

เราทั้งคู่ยกแก้วกาแฟและกระป๋องโซดาขึ้นพร้อมกัน หันไปทางกล้อง

“สุขสันต์วันปีใหม่ครับ! ขอให้ปลอดภัย มีสติ และถ้าเป็นไปได้ พกสายสิญจน์ติดกระเป๋าไว้สักเส้น—กันไว้ดีกว่าแก้”

Sponsored Ads

———————

เสียงกระซิบในความเงียบ

หลังจากช่วงเวลาอันยาวนาน ทุกอย่างในร้านก็กลับสู่ความเงียบอีกครั้ง เสียงพลุจากข้างนอกค่อยๆ จางหายไป เหลือเพียงกลุ่มควันบางเบาและแสงประกายสุดท้ายลอยอยู่เหนือเส้นขอบฟ้าของกรุงเทพฯ

ผมยืดแขนขึ้นเหนือหัว เสียงข้อต่อดังกรอบแกรบอย่างประท้วง “โอเค ธนา ออกไปได้แล้ว ก่อนที่ฉันจะเริ่มเก็บเงินค่านั่งบำบัดหลังเลิกงานจากนาย”

ธนายิ้มแหยๆ ตามสไตล์เขาเอง พร้อมกับเอียงหมวกปาร์ตี้ “สุขสันต์วันปีใหม่” สีแสบตาให้ดูเท่ขึ้นมาหน่อย

“ก็ได้ๆ แต่พรุ่งนี้ ฉันจะลากนายไปทำบุญที่วัดอรุณให้ได้” เขาพูดพลางชี้นิ้วใส่ผม “นายต้องการบุญเยอะๆ หลังจาก…ปีนี้”

ผมยิ้มมุมปาก “การทำบุญมันยังนับว่าได้บุญอยู่ไหม ถ้านายโดนบังคับให้ไป?”

“ได้สิ! ได้เต็มๆ เลยล่ะ” ธนาตอบกลับทันที เขายกมือขึ้นทำท่าคำนับล้อเลียนขณะเดินถอยหลังไปทางประตู “อย่านอนดึกมากล่ะนะ แล้วก็อย่าคุยกับเครื่องใช้ไฟฟ้าผีสิงของนายจนเช้า”

ธนาหันมายิ้มอีกครั้ง ก่อนจะหายลับไปในอากาศยามค่ำคืนอันเย็นสบาย

ภายในร้าน…สงบลงอย่างประหลาด เงียบสงบ อย่างที่ไม่ได้รู้สึกมานานแล้ว

ผมถอนหายใจยาว เดินไปที่เคาน์เตอร์ และมองไปที่เจ้าแมวกวักเซรามิกตัวเล็กที่ยังคงวางอยู่ตรงนั้น ดวงตาที่ทาสีเอาไว้ดูแวววาวสะท้อนแสงไฟจางๆ ราวกับมันกำลังจ้องมองผมอย่างเข้าใจทุกอย่างที่เกิดขึ้น

ที่ไหนสักแห่งในความเงียบสงัด—เบาจนแทบจะคิดว่าเป็นเพียงสายลม หรืออาจจะเป็นเสียงหึ่งๆ จากเมืองที่ไม่เคยหลับใหล—ผมได้ยินเสียงกระซิบแผ่วเบา

ไม่ใช่คำสาป ไม่ใช่คำเตือน

แค่…ความเงียบสงบ

และเป็นครั้งแรกในรอบปี ผมรู้สึกว่ามัน…โอเคแล้วจริงๆ

Sponsored Ads

———————

สายโทรศัพท์ที่ไม่คาดคิด

ผมกำลังจะปิดไฟในร้านเมื่อโทรศัพท์สั่นครืดอยู่บนโต๊ะ หน้าจอเรืองแสงแสดงชื่อสายเรียกเข้า

ผู้บัญชาการหลิน

ผมถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะรับสาย “หลิน บอกผมทีว่าหน่วยม่านไม่ได้ใช้คืนวันปีใหม่ไปกับการสืบสวนเครื่องคาราโอเกะต้องคำสาปอีกเครื่องนะ”

มีเสียงเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนที่เสียงคมกริบแต่ราบเรียบของหลินจะดังขึ้นผ่านสายโทรศัพท์

“ใจเย็น นาวิน สิ่งเดียวที่ฉันจะสืบสวนในคืนนี้คือแชมเปญราคาแพงนี่ ว่าจะดื่มหมดก่อนเที่ยงคืนได้ไหม”

“ผู้การหลิน… คุณกำลังพักผ่อนอยู่เหรอ?” ผมถามด้วยน้ำเสียงแสร้งทำเป็นตกตะลึง

อย่าทำให้มันดูไม่เป็นธรรมชาติแบบนั้นสิ” เธอตอบกลับด้วยน้ำเสียงติดประชด “ฉันเองก็มีวันหยุดเหมือนกันนะ เป็นครั้งคราว”

เสียงหัวเราะแผ่วเบาดังมาจากปลายสาย คงเป็นลูกทีมของเธอในห้องพักของหน่วยม่านที่ตกแต่งครึ่งๆ กลางๆ สำหรับปีใหม่

“เอาล่ะ” หลินพูดต่อ เสียงของเธอนุ่มลง “ฉันโทรมาเพราะถึงแม้คุณจะชอบเถียงสวนคำสั่งฉันและแหกกฎอยู่บ่อยๆ แต่คุณก็ทำได้ดีในปีนี้นะ นาวิน คุณช่วยชีวิตคนไว้มากมาย… รวมถึงชีวิตฉันด้วย”

ผมยกมือขึ้นเกาหลังคออย่างเก้อเขิน “คุณทำเหมือนผมเป็นฮีโร่เลย ผมก็แค่คนซ่อมอุปกรณ์เสียๆ แล้วก็บางครั้งก็ใช้มีดหมอแทงผีเท่านั้นเอง”

“นั่นแหละเหตุผลที่คุณยังมีชีวิตอยู่” หลินตอบกลับพร้อมเสียงหัวเราะแผ่วๆ “ยังไงก็ตาม สุขสันต์วันปีใหม่ นาวิน… แล้วก็…”

ผมได้ยินเสียงเธอลังเล—สิ่งที่หาได้ยากจากผู้บัญชาการหลิน

“…ถึงใครก็ตามที่ติดตามเรื่องราวของคุณ ไม่ว่าจะเป็นจากเงามืดหรือจากจอโทรศัพท์ ฟังคำบ่นของนายและมุกตลกแย่ๆ ของธนา—บอกพวกเขาด้วยว่า สุขสันต์วันปีใหม่ โลกนี้มีเงามืดมากมาย แต่พวกเขาเองก็มีแสงสว่างในตัว และบางครั้ง… แค่นั้นมันก็เพียงพอแล้ว”

มุมปากของผมยกขึ้นเป็นรอยยิ้มจริงใจ “ก็ได้ หลิน สุขสันต์วันปีใหม่เช่นกันนะ อย่าซักถามแชมเปญมากเกินไปล่ะ”

“ฉันรับปากไม่ได้หรอก” เธอตอบ ก่อนสายจะถูกตัดไป

Sponsored Ads

———————

คำสุดท้าย

ผมวางโทรศัพท์ลงและปล่อยให้ความเงียบปกคลุมร้านอีกครั้ง

นอกหน้าต่าง กรุงเทพฯ ยังส่องแสงระยิบระยับ—เมืองที่เต็มไปด้วยวิญญาณโบราณและแสงนีออน เมืองที่ยังคงตื่นตัว ยังคงส่งเสียง และยังคงมีชีวิตอยู่

ผมหันหน้าไปยังเว็บแคมที่ตั้งอยู่บนโต๊ะทำงาน ไฟสีเขียวเล็กๆ บนกล้องกะพริบแผ่วเบา ราวกับกำลังรออะไรบางอย่าง

“เอาล่ะ” ผมพูด พลางเอนตัวเข้าใกล้กล้อง “ดูเหมือนว่าผู้บัญชาการยังหยุดพักได้ งั้นเราก็ควรจะพักบ้างเหมือนกัน”

ผมหยุดไปครู่หนึ่ง น้ำหนักของปีที่ผ่านมาเกาะกุมอยู่บนบ่า แต่ก็ไม่ได้รู้สึกแย่เท่าไหร่นัก

“ถึงทุกคนที่อยู่ตรงนั้น—สุขสันต์วันปีใหม่ครับ”

ผมพยักหน้าให้กล้องเล็กน้อยด้วยรอยยิ้มจริงใจ

“ไม่ว่าคุณจะกำลังซ่อมคอมพิวเตอร์ ต่อสู้กับเครื่องดูดฝุ่นผีสิง หรือแค่พยายามประคองชีวิตของตัวเองเอาไว้—ขอบคุณที่อยู่กับพวกเรามาตลอดปีนี้ พวกคุณกล้าหาญกว่าที่คิด แข็งแกร่งกว่าที่รู้ และพูดตามตรงเลยนะ คุณสมควรได้นอนหลับมากกว่าพวกเราทุกคน”

ผมยกแก้วกาแฟที่เหลือเพียงครึ่งแก้วขึ้นมา

“แด่คุณ แด่เรา และแด่สิ่งที่จะมาถึง—ขอให้เราเผชิญหน้ามันไปด้วยกัน และขอให้แสงสว่างของพวกเราเปล่งประกายเจิดจ้ายิ่งขึ้นในความมืด”

ผมเอื้อมมือไปกดปิดเว็บแคม

ร้านกลับสู่ความเงียบสงบ มีเพียงเสียงหึ่งเบาๆ ของเครื่องจักรและแสงไฟนีออนที่ยังคงส่องสว่างอยู่ไกลๆ

นอกหน้าต่าง กรุงเทพฯ ยังคงดำเนินต่อไป พร้อมกับเสียงเชียร์ไกลๆ พลุไฟระยิบระยับ และเสียงพูดคุยของเมืองที่ไม่เคยหลับใหล

และที่ไหนสักแห่ง—บางทีอาจจะอยู่ท่ามกลางซากพิธีกรรมที่ถูกทิ้งไว้ หรือในเสียงกระซิบที่ลอยผ่านอากาศ—บางสิ่งบางอย่างยังคงจับจ้องอยู่

แต่ตอนนี้ ทุกอย่างสงบลงแล้ว

และสำหรับคืนนี้…แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว.

Sponsored Ads