แสงนีออนในกรุงเทพฯ สาดส่องไปทั่วซอกซอยเงียบสงบหน้าร้านของผม ทำให้ถนนเต็มไปด้วยสีเขียวและชมพูขณะที่ค่ำคืนเริ่มหนาขึ้น เสียงกระดิ่งประตูดังขึ้นเมื่อหญิงสาวคนหนึ่งที่ดูเหมือนจะไม่ได้นอนมาหลายวัน เดินเข้ามา
Sponsored Ads
เธอถือกล่องพลาสติกเล็กๆ ไว้แน่น มือของเธอเกร็ง และรอยคล้ำใต้ตาทำให้เธอดูเหมือนคนที่กำลังหนีบางสิ่งบางอย่างที่หนีไม่พ้น เธอมองไปรอบๆ อย่างกระวนกระวาย ก่อนจะสบตากับผม คำถามนั้นอยู่ในสายตาของเธอแล้ว เหมือนวิญญาณที่ล่องลอยอยู่ระหว่างเรา
“คุณคือ…นาวิน ใช่ไหม?” เธอถาม เสียงของเธอเบาและลังเล ราวกับว่าการถามชื่อของผมอาจทำให้ความกล้าที่เธอมีหายไป
“ใช่แล้ว” ผมตอบพร้อมกับยิ้มเล็กน้อยและส่งสัญญาณให้เธอนั่ง “อะไรนำคุณมาที่ร้านเล็กๆ ของผมในเวลานี้?”
เธอหายใจเข้าลึกๆ ยกกล่องเล็กๆ ขึ้นราวกับว่ามันจะอธิบายทุกอย่าง “ฉันนิด คือ…คือ…อันนี้ aAirs ฉันซื้อมันมาเพราะมันควรจะช่วยให้ฉันผ่อนคลาย เช่น การทำสมาธิ การกระตุ้นความสงบ อะไรทำนองนั้น” เสียงของเธอสั่นเครือ ทุกคำพูดเต็มไปด้วยความรู้สึกบางอย่างที่เหมือนยังไม่ได้พูดออกมา
Sponsored Ads
ผมเลิกคิ้ว กอดอก “แล้วผมเดาว่ามันไม่ได้ทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายอย่างที่หวังใช่ไหม?”
เธอส่ายหัว จับกล่องแน่นขึ้น “ใช่ ตอนแรกมันเริ่มต้นด้วยเสียงดนตรีเบาๆ เสียงที่บอกให้ ‘ปล่อยวางความเครียด’ หรือ ‘ปล่อยวางภาระ’…” เธอหยุดชั่วครู่ กลืนน้ำลาย “แต่เมื่อเร็วๆ นี้…คำชี้แนะเริ่มเปลี่ยนไป มันพูดว่า…อย่างเช่น ‘โอบรับความว่างเปล่า’ หรือ ‘ปลดปล่อยสิ่งยึดติด'”
ผมกลั้นยิ้มอย่างไม่สามารถต้านทานคำพูดแซวเธอเล็กน้อยได้ “ฟังดูเหมือนโหมดผ่อนคลายของ aAirs ของคุณไปไกลถึงขั้น ‘เซนแห่งความมืด’ ไปแล้วนะ”
รอยยิ้มเล็กๆ ที่ดูไม่เต็มใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ ก่อนจะสูดหายใจลึกเพื่อควบคุมตัวเองอีกครั้ง “ฉันคิดว่ามันอาจเป็นแค่บั๊ก แต่…มันกำลังมีผลต่อฉัน ฉันนอนไม่หลับ ฉันรู้สึกถูกดึงดูดไปสู่…ไม่รู้สิ เหมือนกับความว่างเปล่าแปลกๆ เสียงที่บอกในนี้กำลังผลักดันฉันไปหามัน”
ผมมอง aAirs ด้วยความสนใจที่เพิ่มขึ้น นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีคนมาหาผมเพราะเหตุการณ์ประหลาดที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี แต่การทำสมาธิที่กลายเป็นคำสั่งแปลกๆ แนวลัทธินี่สิ เป็นอะไรใหม่จริงๆ
“งั้นดีเลย” ผมพูด ขณะที่ยื่นมือออกไปรับ aAirs มา “มาดูกันดีกว่า”
Sponsored Ads
———————
การตรวจสอบเบื้องต้น
ทันทีที่นิ้วของผมสัมผัสกับกล่อง ผมก็รู้สึกได้ มันเป็นพลังงานบางอย่าง ราวกับเสียงกระซิบที่แผ่ออกมาเบาๆ จาก aAirs มันเลือนรางแต่มืดมิดและหนักหน่วง เหมือนพลังงานมืดบางอย่างที่มีชีวิต
“น่าสนใจ” ผมพึมพำ พยายามไม่ให้เธอรู้ว่าผมรู้สึกสนใจขนาดไหน “มันมีบางอย่างอยู่จริงๆ นี่ไม่ใช่แค่ปัญหาซอฟต์แวร์หรือความผิดปกติทั่วไป”
ดวงตาของเธอเบิกกว้างด้วยความกลัวและโล่งใจผสมปนกัน “คุณรู้สึกได้เหรอ?”
“ถือเป็นส่วนหนึ่งของบริการก็แล้วกัน” ผมตอบ พร้อมกับพิจารณากล่องอย่างละเอียด “มันมีพลังงานมืดผูกติดกับมัน มันเลือนรางแต่ก็อยู่ตรงนี้ เหมือนเงาที่เกาะอยู่”
ผมวาง aAirs ลงบนเคาน์เตอร์ วางมือไว้ใกล้ๆ รู้สึกถึงพลังงานที่แผ่ผ่านอากาศ “อย่างแรกเลยนะ” ผมพูดขณะที่เอนหลังและกอดอก “ค่าตรวจสอบสำหรับกรณีแบบนี้คือ สองพันบาท รวมการตรวจสอบและการชำระล้างเล็กๆ น้อยๆ หากเราโชคดี แต่ถ้าซับซ้อนมากกว่านี้ เราค่อยคุยกันอีกที”
นิดพยักหน้าอย่างรวดเร็ว หยิบเงินออกมาจากกระเป๋าและส่งให้ผม “ฉันไม่สนค่าใช้จ่ายหรอกค่ะ ขอแค่มันหายไปก็พอ”
ผมรับเงินมา ยัดใส่ในลิ้นชัก แล้วหันกลับมาหาเธอพร้อมกับยิ้มให้กำลังใจ “โอเค มาดูกันว่ามีอะไรแอบซ่อนอยู่ในอุปกรณ์ทำสมาธิไฮเทคของคุณกัน”
Sponsored Ads
———————
พลังงานมืดมิด
ขณะที่ผมเริ่มตรวจสอบเบื้องต้น ผมหยิบเครื่องมือที่ใช้เป็นประจำออกมา นั่นก็คือ ขวดน้ำมนต์ที่ผ่านการปลุกเสกเรียบร้อยแล้ว และพระสมเด็จ เพื่อป้องกันตัว ผมเคยจัดการกับอุปกรณ์ที่ถูกสาปหรือถูกผีสิงมาไม่น้อย แต่เจ้า aAirs ของนิดให้ความรู้สึก…แตกต่าง มันเงียบกว่า เหมือนเป็นเสียงสะท้อนที่แฝงด้วยพลังงานมากกว่าจะเป็นวิญญาณจริงๆ แต่ถึงแม้จะเป็นแค่เสียงสะท้อน มันก็ยังสร้างความรู้สึกหนักอึ้งได้
ผมเปิดกล่อง aAirs ขึ้นและถือไว้ในมือ ปล่อยพลังงานจากตัวผมไหลไปยังมัน แล้วผมก็รู้สึกได้ถึงพลังงานบางอย่างอีกครั้ง มันเหมือนกับการแผ่รัศมีออกมาจากอุปกรณ์นั้น เป็นพลังงานที่เงียบเชียบแต่ดำมืด เหมือนราวกับควันที่กำลังล้อมรอบอุปกรณ์นี้ไว้ เพียงเสี้ยววินาที ความเย็นวาบก็แผ่ซ่านไปทั่วผิวหนัง และผมเกือบได้ยินเสียงที่กระซิบที่แผ่วเบาๆ อยู่ไกลๆ
[โอบรับความว่างเปล่า…ยอมจำนน…]
คำพูดเหล่านั้นสะท้อนอยู่ในหัวของผม แต่ละคำเต็มไปด้วยความสงบที่ไม่เป็นธรรมชาติ เหมือนเพลงกล่อมเด็กที่ถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นสิ่งน่ากลัว ผมหลับตา จดจ่อกับพระสมเด็จในมือเพื่อควบคุมพลังงานนั้น ก่อนจะหันกลับไปหานิดที่กำลังมองผมด้วยสายตาเป็นกังวล
“แล้วใครขายเจ้านี่ให้คุณล่ะ?” ผมถามขณะที่พยายามทำให้โทนเสียงของผมแจ่มใสขึ้น
“ฉันซื้อมาจากร้านออนไลน์นะ ดูเหมือนร้านปกติเลย มีรีวิวดีๆ เยอะแยะ ก็เลยไม่คิดอะไรมาก” เธอตอบ พลางมองดูเจ้า aAirs อย่างหวาดๆ “ฉันซื้อมาทำสมาธินะ ก็หวังว่าจะได้ความสงบอะไรแบบนั้น”
Sponsored Ads
ผมพยักหน้า แม้จะคิดว่าน่าจะมีอะไรที่มืดมนกว่าความสงบซ่อนอยู่ในอุปกรณ์นี้ “ก็สงบแบบไม่ธรรมดาจริงๆ อย่างกับทัวร์ชมโลกมืดเลยล่ะ”
เธอหัวเราะเบาๆ อย่างประหม่า สายตาของเธอมองสลับระหว่างผมกับ aAirs “แล้ว…คุณจะซ่อมมันได้ไหม?”
“ซ่อมน่ะเหรอ คำนี้ฟังดูแรงไปหน่อย” ผมตอบ พลางพิจารณาอุปกรณ์นั้นอย่างครุ่นคิด “มีร่องรอยของพลังงานมืดอยู่ตรงนี้ เหมือนบางสิ่งที่ติดมากับมันจากเจ้าของหรือคนขายคนก่อน แต่ว่าผมเดาว่ามันน่าจะมีอะไรมากกว่านี้อีกหน่อย มากกว่าการเป็นของมือสองธรรมดา”
เธอไหล่ตกลง “นั่นหมายความว่ายังไง?”
“มันหมายความว่าเจ้า aAirs พวกนี้ไม่ได้ถูกผีสิงมาโดยบังเอิญ” ผมตอบพร้อมกับแตะกล่องอย่างใช้ความคิด “นี่ไม่ใช่ผีทั่วไป มีอะไรบางอย่าง…เจตนาอยู่นี่ เหมือนมีคนตั้งใจส่งข้อความบางอย่างมาให้”
ใบหน้าของเธอซีดลง “ข้อความ?”
“จริง ๆ มันก็เหมือนกับคำเชิญนะ” ผมตอบ ยักไหล่น้อยๆ “แต่นี่แค่เดา ผมจะรู้มากขึ้นเมื่อได้เจาะลึกลงไปอีกนิด”
Sponsored Ads
———————
เสียงกระซิบของบางสิ่งที่มืดมิด
ผมหยิบเจ้า aAirs ขึ้นมา ตั้งใจจะตรวจสอบอย่างละเอียดในภายหลัง แต่ทันทีที่จับมันในมือ ผมรู้สึกถึงพลังงานวูบหนึ่ง—เป็นพลังงานที่พุ่งพล่านและรวดเร็วจนทำให้นิ้วของผมรู้สึกชา เสียงกระซิบในหัวของผมเริ่มดังขึ้นและเกือบจะฟังออกแล้ว คราวนี้ผมจับใจความได้ว่า
[ปล่อยวาง…ยอมจำนน…โอบรับความว่างเปล่า…]
เสียงนั้นสงบ ราวกับจะสะกดจิตให้ผมเคลิ้มไป แต่ภายใต้ความสงบนั้น ผมรู้สึกได้ถึงความมืดที่ซ่อนอยู่ คล้ายกับกับดักที่เชิญชวนให้ถลำลึกลงไปในเหวที่ห่างไกล
ผมวางเจ้า aAirs กลับบนเคาน์เตอร์ทันที ความดึงดูดของเสียงนั้นหายไปเมื่อผมปล่อยมันลง นิดมองผมด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง รอคำอธิบายจากผม
“ใช่แล้ว” ผมพูดพร้อมกับยิ้มเคร่งขรึม “นี่ไม่ใช่แค่อุปกรณ์ที่ถูกผีสิง คนที่ขายเจ้านี่ให้คุณอาจจะรู้ดีอยู่แล้วว่ากำลังทำอะไร มีพลังงานบางอย่างที่ยังคงอยู่ บางทีอาจเป็นส่วนหนึ่งของวิญญาณด้วยซ้ำ”
ตาของเธอเบิกกว้าง ทั้งหวาดกลัวและสนใจ “วิญญาณ?”
ผมพยักหน้า “หรืออย่างน้อยก็เป็นเพียงเศษเสี้ยวหนึ่งเท่านั้น อุปกรณ์นี้ไม่ใช่แค่ถูกผีสิง มันมีบางส่วนของใครสักคนที่ต้องการคงไว้ซึ่ง พลังงาน อืม… เรียกมันว่า ‘อิทธิพลอันสันติ’ ที่ยังมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกนานแม้ว่าพวกเขาจะจากไปแล้วก็ตาม”
“แล้ว…ตอนนี้จะทำยังไง?” เธอถามเสียงแผ่วเบา
“ตอนนี้?” ผมตอบ พร้อมกับหยิบน้ำมนต์มาวางข้างกล่อง “ตอนนี้ผมจะเริ่มลบอิทธิพลพวกนี้ออก มันต้องใช้เวลาหน่อยและเครื่องมือที่ค่อนข้างพิเศษ แต่ถ้าโชคดี เราจะสามารถกำจัดอิทธิพลนี้ออกไปได้ก่อนที่มันจะเกาะติดคุณไปมากกว่านี้”
ผมเอื้อมมือไปหยิบเจ้า aAirs รู้สึกถึงพลังมืดที่เต้นเป็นจังหวะสุดท้ายในขณะที่ผมเตรียมเริ่มกระบวนการ มันเบาบาง แต่ผมก็รู้สึกถึงการต่อต้าน เหมือนมีพลังเงียบๆ ที่พยายามผลักผมออก พยายามรักษาอิทธิพลของมันไว้ในตัวนิดผ่านอุปกรณ์นี้
แต่ผมไม่ใช่คนที่จะยอมแพ้กับความท้าทายได้ง่ายๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจาก aAirs ที่ถูกสาป
“เอาล่ะ” ผมพูดพร้อมกับยิ้ม หักข้อนิ้ว “มาดูกันว่าความ ‘เซน’ นี้ลึกซึ้งแค่ไหน”