NOVEL / The Signal Beyond the Veil · January 1, 2025 0

046-การทำสมาธิ…แห่งความมืด-(วางเขตป้องกัน)

ร้านมืดสลัว มีเพียงแสงจากโคมไฟบนโต๊ะที่ส่องแสงอบอุ่นมาถึงเคาน์เตอร์เท่านั้น คืนนี้ผมเตรียมทุกอย่างไว้พร้อมสำหรับการชำระล้าง น้ำมนต์, สายสิญจน์ และพระสมเด็จที่ผมไว้ใจ คืนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะเสี่ยง เราต้องควบคุมทุกอย่างให้อยู่ในมือ

Sponsored Ads

นิดนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามอย่างกระวนกระวาย สายตาของเธอจ้องไปที่ aAirs คู่นั้นที่วางอยู่บนผ้ากลางโต๊ะ ผมพันสายสิญจน์ไว้รอบข้อมือของเธอ หวังว่าพลังป้องกันจะช่วยปกป้องเธอจากสิ่งที่เลวร้ายที่สุด มือของเธอกำแน่นจนข้อนิ้วขาวซีด ลมหายใจของเธอถี่และตึงเครียด

“โอเค” ผมพูดพลางสูดหายใจลึก “สิ่งนี้อาจจะรู้สึกแปลกไปบ้าง ไม่ว่าอะไรก็ตามที่เสียงบอกเธอ อย่าฟังมัน จงเพ่งความสนใจไปที่สายสิญจน์เท่านั้น”

เธอพยักหน้า จับสายสิญจน์ที่พันรอบข้อมือของเธอแน่นราวกับว่ามันเป็นเชือกช่วยชีวิต ผมหยิบพระสมเด็จขึ้นมา รู้สึกถึงความหนักและความอบอุ่นในมือ วางมันไว้ใกล้กับ aAirs หวังว่าพลังที่สงบและมั่นคงของพระสมเด็จจะต้านอิทธิพลมืดที่ฝังอยู่ในนั้นได้

ขั้นแรกคือการชำระล้างเสมอ ผมพรมหยดน้ำมนต์ลงบน aAirs ดูหยดน้ำกลิ้งไปบนผิวเหมือนกับปรอท มันไม่ซึมลงไปเลย แต่กลับรวมตัวกันและส่องประกายราวกับว่าอุปกรณ์นี้กำลังปฏิเสธน้ำมนต์

ผมเริ่มท่องบทสวดป้องกันบทแรกที่ย่าน้อยสอนให้ คำสวดที่ออกมาให้จังหวะที่มั่นคง ขณะที่พลังงานในห้องเริ่มเปลี่ยนแปลง หนาขึ้นหนักขึ้น ราวกับมีเมฆพายุก่อตัว aAirs ดูเหมือนจะเต้นเป็นจังหวะ รู้สึกถึงการต่อต้านเล็กๆ แต่ชัดเจนจากมัน

“อืม” ผมพึมพำพลางหมุนไหล่ “ดูเหมือนว่าเราจะไม่ได้เจอวิญญาณที่เป็นมิตรนะ”

นิดหัวเราะเบาๆ แต่ดวงตาของเธอยังคงจ้องไปที่ aAirs “ฉันรู้สึกได้… เหมือนกับว่ามันกำลังจ้องมองเราอยู่”

“โอ้ แน่นอน มันจ้องอยู่แน่ ๆ” ผมตอบพลางยกพระสมเด็จขึ้นและท่องบทสวดต่อ “และฉันคิดว่ามันไม่ชอบให้เรามาขัดขวางมันสักเท่าไหร่”

เมื่อผมวางพระสมเด็จใกล้กับ aAirs บรรยากาศในห้องเริ่มเย็นลงทันที ไฟในห้องกะพริบเตือน aAirs เริ่มสั่นเล็กน้อย มีเสียงฮัมเบา ๆ ที่ดังออกมาจากมันเหมือนเสียงคำรามเตือน แต่ผมยังคงสวดบทสวดด้วยความหนักแน่นมากขึ้น ขณะที่อากาศรอบ ๆ ตัวเราหนาแน่นขึ้นด้วยความตึงเครียด

Sponsored Ads

———————

aAirs โต้กลับ

เมื่อผ่านพิธีกรรมไปได้ครึ่งทาง มันเป็นช่วงที่ผมเริ่มรู้สึกว่าพลังของคำสาปเริ่มอ่อนลง aAirs ก็ปล่อยเสียงแหลมคมออกมา เป็นเสียงที่รบกวนหูเหมือนเสียงเล็บขูดกระดาน มันเป็นเสียงที่ทรมานใจ บังคับให้ผมต้องหลับตาเพื่อทนรับความรุนแรงนั้น

ไฟในห้องกะพริบอย่างไม่เป็นจังหวะ ทิ้งเงาทอดยาวไปทั่วผนัง ผมกำพระสมเด็จแน่น ใช้พลังขอพระสมเด็จเพื่อทรงตัวให้มั่น ไม่ยอมให้คำสาปทำให้ผมสั่นคลอน

“ดูเหมือนว่า” ผมพึมพำ พลางหยีตามองผ่านแสงไฟที่กะพริบ aAirs คู่นี้จะไม่ชอบการให้สงบลงเท่าไหร่ แนวเซนแน่เลย”

แต่คำพูดของผมแทบไม่สะกิดใจนิด เธอกำลังจ้องมองอย่างตกตะลึง ขณะที่ aAirs ส่องแสงอ่อนๆ พลังงานมืดแผ่กระจายออกมาราวกับออร่าเป็นๆ ผมสามารถมองเห็นได้แล้ว เงามืดที่ดูเหมือนจะหายใจและเต้นตามจังหวะเหมือนหัวใจ สายสิญจน์รอบข้อมือของนิดเรืองแสงเล็กน้อยเพื่อตอบสนอง แต่แล้วตัวเธอก็เริ่มโยก เหมือนกำลังจะถูกดึงเข้าสู่แรงดึงดูดของคำสาปนั้น

“นิด!” ผมเรียกเสียงดัง “จดจ่อที่สายสิญจน์! อย่ามองที่ aAirs!”

ดวงตาของเธอเหลือบมามองผม หลุดจากภวังค์ชั่วขณะ และเธอก็พยักหน้า กำสายสิญจน์แน่น ผมกลับไปสวดบทสวดด้วยความตั้งใจมากขึ้น ทุ่มพลังทั้งหมดลงไปในพิธี แต่ aAirs ก็สู้กลับ มันสั่นสะเทือนด้วยความเกรี้ยวกราดจนทำให้ผมรู้สึกหนาวสั่น เสียงดังขึ้นเรื่อยๆ ก้องไปทั่วร้านจนรู้สึกเหมือนกำแพงกำลังคร่ำครวญด้วยแรงกดดันนั้น

ออร่ารอบ ๆ aAirs เริ่มหนาแน่นขึ้น ดำขึ้น ราวกับว่าคำสาปกำลังรวบรวมพลังสำหรับการต่อต้านครั้งสุดท้ายที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง ผมรู้สึกได้ถึงความโกรธเกรี้ยวของมัน พลังที่ต้องการจะดึงเราทั้งคู่ลงไปในห้วงลึกที่มืดมิด

Sponsored Ads

———————

การยืนหยัดต้านทาน

ผมตั้งสติ สูดลมหายใจลึก พลางยกพระสมเด็จขึ้นแล้วสวดบทคาถาด้วยพลังที่แน่วแน่ยิ่งขึ้น ทุกคำที่เปล่งออกมาเสมือนดาบที่ตัดผ่านความมืด สร้างเกราะแสงสว่างที่ผลักไสเงามืดที่เกาะติดกับ aAirs ออกไป ชั่วขณะหนึ่ง พลังงานรอบตัวเราดูเหมือนจะสั่นคลอน คำสาปเริ่มอ่อนแรงภายใต้พลังแห่งคาถาป้องกัน

ใบหน้าของนิดดูผ่อนคลายขึ้น สีเลือดเริ่มกลับมาบนแก้ม และเสียงหึ่ง ๆ ของคำสาปก็เริ่มจางหายไป อิทธิพลของมันค่อยๆ หดหาย ผมรู้สึกได้ว่าพลังความมืดเริ่มถอยหลัง ภายใต้แรงกดดันของพิธีกรรม

แต่เพียงแค่ผมเริ่มรู้สึกโล่งใจ aAirs ก็กลับสว่างขึ้นมาอีกครั้งด้วยแรงสั่นสะเทือนครั้งสุดท้าย ไฟในห้องกระพริบอีกครั้ง และความหนาวเย็นแผ่ซ่านไปทั่วเมื่อคำสาปฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง หนักแน่นรุนแรงกว่าครั้งก่อน

นิดร้องเสียงหลง พลางจับข้อมือของเธอแน่น และในช่วงเวลาที่น่าสะพรึงกลัว ผมเห็นดวงตาของเธอเหม่อลอย ราวกับว่าเธอกำลังตกอยู่ในภวังค์ ถูกดึงเข้าสู่แรงดึงดูดของคำสาป

“อยู่กับผมนะ นิด” ผมตะโกนเรียกเธอ ผลักดันพลังของตัวเองเพื่อต้านทานอิทธิพลของคำสาปให้มากที่สุด “อย่าปล่อยให้มันครอบงำเธอ”

ผมวางพระสมเด็จลงบน aAirs โดยตรง บีบพลังของเครื่องรางเข้าสู่ตัวเครื่อง aAirs แสงจาก aAirs เริ่มจางลง การสั่นสะเทือนเริ่มช้าลง ออร่ามืดค่อยๆ เลือนหายไปเมื่อคำสาปอ่อนแรงลง แต่ถึงแม้มันจะถอยกลับไป ผมรู้ว่าผมเพียงแค่ขุดลึกลงไปเพียงผิวเผินเท่านั้น

คำสาปนี้ไม่ใช่แค่ดวงวิญญาณที่ถูกขังอยู่ในอุปกรณ์ มันคือส่วนหนึ่งของอิทธิพลจากครูบาสวรรค์ ฝังลึกอยู่ใน aAirs เขาปฏิเสธที่จะจากไป ราวกับเงาที่รอเวลาค่ำคืนเพื่อกลับมาอีกครั้ง

Sponsored Ads

———————

น่าตื่นเต้น

เมื่อคำสุดท้ายของบทสวดหลุดออกจากริมฝีปากของผม ห้องก็ตกอยู่ในความเงียบ ไฟกลับมาคงที่ ความมืดหายไป aAirs นั่งเงียบๆ บนเคาน์เตอร์ ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ผมรู้ดีกว่านั้น นี่เป็นเพียงชัยชนะชั่วคราวเท่านั้น

นิดถอนหายใจอย่างสั่นคลอน ดวงตาของเธอกลับมาเป็นปกติ ความโล่งใจผสมกับความกลัว “มัน… มันได้ผลไหม?”

“ชั่วคราวเท่านั้น” ผมตอบ พลางเก็บพระสมเด็จใส่กระเป๋า “แต่สิ่งที่อยู่ข้างในนั่น มันไม่ได้หายไป แค่อ่อนแรงลง คำสาปนี้ฝังรากลึกเกินกว่าจะล้างออกด้วยการชำระล้างง่าย ๆ ต้องใช้บางอย่างที่แข็งแกร่งกว่านี้”

สีหน้าของนิดตกลงอีกครั้ง สีเลือดเริ่มหายไปจากใบหน้า “งั้น… มันยังไม่จบเหรอ?”

“ยังไม่จบ” ผมตอบพลางมองลงไปที่ aAirs ที่ดูเงียบสงบ “แต่ผมจะหาวิธีจัดการมันให้ได้”

ขณะที่ผมเก็บอุปกรณ์ต่าง ๆ ความรู้สึกหวาดหวั่นเข้ามาครอบงำ คำสาปนั้นยังคงเป็นเงาติดอยู่ในมุมความคิดของผม นี่ไม่ใช่แค่คำสาป มันคือสิ่งที่ผูกติดไว้ เศษเสี้ยวของอิทธิพลมืดจากครูบาสวรรค์ และมันไม่ยอมปล่อยไปง่าย ๆ แน่

ผมต้องใช้เครื่องมือทั้งหมดที่มี ทุกหยาดเหงื่อแห่งพลัง และอาจจะต้องการความช่วยเหลือจากพันธมิตรที่ไม่เต็มใจนัก อย่างผู้บัญชาการหลิน หากผมต้องการที่จะมีโอกาสสู้กับความมืดที่ซ่อนอยู่ใน aAirs นี้

Sponsored Ads