กองบิลที่กองสุมอยู่บนโต๊ะดูไม่ต่างจากเดิมสักเท่าไร ยับยู่ยี่ ดื้อรั้น และเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างเงียบ ๆ เหมือนวัชพืชในที่รกร้าง แต่ครั้งนี้ ฉันไม่นั่งนับมันเพื่อจะจม ฉันนับมัน เพราะฉันเลือกได้แล้วว่าจะปล่อยมือจากอะไร
Sponsored Ads
฿42,800
นั่นคือจำนวนที่จ้องกลับมาหาฉัน หลังจากใช้เวลาครึ่งชั่วโมงนั่งเช็ก นั่งทบทวน และนั่งทะเลาะกับตัวเองเงียบ ๆ ว่าจะเบี้ยวค่าเช่าเพื่อซื้อทูน่าเพิ่มได้ไหม
฿14,400 — จากครึ่งเดือนแรกของกะดึกที่ 7-Twelve
฿14,400 — จากครึ่งเดือนหลัง
฿10,500 — จากเดโม “จนแต่เจ๋ง”
฿1,000 — จาก “ตามตาต้องใจ” ที่ได้รับเลือกตีพิมพ์
บวกกับเศษเงินประมาณ ฿2,500 ที่ขูดรีดออกมาจากการใช้จ่ายรอบล่าสุด ทั้งหมดวางซ้อนเรียงอย่างไม่ค่อยเรียบร้อยนักใต้โคมไฟที่หักครึ่งตัวเองด้วยความชื้นในอากาศ
ลาเต้ เช่นเคย นอนแบละเหมือนเทพเจ้าที่ถูกทิ้งขว้างอยู่บนซองเงินเดือนเดือนธันวาคม เขาลืมตาข้างหนึ่งขึ้นมาดู เหลือบมองราวกับจะยืนยันว่า ไม่มีอะไรที่กินได้โผล่มาจากกองกระดาษไร้ค่าพวกนี้เลยสักแผ่น
“เดี๋ยวก่อนสิพี่แมว…”
“ขอแค่ปลดหนี้ได้ทีละนิดหน่อย จะได้ไหม?”
ไม่มีเสียงตอบ มีแค่หางกระดิกเบา ๆ เหมือนจะบอกว่า มนุษย์น่ะ เป็นฝ่ายเลือกอยู่เอง
ฉันดึงสมุด “เพลง แผลเก่า และเงินกู้ที่ไม่ลด” เล่มเก่าโทรมเข้ามาใกล้ ปลายนิ้วไล้ไปตามรอยพับลึกที่มันชินมือจะพับเองโดยไม่ต้องออกแรง
สถานะหนี้สิน:
ลุงเอ๋: หนี้ก้อนแรก ฿265,000
จ่ายไปแล้วก่อนหน้านี้ ฿30,000
เหลือหนี้คงค้าง ฿235,000
หนี้กยศ.: อีก ฿68,000 กำลังนั่งรออย่างเงียบ ๆ ราวกับพายุที่ฉันยังไม่ได้เริ่มตักน้ำทิ้ง
ฉันจ้องตัวเลขพวกนั้นอยู่นาน แล้วโดยไม่ต้องตั้งพิธี ฉันหยิบปากกาลูกลื่น 7-Twelve ที่ฉัน “ลืม” คืน กดหัวปากกาดัง “แกร๊ก” เหมือนเหนี่ยวไกเบา ๆ
฿30,000
พอให้หนี้สะดุ้ง แต่ยังไม่พอจะลบมันหายไป พอกับคืนนี้ หน้าจออินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้งกะพริบแสงจาง ๆ ร้านเน็ตคาเฟ่ชั้นล่างยังไม่เปิด ฉันเลยต้องกดโมเด็มมือสองต่อ สัญญาณเอง เสียงกรีดร้องแหบแห้งของมันฟังดูเหมือนหุ่นยนต์กำลังขาดใจตาย เข้ากับอารมณ์ดีแท้
ฉันกรอกฟอร์มโอนเงิน:
ผู้รับ: ธีรยุทธ เอื้อวัฒนพงศ์ (ชื่อจริงของลุงเอ๋ แม้แต่หนี้ก็ยังต้องใส่สูท) จำนวนเงิน: ฿30,000.00 หมายเหตุ: “ชำระบางส่วน.”
ฉันเอานิ้วค้างบนปุ่มยืนยันอยู่ครู่หนึ่ง ไม่ใช่เพราะลังเล แต่เพราะน้ำหนักแปลก ๆ ของความยินยอมที่ยังไม่คุ้นชิน
แล้วก็คลิก
ส่งเงิน
หน้าจอกระพริบ ธุรกรรมสำเร็จ
ฉันเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ ถอนหายใจยาว ไม่ใช่ด้วยความโล่งอก ไม่ใช่ด้วยความภูมิใจ
แค่…โล่ง เหมือนเส้นด้ายที่ถูกดึงตึงมานานเกินไป ได้รับอนุญาตให้หย่อนตัวลงนิดเดียว
ลาเต้หาวหวอด พลิกตัวโชว์พุงเหมือนป้ายโฆษณาสี่ขาส่งสารลับว่า เห็นไหม บอกแล้ว
ฉันเอานิ้วไปแตะสีข้างเขาเบา ๆ “ฉันยังไม่รอดนะเว้ย”
เขาตบมือฉันเบา ๆ โดยไม่แม้แต่จะลืมตา
ฉันเปิดสมุดบัญชีขึ้นมา เขียนตัวเลขด้วยลายมือช้า ๆ
จ่ายให้ลุงเอ๋: + ฿30,000 เหลือหนี้: ฿205,000
ไม่มีเครื่องหมายตกใจ ไม่มีการฉลอง แค่…ขีดเส้นหนึ่งขยับไปข้างหน้า
แสงเช้าของเดือนมกราคมเริ่มรอดผ่านผ้าม่านฝุ่นเกาะเข้ามา ที่ไหนสักแห่งไกล ๆ มีคนเปิดวิทยุพกพา เสียงเพลง “ความทรงจำสีจาง” แทรกผ่านสัญญาณแตกพร่า ดังเกินไปนิดสำหรับเวลานี้ แต่ก็เบาพอจะไม่โดนโวยวาย
และที่นี่ ในอพาร์ตเมนต์เก่า ๆ เกือบแตกร้าวแห่งหนึ่ง มีชายคนหนึ่ง แมวหนึ่งตัว และสมุดบัญชีเล่มหนึ่งที่ตัวเลขถูกขีดฆ่าไปทีละบรรทัด ต้อนรับปี 2001
เงียบ ๆ แน่วแน่ และขยับเข้าใกล้ไปอีกหนึ่งก้าว
Sponsored Ads