NOVEL / The Signal Beyond the Veil · January 2, 2025 0

048-การทำสมาธิ…แห่งความมืด-(การชำระล้างครั้งสุดท้าย)

บรรยากาศภายในร้านให้ความรู้สึกเหมือนสนามรบ ผมจัดเรียงเครื่องรางและของขลังทุกอย่างที่ผมคิดออกไว้เป็นแถว เครื่องรางสะท้อนแสงระยิบระยับ พลังงานแผ่ออกมารอบๆ เป็นคลื่นที่มองไม่เห็น ที่จุดศูนย์กลางของทุกอย่างก็คือเจ้า aAirs ที่ดูนิ่งเงียบ แต่ภายในนั้นมันเต็มไปด้วยอิทธิพลอันมืดมนของผู้นำลัทธิผู้ที่ดูเหมือนจะไม่เข้าใจแนวคิดของ “การพักผ่อนอย่างสงบ”

Sponsored Ads

ผมหายใจเข้าลึก ๆ รู้สึกถึงพลังจากควายธนูในมือ พลังอันเก่าแก่และมั่นคง มันจะไม่ใช่การขับไล่วิญญาณธรรมดา ๆ อีกแล้ว ผมรู้สึกได้ถึงในกระดูกของตัวเอง คำสาปนี้อ่อนลงก็จริง แต่ผลกระทบของครูบาสวรรค์ยังคงอยู่ มันฝังลึกลงในอุปกรณ์นี้เหมือนกับปรสิตที่รอเวลาจะโจมตีกลับ ผมจะต้องขับไล่แก่นที่เหลือของครูบาสวรรค์ออกไปทั้งหมด ไม่ให้เหลือแม้แต่เศษเสี้ยวถ้าผมต้องการให้เรื่องนี้จบลง

ที่ด้านข้างควายธนู ผมหยิบมีดหมอขึ้นมา มีดเล่มนี้เก่าแก่และทรงพลัง ย่าน้อยเคยบอกผมว่ามันคืออาวุธที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อฟันตัดพันธนาการทางวิญญาณ เป็นเครื่องมือที่ใช้เพื่อตัดขาดพันธะระหว่างคนเป็นและคนตาย คืนนี้ มันจะเป็นดาบและโล่ของผม

“เอาล่ะ” ผมพึมพำ ยืดไหล่และสูดหายใจลึกๆ “มาเถอะ มาจบเรื่องนี้กัน”

Sponsored Ads

———————

การต่อสู้เริ่มต้นขึ้น

พิธีกรรมเริ่มต้นขึ้นอย่างช้า ๆ แต่ว่ามั่นคง บทสวดที่มีจังหวะสม่ำเสมอทำให้ห้องเงียบสงบจนน่าอึดอัด ผมยกมีดหมอขึ้นเหนือ aAirs ใช้ปลายมีดวาดสัญลักษณ์ป้องกันในอากาศ แต่ละเส้นเป็นการฟันตัดผ่านความมืดที่เกาะติดอุปกรณ์นี้

ควายธนูส่องแสงอ่อนๆ พลังงานของมันแผ่ออกมาคล้ายกับโล่ป้องกันรอบตัวผมขณะที่ผมสวด ผมรู้สึกถึงคำสาปที่ต่อต้าน เหมือนมีพลังหนาและหนักกดดันไปทั่วผนังของร้าน ราวกับพยายามจะหลบหนีไปด้วยพลังเจตจำนงที่แรงกล้า แต่ผมจะไม่ปล่อยให้มันไปไหนทั้งนั้น

“นะโมพุทธายะ พระพุทธะ ไตรรัตนะญาณ มณีนพรัตน์ สีสะหัสสะ…” บทสวดมนต์ไหลออกจากปากของผม แต่ละพยางค์เป็นการโจมตีใส่พลังมืดที่ยังเกาะอยู่ในเจ้า aAirs

เมื่อบทสวดมนต์ดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ เจ้าตัว aAirs เริ่มส่งเสียงฮัมเบา ๆ เสียงที่บิดเบี้ยวเหมือนกับเครื่องวิทยุที่คลื่นรบกวน เงาที่กะพริบรอบห้อง และอุณหภูมิลดลงจนรู้สึกหนาวเย็น อากาศเย็นยะเยือกขณะที่คำสาปรวมพลังต่อสู้กับทุกสิ่งที่มันมี

เสียงกระซิบที่บิดเบือนเริ่มแทรกซึมออกมาจากอุปกรณ์ ร้องบทสวดในภาษาที่ผมไม่เข้าใจ เสียงทุ้มต่ำก้องกังวานทั่วร้าน พยายามจะกลบเสียงของผม

ผมหัวเราะเบาๆ ยืนกรานอย่างมั่นคง “คราวหน้า ลองฟังพอดแคสต์ดีกว่านะ?”

แต่ความมืดมิดใน aAirs ไม่ชอบมุกตลกของผมเลย อุปกรณ์ส่องแสงอ่อนๆ และเสียงกระซิบเริ่มดังขึ้น ซ้อนทับ บิดเบี้ยว กลายเป็นเสียงเดียวที่ชั่วร้ายและแผดเสียงในความท้าทาย

[ปล่อยวาง… ยอมจำนน… โอบรับความว่างเปล่า…]

Sponsored Ads

———————

การปะทะกันของวิญญาณ

ตอนนี้เสียงนั้นแข็งแกร่งขึ้น เป็นพลังที่กดดันการสวดของผม มันพยายามจะแทรกซึมเข้าสู่จิตใจของผม แต่ผมยังคงสวดต่อ ยกมีดหมอขึ้น วาดยันต์ป้องกันรอบเจ้า aAirs แต่ละเส้นเป็นเกราะป้องกันเพื่อฟันตัดอิทธิพลของครูบาสวรรค์ออกไป และตัดผ่านความมืดมิดที่เกาะติดเขาไว้ในโลกนี้

ผมรู้สึกได้ถึงควายธนูที่อุ่นขึ้นในมือ พลังงานของมันเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เป็นดั่งผู้พิทักษ์ที่ยืนเคียงข้างผมอย่างเงียบ ๆ ผมเรียกร้องพลังความแข็งแกร่งของมันแต่ละคำของบทสวด ปล่อยให้พลังการป้องกันของมันห่อหุ้มผมเหมือนราวกับโล่

เจ้า aAirs สั่นไหวอย่างรุนแรง ราวกับมันติดอยู่ในความขัดแย้ง เงาที่อยู่รอบๆ มันบิดเบี้ยวและลุกลาม ก่อตัวกลายเป็นรูปหน้า ดวงตา และใบหน้าแสดงความกลัวและเจ็บปวด ราวกับว่าวิญญาณของสาวกผู้ติดตามครูบาสวรรค์ยังคงติดอยู่ในนั้น วอนร้องขอให้ได้รับการปลดปล่อย เสียงกระซิบกลายเป็นเสียงคร่ำครวญ เสียงที่ซ้อนกันอย่างปวดร้าวและสิ้นหวัง ราวกับจะขยี้จิตใจของผม

แต่ผมยืนหยัด เสียงของผมยังคงมั่นคงในขณะที่ผมสวดต่อไป ทุ่มเทพลังทุกหยาดที่ผมมีลงไปในพิธี

“…พุทธะบูชา ธัมมะบูชา สังฆะบูชา อัคคีทานัง วะรังคันธัง…”

อากาศหนาแน่นขึ้น เงาไหลมารวมกันรอบ ๆ aAirs และทันใดนั้น aAirs ก็ส่งเสียงกรีดร้องแหลมดังราวกับเสียงคำรามสุดท้ายที่เต็มไปด้วยความขัดขืนและสิ้นหวัง เสียงที่ดังก้องไปทั่วร้าน ทำให้ชั้นวางของสั่นไหว และมันทำให้หูของผมอื้ออึง

Sponsored Ads

———————

วิญญาณของของครูบาสวรรค์

ในขณะที่ผมคิดว่าพิธีกรรมกำลังเข้าสู่ช่วงสุดท้าย เงาดำอันมืดมิดพลันพวยพุ่งออกจากเจ้า aAirs บิดตัวและดิ้นรนขณะที่มันลอยตัวอยู่เหนืออุปกรณ์นั้น รูปร่างมันเต็มไปด้วยพลังชั่วร้าย ความมืดมิดหนาแน่นที่ดูดกลืนแสงรอบ ๆ ตัวมัน ผมถอยไปโดยอัตโนมัติ กำควายธนูในมือแน่น ขณะที่ร่างเงานั้นรวมตัวกันกลายเป็นเงาสลัวของมนุษย์ ดวงตาที่ว่างเปล่าและปากที่เปิดกว้างแสดงถึงความโกรธเกรี้ยว

นั่นคือครูบาสวรรค์—หรือสิ่งที่หลงเหลืออยู่จากเขา วิญญาณของเขาบิดเบี้ยวและบิดตัวเกาะติดกับโลกมนุษย์เหมือนปรสิต มันถูกขับเคลื่อนด้วยเจตจำนงที่ไม่ยอมตาย เงานั้นดิ้นรน พยายามจะผลักดันพลังของควายธนู แต่ควายธนูส่องแสงสว่างสีทอง สร้างกำแพงพลังเรืองรองเกิดขึ้นปกป้องและกักขังวิญญาณนั้นไว้

ในขณะนั้น ผมรู้สึกถึงวิญญาณของควายธนูที่เริ่มก่อตัวรอบๆ ตัวผม วิญญาณควายทองคำศักดิ์สิทธิ์ที่ยิ่งใหญ่โบราณโผล่ออกมาจากควายธนู เขาที่โค้งงอดูท้าทาย พลังงานที่แผ่ออกไปทั่วห้องนั้นหนักแน่นและมั่นคงเหมือนภูเขา เป็นพลังโบราณที่ไม่มีวันขยับเขยื้อน ราวกับว่าวิญญาณนั้นได้ตอบรับการเรียกของผม วิญญาณนั้นยืนเด่นสูงตระหง่าน จ้องมองเงาดำด้วยสายตาที่สงบนิ่งและเคร่งขรึม

เงาของครูบาสวรรค์กระตุก ดวงตาที่ว่างเปล่าของมันสั่นไหวด้วยด้วยความรู้สึกบางอย่าง—หรืออาจจะเป็นความหวาดกลัว วิญญาณควายธนูที่ดูเหมือนภาพลวงตานั้นกระทืบกีบเท้าอย่างหนักแน่น เสียงดังก้องไปทั่ว ทำให้ผนังสั่นไหว หัวของวิญญาณควายธนูที่มีเขาโค้งใหญ่ลดต่ำลงเหมือนจะท้าทายความมืดมิดให้มันเข้ามาใกล้

Sponsored Ads

เงาดำพุ่งเข้ามา ปากที่บิดเบี้ยวของมันส่งเสียงร้อง ขณะที่มันพุ่งตรงมาหาผม วิญญาณควายธนูก็พุ่งเข้ารับมือกับเงามืดนั้นโดยตรง พลังของวิญญาณควายธนูลุกโชนราวกับแสงของดวงอาทิตย์ตอนเที่ยงวัน เขาใหญ่ของควายธนูปะทะเข้ากับหนวดเงาอันมืดมิดของครูบาสวรรค์ บิดบี้มันและยึดเงาดำนั้นไว้ พร้อมกับผลักดันกลับไปด้วยความแข็งแกร่งที่ดูเหมือนไม่มีขีดจำกัด

ผมรู้สึกถึงพลังอันเก่าแก่ที่แผ่ออกมาจากควายธนู เป็นพลังที่เก่าแก่เท่ากับโลก มันทำให้ผมมั่นคง ปกป้องผมจากความโกรธเกรี้ยวของวิญญาณ เงาของครูบาสวรรค์บิดตัวไปมา หนวดเงาอันมืดมิดพยายามจะทะลุผ่านกำแพงป้องกัน แต่พลังของควายธนูยังคงยืนหยัด ไม่ไหวติง พลังของมันปะทะกลับไปด้วยความแข็งแกร่งที่ดูไม่มีที่สิ้นสุด

ผมยกมีดหมอขึ้นเหนือ aAirs มุ่งสมาธิไปยังร่างเงาที่ดิ้นรนของวิญญาณ ขณะที่ผมสวดบทสวดต่อไปด้วยเสียงที่หนักแน่นและไม่ย่อท้อ แต่ละคำเปรียบเสมือนการโจมตีใส่ความมืดที่ยึดติดวิญญาณครูบาสวรรค์ไว้

“… อะหังวันทามิ สัพพะโส พุทธะ ธัมมะ สังฆะ ปูเชมิ…”

วิญญาณนั้นสะท้าน ร่างกายมันเริ่มพร่าเลือนเมื่อพลังของควายธนูกดดันมัน ผมรู้สึกถึงความมืดมิดที่อ่อนแรงลง มันถูกกัดกร่อนภายใต้การคงอยู่ของวิญญาณควายธนูโบราณ แต่ครูบาสวรรค์ยังคงต่อสู้ มันพุ่งเข้ามาอีกครั้ง นั่นเป็นความพยายามสุดท้ายที่ต้องการจะเป็นอิสระ ดวงตาที่ว่างเปล่าเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวและการท้าทาย เป็นความมุ่งมั่นที่บิดเบี้ยวและไม่ยอมจำนน

แต่ผมไม่ยอมให้มันชนะ

ด้วยพลังครั้งสุดท้าย ผมฟันมีดหมอลงไป วาดสัญลักษณ์สุดท้ายอันทรงพลังเหนือเจ้า aAirs คมมีดบาดผ่านเศษซากของครูบาสวรรค์ราวกับคมมีดกรีดผ่านหมอกควัน วิญญาณควายธนูส่องแสงสีทองตอบสนอง แสงนั้นสว่างแสบตา บริสุทธิ์และชำระล้าง ห่อหุ้มเงาของครูบาสวรรค์ไว้ด้วยพลังอันเก่าแก่

เงาดำนั้นส่งเสียงกรีดร้องครั้งสุดท้ายด้วยความเจ็บปวด ก่อนที่มันจะสลายไปภายใต้พลังของควายธนู เงาร่างของมันค่อยๆ กระจายออกและสลายไปในความว่างเปล่า มันถูกตัดขาดจากโลกมนุษย์อย่างถาวร

ห้องกลับเข้าสู่ความเงียบสงบ อากาศสะอาดสดชื่น น้ำหนักอันหนักอึ้งหายไปขณะที่วิญญาณของควายธนูจางหายไปกลับสู่เครื่องรางพร้อมกับเสียงฮัมเบาๆ อย่างเงียบงัน

เงาของครูบาสวรรค์ได้จากไป ถูกขับไล่ด้วยพลังที่ไม่อาจทำลายได้จากวิญญาณโบราณ และในขณะนี้ผมรู้ได้ว่าคำสาปได้ถูกทำลายลงแล้ว

Sponsored Ads

———————

ผลที่ตามมา

เจ้า aAirs นอนนิ่งบนเคาน์เตอร์ พลังมืดของมันหายไป อากาศรอบๆ สะอาดและสงบ ผมถอนหายใจเบาๆ อะดรีนาลีนในร่างกายเริ่มจางหาย ขณะที่ผมเอนตัวพิง รู้สึกถึงน้ำหนักของพิธีกรรมที่เพิ่งผ่านพ้นไป

ทุกอย่างจบลงแล้ว อิทธิพลของครูบาสวรรค์ถูกตัดขาด วิญญาณของเขาถูกขับไล่ คำสาปถูกทำลาย พลังของควายธนูได้ชำระล้างอุปกรณ์นั้น กำจัดความมืดมิดและปลดปล่อยมันให้เป็นอิสระจากมรดกบิดเบี้ยวของเจ้าลัทธิ

ผมมองไปที่ aAirs ที่นอนนิ่งและเงียบ และยิ้มเล็กๆ อย่างเหนื่อยอ่อน “ครั้งหน้าลองเลือกฟังพอดแคสต์นะ”

มุกตลกนั้นลอยค้างอยู่ในอากาศเงียบสงบ และผมอดหัวเราะไม่ได้ ความตึงเครียดจากพิธีกรรมที่เพิ่งจบลงสลายไปเสียที การต่อสู้นั้นยาวนานและเหนื่อยล้า แต่ผมชนะ อิทธิพลของครูบาสวรรค์ถูกลบล้าง มรดกของเขาถูกทำลาย และนิดก็ปลอดภัยแล้ว

อย่างน้อย…ในตอนนี้

Sponsored Ads

———————

น่าตื่นเต้น

ขณะที่ผมเก็บเครื่องมือ ห้องก็ดูสว่างไสวขึ้น ไม่มีเงามืดลอบซ่อนอยู่ตามมุม น้ำหนักที่เคยกดดันก็ยกออกไป แต่ขณะที่ผมจะเก็บควายธนู เสียงกระซิบแผ่วเบา ดังขึ้นในส่วนลึกของจิตใจ—ร่องรอยที่ยังคงหลงเหลืออยู่ เงาของบางสิ่งที่มืดมิดและคุ้นเคย

มันเป็นเพียงเสียงกระซิบ แทบจะไม่ได้ยิน แต่ก็ทำให้ผมขนลุก

[…ความว่างเปล่าเรียกหาเจ้า และเราจะพบกันอีกครั้ง…]

ผมหยุดชะงัก เสียงกระซิบจางหายไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้ผมยืนอยู่เพียงลำพังในร้านอันเงียบสงบ มือของผมหยุดนิ่งเหนือกระเป๋า

ผมถอนหายใจ พึมพำกับตัวเองเบาๆ “ยอดเยี่ยมมาก หวังว่าจะเจอกันทางโซเชียลนะ”

เมื่อร้านกลับมาเงียบสงบ ผมปล่อยตัวเองให้ผ่อนคลาย รู้ว่าตอนนี้กรุงเทพฯ ปลอดภัยขึ้นเล็กน้อยและมีผีลดลง