NOVEL / The Signal Beyond the Veil · January 7, 2025 0

053-วันสบาย ๆ ของผู้บังคับบัญชาหลิน (วิกฤตที่ควบคุมได้)

ทางเดินที่เงียบสงบของสนามบินแดนทองคำก้องไปด้วยเสียงล้อที่เสียดสีกับพื้นจาก unicycle ที่หลุดการควบคุม ไฟของมันกระพริบอย่างไม่เป็นจังหวะ ขณะที่เสียงที่ผิดเพี้ยนของวิญญาณสะท้อนตามผนัง

Sponsored Ads

[สาย… สาย… ต้องเสร็จ…]

หลินวิ่งเต็มฝีเท้าลงตามทางเดิน เสียงรองเท้าบูตของเธอกระทบพื้นเงาวับดังคลิกคลิก ขณะที่ทีมของเธอตามมาติด ๆ “ตัดทางมันที่เกท 17!” เธอตะโกน “สมชาย ใช้เครื่องกักกันสำรอง!”

สมชายที่กำลังลากอุปกรณ์อย่างทุลักทุเลชูนิ้วโป้งขึ้น แม้ใบหน้าจะเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า “จัดให้ครับ ผู้บัญชาการ!”

Sponsored Ads

———————

การไล่ล่าที่วุ่นวาย

unicycle หักเลี้ยวฉับพลัน เลี่ยงพนักงานสนามบินกลุ่มหนึ่งที่รีบกระโจนหลบไปด้วยความตกใจ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนหนึ่งอ้าปากค้าง มือกำวอล์กกี้ทอล์กกี้แน่น “ไอ้เจ้านั่นมันทำอะไรอยู่?!”

“ไม่ใช่เรื่องของคุณ” หลินตอบห้วน ๆ ขณะวิ่งผ่าน “อยู่ให้ห่างไว้!”

unicycle เลี้ยวเข้าทางที่มุ่งหน้าไปยังอาคารผู้โดยสารหลัก เสียงร้องที่ผิดเพี้ยนดังขึ้นเรื่อย ๆ หลินเห็นผู้โดยสารหลายคนชะโงกหน้าออกมาจากมุมตึก พร้อมยกโทรศัพท์ขึ้นถ่ายวิดีโอ เธอกลอกตาในใจ—อีกไม่นานเรื่องนี้คงได้ลงโซเชียลมีเดียแน่

“ผู้บัญชาการ!” มาลัยเรียกจากทางซ้ายของเธอ “มันกำลังมุ่งหน้าไปยังจุดตรวจรักษาความปลอดภัย ถ้ามันหลุดเข้าไปได้—”

“มันจะไม่ได้ไป” หลินพูดตัดบท “สมชาย ตอนนี้เลย!”

สมชายหยุดกึกและเปิดใช้งานเครื่องกักกันตัวสำรอง ตาข่ายพลังงานส่องแสงวาบขึ้นมาขวางทางในทันที แสงนั้นส่งเสียงหึ่งเบา ๆ รถล้อเดียวพุ่งเข้าชนตาข่ายพลังงานอย่างแรง ก่อนจะหมุนวนในที่เดิมเหมือนลูกข่างที่โกรธจัด

“จับได้แล้ว” หลินพึมพำ

แต่ชัยชนะนั้นอยู่ได้ไม่นาน ไฟบน unicycle ลุกสว่างวาบ สัญลักษณ์บนตัวรถเรืองแสงและปล่อยพลังงานออกมาอีกครั้ง ด้วยเสียงกรีดร้องที่ทำให้หลินปวดฟัน unicycle ทะลุตาข่ายพลังงานออกไปและพุ่งต่ออย่างรวดเร็ว

Sponsored Ads

———————

พลิกสถานการณ์

“แผนสำรอง!” หลินตะโกน พร้อมดึงเครื่องขยายเสียงเรโซแนนซ์ออกจากกระเป๋า “เราต้องดึงเอกชาติกลับมา!”

ทีมของเธอรีบตั้งแนวป้องกันขณะที่หลินปรับการตั้งค่าอุปกรณ์ เครื่องปล่อยเสียงหึ่งต่ำ ขดลวดเรืองแสงเบา ๆ unicycle ชะงักระหว่างการหมุนเหมือนมันสับสน เสียงของวิญญาณเบาลง

[สาย… ต้องเสร็จ… ส่งของ…]

“เอกชาติ” หลินพูดด้วยน้ำเสียงมั่นคงแต่เปี่ยมไปด้วยความสงบ “คุณทำพอแล้ว กะของคุณจบแล้ว”

unicycle สั่น ล้อหมุนสวนทางกัน รูปเงาของเอกชาติเริ่มปรากฏขึ้นเหนือเครื่องจักร มัวเลือนและไหวไปมา ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า ชุดทำงานของเขาดูเก่าและขาดวิ่น [สาย…] เขาพึมพำ [ต้องเสร็จ…]

“คุณทำหน้าที่ของคุณแล้ว” หลินพูด เสียงของเธอนุ่มนวลแต่ทรงพลัง “ให้เราช่วย คุณพักเถอะ”

วิญญาณลังเล รูปเงาของเขากะพริบไปมา หลินส่งสัญญาณให้มาลัยซึ่งเริ่มท่องบทสวดเพื่อปลอบวิญญาณ ขณะที่สมชายเตรียมเครื่องกักกัน รถล้อเดียวชะลอตัวลง ไฟเริ่มหรี่ลง รูปเงาของเอกชาติเอนตัวลงเหมือนเขายอมจำนนต่อความเหนื่อยล้าในที่สุด

“ตอนนี้!” หลินสั่ง

มาลัยเปิดใช้งานตาข่ายกักกัน และแสงนุ่มนวลห่อหุ้มวิญญาณไว้ เอกชาติหันมองไปยังอาคารผู้โดยสารด้วยสายตาที่ดูเหนื่อยล้าเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่รูปเงาของเขาจะสลายไปในแสงของอุปกรณ์ unicycle หยุดนิ่ง ล้อไม่หมุนอีกต่อไป และพลังงานที่อึดอัดกดดันในอากาศก็หายไป

หลินยืดตัวขึ้น สูดหายใจลึกขณะที่ความตึงเครียดในห้องคลี่คลายลง “เก็บเครื่องนี้ไว้ เราต้องตรวจสอบต่อ” เธอสั่งทีมด้วยน้ำเสียงแน่วแน่ แม้ในใจจะโล่งใจที่เหตุการณ์นี้สิ้นสุดลงโดยไม่มีใครบาดเจ็บ

Sponsored Ads

———————

หลังเหตุการณ์

พนักงานสนามบินเริ่มทยอยกลับเข้ามาในทางเดิน สีหน้าของพวกเขามีทั้งความตกตะลึงและความหวาดระแวง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนหนึ่งที่เริ่มรู้สึกกล้าขึ้นหลังจากเหตุการณ์สงบลง ค่อย ๆ เดินออกมาแล้วถามด้วยเสียงสั่น ๆ ว่า “งั้น… ตอนนี้พวกเราขี่มันได้หรือยังครับ?”

หลินหันไปมองเขาด้วยสายตาที่เฉียบขาดจนเขาแทบสะดุ้ง “ถ้าคุณอยากตามเอกชาติไปในปรโลกก็เชิญเลย”

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนดังกล่าวหน้าซีดเผือด ถอยหลังไปก้าวใหญ่ หลินยอมให้ตัวเองเผยรอยยิ้มบาง ๆ ก่อนจะหันไปสั่งสมชาย “เก็บมันไป” เธอพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง พลางชี้ไปยัง unicycle ที่ไร้พลัง “เราจะเอามันกลับไปตรวจสอบอย่างละเอียด ห้ามมีใครเล่นสนุกกับมันอีก”

สมชายพยักหน้า รีบย้าย unicycle เข้าไปในกล่องกักกันอย่างระมัดระวัง มาลัยที่ยังดูตกใจอยู่เล็กน้อย แต่พยายามเก็บอาการ บ่นพึมพำว่า “อย่างน้อยมันก็จบแล้ว ฉันไม่คิดว่าฉันจะเคยโดนรถล้อเดียวที่ผีสิงไล่ตามมาก่อนเลยนะ”

“ครั้งแรกมันมักจะสร้างความประทับใจอยู่เสมอ” หลินพูดด้วยน้ำเสียงแห้ง ๆ พลางเช็ดเหงื่อเม็ดหนึ่งที่ไหลลงมาจากขมับ เธอหันไปมองทางเดินที่ว่างเปล่าเป็นครั้งสุดท้าย เสียงล้อรถของเอกชาติราวกับยังคงก้องอยู่ในจินตนาการของเธอ ตอนนี้อากาศดูนิ่งสงบ—แม้จะเงียบสงัดจนเกินไป—แต่หลินรู้ดีว่าเธอไม่ควรไว้วางใจความเงียบนี้

เมื่อกล่องกักกันถูกล็อกสนิทและสมชายเริ่มเข็นมันออกไป หลินเดินตามทีมของเธอไป ในที่สุดไหล่ของเธอก็เริ่มผ่อนคลาย “ทุกคนทำได้ดี เอามันกลับไปที่ศูนย์แล้วมาดูกันว่าอะไรที่ทำให้มันเป็นแบบนี้”

ข้างหลังเธอ ยามคนเดิมกระซิบกับเพื่อนร่วมงานด้วยเสียงเบา ๆ “ฉันไม่สนใจว่าเธอจะพูดอะไร ฉันจะไม่แตะสิ่งเหล่านั้นอีก”

หลินเผยรอยยิ้มเล็ก ๆ ด้วยความพอใจ อย่างน้อยก็มีคนที่รับฟังคำเตือนของเธออย่างจริงจัง

Sponsored Ads

———————

การขัดจังหวะของนาวิน

ที่ศูนย์บัญชาการเคลื่อนที่ของหน่วยม่าน หลินกำลังดูแลขั้นตอนการเก็บงานครั้งสุดท้ายเมื่อโทรศัพท์ของเธอสั่น เธอถอนหายใจเมื่อเห็นชื่อนาวินปรากฏบนหน้าจอ

“มีอะไรอีกล่ะ?” เธอตอบสาย

“ยินดีที่ได้ยินเสียงคุณเช่นกัน ท่านผู้บัญชาการ” นาวินตอบด้วยน้ำเสียงแห้ง ๆ “แค่อยากยืนยันรายละเอียดบางอย่างเกี่ยวกับเคส aAirs คุณรู้ไหม เคสที่คุณพยายามปิดไว้ไม่บอกอะไรเลยนั่นแหละ”

หลินพิงโต๊ะพร้อมกับนวดขมับของตัวเอง “โทรหาฉันอีกแล้วเหรอ? ฉันควรเริ่มเก็บค่าที่ปรึกษาดีไหม?”

“เอาสิ” นาวินตอบกลับ “แต่ขอผลลัพธ์การันตีด้วยแล้วกัน”

บทสนทนากวน ๆ ดำเนินต่ออีกสักพัก ความตึงเครียดที่คุ้นเคยระหว่างพวกเขามีสายใยบาง ๆ ของความไว้วางใจที่ทั้งคู่ไม่เคยพูดออกมาอย่างชัดเจน จนกระทั่งหลินวางสาย เธอกลับพบว่าตัวเองกำลังยิ้มออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ

Sponsored Ads

———————

เรื่องค้างคา

ในคืนนั้นที่โต๊ะทำงาน หลินนั่งลงในที่สุดเพื่อจัดการกับรายงานที่เธอสาบานว่าจะเริ่มตั้งแต่เช้า ความเหนื่อยล้าที่คุ้นเคยกดทับบนไหล่ของเธอขณะเลื่อนดูไฟล์ในเครื่อง หนึ่งในหัวข้อรายงานสะดุดตาเธอ มันเรืองแสงอย่างน่ากังวลบนหน้าจอ “รายงานเหตุการณ์ บันไดเลื่อนผีสิงที่สนามบินโขดธานี”

หลินจ้องมองหัวข้อรายงานนั้น คำต่าง ๆ บนหน้าจอเริ่มพร่ามัวเมื่อเธอถูขมับตัวเอง “บันไดเลื่อนเหรอ?” เธอพึมพำพลางคลิกเปิดไฟล์ “อะไรต่อไป? ตู้ขายของผีสิงงั้นเหรอ?”

เธอถอนหายใจยาวอย่างยอมจำนนก่อนเอนตัวพิงเก้าอี้ เสียงฮัมเบา ๆ ในสำนักงานสร้างบรรยากาศเงียบสงบซึ่งหาได้ยาก แต่หัวข้อรายงานนั้นยังคงวนเวียนในความคิดของเธอ เป็นเครื่องเตือนว่าการงานของเธอแทบจะไม่มีคำว่าความสงบอย่างแท้จริง

“แน่นอน มันไม่มีแค่เรื่องเดียวหรอก” เธอพูดกับตัวเองก่อนปิดแล็ปท็อปด้วยเสียงเบา สำนักงานกลับเข้าสู่ความเงียบอีกครั้ง แต่ความรู้สึกไม่สบายใจยังคงอยู่ คล้ายกับระลอกคลื่นที่เล็กน้อยในผืนน้ำที่ดูนิ่ง เธอรู้ว่าที่ไหนสักแห่งจะต้องมีเรื่องวุ่นวายรอเธออยู่—และคงมาในรูปแบบที่น่ารำคาญและไร้สาระที่สุดเท่าที่จะจินตนาการได้

หลินหยิบแก้วกาแฟของเธอขึ้นมา แม้มันจะเย็นแล้วก็ตาม เธอก็จิบมันเข้าไปอยู่ดี “อีกหนึ่งวันที่ง่ายดายจริง ๆ” เธอประชดตัวเองพร้อมเสียงแผ่วในความเงียบ