NOVEL / The Signal Beyond the Veil · January 11, 2025 0

057-ไม้เซลฟี่สุดหลอน (คำสาป QR Code)

QR Code บนไม้เซลฟี่เปล่งแสงจางๆ ใต้แสงจากโคมไฟบนโต๊ะทำงาน เส้นสลักของมันดูน่ากลัวมากขึ้นทุกครั้งที่ผมจ้องมอง ตอนแรกมันดูเหมือนแค่แกดเจ็ตธรรมดา แต่ตอนนี้กลับแผ่พลังงานที่ปฏิเสธไม่ได้—บางอย่างที่เก่าแก่และชั่วร้าย แฝงตัวอยู่ในความสะดวกสบายของเทคโนโลยีสมัยใหม่ ตราสัญลักษณ์ที่ซ่อนอยู่ใน QR Code นั้นไม่ใช่แค่คำสาป แต่มันคือสัญลักษณ์ผูกมัด เป็นสวิตช์เปิดใช้งานบางสิ่งที่อันตรายกว่านั้น

Sponsored Ads

หลังจากค้นคว้าอีกหลายชั่วโมง ผมยังไม่แน่ใจว่าจะกำจัดมันออกได้อย่างไรโดยไม่ไปกระตุ้นสิ่งที่แฝงตัวอยู่ในอีกฝั่ง การทำลายคำสาปแบบโบราณเป็นเรื่องหนึ่ง แต่การทำลายคำสาปที่ฝังอยู่ในเทคโนโลยีสมัยใหม่โดยพวกคลั่งลัทธิที่มีความชำนาญในการใช้ QR Code? นั่นคือดินแดนที่ยังไม่มีใครสำรวจ

———————

ขอความช่วยเหลือ

ดูท่าผมจะหมดหนทาง ผมจึงโทรหาผู้บัญชาการหลินหัวหน้าหน่วยม่านเขตกรุงเทพฯ อีกครั้ง เราไม่ได้เข้ากันได้ดีเสมอไป—ความชอบในความลับของเธอมักจะขัดกับนิสัยชอบพุ่งเข้าหาปัญหาของผม—แต่เธอก็จัดการกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกสาปมากพอที่จะทำให้ฉันมีมุมมองบางอย่างได้

“คำสาปยุคใหม่?” เธอพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันผ่านสายโทรศัพท์ “ยินดีต้อนรับสู่ศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ด นาวิน อีกหน่อยผีคงจะเจาะระบบ Wi-Fi ของนาย”

“หวังว่าจะไม่ถึงขั้นนั้น,” ผมพึมพำพร้อมกับนวดขมับ “คุณพอรู้อะไรเกี่ยวกับคำสาป QR Code ไหม? อันนี้มีตราสัญลักษณ์ฝังอยู่ในนั้น”

หลินเงียบไปชั่วครู่ และผมได้ยินเสียงพิมพ์แว่วมาในสาย “ตัวตราสัญลักษณ์อาจเป็นต้นตอของสัญลักษณ์ผนึก การทำลายมันอาจตัดการเชื่อมโยงได้ แต่ถ้าวิญญาณถูกยึดติดไว้แล้ว การทำลายตราสัญลักษณ์อาจไม่พอ มันอาจโจมตีตอบโต้ได้”

“นั่นทำให้สบายใจจริง ๆ” ผมพูดพร้อมกลอกตา “มีคำแนะนำไหม?”

“ใช้มาตรการกักกัน—และลดพลังการเชื่อมต่อ แต่อย่าประมาทมัน นาวิน ถ้าวิญญาณนั้นเชื่อมต่อกับห้วงลึก มันจะสู้กลับ”

“เยี่ยมมาก ขอบคุณสำหรับคำพูดให้กำลังใจ ผมพูดก่อนวางสาย โดยไม่รอคำตอบจากเธอ

Sponsored Ads

———————

การโจมตีที่ไม่คาดคิด

ผมรวบรวมเครื่องมือของผม น้ำมนต์ สายสิญจน์ และถุงข้าวสารเสกเล็ก ๆ วางไม้เซลฟี่ลงบนโต๊ะทำงาน ขณะที่ผมเริ่มเตรียมการทำพิธี บรรยากาศในห้องเริ่มหนักอึ้งและเย็นขึ้น ไม้เซลฟี่สั่นไหวเบา ๆ ราวกับว่ามันรู้เจตนาของผม

ผมจับสายสิญจน์แน่นและเริ่มพันรอบไม้เซลฟี่ พลางสวดคาถาคุ้มครองเสียงเบา ๆ แต่นั่นคือจุดที่มันเริ่มเกิดขึ้น

ไม้เซลฟี่กระตุกอย่างรุนแรงในมือของผม เกือบหลุดจากการจับ มันยืดตัวออกเอง และโทรศัพท์ของผมที่วางไว้อยู่ใกล้ๆ เชื่อมต่อกับมันผ่านบลูทูธ ก่อนที่ผมจะตอบสนองทัน หน้าจอกล้องก็เปิดขึ้น พร้อมเสียงเตือนเบาๆ ของระบบ

“แชะ” เสียงชัตเตอร์ดัง

ผมนิ่งไป ความหนาวเย็นวาบลามไปทั่วตัว ที่บนหน้าจอโทรศัพท์ เงาร่างปรากฏขึ้น ดวงตาที่ว่างเปล่ากลวงโบ๋จ้องมองจากภาพถ่าย ใกล้กว่าที่เคย ไม่ใช่แค่รูปร่างเบลอ ๆ อีกต่อไป—มันเริ่มชัดขึ้นเป็นรูปร่างจริง เงาหลังค้อมลงอย่างน่ากลัว เหมือนกำลังเตรียมตัวจะก้าวออกจากภาพ

“แชะ” เสียงชัตเตอร์ดังขึ้นอีกครั้ง

คราวนี้ผมเห็นมันขยับ เงาบิดเบี้ยว ใบหน้าหันมาทางผมแบบเรียลไทม์ ปากของมันเปิดออกเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง ไฟในห้องกระพริบ และไม้เซลฟี่สั่นอีกครั้ง ราวกับมันดึงดูดผมให้เข้าไปใกล้ มันไม่ได้แค่ถ่ายรูป—แต่มันกำลังดึงบางสิ่งเข้ามาใกล้ขึ้น ทีละนิด

“ฉันรู้นะ ผมพึมพำ พยายามรักษาน้ำเสียงให้มั่นคง “เขาว่ากล้องเซลฟี่เป็นหน้าต่างของจิตวิญญาณ แต่แบบนี้มันเกินไปหน่อย

Sponsored Ads

———————

ปราบคำสาป

ผมหยิบข้าวสารเสกและโปรยลงบนไม้เซลฟี่ ข้าวแต่ละเม็ดเปล่งแสงจาง ๆ เมื่อมันตกกระทบพื้นผิว ราวกับตัดพลังสั่นไหวและหยุดการเคลื่อนไหวของไม้เซลฟี่ทันที บรรยากาศรอบตัวเหมือนบิดเบี้ยว พลังอึดอัดที่ปกคลุมห้องลดลงพอให้ผมลงมือได้

สายสิญจน์ที่อยู่ใต้มือเริ่มเปล่งแสงจาง ๆ ขณะที่ผมพันมันรอบด้ามไม้เซลฟี่อย่างแน่นหนา พลางสวดมนต์ต่อเนื่อง สายสิญจน์ดูดซับพลังงานมืดออกมา ส่งเสียงแตกเปรี๊ยะเหมือนกระแสไฟขณะที่มันทำงานเพื่อกักขังพลังชั่วร้ายไว้ สักครู่หนึ่ง ไม้เซลฟี่หยุดนิ่งในมือของผม ราวกับมันหมดฤทธิ์

แต่ความสงบนี้อยู่ได้ไม่นาน

โทรศัพท์สั่นอย่างรุนแรง และหน้าจอปล่อยแสงจ้าออกมา เงาร่างนั้นปรากฏขึ้นอีกครั้ง คราวนี้มันมีรูปร่างสมบูรณ์ มือของมันยื่นออกมาจากหน้าจอ ราวกับพยายามจะทะลุเข้าสู่โลกจริง ผมรู้สึกถึงความเย็นเยียบเหมือนน้ำแข็งที่บาดผ่านแขนของผม มันใกล้ชิดจนรู้สึกถึงตัวตนของมัน

“พอแล้ว!” ผมพูดออกมาด้วยน้ำเสียงข่มขู่ กัดฟันแน่น มืออีกข้างคว้ามีดหมอและเริ่มวาดยันต์ปกป้องในอากาศรอบไม้เซลฟี่ ใบมีดเปล่งแสงจาง ๆ ตัดผ่านเส้นพลังงานมืดที่ยังเหลืออยู่ ขณะที่ผมสวดมนต์ด้วยเสียงที่ดังกว่าเดิม สายสิญจน์และข้าวสารเสกช่วยเสริมพลังให้พิธีกรรมของผม

เงานั้นส่งเสียงคำรามต่ำ ๆ คล้ายเสียงสัตว์ร้าย ถอยห่างออกไปเล็กน้อย แต่ยังเกาะติดอยู่กับไม้เซลฟี่ ผมรู้สึกถึงความสิ้นหวัง ความหิวกระหายที่จะข้ามมายังโลกนี้ของมัน

Sponsored Ads

———————

เสียงจากวิญญาณ

ขณะที่ผมกระชับสายสิญจน์ให้แน่น เงานั้นพูดขึ้น เสียงของมันต่ำและเร่งเร้า ราวกับกระซิบที่พัดมาบนสายลมเย็นยะเยือก

[อีกแค่ครั้งเดียว…]

มันพึมพำ คำพูดของมันทำให้ผมขนลุกไปทั้งตัว

[แล้วเจ้าจะอยู่กับข้า…ตลอดไป…]

อุณหภูมิในห้องลดลงอย่างรวดเร็ว น้ำแข็งเริ่มก่อตัวตามขอบโต๊ะทำงาน เงาร่างของมันกระพริบติด ๆ ดับ ๆ ใบหน้าบิดเบี้ยวกลายเป็นรูปร่างที่เกือบดูเหมือนมนุษย์ ก่อนที่มันจะสลายไปในความมืดอีกครั้ง

ผมยืนนิ่งอยู่กับที่ ไม้เซลฟี่ยังคงอยู่ในมือ สายสิญจน์ยังเปล่งแสงจางๆ ท่ามกลางแสงสลัว วิญญาณดวงนี้ไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ และเวลาของผมกำลังหมดลงเรื่อยๆ ก่อนที่มันจะทะลุข้ามมาจนได้

Sponsored Ads

———————

น่าตื่นเต้น

ห้องตกอยู่ในความเงียบจนน่าขนลุก บรรยากาศยังคงหนักอึ้งไปด้วยพลังงานมืดของเงาที่หลงเหลืออยู่ ไม้เซลฟี่นอนนิ่งอยู่ตอนนี้ แต่ผมยังสัมผัสได้ถึงพลังมืดที่เต้นอยู่ใต้สายสิญจน์ รอจังหวะที่จะโจมตีอีกครั้ง

ผมมองไปยังหน้าจอโทรศัพท์ ซึ่งภาพสุดท้ายยังค้างอยู่ เงาร่างนั้นยังอยู่ในภาพ ใบหน้าของมันจ้องตรงมาที่ผม ดวงตากลวงเปล่าของมันเหมือนจะส่งข้อความลึกลับที่ยังก้องอยู่ในหัวผม

[อีกแค่ครั้งเดียว…]

ผมกำพระสมเด็จแน่น กัดฟันด้วยความมุ่งมั่น นี่ไม่ใช่แค่คำสาป มันคือคำเชื้อเชิญ—คำเชื้อเชิญที่ผมต้องทำลายก่อนที่มันจะครอบงำคนอื่น