058-สายจากอีกฝั่งของเวที

ฉันโอนเงิน 10,000 บาทให้ลุงเอ๋ จากนั้นอีก 5,000 ให้เจ้าของห้อง 2,000 ให้ กยศ. 4,000 สำหรับค่าอาหาร ค่าน้ำค่าไฟ และการทูตระหว่างแมว และ 1,000 ให้แม่ พร้อมป้ายกำกับประจำว่า “ค่าฝันดี / เดือนมีนา”

Sponsored Ads

พอตัวเลขหยุดเคลื่อนไหว หน้าจอก็ขึ้นว่า

ยอดเงินคงเหลือ: ฿40,000

พอให้หายใจได้ ไม่พอให้ลืมทุกอย่าง

ลาเต้เดินผ่านหน้าจอแล้วหาวเบา ๆ เหมือนกำลังสวดมนต์แบบไม่มีเสียง

“ยังอยู่นะ ไม่หมดตัวสักที” ฉันบ่น

เขาไม่ตอบแน่นอนอยู่แล้ว แค่กระโดดขึ้นเก้าอี้แล้วนั่งพิงสมุดโน้ตที่มีคำว่า “Plan B” เขียนอยู่หน้าแรก

มันเป็นเช้าที่เงียบสงบ ของหายาก ไม่มีอีเมล ไม่มีต้นฉบับที่ยังไม่ได้ส่ง

ฉันคิดว่าจะเขียนอะไรสักอย่าง หรืองีบ หรือจัดหมวดหมู่ความเสียใจในสมองใหม่อีกที

แล้วโทรศัพท์ก็ดัง

เสียงริงโทนโบราณ ตี๊ด… ตี๊ด… ฟังเหมือนแฟกซ์พยายามเข้าสังคม

ฉันรับสายโดยไม่ดูเบอร์

“ฮัลโหล”

เสียงพี่ต้นดังชัดเกินเบอร์บ้านธรรมดา

“ตื่นยังวะไอ้กรณ์? มีคนอยากได้เพลงจากนาย”

ฉันกะพริบตา “…จะเอาเพลงใหม่ให้วงเหรอ?”

“ไม่ใช่เว้ย เขาอยากได้จาก คนแต่งเจ้าหญิงคนต่อไป” เสียงพี่ต้นหัวเราะเบา ๆ “คุณโอรู้แล้วว่าเป็นนาย”

“คุณโอ?” ฉันนั่งตัวตรงกว่าที่ควรจะเป็น “พึ่งใจฯ คุณโอคนนั้นเหรอ?”

“อืม ดุจดาวปล่อยหลุดนิดนึง เขาเลยขอให้ฉันติดต่อไปถาม อยากให้ช่วยแต่งเพลงให้นักร้องหญิงคนใหม่ในค่าย”

ฉันไม่ตอบทันที เพราะมันหมายถึงมีใครบางคนกำลัง “มองเห็น” ไม่ใช่ด้วยบิลบอร์ดหรือคอลัมน์ซุบซิบ แต่ด้วยความตั้งใจ และความสนใจ

“เขาอยากได้แนวไหน?” ฉันถามในที่สุด

“คุณโอไม่ได้บอกละเอียด แต่แกใช้คำว่า… เพลงจริง ๆ ไม่ต้องขายฝัน ไม่ต้องโปรโมตแบรนด์ อยากได้เพลงที่พูดกับคนธรรมดา”

ลาเต้เหลือบตามองฉัน เหมือนกำลังรอดูว่าฉันจะปฏิเสธอีกไหม หรือจะซึนใส่โอกาสอีกครั้ง

“เดี๋ยวขอคิดดูก่อน” ฉันตอบ

แต่เราทั้งคู่รู้ดี…ว่าฉันเริ่มคิดไปแล้วเรียบร้อย

Sponsored Ads

———————

เสียงที่ยังไม่มีเวที

กลิ่นกาแฟคั่วไหม้ยังค้างอยู่ในอากาศ เหมือนเจ้าของร้านแค่เปิดประตู แล้วเดินกลับไปนอนต่อ มันปนกับความฝันที่ถูกลืมไว้บนเคาน์เตอร์เมื่อสองสัปดาห์ก่อน

ร้านยังเป็นร้านเดิม ใกล้เวที open mic เก่า ๆ ที่ไม่มีใครกล้าใช้มานาน เก้าอี้เหล็กยังส่งเสียงเอี๊ยดทุกครั้งที่ขยับ เหมือนมันไม่ค่อยเห็นด้วยกับการนั่ง โปสเตอร์โชว์เก่าก็ยังแปะอยู่เต็มผนังแบบไม่ยอมตก

ดนตรีจากลำโพง…มักจะช้าไปหนึ่งคอร์ดเสมอ โต๊ะก็ยังโยกอยู่เหมือนเดิม แปลกดี แต่ในความไม่สมบูรณ์ทั้งหมดนั้น มันกลับทำให้ทุกอย่างดูจริงขึ้น

พี่ต้นมาช้าไปห้านาที ซึ่งก็คือ “ตรงเวลา” ตามภาษาของเขา เขาไม่สั่งกาแฟ แค่โบกมือให้พนักงานมาเช็ดโต๊ะ แล้ววางแฟ้มบาง ๆ กับ Walkman สีซีดไว้ตรงหน้า

“พร้อมรับงานใหม่ยัง?” พี่ต้นเปิดมาด้วยคำถาม “คราวนี้ไม่ใช่เพื่อวง ไม่ใช่เพื่อโปรโมต”

“งั้นเพื่ออะไรล่ะ?” ฉันถามกลับ

“เพื่อเสียงของคนที่ไม่มีใครฟัง” ว่าแล้ว พี่ต้นก็เปิดแฟ้มให้ดู

ภาพโพลารอยด์แปะอยู่บนกระดาษ A4 ผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่ได้แต่งหน้าแน่น หรือทำผมให้โดดเด่น ดวงตาเธอไม่ได้มองกล้อง  แต่เหมือนมองใครบางคนที่ยังไม่เคยฟังเธอจนจบประโยค

“ชื่อไอรี” เขาว่า “เพิ่งอายุยี่สิบเอ็ด ไม่มีทีม ไม่มีซิงเกิ้ล ไม่มีภาพจำ”

“แล้วคุณโออยากได้อะไรจากเธอ?” ฉันถาม

“เพลงที่ไม่ใช่จากอดีต คุณโออยากให้นายเขียนจาก ‘สิ่งที่มองเห็น’ ไม่ใช่สิ่งที่นายจำได้”

คำนั้น…ทำให้ฉันหยุดคิดไปจริง ๆ เพราะเพลงของฉันแทบทุกเพลงถูกเย็บจากความทรงจำ จากคนที่หายไป จากตัวฉันที่เอากลับมาไม่ได้แล้ว

พี่ต้นหยิบ Walkman มากดเล่น เสียงในเทปเริ่มจากจี่เบา ๆ ก่อนจะกลายเป็นเสียงร้องของเธอ ไม่หวาน ไม่ตรงจังหวะ แต่เหมือนกำลังเล่าอะไรที่เก็บไว้ในใจนานเกินไป

เสียงที่ไม่ได้ร้องเพื่อให้ใครหลงรัก แค่ร้องไว้…เพื่อไม่ให้ตัวเองหายไป

ฉันเงยหน้ามองภาพอีกครั้ง

“แล้วค่าจ้างล่ะ?” ฉันถามในที่สุด

“คุณโอเสนอเหมาจ่าย 15,000 สำหรับ demo + เมโลดี้ + เนื้อร้อง ถ้าได้ผลิตจริง จะมีโบนัสให้อีก 5,000–10,000 แล้วก็มี ส่วนแบ่งลิขสิทธิ์ 3% จากยอดขายสุทธิ”

ฉันเลิกคิ้ว “จริงดิ? ได้ ส่วนแบ่งลิขสิทธิ์ ด้วย?”

“ใช่ ถ้านายยอมใช้ชื่อจริง เขาจะใส่เครดิตใน metadata, ปกซิงเกิ้ล และระบบวิทยุเลย ไม่มีชื่อแฝง ไม่มีแอบฝังใน ZIP ไฟล์”

“แล้วถ้าฉันไม่อยากรับเครดิตล่ะ? อยากให้เธอร้องเพลงของตัวเอง โดยไม่รู้ว่าใครเขียน”

“ก็ได้เหมือนกัน” พี่ต้นว่า “แต่คุณโอพูดประโยคนึงที่ฉันชอบมาก ‘เธอรับได้ทุกความจริง ยกเว้นการเสแสร้ง’”

ฉันมองภาพอีกครั้ง แล้วหันไปมอง Walkman เทปยังหมุนอยู่ เสียงของเธอยังอยู่ในนั้น

“ฉันยังไม่ได้ตอบตกลงนะ” ฉันพึมพำ

“ก็ยังไม่มีใครบังคับให้นายต้องพูด” พี่ต้นยิ้ม

แต่ความจริงคือ บางส่วนในตัวฉัน…มันเริ่มตอบไปแล้ว

Sponsored Ads

———————

ไม่ใช่คนต่อไปแต่เป็นคนนี้

ครั้งหนึ่ง ฉันเคยเขียนเพลงเกี่ยวกับเจ้าหญิง แล้วก็เฝ้ามองมันออกไปสู่โลก ในชุดของใครบางคนที่ฉันไม่เคยเลือกให้ใส่

พวกเขาตั้งชื่อมันว่า “เจ้าหญิงคนต่อไป” พวกเขาแต่งเติมมันด้วยกลิตเตอร์ ชุดราตรี
และนักร้องที่ใช้นามสกุลเดียวกับคนที่ฉันเคยรู้จัก

ฉันไม่เคยโวยวาย อย่างน้อยก็…ไม่ใช่ต่อหน้าใคร

เช็คผ่านแล้ว เทปขายดี เครดิตไม่ปรากฏ

แต่บางส่วนในตัวฉันยังค้างอยู่ อยู่ในสมุดโน้ต สองหน้าก่อนรายการของที่ฉันไม่เคยไปซื้อตามนั้น

และค่ำคืนนี้ เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เพลงนั้นดังจากลำโพงสถานี BTS ฉันเปิดไปที่หน้ากระดาษเดิมนั้นอีกครั้ง

🎶 “เด็กๆ แอบฝัน ว่าฉันได้พบเจ้าชาย ออกมาจากในนิทาน
ใส่หมวกขี่ม้า ค้นหาเจ้าหญิงหนึ่งองค์ ที่ทนทุกข์มาเนิ่นนาน”
🎶

ฉันไม่ได้เขียนเพลงนี้ให้กับคนที่ “รอ” ฉันเขียนมันให้กับคนที่ เลิกรอ

ฉันเปิดเทปอีกครั้ง เทปที่พี่ต้นให้มา เสียงของเด็กคนนั้นไม่สะอาดนัก แต่ความจริง…ก็ไม่เคยสะอาดอยู่แล้ว

เธอไม่ได้ฝืนร้อง ไม่ได้ประดับประโยคด้วยอะไรเกินจำเป็น เธอแค่พูดในสิ่งที่ควรพูด ด้วยโทนเสียงที่สั่น แต่ไม่เคยโกหก

“คุณโอพูดประโยคนึงที่ฉันชอบมาก ‘เธอรับได้ทุกความจริง ยกเว้นการเสแสร้ง’”

ประโยคนั้นมันตามหลอกฉันไม่เลิก เหมือนกับท่อนฮุกของเพลงนี้

🎶 “ฉันรู้ว่าฉันมันเป็นใคร ฉันรู้ว่าฉันมันคือใคร ไม่ได้หวังซะจนไกล ปวดท้องก็ทนไป ได้ใช้ชีวิตอันเป็นจริง เป็นแค่ผู้หญิงที่แสนธรรมดา ไม่หนีไปกว่าใคร” 🎶

ความย้อนแย้งมันชัดเกินจะมองข้าม

ทั้งปีที่ผ่านมา ฉันเขียนเพลงจากความทรงจำ จากรอยแผล จากเสียงของคนที่ไม่ใช่ “ฉัน” อีกต่อไปแล้ว

แล้วตอนนี้ พวกเขาขอให้ฉันเขียนจากสิ่งที่ มองเห็น แต่สิ่งที่ฉันเห็นคือแบบนี้

เพลงที่ฉันเคยเขียนไว้แล้ว เด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ร้องมัน…แบบที่มันควรจะถูกได้ยินตั้งแต่แรก กับความเงียบที่ฉันไม่อยากปล่อยให้มันอยู่แบบนั้นต่อไปอีก

🎶 “ฉันรู้ว่าฉันมันเป็นใคร ฉันรู้ว่าฉันมันคือใคร อยู่อย่างนี้ก็สบาย สุขทุกข์ไม่เป็นไร ได้พบความรักอันลวงลวง ก็แค่เก็บมันจับโยนไว้ใต้เตียง บอก ลา แล้ว ปิด ไฟ” 🎶

ฉันไม่จำเป็นต้องเขียนเพลงใหม่ ฉันแค่ต้อง…ปล่อยให้เพลงนี้ได้หายใจเสียที

ฉันหยิบเนื้อเพลงต้นฉบับออกมา ขีดคอร์ดกลับลงในขอบกระดาษ ตั้งสายกีตาร์ตัวเก่าให้พอใช้ได้สำหรับเดโม่

ชื่อไฟล์: PHJ_PRINCESS_d-v-k01.txt

และคราวนี้ นักร้องจะไม่ใช่คนที่พวกเขาจัดฉากให้กลายเป็น “เจ้าหญิง”

แต่มันจะเป็นเสียงของคนที่ไม่เคยต้องการชุดเจ้าหญิงเลยตั้งแต่แรก

🎶 “หลับ ตา เพื่อ ตื่น มา เริ่ม ต้น ใหม่” 🎶

Sponsored Ads

———————

ปล่อยให้เพลงพูดเอง

คืนนั้นฉันทำเดโมเสร็จ ไม่ใช่เพราะรีบ แต่เพราะมันรอมานานพอแล้ว

คอร์ดไม่ทำให้ฉันหงุดหงิด ไมค์ไม่หวีด แม้แต่ลาเต้ก็ไม่บ่น เขาแค่นอนอยู่ข้างลำโพง เหมือนรู้ตอนจบอยู่แล้ว

ฉันกดเซฟไฟล์

PHJ_PRINCESS_d-v-k01.txt
PHJ_PRINCESS_demo_k-v1.wav

ฉันจ้องชื่อไฟล์นานเกินความจำเป็น แล้วก็เปิดกล่องอีเมล

ถึง: [email protected]
หัวข้อ: เดโม: ไม่ใช่คนต่อไป แต่เป็นคนนี้

attached: lyrics + rough demo

ใช้ได้ตามตกลง ถ้าคุณโอชอบ ให้บอกก่อนใส่ชื่อในระบบ

ไม่ต้องแต่งเพิ่มแล้ว ไม่ใช่เพลงใหม่ แค่เพลงที่เคยถูกปิดเสียง

ครั้งนี้…

ปล่อยให้เธอพูดเอง

ฉันเอาเมาส์ไปวางบนปุ่ม send ลาเต้หันมามอง เขาไม่ได้พูดว่า ใช่ หรือ ไม่ใช่
แค่ขยับหางนิดเดียว เหมือนจะถามว่า ครั้งนี้ นายเขียนเพื่อใคร?

“ฉันไม่ซ่อนอีกแล้ว” ฉันกระซิบ แม้แต่จากตัวเอง…ก็ไม่

ฉันกดส่ง ข้อความนั้นบินออกไปเงียบ ๆ ไม่มีพิธี ไม่มีเสียง

มีแค่ “เสียงหนึ่ง” ที่กำลังรอให้ใครสักคนได้ยิน

Sponsored Ads

เจ้าหญิง
ส้ม มารี เออเจนี เลอเลย์