หลังจากเรื่องวุ่นวายในโกดัง ทุกอย่างก็เหมือนการตื่นจากฝันร้ายที่เลวร้ายที่สุด เมื่อแอปถูกปิดการใช้งานและสัญลักษณ์ของวงจรสีชาดถูกทำลาย พลังงานมืดที่เคยกดดันทุกอย่างก็สลายหายไปในที่สุด
Sponsored Ads
เช้าวันต่อมา โทรศัพท์ในร้านดังไม่หยุด เสียงลูกค้าที่เต็มไปด้วยความตื่นตระหนกและโล่งใจผลัดกันโทรเข้ามา ทุกคนพูดเหมือนกันหมด ฝันร้ายของพวกเขาหายไปแล้ว อย่างน้อยก็ในตอนนี้
ผมนั่งอยู่ที่เคาน์เตอร์ จิบกาแฟที่เริ่มเย็นชืด พลางเลื่อนดูรีวิวออนไลน์เกี่ยวกับแอปที่ทะลักเข้ามาในช่วงเช้า หลายคนแก้ไขรีวิวเป็นข้อความแบบเดียวกัน เช่น “แอปแปลกมาก อยู่ๆ ก็ใช้ไม่ได้ แต่ขอบคุณพระเจ้า!”
ที่ด้านตรงข้ามผม ธนานั่งเอนตัวพิงบนเก้าอี้ พร้อมกับวางเท้าบนอีกตัว เขากำลังไถโทรศัพท์ด้วยท่าทางภูมิใจในตัวเอง “เหมือนเรากลายเป็นฮีโร่เลยนะ” เขาพูด ยิ้มกว้าง
“แก้ไขหน่อย” ผมพูดวางแก้วกาแฟลง “พวกเขาบูชานาย ฉันแค่คนที่ซ่อมเทคโนโลยีให้ใช้ได้อีกครั้ง พูดถึงเรื่องนั้น…” ผมหยิบโทรศัพท์ของธนามา ซึ่งยังมีร่องรอยของข้อมูลแอปที่แฮ็งมันเหมือนกับรสขมที่ยังติดลิ้น
“เฮ้!” ธนาโวยวาย “ฉันต้องใช้นะ มันสำคัญมาก!”
“สำคัญแบบโดนหลอกหลอนอีกครั้งเหรอ?” ผมเลิกคิ้วขึ้น “ใจเย็นๆ ฉันแค่จะล้างแอปออกให้หมด ถือว่าเป็นฝันลอตเตอรี่ครั้งสุดท้ายของนายแล้วกัน”
Sponsored Ads
———————
ปิดฉาก
ไม่กี่นาทีต่อมา หลังจากพิมพ์คำสั่งบนแล็ปท็อป ข้อมูลที่แฮ็งจากแอปก็ถูกลบจนหมด โทรศัพท์ของธนากลับมาสะอาดเหมือนใหม่ ผมเลื่อนโทรศัพท์คืนให้เขาพร้อมกับทำหน้าเคร่งขรึม “เอาไปสิ ลองเล่นเกมต่อคำบ้าง มันปลอดภัยกว่า”
เขากลอกตา “รู้ไหมว่าบางคนยังมีความฝันบ้างนะ”
“ใช่ และบางคนก็อยากหลับโดยไม่มีเงาปีศาจมากระซิบข้างหู”
ธนาโบกมือไล่ผม ก่อนจะกลับไปจ้องโทรศัพท์ต่ออย่างใจจดใจจ่อ ผมรู้ดีว่าคงไม่มีประโยชน์ที่จะถามว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ แต่รอยยิ้มที่มุมปากของเขาบอกชัดเจนว่า มันต้องเป็นอะไรที่บ้าๆ แน่ๆ… อีกแล้ว!
Sponsored Ads
———————
สายจากผู้บัญชาการหลิน
เสียงกระดิ่งหน้าร้านดังขึ้นขณะที่ธนาเดินออกไป ผมเพิ่งจะได้ลิ้มรสความเงียบสงบไม่ทันไร โทรศัพท์ก็สั่นขึ้นมา เบอร์โชว์หน้าจอเป็นชื่อที่คุ้นเคย ผู้บัญชาการหลิน
“ขอเดานะ” ผมพูดทันทีที่รับสาย “คุณโทรมาเพื่อขอบคุณที่ผมช่วยกู้คดีให้คุณใช่ไหม?”
เสียงของหลินคมชัดเหมือนเดิม “ไม่ใช่หรอก ฉันโทรมาเพื่อเตือนว่าการแฮกเข้าสู่ระบบที่เกี่ยวข้องกับคดีใหญ่ที่กำลังดำเนินอยู่ถือว่าผิดกฎหมาย”
ผมเอนตัวพิงเก้าอี้ ยิ้มกว้าง “ผิดกฎหมาย แต่ได้ผลใช่ไหมล่ะ”
หลินเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะถอนหายใจ “ฉันเกลียดที่จะบอกว่าคุณพูดถูก แต่ก็อย่าหลงตัวเองไปล่ะ นาวิน พฤติกรรมแบบนี้อาจจะทำให้แผนของวงจรสีชาดบานปลายไปอีก”
“ยินดีที่ได้ช่วยพวกเขาตื่นตัว” ผมพูดพลางหมุนไขควงเล่นบนเคาน์เตอร์ “มีอะไรอีกไหม?”
“มี” เธอตอบ น้ำเสียงอ่อนลงเล็กน้อย “ระวังตัวด้วย ถ้าพวกมันจับตาเราอยู่ ก็แน่นอนว่าพวกมันกำลังจับตาคุณเหมือนกัน”
Sponsored Ads
———————
อารมณ์ขันที่มาไม่ถูกเวลา
หลังจากหลินวางสาย ผมหันไปดูคอมพิวเตอร์ และเห็นว่าธนาเพิ่งอัปโหลดวิดีโอใหม่ลงในโซเชียลมีเดีย ชื่อวิดีโอเขียนว่า “บันทึกนักรบแห่งความฝัน: เมื่อผมปราบลัทธิเงามรณะ!”
ผมคลิกดู แล้วก็เห็นเจ้าตัวธนายืนอยู่หน้าร้าน โพสต์ท่าดราม่าพร้อมบรรยายเสียงดังฟังชัด “เพื่อนๆ ทุกคนครับ ผมเสี่ยงชีวิตเพื่อพาพวกคุณมาพบกับความลี้ลับสุดพิเศษ! กับคู่หูของผม ‘พ่อมดเทคโนโลยี’ นาวิน เราได้เผชิญหน้ากับความสยดสยองเกินจะบรรยาย…”
ผมกลอกตา ถอนหายใจ “พ่อมดเทคโนโลยี? จริงดิ?”
วิดีโอข้ามไปยังฉากจำลองเหตุการณ์การต่อสู้กับเงา พร้อมเสียงประกอบแสนเวอร์และภาพควายธนูที่วาดแย่จนดูเหมือนการบ้านเด็กอนุบาล “ไม่อยากเชื่อเลยว่าผมเป็นเพื่อนกับหมอนี่” ผมพึมพำ พลางปิดวิดีโอก่อนที่มันจะทำลายอารมณ์ของผมไปมากกว่านี้
Sponsored Ads
———————
ปิดท้าย
พระอาทิตย์ลับขอบฟ้า ผมปิดไฟในร้านพร้อมล็อคประตู ทิ้งความวุ่นวายของวันไว้เบื้องหลัง อากาศรอบตัวเบาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่ภาพเงาในความฝันยังคงวนเวียนอยู่ในหัว รวมถึงคำพูดทิ้งท้ายของมันเกี่ยวกับ “แจ็กพอต”
ก่อนจะเดินออกจากร้าน สายตาของผมหันไปที่จอมอนิเตอร์หน้าร้านชั่วครู่ ผมสาบานได้ว่าเห็นเงาร่างเลือนรางสะท้อนอยู่ในหน้าจอ ดวงตากลวงโบ๋ของมันจ้องกลับมาที่ผม
ผมยกมือขึ้นนวดขมับ ถอนหายใจยาว “บางทีผมควรพักจากเทคโนโลยีสักพัก” ผมพึมพำพลางล็อคประตู “แต่เสียดายที่ผียังไม่หลอกโทรศัพท์ฝาพับ”
พูดจบ ผมก็เดินหายเข้าไปในค่ำคืน พร้อมรับมือกับความท้าทายแปลกประหลาดที่จะมาทักทายในวันต่อไป…
Sponsored Ads