NOVEL / The Signal Beyond the Veil · February 11, 2025 0

085-เส้นทางวนลูป (วัฏจักรไม่รู้จบ)

Co-Working Space รู้สึก… ผิดปกติ ไม่ใช่ความผิดปกติแบบที่เกิดขึ้นเมื่อมีใครสักคนเอาปลามาอุ่นในไมโครเวฟห้องพัก แต่เป็นความผิดปกติที่ลึกลงไปถึงแก่น ความรู้สึกบางอย่างที่ดังก้องอยู่ใต้พื้น สั่นสะเทือนอยู่ในอก และกระทบถึงกระดูกสันหลังของผม

Sponsored Ads

เครื่องดูดฝุ่น ซึ่งตอนนี้เหลือเพียงซากที่ไหม้เกรียมที่แน่นิ่งอยู่กลางวงสัญลักษณ์ขนาดมหึมาที่ถูกสลักลงบนพรม แต่พิธีกรรมยังไม่หยุด

เส้นสัญลักษณ์ยังคงเคลื่อนไหว

สัญลักษณ์ซ่อมแซมตัวเองอย่างช้า ๆ อย่างตั้งใจ ราวกับมีมือที่มองไม่เห็นกำลังลากเส้นต่อไป เส้นสายส่องแสงสีขาวเรืองรอง ดูเย็นเยียบและไม่เป็นมิตร พวกมันขยายตัว บิดเบี้ยว และรวมเข้าด้วยกันจนกลายเป็นลวดลายขนาดใหญ่ที่เริ่มครอบคลุมทั่วทั้งชั้น

การสั่นสะเทือนต่ำ ๆ เริ่มดังขึ้นอีกครั้ง มันไม่ใช่แค่เสียง แต่มันคือ การปรากฏตัว ความรู้สึกอึดอัดกดทับอยู่ในอก ฟันของผมปวดร้าว และมีแรงกดดันหลังดวงตาที่ทำให้ปวดหัว

คุณปรียาถอยหลังไปจนแผ่นหลังของเธอกระแทกกับกระจก หายใจหอบถี่

“นาวิน… มันเกิดอะไรขึ้น?”

ผมไม่ตอบ สายตาจับจ้องอยู่ที่ใจกลางวงกลมพิธีกรรม

เครื่องดูดฝุ่นไม่ได้วาดสัญลักษณ์อีกต่อไปแล้ว มันไม่จำเป็นต้องทำ สัญลักษณ์กำลัง สร้างตัวเองขึ้นมาใหม่ เส้นสายที่เรืองแสงนั้นเคลื่อนที่อย่างเป็นจังหวะ ราวกับมันกำลังเต้นรำภายใต้คำสั่งบางอย่างที่มองไม่เห็น

“มันเข้าสู่ช่วงอัตโนมัติแล้ว” ผมพูดด้วยเสียงแหบพร่า “มันกำลังจบพิธีกรรมด้วยตัวเอง”

แล้วไฟก็ดับลงทั้งหมด

ในความมืดสนิทนั้น สัญลักษณ์ส่องแสงราวกับกลุ่มดาวหลอนหลอก ฉายแสงจาง ๆ ไปทั่วผนังและเพดาน

และจากภายในความมืด เงามืดเริ่มผุดขึ้นมา

Sponsored Ads

———————

เงาในแสงสลัว

เงามืดค่อย ๆ หลุดออกจากสัญลักษณ์ ขยายร่างตัวเองขึ้นมาจากพื้นพรม กลายเป็นรูปร่างมนุษย์ที่บิดเบี้ยว ดวงตาที่กลวงโบ๋ ปากที่อ้ากว้างอย่างน่าขนลุก

พวกมันเดินโซเซ ร่างกายกระตุกเหมือนหุ่นเชิดที่เชือกพันกันยุ่งเหยิง

ผมไม่รอให้พวกมันเข้ามาใกล้ มือคว้าควายธนูออกจากกระเป๋าออกมาอย่างรวดเร็ว ผมกระซิบคาถาปลุกเสกเบา ๆ  

ควายธนูทองเหลืองส่องแสงสว่างเรืองรอง รัศมีสีทองเปล่งประกายออกมาอย่างแรงกล้า ร่างของมันขยายใหญ่ขึ้นจนกลายเป็นควายธนูขนาดมหึมา รูปร่างงดงามน่าเกรงขาม เขาของมันเรืองแสงโค้งงอราวกับพระจันทร์เสี้ยว

“ควายธนู! ตั้งแนวป้องกันไว้!” ผมตะโกน

ร่างควายธนูพุ่งไปข้างหน้า กีบเท้าของมันกระทบกับพื้นพรมจนเกิดเสียงดังกึกก้อง เงามืดกระจายตัวออกจากทางของมัน กรีดร้องอย่างไร้เสียงก่อนจะสลายกลายเป็นหมอกสีดำ

แสงสีทองส่องประกายสว่างไสว ผลักดันความมืดออกไปชั่วครู่ ก่อให้เกิดบาเรียกั้นระหว่างผมกับเงามืดที่กำลังพุ่งเข้ามา

แต่สัญลักษณ์บนพื้นยังคงส่องแสง สัญลักษณ์ยังคง เคลื่อนไหว พิธีกรรมยังไม่หยุด

ประตูมิติกำลังเปิดออก…

Sponsored Ads

———————

ภัยคุกคามจากเครื่องดูดฝุ่น

ทันทีที่ผมคิดว่ายังมีเวลาหายใจ เสียงหึ่งแผ่วเบาก็ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ

เครื่องดูดฝุ่น—ล้อหมุนที่ส่งประกายไฟ ตัวเครื่องแตกร้าว ควันจาง ๆ ลอยออกมาจากช่องระบายอากาศ—มันเคลื่อนตัวไปข้างหน้าอีกครั้ง

ล้อของมันสั่นไหว การเคลื่อนที่ดูไม่มั่นคง แต่… มันยังเคลื่อนที่

“โอ้ ให้ตายสิ!” ผมครางออกมา “นายมีความพยายามมากกว่าธนาในคืนเบียร์ฟรีอีกนะเนี่ย!”

เส้นทางของเครื่องดูดฝุ่นตัดผ่านสัญลักษณ์เรืองแสงหนึ่งจุด และทันใดนั้น พลังงานภายในลวดลายก็ลุกโชนขึ้นอย่างรุนแรง ส่งประกายแสงสีขาวแล่นออกมาเป็นเส้นสาย

มันไม่ได้ทำความสะอาดอีกต่อไปแล้ว

มันกำลัง กระตุ้น

เครื่องดูดฝุ่นพุ่งเข้าหาผมด้วยความสง่างามราวกับหมูเด้งกำลังวิ่งเข้าหาอาหาร

ผมกระโจนหลบออกไปในจังหวะเดียวกับที่มันระเบิดออกมาเป็นประกายไฟ การปลดปล่อยพลังงานครั้งสุดท้ายของมันส่งคลื่นกระแทกกระจายไปทั่ว ทำให้กระจกแตกกระจาย และเฟอร์นิเจอร์กระเด็นไปคนละทิศละทาง

สัญลักษณ์ส่องแสงสว่างเจิดจ้า และที่ใจกลางของวงกลมพิธีกรรม รอยแยกในความเป็นจริง ก็เริ่มก่อตัวขึ้น

Sponsored Ads

———————

โอบรับความว่างเปล่า

รอยแยกนั้นไม่ใช่แสงหรือเงา—มันคือความ ว่างเปล่า รอยแยกหยักเป็นเกลียวในผืนผ้าของความเป็นจริง แผ่กว้างขึ้นราวกับปากที่กำลังอ้ากว้างออกไปในความมืดมิดอันไร้ที่สิ้นสุด

และจากภายในห้วงลึกนั้น เสียงหนึ่งก็ดังขึ้น

เสียงต่ำ ลึก ก้องกังวาน และโบราณ

[วงแหวนใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว โอบรับความว่างเปล่า]

เสียงนั้นสั่นสะเทือนผ่านพื้น ผ่านผนัง และผ่านอกของผม คุณปรียาส่งเสียงสะอื้นไห้ออกมาอย่างติดขัด มือทั้งสองข้างกำกระจกด้านหลังไว้แน่น

เงาที่อยู่รอบสัญลักษณ์พุ่งไปข้างหน้า เร็วขึ้นและมุ่งมั่นมากขึ้น ถูกดึงดูดเข้าสู่ประตูมิติราวกับแมลงเม่าที่บินเข้าหาเปลวไฟสีดำ

“ควายธนู!” ผมตะโกนออกไป “สกัดพวกมันไว้!”

ร่างของควายธนูคำรามกึกก้องและพุ่งเข้าหาเงามืดอีกครั้ง เขาของมันเปล่งแสงสีทอง กระจัดกระจายเงามืดออกไปทุกทิศทาง แต่ถึงแม้แสงของควายธนูจะสว่างไสว ทว่าประตูมิติก็ยังขยายออกไปอย่างช้า ๆ

ผมกำ มีดหมอในมือข้างหนึ่ง และขวดน้ำมนต์ในมืออีกข้างหนึ่ง

ประตูมิติกำลังทรงตัว หากมันก่อตัวสำเร็จ…

ก็จะไม่มีชั้นที่ 15 ไม่มีกรุงเทพฯ ไม่มีอะไรเหลืออีกเลย

Sponsored Ads

———————

น่าตื่นเต้น

อุณหภูมิลดต่ำลงอย่างรวดเร็ว ลมหายใจของผมกลายเป็นไอเย็น และน้ำแข็งเริ่มเกาะตามขอบของสัญลักษณ์ที่ส่องแสงอยู่บนพื้น

ความว่างเปล่าเริ่ม เต้นเป็นจังหวะ ขยายและหดตัว ราวกับมันกำลังหายใจ

เงาเริ่มขดตัวและเต้นรำ เติบโตมากขึ้นด้วยทุกจังหวะการสั่นไหวของสัญลักษณ์

ที่ไหนสักแห่งในความว่างเปล่า ผมเห็นรูปร่างบางอย่างกำลังกระเพื่อม—ใหญ่โต เคลื่อนไหวช้าๆ และเต็มไปด้วยจุดประสงค์ที่ชัดเจน

“ไม่ใช่วันนี้” ผมพึมพำ พร้อมกับเทน้ำมนต์ลงบนใบมีดของมีดหมอจนมันส่งเสียงดัง ชี่ เบาๆ

ผมหันไปหาคุณปรียา “ออกไปจากที่นี่ เดี๋ยวนี้เลย!”

ดวงตาของเธอเบิกกว้างขึ้นขณะที่สบตากับผม เธอพยักหน้าอย่างสั่นเทา ก่อนจะวิ่งไปทางประตูทางออกฉุกเฉิน

ผมก้าวเข้าไปใกล้ขอบของประตูมิติ สัญชาตญาณทุกอย่างในร่างกายผมกำลังกรีดร้องให้วิ่งหนีไปจากตรงนี้

แต่แทนที่จะหนี ผมยกมีดหมอขึ้นสูง และเตรียมแกะสลักยันต์ทำลายล้างลงบนใจกลางของสัญลักษณ์ที่ใหญ่ที่สุด

ประตูมิติส่องแสงอีกครั้ง ความว่างเปล่าสั่นสะเทือนด้วยเสียงกรีดร้องไร้มนุษยธรรมที่สั่นสะเทือนทั้งชั้น

และจากนั้น… บางสิ่งก็เริ่มก้าวผ่านเข้ามา

รูปร่างที่โผล่ออกมาจากความว่างเปล่านั้น ใหญ่โตเกินจะเข้าใจได้ ปกคลุมไปด้วยเงามืดที่บิดเบี้ยว และมีดวงตากลวงโบ๋ที่เรืองแสงอยู่เหนือหัวของมัน

และเสียงนั้นก็ดังขึ้นอีกครั้ง เบาลง แต่กลับน่าสะพรึงกลัวกว่าเดิม

[โอบรับความว่างเปล่า]

ทุกอย่างรอบตัวหยุดนิ่ง ผมกำมีดหมอไว้แน่น และเตรียมพร้อมสำหรับสิ่งที่กำลังจะมาถึง…