Co-Working Space รู้สึก… ผิดปกติ ไม่ใช่ความผิดปกติแบบที่เกิดขึ้นเมื่อมีใครสักคนเอาปลามาอุ่นในไมโครเวฟห้องพัก แต่เป็นความผิดปกติที่ลึกลงไปถึงแก่น ความรู้สึกบางอย่างที่ดังก้องอยู่ใต้พื้น สั่นสะเทือนอยู่ในอก และกระทบถึงกระดูกสันหลังของผม
Sponsored Ads
เครื่องดูดฝุ่น ซึ่งตอนนี้เหลือเพียงซากที่ไหม้เกรียมที่แน่นิ่งอยู่กลางวงสัญลักษณ์ขนาดมหึมาที่ถูกสลักลงบนพรม แต่พิธีกรรมยังไม่หยุด
เส้นสัญลักษณ์ยังคงเคลื่อนไหว
สัญลักษณ์ซ่อมแซมตัวเองอย่างช้า ๆ อย่างตั้งใจ ราวกับมีมือที่มองไม่เห็นกำลังลากเส้นต่อไป เส้นสายส่องแสงสีขาวเรืองรอง ดูเย็นเยียบและไม่เป็นมิตร พวกมันขยายตัว บิดเบี้ยว และรวมเข้าด้วยกันจนกลายเป็นลวดลายขนาดใหญ่ที่เริ่มครอบคลุมทั่วทั้งชั้น
การสั่นสะเทือนต่ำ ๆ เริ่มดังขึ้นอีกครั้ง มันไม่ใช่แค่เสียง แต่มันคือ การปรากฏตัว ความรู้สึกอึดอัดกดทับอยู่ในอก ฟันของผมปวดร้าว และมีแรงกดดันหลังดวงตาที่ทำให้ปวดหัว
คุณปรียาถอยหลังไปจนแผ่นหลังของเธอกระแทกกับกระจก หายใจหอบถี่
“นาวิน… มันเกิดอะไรขึ้น?”
ผมไม่ตอบ สายตาจับจ้องอยู่ที่ใจกลางวงกลมพิธีกรรม
เครื่องดูดฝุ่นไม่ได้วาดสัญลักษณ์อีกต่อไปแล้ว มันไม่จำเป็นต้องทำ สัญลักษณ์กำลัง สร้างตัวเองขึ้นมาใหม่ เส้นสายที่เรืองแสงนั้นเคลื่อนที่อย่างเป็นจังหวะ ราวกับมันกำลังเต้นรำภายใต้คำสั่งบางอย่างที่มองไม่เห็น
“มันเข้าสู่ช่วงอัตโนมัติแล้ว” ผมพูดด้วยเสียงแหบพร่า “มันกำลังจบพิธีกรรมด้วยตัวเอง”
แล้วไฟก็ดับลงทั้งหมด
ในความมืดสนิทนั้น สัญลักษณ์ส่องแสงราวกับกลุ่มดาวหลอนหลอก ฉายแสงจาง ๆ ไปทั่วผนังและเพดาน
และจากภายในความมืด เงามืดเริ่มผุดขึ้นมา
Sponsored Ads
———————
เงาในแสงสลัว
เงามืดค่อย ๆ หลุดออกจากสัญลักษณ์ ขยายร่างตัวเองขึ้นมาจากพื้นพรม กลายเป็นรูปร่างมนุษย์ที่บิดเบี้ยว ดวงตาที่กลวงโบ๋ ปากที่อ้ากว้างอย่างน่าขนลุก
พวกมันเดินโซเซ ร่างกายกระตุกเหมือนหุ่นเชิดที่เชือกพันกันยุ่งเหยิง
ผมไม่รอให้พวกมันเข้ามาใกล้ มือคว้าควายธนูออกจากกระเป๋าออกมาอย่างรวดเร็ว ผมกระซิบคาถาปลุกเสกเบา ๆ
ควายธนูทองเหลืองส่องแสงสว่างเรืองรอง รัศมีสีทองเปล่งประกายออกมาอย่างแรงกล้า ร่างของมันขยายใหญ่ขึ้นจนกลายเป็นควายธนูขนาดมหึมา รูปร่างงดงามน่าเกรงขาม เขาของมันเรืองแสงโค้งงอราวกับพระจันทร์เสี้ยว
“ควายธนู! ตั้งแนวป้องกันไว้!” ผมตะโกน
ร่างควายธนูพุ่งไปข้างหน้า กีบเท้าของมันกระทบกับพื้นพรมจนเกิดเสียงดังกึกก้อง เงามืดกระจายตัวออกจากทางของมัน กรีดร้องอย่างไร้เสียงก่อนจะสลายกลายเป็นหมอกสีดำ
แสงสีทองส่องประกายสว่างไสว ผลักดันความมืดออกไปชั่วครู่ ก่อให้เกิดบาเรียกั้นระหว่างผมกับเงามืดที่กำลังพุ่งเข้ามา
แต่สัญลักษณ์บนพื้นยังคงส่องแสง สัญลักษณ์ยังคง เคลื่อนไหว พิธีกรรมยังไม่หยุด
ประตูมิติกำลังเปิดออก…
Sponsored Ads
———————
ภัยคุกคามจากเครื่องดูดฝุ่น
ทันทีที่ผมคิดว่ายังมีเวลาหายใจ เสียงหึ่งแผ่วเบาก็ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ
เครื่องดูดฝุ่น—ล้อหมุนที่ส่งประกายไฟ ตัวเครื่องแตกร้าว ควันจาง ๆ ลอยออกมาจากช่องระบายอากาศ—มันเคลื่อนตัวไปข้างหน้าอีกครั้ง
ล้อของมันสั่นไหว การเคลื่อนที่ดูไม่มั่นคง แต่… มันยังเคลื่อนที่
“โอ้ ให้ตายสิ!” ผมครางออกมา “นายมีความพยายามมากกว่าธนาในคืนเบียร์ฟรีอีกนะเนี่ย!”
เส้นทางของเครื่องดูดฝุ่นตัดผ่านสัญลักษณ์เรืองแสงหนึ่งจุด และทันใดนั้น พลังงานภายในลวดลายก็ลุกโชนขึ้นอย่างรุนแรง ส่งประกายแสงสีขาวแล่นออกมาเป็นเส้นสาย
มันไม่ได้ทำความสะอาดอีกต่อไปแล้ว
มันกำลัง กระตุ้น
เครื่องดูดฝุ่นพุ่งเข้าหาผมด้วยความสง่างามราวกับหมูเด้งกำลังวิ่งเข้าหาอาหาร
ผมกระโจนหลบออกไปในจังหวะเดียวกับที่มันระเบิดออกมาเป็นประกายไฟ การปลดปล่อยพลังงานครั้งสุดท้ายของมันส่งคลื่นกระแทกกระจายไปทั่ว ทำให้กระจกแตกกระจาย และเฟอร์นิเจอร์กระเด็นไปคนละทิศละทาง
สัญลักษณ์ส่องแสงสว่างเจิดจ้า และที่ใจกลางของวงกลมพิธีกรรม รอยแยกในความเป็นจริง ก็เริ่มก่อตัวขึ้น
Sponsored Ads
———————
โอบรับความว่างเปล่า
รอยแยกนั้นไม่ใช่แสงหรือเงา—มันคือความ ว่างเปล่า รอยแยกหยักเป็นเกลียวในผืนผ้าของความเป็นจริง แผ่กว้างขึ้นราวกับปากที่กำลังอ้ากว้างออกไปในความมืดมิดอันไร้ที่สิ้นสุด
และจากภายในห้วงลึกนั้น เสียงหนึ่งก็ดังขึ้น
เสียงต่ำ ลึก ก้องกังวาน และโบราณ
[วงแหวนใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว โอบรับความว่างเปล่า]
เสียงนั้นสั่นสะเทือนผ่านพื้น ผ่านผนัง และผ่านอกของผม คุณปรียาส่งเสียงสะอื้นไห้ออกมาอย่างติดขัด มือทั้งสองข้างกำกระจกด้านหลังไว้แน่น
เงาที่อยู่รอบสัญลักษณ์พุ่งไปข้างหน้า เร็วขึ้นและมุ่งมั่นมากขึ้น ถูกดึงดูดเข้าสู่ประตูมิติราวกับแมลงเม่าที่บินเข้าหาเปลวไฟสีดำ
“ควายธนู!” ผมตะโกนออกไป “สกัดพวกมันไว้!”
ร่างของควายธนูคำรามกึกก้องและพุ่งเข้าหาเงามืดอีกครั้ง เขาของมันเปล่งแสงสีทอง กระจัดกระจายเงามืดออกไปทุกทิศทาง แต่ถึงแม้แสงของควายธนูจะสว่างไสว ทว่าประตูมิติก็ยังขยายออกไปอย่างช้า ๆ
ผมกำ มีดหมอในมือข้างหนึ่ง และขวดน้ำมนต์ในมืออีกข้างหนึ่ง
ประตูมิติกำลังทรงตัว หากมันก่อตัวสำเร็จ…
ก็จะไม่มีชั้นที่ 15 ไม่มีกรุงเทพฯ ไม่มีอะไรเหลืออีกเลย
Sponsored Ads
———————
น่าตื่นเต้น
อุณหภูมิลดต่ำลงอย่างรวดเร็ว ลมหายใจของผมกลายเป็นไอเย็น และน้ำแข็งเริ่มเกาะตามขอบของสัญลักษณ์ที่ส่องแสงอยู่บนพื้น
ความว่างเปล่าเริ่ม เต้นเป็นจังหวะ ขยายและหดตัว ราวกับมันกำลังหายใจ
เงาเริ่มขดตัวและเต้นรำ เติบโตมากขึ้นด้วยทุกจังหวะการสั่นไหวของสัญลักษณ์
ที่ไหนสักแห่งในความว่างเปล่า ผมเห็นรูปร่างบางอย่างกำลังกระเพื่อม—ใหญ่โต เคลื่อนไหวช้าๆ และเต็มไปด้วยจุดประสงค์ที่ชัดเจน
“ไม่ใช่วันนี้” ผมพึมพำ พร้อมกับเทน้ำมนต์ลงบนใบมีดของมีดหมอจนมันส่งเสียงดัง ชี่ เบาๆ
ผมหันไปหาคุณปรียา “ออกไปจากที่นี่ เดี๋ยวนี้เลย!”
ดวงตาของเธอเบิกกว้างขึ้นขณะที่สบตากับผม เธอพยักหน้าอย่างสั่นเทา ก่อนจะวิ่งไปทางประตูทางออกฉุกเฉิน
ผมก้าวเข้าไปใกล้ขอบของประตูมิติ สัญชาตญาณทุกอย่างในร่างกายผมกำลังกรีดร้องให้วิ่งหนีไปจากตรงนี้
แต่แทนที่จะหนี ผมยกมีดหมอขึ้นสูง และเตรียมแกะสลักยันต์ทำลายล้างลงบนใจกลางของสัญลักษณ์ที่ใหญ่ที่สุด
ประตูมิติส่องแสงอีกครั้ง ความว่างเปล่าสั่นสะเทือนด้วยเสียงกรีดร้องไร้มนุษยธรรมที่สั่นสะเทือนทั้งชั้น
และจากนั้น… บางสิ่งก็เริ่มก้าวผ่านเข้ามา
รูปร่างที่โผล่ออกมาจากความว่างเปล่านั้น ใหญ่โตเกินจะเข้าใจได้ ปกคลุมไปด้วยเงามืดที่บิดเบี้ยว และมีดวงตากลวงโบ๋ที่เรืองแสงอยู่เหนือหัวของมัน
และเสียงนั้นก็ดังขึ้นอีกครั้ง เบาลง แต่กลับน่าสะพรึงกลัวกว่าเดิม
[โอบรับความว่างเปล่า]
ทุกอย่างรอบตัวหยุดนิ่ง ผมกำมีดหมอไว้แน่น และเตรียมพร้อมสำหรับสิ่งที่กำลังจะมาถึง…