Co-Working Space รู้สึก… ผิดปกติ ไม่ใช่ความผิดปกติแบบที่เกิดขึ้นเมื่อมีใครสักคนเอาปลามาอุ่นในไมโครเวฟห้องพัก แต่เป็นความผิดปกติที่ลึกลงไปถึงแก่น ความรู้สึกบางอย่างที่ดังก้องอยู่ใต้พื้น สั่นสะเทือนอยู่ในอก และกระทบถึงกระดูกสันหลังของผม
Sponsored Ads
จากทางออกฉุกเฉิน เสียงบู๊ตกระทบพื้นดังขึ้นอย่างชัดเจน
“หน่วยม่าน! คุมพื้นที่โดยรอบ!”
ผู้บัญชาการหลินก้าวเข้ามา ทรงผมมัดรวบหางม้าสีดำสนิทของเธอสะบัดไปด้านหลังราวกับธง เธอสวมแจ็คเก็ตยุทธวิธีที่สลักอักขระป้องกันจาง ๆ บนเนื้อผ้า สีหน้าเฉียบขาดและแฝงไปด้วยความหงุดหงิดใจเล็กน้อย
ที่ด้านหลังเธอ ทีมเจ้าหน้าที่หน่วยม่านกระจายกำลังออกไป พวกเขาสวมชุดยุทธวิธีสีเข้มที่มีสัญลักษณ์เรืองแสงสลักไว้บนเครื่องแบบ บางคนถืออุปกรณ์ประหลาดที่ส่งเสียงหึ่งแผ่วเบา บางอุปกรณ์ก็ปล่อยประกายแสงอ่อน ๆ ของพลังงาน
“นาวิน!” หลินตะโกน เสียงของเธอตัดผ่านความโกลาหลในห้องได้อย่างเฉียบขาด “รายงานสถานการณ์!”
“มาได้ทันเวลาพอดี” ผมตะโกนกลับไป มือยังคงกำมีดหมอไว้แน่น “เครื่องดูดฝุ่นเริ่มทำพิธีกรรมวันสิ้นโลก มีประตูมิติไปสู่ความว่างเปล่ากำลังเปิดออก และ—อ้อใช่—ปีศาจเงามืดกำลังคลานออกมาเพียบเลย!”
ริมฝีปากของหลินกระตุกน้อยๆ เหมือนเธออยากจะยิ้ม แต่ก็กลั้นไว้ได้ทัน “และฉันคิดว่าวันนี้จะเป็นวันสบาย ๆ ซะอีก”
เธอหันไปหาทีมของเธอ น้ำเสียงทรงพลังและเฉียบคม “ติดตั้งเขตกักกัน! ตำแหน่งอัลฟ่าไปจนถึงเดลต้า ปิดผนึกเส้นสัญลักษณ์ด้วยหมุดปิดผนึก ฉันต้องการตาข่ายพลังงานพร้อมใช้งานทันที! ทุกคน เคลื่อนที่!”
หน่วยม่านขยับตัวอย่างแม่นยำและรวดเร็ว พวกเขาวางอุปกรณ์ปิดผนึกในจุดสำคัญตามลวดลายสัญลักษณ์ ค้อนตอกหมุดเรืองแสงลงไปกับพื้นและร่ายคาถาเบาๆ
หลินหยิบอุปกรณ์ทรงกระบอกสีทองออกมา บิดฐานของมัน เสียงหึ่งแผ่วเบาดังขึ้น ขณะที่เส้นแสงพลังงานบางเบาพวยพุ่งออกมาในอากาศ
เธอหันมาหาผม ดวงตาคมกริบจับจ้องมา “นาวิน เราต้องทำลายจุดศูนย์กลางของประตูมิติ มันอยู่ตรงไหน?”
ผมชี้ไปที่ซากเครื่องดูดฝุ่นที่ยังคงควันกรุ่นและเรืองแสงอ่อนๆ อยู่กลางวงกลมพิธีกรรม
“ตรงนั้น” ผมพูด “มันยังไม่ตายสนิท”
หลินพยักหน้า สีหน้าเคร่งขรึม “งั้นก็ถึงเวลาจบเรื่องนี้แล้วล่ะ”
Sponsored Ads
———————
แสงปะทะเงา
หมุดปิดผนึกของหน่วยม่านส่องแสงเจิดจ้า เส้นพลังงานสีขาวสานไขว้กันเป็นตาข่ายเหนือวงแหวนสัญลักษณ์ขนาดยักษ์ เงามืดที่เคลื่อนไหวสะดุ้งถอยหลัง เหมือนพวกมันกลัวแสงสว่างที่ปกคลุมเหนือพื้นที่นี้
แต่มันไม่เพียงพอ
พวกมันเลื้อยผ่านช่องว่างระหว่างเส้นพลังงานอย่างง่ายดาย ดวงตาที่ว่างเปล่าส่องแสงแผ่วจาง ขณะที่แขนขาที่บิดเบี้ยวแหวกอากาศตรงมาหาเรา
ผู้บัญชาการหลินยืนประจันหน้ากับพวกมัน แจ็คเก็ตยุทธวิธีของเธอสะท้อนแสงสลักอักขระป้องกัน เธอดึงอาวุธปืนล้ำสมัยสีดำจากซองหลัง มันดูเหมือนหลุดออกมาจากภาพยนตร์ไซไฟ ลำกล้องสลักด้วยสัญลักษณ์เรืองแสง และพลังงานบางอย่างสั่นไหวอยู่ในแกนกลาง
เธอกดสวิตช์เปิดอาวุธ เสียง คลิก! ดังขึ้น และลำกล้องปืนส่องแสงสีทองเจิดจ้าออกมา
“หน่วยม่าน! รูปแบบยุทธวิธีเดลต้า! ใช้กระสุนยับยั้ง! ยิงได้!” หลินตะโกนด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด
เจ้าหน้าที่หน่วยม่านไม่มีความลังเล พวกเขาดึงอาวุธของตนออกมา แต่ละกระบอกมีดีไซน์เฉพาะตัว ผสานระหว่างเทคโนโลยีล้ำยุคและศาสตร์ลึกลับ ลำกล้องเรืองแสงอ่อน ๆ กระบอกพลังงานคริสตัลสั่นไหวด้วยพลังวิญญาณดิบ และอินเทอร์เฟซสัญลักษณ์ที่เรืองแสงอยู่บนด้ามจับ
พวกเขาเปิดฉากยิงพร้อมกัน
ลำแสงสีทองพุ่งออกจากปืนพลังงาน พาดผ่านห้องทำงาน กระทบกับร่างเงามืด และระเบิดเป็นแสงระยิบระยับเป็นระยะ ๆ เงาหลายตัวกรีดร้องอย่างไร้เสียงก่อนจะสลายเป็นควันดำ
แต่เงามืดยังคงกรูเข้ามาเรื่อย ๆ
“นาวิน!” หลินตะโกนแข่งกับเสียงลำแสงพลังงานและเสียงกรีดร้องน่าขนลุก “ทำลายสัญลักษณ์ย่อยเดี๋ยวนี้!”
ผมไม่เสียเวลารีรอ กำมีดหมดไว้แน่นในมือ ผมพุ่งตรงไปยังกลุ่มสัญลักษณ์ที่เรืองแสงใกล้ที่สุด
ผมคุกเข่าลง เริ่มสลักยันต์ทำลายล้างลงบนเส้นสัญลักษณ์ มีดขูดผ่านเส้นใยของพรม เกิดประกายไฟและเสียงแผ่วเบาคล้ายเสียงกรีดร้อง
หนึ่งในสัญลักษณ์กระพริบ แล้วก็ดับวูบลง
แต่ชัยชนะนั้นอยู่ได้ไม่นาน
เงามืดหันมาทางผม ดวงตาที่ว่างเปล่าจ้องเขม็งมาที่ตำแหน่งของผม การเคลื่อนไหวของพวกมันเปลี่ยนไป—ไม่ใช่การกรูเข้าไปมั่วๆ อีกแล้ว แต่มันจ้องผมด้วยความมุ่งมั่น เหมือนนักล่าที่กำลังล็อกเป้าหมาย
“นาวิน หลบไป!” หลินตะโกน
หนึ่งในเงามืดตัวใหญ่พุ่งเข้าหาผม แขนที่ยาวราวกับกรงเล็บควันดำยื่นมาหมายจะคว้าตัวผม
แต่หลินเคลื่อนไหวเร็วกว่ามัน เธอหมุนตัวอย่างคล่องแคล่ว ยกปืนขึ้นประทับบ่า และยิงลำแสงพลังงานสีทองออกมา
ลำแสงตัดผ่านศีรษะของเงาตัวนั้นอย่างแม่นยำ ร่างมันสั่นสะท้านก่อนจะสลายกลายเป็นหมอกควัน
“ทำต่อไป!” หลินออกคำสั่ง เสียงของเธอนิ่งสนิท แต่เต็มไปด้วยความกดดัน
ผมพยักหน้า หันกลับไปหาสัญลักษณ์ต่อไป มีดหมอในมือส่องแสงสลัว และในใจผมรู้ดี—ถ้าเราหยุดพวกมันไม่ได้ก่อนที่วงแหวนจะเสร็จสมบูรณ์ มันจะไม่ใช่แค่ห้องทำงานแห่งนี้ที่ถูกทำลาย แต่มันจะเป็นโลกทั้งใบ…
Sponsored Ads
———————
ควายธนูเข้าสู่สมรภูมิ
ควายธนูส่งเสียงคำรามกึกก้องจากอีกฝั่งของห้อง เขาโค้งยาวสีทองของมันก้มลงต่ำ ก่อนจะพุ่งทะลุผ่านกลุ่มเงามืดอย่างเกรี้ยวกราด แต่ละก้าวของมันทำให้สัญลักษณ์ใต้กีบเท้าแตกร้าว เงามืดกระจัดกระจายราวกับใบไม้แห้งท่ามกลางพายุ
ผู้บัญชาการหลินและหน่วยม่านเคลื่อนไหวอย่างสอดประสาน—อาวุธยิงพลังงานสาดใส่เงามืด เกราะพลังงานส่องแสงสว่างวาบ และสัญลักษณ์เรืองแสงลุกไหม้เมื่อโดนยิงอย่างแม่นยำ
เจ้าหน้าที่คนหนึ่งคุกเข่า วางอุปกรณ์ทรงกลมที่สลักอักขระเรืองแสงไว้บนพื้น มันปล่อยคลื่นพลังงานเจิดจ้าออกมา กระแทกกลุ่มเงามืดจนกระเด็นออกไป
เจ้าหน้าที่อีกคนปล่อยโดรนขนาดเล็กที่ลอยเหนือพื้นที่สัญลักษณ์ มันหมุนวนและปล่อยแสงสีทองหมุนวนรอบตัว ขัดขวางการเคลื่อนไหวของเงามืด
แต่ไม่ว่าพวกเราจะพยายามแค่ไหน ประตูมิติก็ยังไม่ปิดลง
ตรงกันข้าม มันกลับแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ
แรงสั่นสะเทือนรุนแรงขึ้นจนพื้นสั่นสะเทือน ผนังกระจกส่งเสียงดังกราว ขณะที่สัญลักษณ์บนพื้นเต้นระริกอย่างบ้าคลั่ง ราวกับการเต้นของหัวใจที่ใกล้จะถึงจุดวิกฤต
จากความมืดมิดภายในประตู เสียงก้องสะท้อนดังขึ้นอีกครั้ง หนักแน่นและทรงพลังยิ่งกว่าเดิม
[โอบรับความว่างเปล่า]
ผู้บัญชาการหลินกัดฟันแน่น ก่อนจะยิงใส่เงามืดที่พุ่งเข้าใส่อีกครั้ง
“เวลาเรากำลังจะหมด!” เธอตะโกน
Sponsored Ads
———————
ท่าไม้ตายสุดท้ายของเครื่องดูดฝุ่น
ที่ศูนย์กลางของวงแหวนพิธีกรรม เครื่องดูดฝุ่นเริ่มเปล่งแสงอีกครั้ง
ตัวเครื่องที่แตกร้าวสั่นสะท้านอย่างรุนแรง ประกายไฟพุ่งออกมาจากรอยแตก แสงสว่างล้นทะลักออกมาจากภายใน ราวกับเป็นจังหวะการเต้นของหัวใจกลไก
ดวงตาของผู้บัญชาการหลินเบิกกว้าง เธอหันไปมองมันอย่างตระหนักรู้
“มันคือกุญแจศูนย์กลางของพิธีกรรมนี้!” เธอตะโกน
“กุญแจศูนย์กลาง? มันก็แค่เครื่องดูดฝุ่น!” ผมตะโกนสวนกลับ
“ถ้ามันวาดสัญลักษณ์สำเร็จ ประตูมิตินี้จะเสถียร!” หลินตะโกนกลับอีกครั้ง ก่อนจะยิงพลังงานสีทองเข้าใส่เงามืดอีกครั้ง “เราต้องทำลายมัน—เดี๋ยวนี้!”
เครื่องดูดฝุ่นลอยขึ้นกลางอากาศ เชื่อมต่อกับเส้นพลังงานที่ส่องแสงจากสัญลักษณ์ มันสั่นไหวอย่างรุนแรง แสงภายในเครื่องเต้นตามจังหวะเดียวกับสัญลักษณ์ที่กระพริบบนพื้น
เงามืดทั้งหมดหันเหความสนใจไปที่มัน ไหลรวมกันเข้าไปยังเครื่องดูดฝุ่นเหมือนน้ำธารที่ไหลรวมสู่แม่น้ำใหญ่
อากาศรอบตัวสั่นไหว ประกายไฟแล่นผ่านพื้น ผมรู้สึกได้ถึงขนทั่วร่างลุกชัน
หลินหันมามองผม สายตาของเธอแข็งกร้าวและมุ่งมั่น
“นาวิน! คุณเข้าไปถึงมันได้ไหม!?”
ผมมองไปยังสมรภูมิระหว่างผมกับเครื่องดูดฝุ่น—เงามืดที่บิดเบี้ยว สัญลักษณ์เรืองแสง และเกราะพลังงานสีทองที่สั่นไหว
“ได้สิ ถ้าผมมีเจ็ตแพ็ค!”
หลินแสยะยิ้มจางๆ แต่แววตาของเธอยังคงไม่เปลี่ยนไป
“ทีมอัลฟ่า! คุ้มกันนาวิน! ปล่อยเกราะพลังงาน!”
เจ้าหน้าที่หน่วยม่านปรับตำแหน่ง ยกอาวุธขึ้นพร้อมกัน เกราะพลังงานสีทองพวยพุ่งขึ้นมารอบตัวผม สร้างโดมส่องแสงสว่างที่แผ่พลังป้องกันออกไป เงามืดกระแทกเข้ากับมัน ส่งเสียงกรีดร้องก่อนจะสลายเป็นควันดำ
“ไปเดี๋ยวนี้!” หลินตะโกน
และผมก็ออกวิ่ง
สัญลักษณ์ที่ส่องสว่างสะท้อนอยู่ใต้ฝ่าเท้า เสียงคำรามของควายธนูดังขึ้นจากด้านหลัง ผมกุมมีดหมอไว้แน่น พร้อมกับก้าวเข้าสู่ใจกลางวงแหวนแห่งหายนะนี้
คืนนี้ มันต้องจบที่นี่ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง…
Sponsored Ads
———————
คำสั่งสุดท้าย
เครื่องดูดฝุ่นลอยนิ่งอยู่กลางอากาศ แสงสว่างจากมันพุ่งทะลุถึงจุดสูงสุดจนเกือบทำให้ตาแทบบอด เส้นพลังงานสายแล้วสายเล่าถูกยืดออกมาจากมัน ราวกับใยแมงมุมที่ทอผ่านสัญลักษณ์เรืองแสงบนพื้น
เสียงจากจากความมืดมิดดังสะท้อนอีกครั้ง ก้องกังวานผ่านทุกอณูในห้อง
[พิธีกรรมสมบูรณ์แล้ว โอบรับความว่างเปล่า]
อุณหภูมิลดต่ำลงอย่างรวดเร็ว ลมหายใจของผมกลายเป็นไอเย็นที่ลอยอยู่กลางอากาศ
สัญลักษณ์บนพื้นส่องแสงวาบเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่คลื่นแสงเย็นยะเยือกจะระเบิดออกมาเป็นวงกว้าง
เสียงของหลินแหวกผ่านความโกลาหล
“ตอนนี้เลย นาวิน!”
ผมรวบรวมพละกำลังทั้งหมดที่มี กระโดดพุ่งไปข้างหน้า มีดหมอในมือก็เรืองแสงสีขาวร้อนแรง
เวลาราวกับหยุดนิ่งลง
แสงจากเครื่องดูดฝุ่นสั่นไหว เงามืดกรีดร้อง และความว่างเปล่าที่ใจกลางพิธีกรรมก็เริ่มขยายกว้างขึ้นเรื่อย ๆ
ผมปักมีดหมอลงไปที่แกนกลางของเครื่องดูดฝุ่นที่เรืองแสง จารึกยันต์ทำลายล้างลงไปบนพื้นผิวอย่างลึกซึ้ง
เสียงดังคล้ายกระจกแตกสะท้อนก้อง พร้อมกับเสียงฟ้าผ่าที่คำรามอย่างบ้าคลั่ง
และจากนั้น—
ทุกอย่างถูกกลืนไปด้วยแสงสีขาวสว่างจ้า…