ตลาดกลางคืนเอเชียทีคยังคงส่องแสงระยิบระยับน่าตื่นตาตื่นใจ ราวกับเขาวงกตที่เต็มไปด้วยแสงนีออน โคมไฟแกว่งไกว และตรอกซอกซอยที่อัดแน่นไปด้วยร้านอาหารและของที่ระลึกราคาถูก แต่คืนนี้… อากาศมันแปลกไป ฝูงชนดูบางตา และเงามืดดูเหมือนจะแผ่ขยายลึกขึ้นกว่าปกติ
Sponsored Ads
หลินเดินเคียงข้างผม ชุดยุทธวิธีของเธอถูกซ่อนใต้เสื้อโค้ทยาว ปืนพลาสม่าซ่อนอยู่ใต้แจ็กเก็ต แต่ผมยังรู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือนเบาๆ จากแกนพลังงานที่คอยเต้นเป็นจังหวะ
“ฝูงชนวันวาเลนไทน์” ผมพึมพำ ขณะสอดส่องสายตาไปรอบๆ “ความรัก ดอกกุหลาบราคาแพง และพิธีกรรมเก็บเกี่ยววิญญาณผ่านดิจิทัล โรแมนติกสุดๆ ไปเลย”
ริมฝีปากของหลินกระตุกยิ้มจางๆ ซึ่งเกือบจะเป็นรอยยิ้มจริงๆ “ตั้งสมาธิให้ดี นาวิน สัญญาณเซิร์ฟเวอร์มันพาเรามาที่นี่ ที่ไหนสักแห่งน่าจะอยู่ใต้ดิน”
เจ้าหน้าที่หน่วยม่านกระจายกำลังกันอย่างแนบเนียน แทรกตัวอยู่ท่ามกลางฝูงชน ที่เหนือศีรษะเรา ไฟประดับระยิบระยับเรียงกันเป็นแถวทอดเงาสั่นไหวลงบนพื้นปูนทางเท้าที่แตกร้าว
เสียงจากอินเทอร์คอมดังขึ้นในหูของหลิน “ผู้บัญชาการ เราแยกสัญญาณออกมาได้แล้ว มันกระจายผ่านเราเตอร์หลายตัว แต่สัญญาณหลักมาจากท้ายตลาด โกดัง 14”
หลินพยักหน้าเบาๆ ก่อนหันมาทางผม “อยู่ใกล้ๆ ไว้”
พวกเราเดินลัดเลาะผ่านตลาดกลางคืน ผ่านร้านค้าที่ขายเครื่องประดับปลอมและกุหลาบพลาสติก ยิ่งเดินลึกเข้าไป ผู้คนยิ่งบางตาลง อากาศเย็นขึ้น และเสียงดนตรีรวมถึงเสียงพูดคุยเริ่มจางหายไป
โกดัง 14 ตั้งตระหง่านตรงหน้าเรา ประตูเหล็กขึ้นสนิมถูกเลื่อนปิดลงมาครึ่งหนึ่ง แสงสีแดงเรืองรองลอดออกมา ริบหรี่เหมือนหัวใจที่กำลังจะหยุดเต้น
“ดูมีเสน่ห์ดีนะ” ผมกระซิบ “ไม่มีอะไรบ่งบอกว่าเป็น ‘พิธีกรรมชั่วร้าย’ ได้เท่าแสงไฟอันน่าสยดสยองนี้อีกแล้ว”
หลินย่อตัวลงข้างประตู สแกนขอบประตูอย่างละเอียด “ไม่มีกับดักทางกายภาพ แต่สัญญาณพลังงานไม่เสถียร บางอย่างกำลังทำงานอยู่ข้างใน”
ผมกำด้ามมีดหมอแน่น และพยักหน้า “ได้เวลาไปป่วนงานเลี้ยงแล้วล่ะ”
หลินนับถอยหลังเงียบๆ ก่อนจะถีบประตูเปิดออก
Sponsored Ads
———————
เซิร์ฟเวอร์แห่งพิธีกรรม
ภายในโกดังเต็มไปด้วยกองซากเทคโนโลยีเก่า—แถวของตู้เซิร์ฟเวอร์ที่เต็มไปด้วยฝุ่นส่งเสียงหึ่ง ๆ อย่างแผ่วเบา สายไฟพันกันยุ่งเหยิงราวกับเส้นเลือดดิจิทัลที่แผ่กระจายไปทั่วพื้น
ตรงกลางห้องมีสัญลักษณ์เรืองแสงขนาดใหญ่ถูกวาดไว้บนพื้นคอนกรีต มันส่องแสงวูบวาบ ไม่มั่นคง ราวกับกำลังจะดับลง
เหนือสัญลักษณ์นั้น มีกรอบรูปดิจิทัลหลายสิบอันลอยอยู่กลางอากาศ แต่ละอันฉายภาพคู่รักที่ยิ้มแย้มในช่วงเวลาแห่งความสุข แต่เบื้องหลังพวกเขามีเพียง… ความมืดมิด
อากาศอบอวลไปด้วยกลิ่นไฟฟ้าและความเย็นยะเยือก จากลึกเข้าไปในตู้เซิร์ฟเวอร์ ผมได้ยินเสียงกระซิบจาง ๆ เล็ดลอดออกมา
“หลิน” ผมพูดเสียงเบา “เรากำลังยืนอยู่ในวงจรพิธีกรรม ขนาดใหญ่มาก”
สายตาคมกริบของหลินกวาดไปทั่วสัญลักษณ์ “พวกมันไม่ได้แค่เก็บพลังงาน มันกำลังส่งมันไป… ที่ไหนสักแห่ง”
ผมหยิบสมุดใบลานขึ้นมาแล้วนำมันไปวางไว้เหนือแผงเซิร์ฟเวอร์ สัญลักษณ์เรืองแสงซับซ้อนส่องประกายแวบวับไปทั่วพื้นผิวของแผงวงจรดิจิตัล
“พวกมันไม่ได้แค่ดูดพลังงาน” ผมพึมพำ “พวกมันกำลังสร้าง… ภาพสะท้อน เงาดิจิทัลของคู่รักเหล่านี้”
เสียงของหลินเย็นเยียบและตึงเครียด “เหมือนเสียงสะท้อน”
“ใช่” ผมพยักหน้า “วิญญาณของพวกเขาถูกผูกติดอยู่กับเครือข่ายนี้ ถูกวนลูปอยู่ในช่วงเวลาสุดท้ายก่อนที่พวกเขาจะถูกพรากไป”
สายตาของหลินหันไปมองกรอบรูปเหล่านั้น ใบหน้าที่หยุดนิ่งในรอยยิ้มแสนสุข แต่มีความกลัวแฝงอยู่ในแววตา
“เราต้องหยุดมัน”
Sponsored Ads
———————
ถอดปลั๊กห้วงลึก
ในมุมหนึ่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งก้มตัวเหนือจอภาพแบบพกพา หน้าจอแท็บเล็ตของพวกเขาสะท้อนรูปแบบสัญลักษณ์จาง ๆ พวกเขาขมวดคิ้วขณะที่พวกเขาส่งข้อมูลอัปเดตสดเกี่ยวกับความผันผวนของพลังงานให้ผู้บัญชาการหลิน
เมื่อผมตรวจดูการตั้งค่าเซิร์ฟเวอร์—แถวไฟกะพริบและหน้าจอที่เรืองแสง แต่ละชิ้นคือชิ้นส่วนในกริดพิธีกรรมขนาดใหญ่
“โอเค” ผมพูดพลางยืดตัวขึ้น “ขั้นตอนที่หนึ่ง: ปลดปลั๊กห้วงลึก”
หลินเลิกคิ้วขึ้น “ถอดปลั๊กเหรอ?”
“มันเป็นมุกตลกนะหลิน อารมณ์ขันของช่างซ่อมพิธีกรรมดิจิ…”
แต่ผมตกใจมาก เมื่อผู้บัญชาการหลินเอื้อมมือออกไปแล้วดึงสายเคเบิลเส้นใหญ่จากเซิร์ฟเวอร์หลักเส้นหนึ่งออก
แครก! ประกายไฟพุ่งออกมาจากการเชื่อมต่อที่ขาดสะบั้น ไฟทั่วโกดังกระพริบอย่างบ้าคลั่ง เสียงแหลมเสียดหูดังออกมาจากทุกหน้าจอและกรอบรูปดิจิทัล
“หลิน!” ผมร้องลั่น “นั่นไม่ใช่วิธีแบบนี้นะคุณ—โอ้ ให้ตายสิ”
สัญลักษณ์ตรงกลางห้องสว่างวาบเป็นสีแดงเลือด พลังงานสีดำพุ่งออกมาจากเส้นสายเคเบิล พุ่งเข้าไปในกรอบรูปเหมือนงูไฟฟ้า อากาศเต็มไปด้วยไฟฟ้าสถิต และใบหน้าของคู่รักในกรอบเริ่มขยับ ดวงตาของพวกเขาเลื่อนลอย รอยยิ้มบิดเบี้ยวอย่างผิดธรรมชาติ
หลินชักมือออกจากสายเคเบิลอย่างรวดเร็ว “โอเค เป็นความคิดแย่มาก”
“คุณคิดว่าอย่างนั้นเหรอ!?”
Sponsored Ads
———————
มิสเตอร์วาเลนไทน์
จากส่วนลึกในเขาวงกตของเซิร์ฟเวอร์ เสียงแผ่วเบาเริ่มดังขึ้น คืบคลานผ่านอากาศที่อัดแน่นไปด้วยสถิตไฟฟ้า
“ความรักเป็นนิรันดร์… มาร่วมกับเรา…”
ร่างหนึ่งก้าวออกมาจากแสงไฟที่กระพริบอย่างมั่นคง รองเท้าหนังขัดมันกระทบพื้นคอนกรีตเป็นจังหวะ “กึก กึก”
มิสเตอร์วาเลนไทน์
ผมเรียบแปล้ สูทสั่งตัดพอดีตัว เนคไทสีแดงสด รอยยิ้มกว้างเกินธรรมชาติ ฟันขาวเรียงเป็นแนวคมกริบ เขาขยับตัวด้วยความมั่นใจของนักขายที่รู้ว่าดีลนี้จบลงตั้งแต่แรกพบ
“หน่วยอัลฟ่าและบราโว่ ประจำตำแหน่งรอบสัญลักษณ์! เปิดใช้งานตัวสร้างเสถียรภาพ! ปิดทางออกทุกทาง!” ผู้บัญชาการหลินออกคำสั่งเสียงเข้มเฉียบขาด ฝ่าเสียงครางต่ำของพลังงานพิธีกรรม
จากมุมมืดของห้อง เจ้าหน้าที่ในชุดยุทธวิธีสีดำปรากฏตัวขึ้น ปืนพลาสม่าส่องแสงจางๆ ขณะที่หมุดปิดผนึกถูกปักลงบนพื้นคอนกรีต เส้นพลังงานเรืองแสงเป็นเส้นหยักพาดผ่านพื้นที่รอบๆ
แต่มิสเตอร์วาเลนไทน์เพียงแค่ยิ้มกว้างขึ้น ดวงตาของเขากวาดมองไปรอบห้อง ก่อนจะหยุดที่ผมและหลิน ราวกับว่าเขารู้จักพวกเรามานานแล้ว
“เอาละ เอาละ” เขาพูดเสียงนุ่ม พลางกางแขนออกกว้างราวกับเจ้าบ้านผู้มีอัธยาศัยดี “นาวิน สิริพงษ์ชัย ผู้โด่งดัง และผู้บัญชาการหลินผู้ทรงอำนาจ แขกผู้ทรงเกียรติจริงๆ”
หลินยกปืนพลาสม่าขึ้น จับไว้มั่นคง “ยกมือขึ้น ให้ฉันมองเห็น”
แต่มิสเตอร์วาเลนไทน์เพียงแค่หัวเราะ เสียงหัวเราะกลวงเปล่าดังก้องผ่านตู้เซิร์ฟเวอร์
“โอ้ ผู้บัญชาการ คุณจะยิงสิ่งที่เริ่มต้นไปแล้วไม่ได้หรอก”
ด้วยการสะบัดข้อมือเพียงครั้งเดียว สัญลักษณ์กลางห้องก็สว่างวาบขึ้นอย่างรุนแรง กรอบรูปดิจิทัลที่ลอยอยู่เหนือพื้นเริ่มส่องแสง หน้าจอแสดงภาพสถิตแตกพร่าพร้อมเงาที่บิดเบี้ยว
จากความมืดมิดภายในกรอบรูป เสียงแหลมแผ่วดังขึ้น เป็นเสียงของหลายสิบเสียงที่ซ้อนทับกัน ร้องคร่ำครวญอย่างสิ้นหวัง
“หน่วยอัลฟ่า! ระงับกรอบรูปดิจิทัล! หน่วยบราโว่ โฟกัสไปที่โหนดเซิร์ฟเวอร์—ตัดการเชื่อมต่อด้วยมือถ้าจำเป็น! นาวิน ไม่ว่าคุณจะวางแผนอะไร ทำมันเดี๋ยวนี้!” ผู้บัญชาการหลินตะโกนแข่งกับเสียงโกลาหล
Sponsored Ads
———————
ทำลายกุญแจศูนย์กลาง
ผมพุ่งไปที่เทอร์มินัลเซิร์ฟเวอร์หลัก กำสมุดใบลานไว้แน่นในมือข้างหนึ่ง ขณะที่มืออีกข้างจับด้ามมีดหมอไว้มั่น ดวงตาผมกวาดไปตามสัญลักษณ์ที่สลักอยู่ในโค้ดดิจิทัลบนหน้าจอ
“พวกเขาถูกผูกไว้กับจุดศูนย์กลาง!” ผมตะโกน “ถ้าผมสามารถทำลายสัญลักษณ์แม่กุญแจได้ เราสามารถทำลายการเชื่อมต่อนี้ได้!”
หลินยิงปืนพลาสม่าหลายครั้งไปยังสัญลักษณ์ที่เรืองแสงอยู่บนพื้น แต่ละนัดระเบิดออกด้วยพลังงานแตกกระจาย เสียงของเธอดังก้องผ่านระบบสื่อสาร
“เจ้าหน้าที่สมชาย! ล็อกโหนด 4! เจ้าหน้าที่มาลัย! ตัดพลังงานสำรองของเซิร์ฟเวอร์รอง! คนอื่นๆ คุมพื้นที่ไว้!”
มิสเตอร์วาเลนไทน์เอียงศีรษะเล็กน้อย รอยยิ้มของเขายังคงไม่เปลี่ยนแปลง เสียงของเขาแผ่วเบาและเยือกเย็น
“คุณยังคิดว่าคุณหยุดมันได้จริงๆ เหรอ?”
ด้วยการดีดนิ้วเพียงครั้งเดียว เซิร์ฟเวอร์หลักก็สว่างวาบ แสงสีแดงสดพวยพุ่งออกมาจากทุกวงจร และผมรู้สึกได้ถึงบางอย่าง—บางอย่างที่ใหญ่กว่าเรา กำลังก่อตัวขึ้นที่นี่
เสียงครวญครางจากกรอบรูปทวีความดังขึ้น เสียงของวิญญาณที่ติดอยู่ในพิธีกรรมอันบิดเบี้ยวนี้
[ความว่างเปล่า… จงโอบรับมัน…]
หลินตะโกนออกมาอีกครั้ง “นาวิน! เดี๋ยวนี้เลย!”
ผมเงยหน้ามองหน้าจอ ขณะที่เส้นสายของสัญลักษณ์สั่นไหวระหว่างการล่มสลายและการเปิดออกสู่บางสิ่งที่ไม่ควรจะตื่นขึ้นมา
Sponsored Ads
———————
ประตูมิติเปิดออก
เสียง “เปรี๊ยะ!” ดังลั่นขณะที่แกนกลางเซิร์ฟเวอร์แตกออก พลังงานสีขาวสว่างวาบระเบิดออกมาราวกับแสงจากดวงอาทิตย์ อากาศบิดเบี้ยวและกระเพื่อมออกไปเหมือนผิวน้ำที่ถูกขว้างด้วยก้อนหิน
“ทุกหน่วย! ถอยออกมาเดี๋ยวนี้!” หลินตะโกน เสียงของเธอเฉียบคม ทะลุผ่านความโกลาหล
เหนือสัญลักษณ์กลางพื้น กรอบรูปดิจิทัลทั้งหมดรวมตัวกันเป็นจุดแสงจ้าจุดเดียว—ประตูมิติส่องแสงวาบ ๆ และสั่นไหวอย่างบ้าคลั่ง ขอบของมันเต้นระริกด้วยพลังงานที่ไม่เสถียร
จากความมืดมิดภายในประตูมิตินั้น มีบางอย่างขยับเคลื่อนไหว เงาขนาดใหญ่ มืดสนิทและเต็มไปด้วยความมุ่งร้ายกดทับลงบนความเป็นจริง กระซิบถ้อยคำที่เลื้อยคลานผ่านผิวหนังของผม
[ความรักเป็นนิรันดร์… มาร่วมกับเรา…]
หลินยกปืนพลาสม่าขึ้นและยิงใส่ประตูมิติ แต่ลำแสงพลังงานหายไปในทันที ราวกับถูกดูดกลืนเข้าไปในความว่างเปล่า
“เจ้าหน้าที่มาลัย! เสริมโหนดที่ 6! อย่าปล่อยให้หมุดพวกนั้นล้มเด็ดขาด!” เสียงของหลินตึงเครียดและเฉียบขาด แต่ผมได้ยินความหวาดกลัวที่ซ่อนอยู่ลึกๆ
“หลิน!” ผมตะโกน กำสมุดใบลานไว้แน่น “ไอ้นี่มันไม่ได้แค่ดูดพลังงาน แต่มันกำลังสร้างเสถียรภาพ! ประตูมิติกำลังจะ—”
แต่ก่อนที่ผมจะพูดจบ แรงดึงดูดก็เริ่มขึ้น
Sponsored Ads
———————
พังทลาย
ประตูมิติเริ่มดูดอากาศเข้าไปด้วยเสียง “วูบ!” ที่ดังสนั่น ฝ่าเท้าของผมลื่นไถลไปบนพื้นคอนกรีต แรงดึงดูดมหาศาลลากผมไปสู่ความว่างเปล่านั้น
“ทุกคน! ยึดตำแหน่งให้มั่น!” หลินตะโกนขณะที่เธอเซถอยหลัง เสื้อโค้ทยาวของเธอสะบัดไปตามแรงลมที่หมุนวนอย่างบ้าคลั่ง
เจ้าหน้าที่หลายคนถูกกระชากออกจากตำแหน่ง หมุดปิดผนึกระเบิดเป็นประกายไฟ ปืนพลาสม่ายิงออกไปอย่างไม่เป็นทิศทาง ลำแสงพลังงานหายไปในความมืด
แรงดึงดูดยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น ผมล้มลงกับพื้น สมุดใบลานหลุดออกจากมือ ขณะที่ร่างของผมถูกลากไป
มือของหลินเอื้อมมาจับมือผมไว้ ปลายนิ้วของเธอแตะมือผมเพียงนิดเดียวก่อนที่—
โลกทั้งใบพลิกกลับตาลปัตร
แรงดึงดูดหยุดลงทันที
และทุกอย่างก็เปลี่ยนไป
Sponsored Ads
———————
ห้วงลึกดิจิทัล
ผมล้มลงกระแทกพื้นอย่างแรง ฝ่ามือกระทบเข้ากับพื้นผิวเย็นเยียบและเรียบลื่น
พื้นที่กว้างใหญ่ไพศาลทอดยาวออกไปไกลสุดลูกหูลูกตา—ผิวกระจกสีดำสะท้อนแสงระยิบระยับจากดวงดาวที่อยู่ไกลโพ้น
เหนือหัวผม ไม่มีท้องฟ้า มีเพียงความว่างเปล่าอันกดทับหนาหนัก ราวกับท้องฟ้าถูกแทนที่ด้วยผืนผ้าที่ไร้สีสัน
ข้าง ๆ ผม หลินค่อย ๆ ลุกขึ้นมาคุกเข่า มือของเธอยังกำปืนพลาสม่าไว้แน่น สายตาของเธอกวาดมองไปยังความเวิ้งว้างรอบตัวเรา
“นี่…” เธอพูดเสียงเบา ดวงตาเบิกกว้าง “นี่ไม่ใช่โกดังนั้น”
ผมลุกขึ้นยืนช้าๆ กำมีดหมอไว้แน่นราวกับเป็นเส้นชีวิตสุดท้าย
เสียงหนึ่งดังก้องไปทั่วพื้นที่กว้าง—เสียงฝีเท้าของรองเท้าหนังขัดมันกระทบกับพื้นกระจก
มิสเตอร์วาเลนไทน์
เขายืนอยู่ไกลออกไป ริมขอบของห้วงลึกอันว่างเปล่า เนคไทสีแดงของเขาไม่ขยับเขยื้อนแม้ลมหมุนวนรอบตัว
เสียงกระซิบดังขึ้นอีกครั้ง สอดแทรกผ่านความเงียบอันเย็นยะเยือก
[จงร่วมกับเรา… โอบรับความว่างเปล่า… ความรักเป็นนิรันดร์…]
หลินหันมาหาผม น้ำเสียงมั่นคงแต่แฝงความกังวลเอาไว้
“นาวิน… พวกเรากำลังอยู่ที่ไหนกันแน่?”
ผมถอนหายใจช้าๆ ลมหายใจของผมกลายเป็นหมอกบางในอากาศเย็นจัด
“บางสิ่งที่เก่าแก่… และหิวกระหายอย่างยิ่ง”