“ของโบราณ? มีค่ามากไหม?”
หมอถามขณะตรวจสอบศพ เชดที่กำลังดูรอยเลือดรอบๆ ก็ฟังด้วย เสียงฝนดังมาก ทำให้ทั้งสามคนต้องพูดเสียงดังขึ้น
เครื่องเงินในยุคนี้ยังคงเป็นสัญลักษณ์ของสถานะ ในเรื่องราวการผจญภัย มักมีฉากที่สาวใช้หนีไปกับคนรัก โดยขโมยเครื่องเงินของเจ้านายไปขายเพื่อเป็นค่าเดินทางและค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิต หากเครื่องเงินเป็นของโบราณ ก็จะมีค่ามากยิ่งขึ้น
“มีค่ามาก แม้แต่ขุนนางระดับเคานต์ที่มีเครื่องเงินสองชุดนี้ ก็สามารถใช้เป็นสมบัติประจำตระกูลได้”
มิสลูอิสแสดงความรู้ที่เธอมี ซึ่งน่าจะได้มาจากเจ้าหญิงอีกคนหนึ่ง
เชดหันไปถามต่อ
“นั่นแปลก หมอไม่ได้บอกว่าผู้จัดการโรงงานคนนี้เป็นเพียงตัวแทนที่ถือครองทรัพย์สินของ [เลือดปรอท] ในโทเบสก์หรือ? เขาเองไม่น่าจะร่ำรวย”
จากนั้นเขามองไปที่ศพของเด็กชายด้วยความสงสัย เขามีข้อสันนิษฐาน
Sponsored Ads
“หรือว่า…”
“ยังบอกไม่ได้ เดินหน้าต่อไป”
หมอจัดศพให้กลับสู่ตำแหน่งเดิม และสวดมนต์เบาๆ ให้เด็กชายท่ามกลางเสียงฝนที่กระทบกระจก จากนั้นส่งสัญญาณให้ทั้งสองคนออกไปได้
หลังจากออกจากห้องครัว รอยเลือดนำไปสู่ห้องนั่งเล่น แล้วเดินไปยังบันได
บนบันไดเป็นฉากที่โหดร้ายมาก ศพของหญิงชราและแม่บ้านวัยกลางคนกอดกันอยู่ เลือดข้นไหลลงมาตามพรมบนบันได ทำให้ทั้งสามคนแทบไม่มีที่ยืน
ดร.ชไนเดอร์ตรวจสอบแล้วพบว่า ทั้งสองคนไม่มีบาดแผลภายนอกที่ชัดเจน เลือดเหล่านี้ดูเหมือนจะไหลออกมาจากปาก
“มันเหมือนกับคำสาป”
มิสลูอิสตัดสิน หมอก็พยักหน้า
“ฉันก็คิดว่าเป็นคำสาปที่เกิดจากเวทมนตร์ เข้าไปแล้วฆ่าคนรับใช้ด้วยการแทง จากนั้นเดินเข้าครัวฆ่าเด็กชาย แล้วกลับมาที่ห้องนั่งเล่น พบผู้หญิงสองคนที่ลงมาจากบันได ใช้คาถาหรือเวทมนตร์ทำให้พวกเธออาเจียนเลือดตาย…ฆาตกรเป็นนักเวทวงแหวน ไม่ต้องสงสัยเลย”
เชดมองไปรอบๆ อย่างระมัดระวัง ป้องกันไม่ให้มีอะไรโผล่ออกมาจากความมืด แล้วก็สะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงฟ้าร้องอีกครั้ง
Sponsored Ads
‘ถ้ามีอะไรผิดปกติ อย่าลืมเตือนฉัน’
เขาพูดเบาๆ ในใจ
[ไม่มีปัญหา]
เสียงกระซิบตอบกลับมา
อาจเป็นเพราะปริมาณเลือดที่ไหลออกมาจากศพทั้งสองมากเกินไป ทำให้ฆาตกรมีรอยเลือดติดที่รองเท้า รอยเลือดจางๆ ที่ต้องอาศัยสายตาของเชดในการแยกแยะ รอยเลือดที่รองเท้ามีแต่ทิศทางขึ้นไปชั้นบน ไม่มีทิศทางลงไปชั้นล่าง
ขณะที่สองคนกำลังตรวจสอบศพ พวกเขาพบสิ่งใหม่ หมอพบสร้อยคอมุกในคอของแม่บ้านวัยกลางคน มิสลูอิสประเมินค่าทันทีว่าสร้อยคอนี้มีมูลค่าอย่างน้อย 3000 ปอนด์
“นี่ไม่ใช่เครื่องประดับที่เจ้าของโรงงานคนนี้จะสามารถจ่ายได้แน่นอน”
เชดกล่าว จากนั้นทั้งสามคนก็เดินขึ้นไปชั้นบนต่อ
ไม่มีใครเสนอให้เอาสร้อยคอหรือเครื่องเงินไป พวกเขาไม่ใช่โจรหรือขโมย แม้ว่าจะบุกเข้ามาในสถานที่เกิดเหตุในคืนฝนตกนี้และทำลายเบาะแส แต่หมอ นักเขียน และผู้ข้ามโลกก็มีขีดจำกัดของตนเอง
เสียงฝนกลบเสียงฝีเท้า ทั้งสามคนมาถึงชั้นสอง รอยเลือดนำไปยังส่วนในของชั้นนี้ เด็กหญิงอายุสิบหกปีที่มีฝ้ากระนอนหงายอยู่กลางทางเดิน เธอมีหน้าตาคล้ายกับแม่บ้านวัยกลางคนที่อยู่บนบันได สาเหตุการตายเหมือนกับคนรับใช้ที่ประตู ถูกอาวุธคมแทงทะลุหัวใจโดยตรง
เชดไม่รู้จะพูดอะไรกับฉากที่โหดร้ายนี้ หมอคุกเข่าข้างหนึ่งข้างศพและสวดมนต์ให้เธอ เชดจึงรู้ว่า ดร.บิล ชไนเดอร์นับถือเทพเจ้าผู้ชอบธรรม [สตรีแห่งการสร้าง] หรือ [เทพเจ้าแห่งการสร้างและการทำลายล้าง]
Sponsored Ads
เทพเจ้าผู้ชอบธรรมองค์นี้มีอำนาจครอบคลุม “ความตาย” เมื่อเชดมาถึงโลกนี้ครั้งแรก คนที่ขนย้ายศพของนักสืบสแปร์โรว์ ก็มีสัญลักษณ์ของเทพเจ้าที่แท้จริงองค์นี้
คุณหนูรูอิซ่ากำลังพยายามระงับความโกรธของเธอ
“นี่มันโหดร้ายเกินไป ใครกันที่ทำเรื่องแบบนี้?”
หากพวกเขาสามารถหาฆาตกรเจอ สาวผมบลอนด์ก็คงไม่แสดงความเมตตาใดๆ
ท่ามกลางเสียงฝนที่เริ่มรุนแรงขึ้น ทั้งสามคนตามแสงจันทร์สีเงินที่ปลายนิ้วของเชด เข้าไปในห้องนอนสามห้องบนชั้นสอง ฆาตกรดูเหมือนจะกำลังค้นหาอะไรบางอย่าง แต่ไม่มีร่องรอยการหยุดพัก
จากนั้นรอยเลือดนำพวกเขาไปยังชั้นสาม ซึ่งเป็นชั้นบนสุดของบ้านยกเว้นห้องใต้หลังคา หน้าต่างที่ตรงกับบันไดชั้นสามเปิดอยู่ ฝนสาดเข้ามาตามลมพัดเข้ามาในทางเดิน ผ้าม่านปลิวไสว ฉากนี้ในคืนฝนตกหนักดูน่ากลัวเป็นพิเศษ
“รอยเลือดนำไปที่ทางเดิน แต่มีรอยเลือดอีกเส้นหนึ่งที่หายไปใกล้หน้าต่าง”
เชดบอกข้อมูลที่เขาเห็น
Sponsored Ads
“ฆาตกรขึ้นมาชั้นสาม ทำอะไรบางอย่าง แล้วออกไปทางหน้าต่าง?”
มิสลูอิสที่อยู่ข้างหลังเชดสันนิษฐาน ขณะที่เข้ามาในบ้าน แม้จะไม่มีการตกลงล่วงหน้า แต่หมอก็เดินตามเชด ส่วนนักเขียนสาวเดินตามหลัง
หมอระมัดระวังเข้าไปใกล้หน้าต่างและมองออกไปข้างนอก ในคืนฝนตกหนักมืดสนิท แม้แต่แสงไฟจากย่านใกล้เคียงก็ไม่สามารถทะลุผ่านม่านฝนได้ ฝนที่ตกหนักเช่นนี้จะล้างรอยเลือดออกไป เชดไม่สามารถติดตามรอยเลือดจากนอกหน้าต่างได้
“ไปดูที่ชั้นสามก่อน ดูว่าเขาทำอะไร”
หมอกล่าว ขมวดคิ้วมองหน้าต่าง จากนั้นส่งสัญญาณให้มิสลูอิส มิสลูอิสเข้าใจทันทีและพยายามส่งสัญญาณให้เชด แต่เชดก็แสดงสีหน้าว่า “เข้าใจแล้ว” อยู่แล้ว
สาวผมบลอนด์ยิ้มให้เขา ฆาตกรประเมินสิ่งที่ “ดวงตา” ของเชดมองเห็นต่ำเกินไปอย่างเห็นได้ชัด
ตามรอยเลือดไปยังชั้นสาม เมื่อเข้าไปในห้องหนังสือ พวกเขาพบศพของเจ้าของบ้าน มิสเตอร์พอนตัน เจ้าของโรงงานสกรู ไฟตะเกียงแก๊สบนผนังห้องหนังสือปิดอยู่ แต่โคมไฟแก๊สบนโต๊ะเปิดอยู่ ส่องแสงไปที่ศพพอดี
มิสเตอร์พอนตันสวมเสื้อเชิ้ตลำลอง นั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานและฟุบหน้าลงบนโต๊ะ เชดยืนอยู่ที่ประตูห้องหนังสือ มิสลูอิสไปตรวจสอบกระดาษบนโต๊ะ หมอตรวจสอบศพ
Sponsored Ads
“สาเหตุการตายต่างจากคนที่ชั้นล่าง น่าจะถูกคาถา [ขยี้สมอง] ทำลายสมอง ฉันสังเกตเห็นรอยที่หน้าผากของเขา คาถานี้มีหลักการคล้ายกับ [คาถาระเบิดศพ] ซึ่งมีชื่อเสียงมาก ดังนั้น เว้นแต่จะมีการสื่อสารกับวิญญาณ ไม่มีใครรู้ว่ามีอะไรอยู่ในหัวของผู้ตาย บนโต๊ะมีอะไร?”
“สมุดบัญชี”
มิสลูอิสกล่าว
เสียงฝนกระทบหน้าต่าง เสียงฟ้าร้องดังขึ้นเหนือหัว เชดมองไปที่ปลายทางเดินอีกด้านหนึ่งอย่างรวดเร็ว
“ฉันเหมือนเห็นเงาคน!”
“เงาคน? ระวังหน่อย อย่าเพิ่งบุ่มบ่าม”
หมอขมวดคิ้วเดินไปที่ประตูห้องหนังสือ ต้องการไปดูที่ปลายทางเดินพร้อมกับเชด มิสลูอิสก้มหน้าตรวจสอบเอกสารบนโต๊ะต่อ
ฟ้าแลบผ่านท้องฟ้า ในช่วงเวลาที่เสียงฟ้าร้องยังไม่ดังขึ้น ภายในห้องหนังสือที่ถูกแสงฟ้าแลบส่องสว่าง เงาของชายคนหนึ่งที่ถือมีดสั้นปรากฏขึ้นเงียบๆ อยู่ข้างหลังมิสลูอิส
เขายกมีดสั้นที่คมกริบขึ้นเตรียมแทงไปที่หลังของนักเขียนสาว
Sponsored Ads
