NOVEL / Whispering Verse · October 19, 2024 0

223- ป้ายบอกทางที่สอง

เมื่อเชดลืมตาตื่นขึ้นในเช้าวันจันทร์ เสียงแรกที่เขาได้ยินคือเสียงฝนกระทบหน้าต่างห้องนอน ส่วนในหัวของเขายังคงนึกถึงงานเลี้ยงเมื่อคืนวาน ราวกับว่าเขายังคงได้กลิ่นน้ำหอมจากเส้นผมของสาวๆ อยู่เลย

Sponsored Ads

คงเป็นเพราะการเต้นรำในงานเลี้ยงนั้น ทำให้เมื่อคืนเขาฝันประหลาด

ในความฝัน ช่วงเริ่มต้นมีเสียงแซกโซโฟนไพเราะเป็นพื้นหลัง เขากำลังเล่นไพ่โรดส์กับใครบางคนที่มองไม่ชัด จากนั้นมิสบาสก์ก็โผล่ออกมาจากกองไพ่ของเชด เธอสะบัดไพ่ทั้งกองขึ้นไปบนอากาศราวกับหิมะ แล้วดึงเขามาเต้นรำท่ามกลางฝนไพ่ที่โปรยลงมา แต่ในขณะที่กำลังเต้นอยู่นั้น สาวน้อยผู้มีผมสีน้ำตาลสวยกลับกลายเป็นมีอาไปเสียอย่างนั้น

แต่ไม่ใช่มีอา ซานโกลด์ ที่เขายังไม่เคยเจอ แต่กลายเป็นมีอาเจ้าแมวขี้เกียจที่ตื่นตกใจง่ายแทน

เมื่อเชดรู้ตัวว่ากำลังเต้นรำกับแมวยักษ์ เขาก็ตกใจอย่างมากในฝัน แล้วเพราะความแปลกประหลาดของสถานการณ์นั้น ทำให้เขารู้ทันทีว่ากำลังฝันอยู่

ทันทีที่เขาตระหนักได้ เขาก็กลับมายืนอยู่บนทางเดินคุ้นเคยในฝัน มองขึ้นไปบนท้องฟ้าและเห็นพระจันทร์สีเงินขนาดใหญ่

เพราะความฝันนั้นเต็มไปด้วยความตื่นเต้นมากเกินไป เมื่อตื่นขึ้นเขาจึงยังรู้สึกปวดหัวเล็กน้อย

Sponsored Ads

หลังจากลุกจากเตียงและจัดการกับอารมณ์ของตนเอง เขาเริ่มวางแผนสำหรับวันใหม่ เจ้าแมวตัวน้อยที่นอนอยู่ข้างหมอนถูกการเคลื่อนไหวของเชดปลุกให้ตื่น มันกระโดดขึ้นบนผ้าห่มแล้วเหยียดตัวออก สองขาหน้าเหยียดไปข้างหน้า ส่วนตัวครึ่งหลังยกสูง ทำท่าเหยียดยืดอย่างสบายๆ จากนั้นก็ร้องเหมียวๆ พร้อมกับเดินไปมาบนผ้าห่ม ดูท่าทางมันคงอยากให้เชดรีบเตรียมอาหารเช้า

“อรุณสวัสดิ์นะ มีอา…”

เขาพูดพร้อมกับนึกถึงความฝันแปลกๆ เมื่อคืน

“เธอในรูปร่างแบบนี้น่ารักที่สุดแล้ว”

เขาพูดออกมาอย่างโล่งใจ

“เหมียว?”

แมวกำลังใช้หัวเล็กๆ ของมันถูมือเชดเบาๆ

ฤดูร้อนที่โทเบสก์ มักเป็นช่วงฤดูฝน เมืองหมอกที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของทวีปเก่า มักจะได้รับอิทธิพลจากอากาศเย็นที่พัดมาจากทางเหนืออย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังไม่มีเทือกเขาสูงใหญ่จากชายฝั่งตะวันตกจนถึงโทเบสก์มาขวางทาง ทำให้กระแสลมอุ่นจากมหาสมุทรสามารถพัดเข้ามาในพื้นที่ได้อย่างไม่ติดขัด เมื่อลมอุ่นปะทะกับกระแสลมเย็นจากทางเหนือที่โทเบสก์ ทำให้เกิดสภาพอากาศแบบมรสุมที่มีฝนตกชุกในช่วงฤดูร้อน

Sponsored Ads

หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จ เชดอ่านหนังสือพิมพ์สักพัก และเมื่อเห็นว่าฝนด้านนอกยังคงตกปรอยๆ ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด เขาจึงอุ้มมีอาและกางร่มออกไปข้างนอก

แมวสีส้มตัวนี้ไม่ค่อยออกไปข้างนอกในวันที่ฝนตก มันจึงมุดตัวอยู่ในอ้อมแขนของเชดตลอดการเดินทาง

เมื่อเชดเคาะประตูที่ถนนปากกาขนนก และถูกมิสลูอิสพาไปที่อพาร์ตเมนต์ของเธอ เจ้าแมวก็เริ่มผ่อนคลายและมองไปรอบๆ ด้วยความสงสัยเล็กน้อยในสิ่งแวดล้อมใหม่

“คุณอัศวินมาหาฉันแต่เช้า มีเรื่องอะไรงั้นหรือ?”

วันนี้ฝนตก มิสลูอิสจึงไม่มีแผนจะออกไปข้างนอก เธอสวมชุดลำลองและต้อนรับเชดในห้องนั่งเล่น คำพูดแรกของเธอเต็มไปด้วยการหยอกล้อ เชดเห็นหนังสือพิมพ์ที่ถูกเปิดอยู่ที่หน้าสอง บนนั้นเป็นภาพของเขาขณะได้รับตำแหน่งอัศวิน

ด้วยข้อจำกัดของการพิมพ์และเทคโนโลยีการถ่ายภาพ ภาพนั้นจึงไม่ค่อยชัดเจนมากนัก เว้นแต่เชดจะสวมชุดนี้ไปเดินเพ่นพ่านที่ไหน คนแปลกหน้าคงจะไม่สามารถจำเขาได้จากภาพในหนังสือพิมพ์

และในภาพนั้น กษัตริย์ดูเหมือนจะสูงกว่าเชดเสียอีก

“ฉันควรจะยินดีกับคุณดีไหม? แม้ว่าตำแหน่งอัศวินจะหายไปหลายร้อยปีแล้ว และปัจจุบันผู้คนไม่ถือว่าอัศวินเป็นขุนนางอีกต่อไป แต่ก็ถือว่าคุณก้าวไปอีกขั้นแล้วนะ”

หญิงสาวผมสีทองกำลังเตรียมน้ำชาให้เชดพร้อมกับถามว่า

“ฉันควรจะเป็นฝ่ายขอบคุณคุณมากกว่า มิสลูอิส ฉันได้ยินจากมิสคารินาว่า เป็นเจ้าหญิงเรเซีย …”

“เธอแค่ต้องการขอบคุณที่คุณช่วยชีวิตแม่ของเธอ”

มิสลูอิสพูดขึ้น จากนั้นเธอก็สบตากับแมวที่เชดอุ้มอยู่ เจ้าแมวส้มตัวน้อยส่งเสียงเบาๆ ออกมา เป็นการขู่ศัตรูตามสัญชาตญาณของสัตว์

Sponsored Ads

เชดจึงเข้าสู่หัวข้อสำคัญของการมาวันนี้

“วันนี้ฉันไม่ได้มาขอบคุณอย่างเดียว แต่มีเรื่องอยากขอให้คุณช่วยหน่อย รู้สึกเกรงใจจริงๆ”

เขาวางแมวที่อุ้มอยู่บนที่พักแขนของโซฟา เจ้าแมวส้มร้องเบาๆ อย่างไม่พอใจ ส่ายหางไปมาแล้วเอาหางตบแขนของเชด เชดมองแมวแล้วพูดกับมิสลูอิสที่นั่งอยู่ตรงข้ามว่า

“วันนี้ฉันต้องเดินทางไกล ไม่แน่ใจว่าจะกลับมาเมื่อไหร่ อาจจะกลับมาเร็ว หรืออาจจะใช้เวลาอีกสักหนึ่งถึงสองวัน”

เชดไม่แน่ใจว่าระยะเวลารอคอยของรูปปั้นเทพเจ้าโบราณ [ช่องว่างแห่งบรรพกาล] ในชั้นใต้ดินจะนานแค่ไหน แต่เพราะคำทำนายของ [แม่มดพระจันทร์แดง] เขาคิดว่า แม้รูปปั้นจะมีเวลาระหว่างการใช้งาน แต่คงไม่ยาวนานเกินไป

“ดังนั้น ฉันจึงอยากให้คุณช่วยดูแลแมวตัวนี้ชั่วคราว แน่นอนว่าถ้าคุณไม่สะดวกก็ไม่เป็นไร บาทหลวงออกัสตัสบอกว่าพวกแม่ชีที่โบสถ์แห่งแสงอรุณก็สามารถช่วยดูแลมันได้ แต่ฉันคิดว่าคุณน่าจะไว้ใจได้มากกว่า”

พูดจบเขาก็ลูบหัวเจ้าแมวมีอาเบาๆ เจ้าแมวนั่งขดตัวหลับตาพริ้มอย่างสบายใจ

“ดูแลแมวตัวนี้ชั่วคราวเหรอ? ไม่มีปัญหา”

มิสลูอิสคิดสักพักแล้วพยักหน้า เหมือนว่านี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับเธอ

“นี่ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอะไร แต่คุณก็ควรรีบกลับมานะ ถึงแม้ว่าฉันจะรู้ว่าคุณคงไม่บอกจุดหมายปลายทางของคุณ แต่คงมีความเสี่ยงใช่ไหม?”

“แน่นอน ทำอะไรก็เสี่ยงทั้งนั้น”

Sponsored Ads

เชดตอบพร้อมหยิบซองจดหมายสีเหลืองออกมาวางบนโต๊ะน้ำชา

“ในซองนี้มีค่าดูแลแมวมีอา ไม่ต้องปฏิเสธนะ เพราะฉันเองก็ได้รับเงินจากลูกค้ามาดูแลมัน”

มิสลูอิสไม่ได้ใส่ใจเรื่องเงิน เธอมองเชดที่ถอนหายใจเล็กน้อยแล้วพูดว่า

“เชด ถ้ามีอะไรอันตรายจริงๆ อย่าลืมมาหาฉันล่ะ”

“แน่นอน ฉันจะกลับมาให้เร็วที่สุด ไม่ต้องห่วง”

เขาลูบหัวแมวมีอาอีกครั้งด้วยความอาลัยอาวรณ์ แล้วก็ลุกขึ้นเตรียมจะออกไป แมวส้มสังเกตว่าเชดกำลังจะไป จึงกระโดดเกาะเสื้อเขาเพื่อให้เขาอุ้ม

แต่คราวนี้เชดไม่ได้อุ้มมันขึ้นมา

“มีอา ฉันจะกลับมาเร็วๆ นี้ เธออยู่ที่นี่สักพักได้ไหม?”

แมวมีอาอาจไม่เข้าใจคำพูดของมนุษย์ แต่ดูเหมือนว่ามันจะเข้าใจว่าเชดจะไม่พามันไปด้วย เมื่อเชดออกจากอพาร์ตเมนต์ของมิสลูอิส แมวส้มก็อยู่ในอ้อมแขนของหญิงสาวผมทอง มันจ้องมองเชดที่เดินออกไปพร้อมร่มอย่างน่าสงสาร

“เหมียว~”

เสียงร้องอย่างน้อยใจของมันดังไกลออกไปแม้จะมีเสียงฝนตกก็ตาม มิสลูอิสหัวเราะเบาๆ ขณะอุ้มแมวในอ้อมแขน ส่วนเชดก็หันกลับมามองแล้วโบกมือลาทั้งสอง ก่อนจะเดินจากไปจริงๆ

Sponsored Ads

หลังจากหาคนมาช่วยดูแลมีอาชั่วคราวได้แล้ว เชดก็เริ่มต้นแผนการเดินทางของเขาอย่างเป็นทางการ เพราะเขาไม่รู้ว่าตัวเองจะไปที่ไหน เพื่อความปลอดภัย เขาจึงต้องจัดเตรียม [เศษซาก] ของเขาและเลือกสิ่งที่เหมาะสมติดตัวไปด้วย

[ตาซ้ายของท่านเคานต์] และ [อีกหน้านึง] แน่นอนว่าต้องทิ้งไว้ที่บ้าน ส่วน [ปืนแห่งความกรุณา] [เหรียญเลือดโจรสลัด] และ [ลูกเต๋าแห่งโชคชะตายี่สิบด้าน] ต้องพกติดตัวไป สำหรับต้นฉบับของกวีโคเฮนที่สามารถติดต่อกับสถาบันได้ เชดคิดอยู่สักพักแล้วก็ตัดสินใจพกติดตัวไปด้วยเผื่อเหตุฉุกเฉิน

นอกจากสิ่งของเหล่านี้ เขายังเตรียมขากบที่ยังใช้ไม่หมดและเข็มกลัดตราสัญลักษณ์ดวงอาทิตย์ไว้ด้วย ส่วนไพ่โรดส์ เชดคิดอยู่สักพักก่อนจะตัดสินใจพกติดตัวไปเช่นกัน

ของทั้งหมดนี้ถูกเก็บไว้ในกระเป๋าถือ นอกจากนั้นเขายังเตรียมร่ม เชือกป่านที่แข็งแรง มีดทำครัวคมๆ สักสองสามเล่ม ไม้ขีดไฟ เทียน และเบคอนรมควันอีกหนึ่งก้อนเต็ม

เมื่อเห็นว่ากระเป๋ายังไม่เต็ม เขาจึงยัดเสื้อผ้าที่อบอุ่นสำหรับกันหนาวลงไปอีกชุด แล้วจึงรู้สึกโล่งใจ

เมื่อเตรียมตัวเสร็จเรียบร้อย เวลาก็ล่วงมาถึงสิบโมงเช้า เชดล็อกประตูชั้นล่างจากด้านใน จากนั้นเดินผ่านประตูเล็กที่อยู่หลังบันไดไปยังชั้นใต้ดิน

วงแหวนแห่งชีวิตปรากฏขึ้น ทำให้กำแพงที่ซ่อนอยู่หายไป เมื่อเข้าสู่พื้นที่หิมะทรงวงกลม เขาหยิบคริสตัลสีขาวจากกล่องเล็กๆ ที่วางอยู่ข้างกำแพง

Sponsored Ads

เชดหายใจลึกเพื่อปรับตัวเองให้พร้อม จากนั้นเขาเดินไปใกล้รูปปั้นชายสองหัวและยื่นมือแตะลงบนรูปปั้น

“ขอให้ปฐมแห่งช่องว่างคุ้มครองข้าในช่องว่างอันไม่มีที่สิ้นสุด”

ทันใดนั้น หมอกสีขาวก็พุ่งเข้ามาห่อหุ้มตัวเชด เขาเข้าสู่โลกที่ถูกหมอกสีขาวปกคลุมอีกครั้ง และในที่สุดก็ได้ยินเสียงกระซิบดังขึ้นข้างหู

[ผู้ข้ามโลก คุณได้เข้าสู่ ‘ช่องว่างวงกต’ แล้ว]

[สาส์นจากเทพเจ้าโบราณ “ผู้ชี้นำเสื้อคลุมขาว”]

[ป้ายบอกทางช่องว่างที่มีอยู่: 1]

“ข้าขอถวายคริสตัลสีขาวนี้”

โดยไม่ต้องคิดอะไรมาก เชดยกคริสตัลสีขาวขึ้นเหนือศีรษะ ทันทีที่พูดจบ มันก็หายไปจากมือของเชดอย่างไร้เสียง ราวกับมันละลายเข้ากับหมอกหนานี้

แต่ถึงแม้คริสตัลสีขาวจะหายไป บนเส้นทางตรงหน้าก็ยังคงมีเพียงป้ายไม้ที่แสดงว่าเป็น “จัตุรัสเซนต์เทเรซา ” อยู่เท่านั้น

[ได้รับข้อมูลใหม่ สามารถค้นหาป้ายบอกทางใหม่ได้ โปรดเลือกทิศทาง]

“ทิศทาง?”

เชดยืนอยู่ท่ามกลางหมอกนี้และคิดอยู่ครู่หนึ่ง

“สามารถเลือกได้แค่ทิศทางใช่ไหม? แล้วระยะทางล่ะ สามารถเลือกได้หรือเปล่า?”

[ข้อมูลจากพื้นที่นี้: คุณสามารถระบุทิศทางอย่างคร่าวๆ ได้ จากนั้นพื้นที่นี้จะเชื่อมต่อไปยังรูปปั้นของเทพเจ้าโบราณ ‘ช่องว่างแห่งบรรพกาล’ อีกรูปหนึ่งแบบสุ่ม]

เชดไม่ได้กังวลว่าจะเจอผู้ใช้รูปปั้นคนอื่น แต่เขากังวลเรื่องอื่นมากกว่า

“สถาบันห้ามนักเวทวงแหวนเดินทางไปยังทวีปใหม่ ถ้าฉันเผลอไปที่นั่นจะทำยังไง?”

[การเชื่อมต่อรูปปั้นของเทพโบราณแบบสุ่ม ยิ่งใกล้เท่าไหร่โอกาสเชื่อมต่อยิ่งมากขึ้น โอกาสที่คุณจะไปถึงก้นทะเลยังมีมากกว่าจะไปถึงทวีปใหม่]

Sponsored Ads

“เอาล่ะ งั้นทิศตะวันตก”

เชดพูดขึ้นแบบไม่คิดอะไรมาก เพราะทิศทางไหนก็ไม่ต่างกันสำหรับเขา เขาแค่ต้องการทดลองดูว่า ที่นี่จะทำอะไรได้บ้าง

[รูปปั้นเทพเจ้าโบราณ-ผู้ชี้นำเสื้อคลุมขาว ได้รับเครื่องถวายของคุณ]

[กำลังเชื่อมโยงป้ายบอกทางแบบสุ่ม]

[เชื่อมต่อสำเร็จ ป้ายบอกทางช่องว่างที่มีอยู่: 2]

บนเส้นทางท่ามกลางหมอกปรากฏเครื่องหมายป้ายบอกทางใหม่ขึ้นอย่างฉับพลัน มันยังคงมีรูปลักษณ์เก่าโทรมเหมือนถูกกาลเวลาทำลายมานานนับศตวรรษ ป้ายลูกศรชี้ไปทางทิศตะวันตก

เชดเดินเร็วๆ เข้าไปยืนข้างป้ายถือกระเป๋าเดินทาง รออยู่ครู่หนึ่งเพื่อยืนยันว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น จากนั้นจึงยื่นมือแตะป้ายบอกทางใหม่

[ผู้ชี้นำจะนำทางคุณ]

หมอกสีขาวรอบตัวค่อยๆ จางหายไป