NOVEL / Whispering Verse · November 24, 2024 0

226- ผู้จัดส่งคลังสินค้า

หากการเดินทางครั้งนี้ราบรื่นและไม่มีเรื่องใดๆ เกิดขึ้นตามมา เชดก็ตั้งใจจะใช้เวลาที่เหลือในระหว่างวันเดินสำรวจเมืองนี้สักหน่อย จากนั้นจะละทิ้งการสำรวจในท่าเรือน้ำเย็นไปชั่วคราว แล้วกลับไปที่โทเบสก์เพื่อหาวิธีเสริมพลังในระยะสั้น

Sponsored Ads

แม้ว่ามิสดานิสเต้จะทำนายว่าเชดจำเป็นต้องออกเดินทางไกล แต่การทำนายก็ไม่จำเป็นต้องถูกต้องเสมอไป เขาไม่จำเป็นต้องเสียเวลาในเมืองที่ไม่คุ้นเคยนานเกินไป

ที่เขาสามารถจัดการงานที่ได้รับมอบหมายในเมืองท่าที่ไกลแสนไกลนี้ได้ เป็นเพราะญาติของคุณนายเลอแมร์ที่เสียชีวิต คือมิสเตอร์เลอแมร์ ได้ฝากพินัยกรรมไว้กับเพื่อนของเขา ซึ่งอาศัยอยู่ในเมืองนี้

แน่นอนว่านี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ มิสเตอร์เลอแมร์ผู้ล่วงลับเคยเป็นลูกเรือที่เดินทางระหว่างโลกใหม่กับโลกเก่า และท่าเรือน้ำเย็นต้องเป็นสถานที่ที่เขามักจะแวะพักบ่อยๆ เพื่อนของเขาน่าจะมีความเกี่ยวข้องกับอาชีพลูกเรืออย่างแน่นแฟ้น และเมื่อสนิทกันมากพอที่จะฝากพินัยกรรมไว้ จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่เพื่อนของเขาจะอาศัยอยู่ที่นี่

ขณะที่ออกจากโรงแรม เชดยังไม่ลืมที่จะสวมหมวก เพื่อป้องกันไม่ให้ใครจำเขาได้ แน่นอนว่าเมืองนี้ไม่มีใครเคยเห็นหน้าเชด และถึงแม้จะมีใครจำเขาได้จากรูปในหนังสือพิมพ์ ตราบใดที่เขาไม่ยอมรับว่าเคยมาเยือนท่าเรือน้ำเย็น ก็จะไม่เกิดปัญหาใดๆ

สำหรับจุดหมายของการเดินทางครั้งนี้ แม้ว่าเชดจะไม่มีความสามารถในการจดจำทุกสิ่งทุกอย่างได้อย่างแม่นยำ แต่เขามักจะพกสมุดบันทึกติดตัวไว้ และในนั้นมีข้อมูลที่ผู้ว่าจ้างบอกไว้ในวันที่มอบหมายงานให้

Sponsored Ads

เพื่อนของมิสเตอร์เลอแมร์อาศัยอยู่ในเขตท่าเรือ ดูเหมือนว่าจะเป็นข้าราชการตัวเล็กๆ ของรัฐบาลท้องถิ่น ตอนที่เชดออกจากโรงแรม เขาถามทางจนรู้ว่าการเดินไปที่นั่นใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมง

เชดไม่รู้ชื่อของชายคนนั้น แต่คุณนายเลอแมร์บอกว่าเขาอาศัยอยู่ที่ซอยนางเงือก หมายเลข 5 ในเขตท่าเรือ จากชื่อซอยแล้ว ดูเหมือนว่านั่นจะเป็นซอยที่ดูดีพอสมควร

แม้จะเป็นประเทศเดียวกัน แต่แต่ละเมืองก็มีสถาปัตยกรรมที่แตกต่างกัน เมืองหมอกในเขตแผ่นดินใหญ่และเมืองท่าชายฝั่งตะวันตกก็มีรูปแบบอาคารที่ต่างกันอย่างเห็นได้ชัด เขาเดินถือร่มไปในเมืองที่ไม่คุ้นเคย ทางที่ควรจะใช้เวลาเดินเพียงครึ่งชั่วโมง แต่เชดเดินไปหยุดไปจนใช้เวลาเกือบหนึ่งชั่วโมงถึงจะถึงจุดหมาย

ระหว่างทางเขาเห็นเด็กๆ วิ่งเล่นท่ามกลางสายฝนด้วยรอยยิ้ม เห็นคนงานที่ยังคงขนย้ายสิ่งของที่ท่าเรือแม้จะมีฝนตกหนัก เห็นขุนนางเก่าแก่ขับรถม้าผ่านไปอย่างรวดเร็ว และเห็นขอทานนั่งกอดตัวเองอยู่ใต้ชายคาของร้านค้าเพื่อหลบฝน

เมืองนี้ทั้งเจริญรุ่งเรืองและเต็มไปด้วยความเสื่อมโทรม แม้เมืองนี้จะอยู่ห่างไกลจากโทเบสก์เป็นพันๆ ไมล์ แต่เชดกลับมีความเห็นเหมือนกันกับทั้งสองเมือง

“เมืองที่มีสองด้านในยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ สุดท้ายจะมุ่งสู่ความเจริญรุ่งเรือง หรือไม่ก็ร่วงโรยไปในกระแสการเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่กว่า”

Sponsored Ads

ย่านท่าเรือนั้นระบบระบายน้ำบนถนนหลักทำได้ดีพอสมควรเพื่อสะดวกต่อการขนส่งสินค้า แต่เมื่อเข้าไปในตรอกแคบๆ โคลนและสิ่งที่เชดไม่อยากจะคาดเดาก็แทบจะท่วมสูงถึงขอบรองเท้าบูท

ซอยนางเงือกอยู่ติดกับถนนใหญ่ เดินเข้าไปที่ประตูบานที่ห้าก็คือจุดหมายปลายทาง นั่นเป็นอาคารสองชั้นที่ผนังด้านนอกหลุดร่อนออกไป มอสสีเขียวขึ้นตามขอบผนังที่ติดกับถนน หน้าต่างข้างประตูไม่มีผ้าม่าน และมองเห็นต้นไม้ที่เหี่ยวเฉาวางอยู่บนขอบหน้าต่าง ดูเหมือนว่ามันจะตายไปนานแล้ว

ด้วยความสุภาพ เชดจึงไม่มองเข้าไปในหน้าต่างของบ้านคนอื่น แต่เขากางร่มแล้วเดินขึ้นบันไดไปยังชายคา จากนั้นเคาะประตูเบาๆ และรออย่างอดทน

“ไม่รู้ว่ามีอาอยู่กับมิสลูอิสจะเป็นยังไงบ้าง”

วันนี้ที่โทเบสก์และท่าเรือน้ำเย็นต่างก็มีฝนตก แต่ที่นี่ฝนดูจะหนักกว่า ลมพัดผ่านเมือง นำกลิ่นอายของทะเลเข้าสู่จมูก คนที่อาศัยอยู่ที่นี่มานานน่าจะชินกับกลิ่นแบบนี้แล้ว

ท้ายที่สุดแล้ว ที่นี่ไม่ได้มีสภาพอากาศหมอกหนาทึบตลอดปีเหมือนที่โทเบสก์

ไม่นานก็มีคนมาเปิดประตู เมื่อประตูเปิดออก เชดก็พบกับชายกลางคนรูปร่างสูงผอมไว้หนวด

“ขอโทษนะ ไม่ทราบว่ามิสเตอร์โจนาธาน เลอแมร์ อยู่ที่นี่หรือเปล่า?” เชดแสร้งทำท่าทางประหลาดใจอย่างเป็นธรรมชาติ เขาคิดว่าเพื่อนของมิสเตอร์เลอแมร์น่าจะเป็นลูกเรือหยาบๆ เสียอีก

Sponsored Ads

“เลอแมร์?”

ชายที่เปิดประตูขมวดคิ้วเล็กน้อย มองสำรวจชายหนุ่มที่กางร่มอยู่ จากนั้นจึงตอบด้วยสำเนียงที่ฟังดูแปลกๆ

“เขาเป็นเพื่อนของฉันเอง คุณมีธุระอะไรกับเขาหรือ?”

“เรามีข้อพิพาททางการเงินอยู่บ้าง และฉันมาหาเขาเพื่อชำระบิล”

“เขาเป็นหนี้คุณหรือ?”

ชายกลางคนเริ่มระวังตัว มองสำรวจชายหนุ่มแปลกหน้าอย่างถี่ถ้วน

“ไม่ครับ ฉันต่างหากที่เป็นหนี้เขา”

เชดตอบ และมือที่ไม่ได้ถือร่มก็หยิบไพ่โรดส์ออกมาจากกระเป๋าและโบกไปมาเล็กน้อย

“เรารู้จักกันบนเรือ ตอนนั้นฉันโดยสารเรือของพวกเขาจากท่าเรือน้ำเย็นไปยังโลกใหม่ บนเรือไม่มีอะไรทำ ทุกคนก็เลยมานั่งเล่นไพ่กัน ฉันล่นแพ้มิสเตอร์โจนาธาน เลอแมร์ ไป แต่ตอนนั้นไม่มีเงินจ่าย เขาเลยให้ที่อยู่นี้มาบอกว่าค่อยส่งเงินมาให้ที่นี่…นั่นก็เมื่อสองเดือนก่อน ฉันเพิ่งกลับจากโลกใหม่มาถึงท่าเรือน้ำเย็น”

เชดไม่รู้ว่าลูกเรือคนนั้นชอบเล่นไพ่หรือเปล่า แต่หากเป็นลูกเรือที่ออกทะเลนานๆ ก็คงหนีไม่พ้นการสูบบุหรี่ ดื่มเหล้า และเล่นไพ่โรดส์ ในยุคนี้มีสิ่งบันเทิงไม่มากนัก และเมื่ออยู่บนเรือ การหาความสนุกก็มีแค่สิ่งเหล่านี้

Sponsored Ads

“ฉันเป็นคนรักษาสัญญา และที่จริงก็ไม่ได้เป็นหนี้เงินจำนวนมากเท่าไหร่”

เชดอธิบายเหตุผลที่ตัวเองเป็นคนรักษาคำพูด

“คุณเป็นหนี้เขาเท่าไหร่?”

แต่ชายกลางคนที่เปิดประตูก็ยังคงระแวดระวัง

“12 ชิลลิง 7 เพนนี”

จำนวนเงินไม่มากเกินไปและไม่น้อยเกินไป หากน้อยเกินไปก็ไม่มีเหตุผลให้เสียเวลามาคืนเงิน หากมากเกินไปก็อาจทำให้เกิดความสงสัย

ชายกลางคนเริ่มผ่อนคลายลงเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าฝนยังคงตกอยู่ภายนอก เขาจึงเชิญเชดเข้ามาคุยในบ้าน

“ขอบคุณที่คุณยังกลับมาคืนเงิน แต่…เข้ามาก่อนเถอะ”

ชายกลางคนชื่อว่า เจสัน เดอรัล เป็นเจ้าหน้าที่ประสานงานการจัดการคลังสินค้าย่านท่าเรือ แม้ว่าตำแหน่งนี้จะดูไม่สำคัญ แต่ก็ยังถือว่าเป็นข้าราชการในท่าเรือน้ำเย็น แม้เชดจะไม่เคยมีประสบการณ์กับงานแบบนี้ แต่เขาก็เข้าใจว่านี่เป็นตำแหน่งที่ค่อนข้างทำกำไร

Sponsored Ads

มิสเตอร์เดอรัลต้อนรับเชดในห้องนั่งเล่น และแจ้งข่าวร้ายว่า มิสเตอร์เลอแมร์ได้เสียชีวิตแล้ว

เชดที่เตรียมใจไว้แล้ว แสดงอาการ “ตกใจ” ออกมาอย่างมีฝีมือ เขาแสดงความเศร้ากับความไม่แน่นอนของชีวิต คนที่เขาเพิ่งพบไม่กี่เดือนก่อนยังแข็งแรงดีอยู่ และเมื่อได้ยินว่ามิสเตอร์เลอแมร์เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางทะเล เขาก็ทำท่าเหมือนสวดภาวนาให้กับวิญญาณผู้บริสุทธิ์ที่จากไป—สวดภาวนาให้กับ [ชายแห่งแสงอรุณ]

เพื่อให้การสนทนาดูเป็นธรรมชาติ เชดได้สอบถามถึงความสัมพันธ์ระหว่างมิสเตอร์เดอรัลและมิสเตอร์เลอแมร์ผู้ล่วงลับด้วย

คุณนายเลอแมร์รู้ข้อมูลจากทนายความไม่มากนัก รู้แค่ว่าชายที่เก็บพินัยกรรมอยู่ที่ท่าเรือน้ำเย็นเป็นเพื่อนของลูกเรือผู้โชคร้ายที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางทะเล และมิสเตอร์เดอรัลได้บอกว่า เขารู้จักมิสเตอร์เลอแมร์จากการเล่นไพ่โรดส์ที่ผับ และเมื่อค่อยๆ รู้จักกันดีขึ้น ก็กลายเป็นเพื่อนที่สนิทกันมาก มีความสัมพันธ์กันยาวนานเป็นสิบๆ ปี

คำบอกเล่าของมิสเตอร์เดอรัลฟังดูคล้ายกับคำของเชด และก็ดูมีเงื่อนงำเล็กน้อย แต่ไม่ว่าอย่างไร เชดก็มั่นใจแล้วว่า เรื่องมรดกที่คุณนายเลอแมร์จะได้รับนั้นเป็นเรื่องจริง ไม่ใช่การหลอกลวง

ท้ายที่สุดแล้ว แม้จะเป็นการหลอกลวง คงไม่มีนักต้มตุ๋นคนไหนวางแผนซับซ้อนขนาดนี้ โดยการเตรียมกับดักที่สมจริงในเมืองที่ห่างไกลขนาดนี้

Sponsored Ads