ส่วนเรื่องหลังจากนั้น…ก็ไม่ใช่หน้าที่ของเชดอีกต่อไป
ภารกิจของเขามีเพียงแค่ทำให้ สตีฟ อีเวนท์ ซึ่งสวมแหวนแปลงร่างออกจากคฤหาสน์แห่งนี้ ออกจากตำแหน่งเฝ้าระวังปกติ และออกจากพื้นที่ที่เต็มไปด้วยผู้คน สาวใช้ที่นำทางออกไปจะพาเขาไปยังสถานที่ที่กำหนดไว้ และที่นั่นจะมี มิสทีฟา เซอร์เวตรออยู่
Sponsored Ads
แน่นอนว่าตอนนี้ยังไม่สามารถฆ่าอีเวนท์ ได้ เพื่อไม่ให้ลัทธิชั่วรู้สึกผิดสังเกต สาวใช้คนนั้นมีวิธีที่จะสลับแหวนจริงกับของปลอม และยังสามารถทำให้อีเวนท์ ลืมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นชั่วคราว
ส่วนจะใช้วิธีใด…นั่นเป็นสิ่งที่มิสคารินาต้องจัดการ ไม่ใช่เรื่องของเชด
แผนดำเนินไปอย่างราบรื่น เชดแค่ต้องรอรับสัญญาณ แล้วไปรวมตัวกับสาวใช้ในสวนด้านนอกคฤหาสน์ จากนั้นก็สามารถเดินจากไปอย่างเปิดเผยโดยไม่มีใครสงสัยได้แล้ว
แม้จะโล่งใจขึ้นมาก แต่ใจของเขาก็เริ่มกังวลถึง “การผจญภัย” อีกฉากที่กำลังจะมาถึง
เขาเดินตรงไปยังมุมในสุดของห้องอาหาร ใช้เหรียญทองจำนวนมากที่ได้รับจากสาวใช้ เพื่อแลกกับของประมูลทั้งสองชิ้นที่เขาชนะมา การจัดการอีเวนท์จะต้องใช้เวลาอีกสักพัก ระหว่างนั้น เชดควรหาสถานที่ที่ปลอดภัยและสงบ เพื่อรออย่างอดทน
บทเรียนจากคฤหาสน์เลควิวสอนเขาว่า… การเดินไปมั่ว ๆ เพิ่มโอกาสเจอเรื่องซวยขึ้นหลายเท่า โดยเฉพาะคืนนี้ซึ่งมีพิธีอัญเชิญเทพอีกครั้ง เขาจึงต้องระวังเป็นพิเศษ
ในห้องจัดประมูลในร้านอาหารไม่สามารถอยู่ต่อได้ หากอีเวนท์ กลับมาแล้วเห็นเขาอีก อาจจะระลึกถึงอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
“ชั้นสามไปไม่ได้แน่ ๆ… ชั้นสองก็มีแขกใหญ่ ๆ เยอะ สวนด้านนอกก็ห้ามเด็ดขาด เดี๋ยวคิดถึงเรื่องคฤหาสน์เลควิวอีก… งั้นไปชั้นหนึ่งดีกว่า”
เขาคิดในใจพลางอุ้มของประมูลอันล้ำค่าสองชิ้นลงไปที่ชั้นหนึ่ง งานเลี้ยงยังคงเป็นแบบบุฟเฟต์เหมือนเดิม เชดไม่ได้หยิบอาหารใด ๆ มาทานเลย เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เผลอกินของแปลก ๆ เข้าไป
แต่เขาก็ยังไปยืนใกล้โต๊ะอาหารที่เต็มไปด้วยผลไม้และของว่าง แสร้งทำเป็นสนใจสลัดผลไม้ที่อยู่ตรงหน้า:
“อาหารพวกนี้…มีปัญหาไหม?”
เขาถามเสียงในหัวด้วยความอยากรู้
[ในระยะนี้ ยังไม่รู้สึกถึงอะไรผิดปกติ]
เสียงของหญิงสาวในหัวตอบกลับ
เชดแกล้งทำเป็นไม่ตั้งใจ ใช้นิ้วป้ายรอยคราบสีเข้มบนผ้าปูโต๊ะที่ไม่รู้ว่าเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไร
“แล้วตอนนี้ล่ะ?”
[รู้สึกได้ถึงความผิดปกติบางอย่าง แต่ว่าไม่สามารถระบุได้ว่าอาหารพวกนี้ถูกทำอะไรบ้าง]
Sponsored Ads
“ว่าแล้วเชียว…”
การยืนอยู่มุมใดมุมนึงคนเดียวก็จะดูแปลกเกินไป เขาจึงเลือกไปยืนรวมกับกลุ่มคนที่กำลังดูคนอื่นเล่นไพ่โรดส์อยู่
แต่รอบนี้ดันไม่มีใครที่เขาคุ้นหน้าเลย เชดจึงทำได้แค่อยู่เงียบ ๆ ในกลุ่ม เขาไม่ได้สนใจว่าผู้เล่นสองฝ่ายมีไพ่พิเศษอะไรหรือเล่นกันยังไง ในใจของเขา มีแต่ความคิดว่า “อยากออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุด”
แขกที่สนใจไพ่โรดส์ในการประมูลครั้งนี้มีไม่มาก และคนส่วนใหญ่ก็แค่มาเพราะสองใบสุดท้ายที่มีราคาสูงลิ่ว การยืนอยู่ตรงนี้ของเชดจึงไม่เป็นที่สังเกต และการที่บางคนเดินมาแล้วก็จากไปก็ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ
เพราะงั้น…เมื่อชายวัยกลางคนแปลกหน้าเดินมาหยุดข้างเชด เพื่อดูเกมไพ่ด้วยกัน เชดจึงไม่ได้เอะใจอะไร
จนกระทั่งเสียงในหัวพูดขึ้นมา ทำให้เขาแทบสะดุ้ง
[อย่าขยับตา มองตรงไปข้างหน้า]
‘อะไร?’
[สีหน้าอย่าเปลี่ยน]
เชดหรี่ตา มองไปยังโต๊ะไพ่ตรงหน้า ในใจรู้สึกตื่นตกใจ
‘เกิดอะไรขึ้น? เทพเจ้าผู้ชั่วร้ายมาถึงก่อนเวลาเหรอ? เร็วเถอะ ใช้เทวะแผดเผาเลย ฉันจะ…’
[ไม่ต้องขนาดนั้น แค่…ข้าง ๆ คุณมีนักเวทวงแหวนระดับสูงอยู่]
‘อ๋อ แค่นักเวทวงแหวนเองเหรอ…’
เขาถอนหายใจเบา ๆ อย่างโล่งอก แล้วมองชายคนนั้นผ่านหางตา อีกฝ่ายแต่งกายด้วยชุดทางการสีดำคล้ายกัน สูงกว่าเชดเล็กน้อย รูปร่างไม่ผอมไม่อ้วน ดูเหมือนจะธรรมดา…แต่ในสถานการณ์แบบคืนนี้ ไม่มีใครธรรมดาได้หรอก
เพราะไม่สามารถมองตรง ๆ ได้ เชดจึงมองไม่เห็นรายละเอียดมากกว่านี้ เขาเพิ่งตระหนักขึ้นมาก็เมื่อเสียงในหัวเตือนว่า ชายแปลกหน้าคนนั้นมีบรรยากาศที่ไม่ธรรมดาอย่างชัดเจน
คำว่า “บรรยากาศ” หรือ “ออร่า” นั้นเป็นสิ่งที่อธิบายได้ยาก แต่เมื่อเชดเริ่มสังเกตเขา ความรู้สึกแปลกประหลาดก็ไหลวูบเข้าสู่ใจ เหมือนกับมีภูเขาลูกใหญ่มาตั้งตระหง่านอยู่ข้าง ๆ
โดยรวมแล้วมันคือความรู้สึกว่า “เขาแข็งแกร่งมาก” แต่มิใช่ความน่ากลัวแบบสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติ
Sponsored Ads
จากนั้น เชดก็ได้ข้อสรุปว่า:
‘นักเวทวงแหวนสิบสามวงแหวน?’
[น่าจะใช่]
เสียงในหัวของเขายืนยัน
ในโลกวัตถุนี้ มีนักเวทวงแหวนระดับสิบสามวงแหวนอยู่เพียงไม่กี่คน และคนที่อยู่ข้างเขาตอนนี้ น่าจะเป็น “ดาบแสงสุริยา” มิสเตอร์ฮอก เรนเดลล์ นักเวทวงแหวนสิบสามวงแหวนจากโบสถ์แห่งสุริยเทพ
เชดไม่เคยพบชายคนนี้มาก่อน แต่ฝ่ายนั้นอาจเคยเห็นเขา—เพราะเมื่อวันพุธที่แล้ว ตอนที่เชดถูกยิง มิสเตอร์เรนเดลล์ อยู่ห่างจากเขาเพียงไม่กี่ร้อยก้าว และเป็นไปได้ว่าเขาได้เห็นภาพของเชดในข่าว
‘ถ้าฉันสามารถรู้ว่าเขาเป็นนักเวทวงแหวนระดับสูง อีกฝ่ายจะสามารถรู้ว่าฉันเป็นนักเวทวงแหวนได้ไหม?’
เมื่อพิจารณาจากบทเรียนขั้นพื้นฐานที่เชดเคยเรียน คำตอบคือ “ไม่” แต่เขาก็อดถามไม่ได้
[ไม่ต้องห่วง ตราบใดที่คุณไม่ใช้เวทหรือพิธีกรรมแปลก ๆ ใกล้ ๆ เขา เขาจะไม่รู้ถึงตัวตนของเราแน่นอน]
ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายมาอยู่ตรงนี้เป็นเรื่องบังเอิญหรือเจตนา แต่เพราะตนเองไม่ได้ทำเรื่องผิดกฎหมายอะไร เชดจึงไม่วิตกเกินไป
ทั้งคู่จึงไม่พูดอะไร และแค่จ้องดูเกมไพ่ที่อยู่ตรงหน้าอย่างเงียบ ๆ ในระหว่างนั้น เชดก็คิดอย่างเบื่อหน่าย ว่าเวทที่คัดลอกที่เขาเคยกลืนเข้าไป—เวทจาก “กระดาษคัดลอกของแม่มด” มันก็คือเวทอันเลื่องชื่อของชายที่อยู่ข้าง ๆ นี่เอง
คิดได้แบบนั้น เขาก็เหลือบมองอีกฝ่ายอีกครั้ง ชายวัยกลางคนผู้นั้นมีออร่าที่ทั้งทรงพลังและอบอุ่น จนเชดรู้สึกเหมือนเข้าใจขึ้นมานิดหนึ่งว่า…เวทที่ตนเองกำลังจะได้รับนั้น จะมีรูปร่างแบบไหน
Sponsored Ads
จนกระทั่งหนึ่งในผู้เล่นพลิกไพ่ “จันทรา 7” ขึ้นมาอย่างหัวเสีย และแพ้ไปที่แต้ม 22 ต่อ 18
เกมรอบนั้นจึงจบลง เชดก็ถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะหมุนตัวเดินจากไป
ขณะที่มิสเตอร์เรนเดลล์ ยังคงยืนดูเกมต่ออยู่เงียบ ๆ
‘ดูเหมือนไม่ได้มาตามฉัน…’
เชดไม่อยากเกี่ยวข้องกับใครในที่แห่งนี้ เมื่อสามารถเดินออกห่างจากนักเวทวงแหวนสิบสามวงแหวนได้อย่างปลอดภัย เขาก็เริ่มคิดหาที่เย็น ๆ เงียบ ๆ อยู่แทน
แม้ว่าการประมูลจะจัดอยู่แค่ในชั้นสอง แต่ห้องต่าง ๆ ในชั้นล่างก็เปิดให้แขกเยี่ยมชมได้ ลูกชายคนเล็กของท่านเคานต์นำของสะสมจากตระกูลบางส่วน และยืมของเพื่อนมาอีกเล็กน้อย จัดเป็นนิทรรศการเพื่อโชว์ฐานะ และทำให้ราคาบัตรเข้างานดูสมเหตุสมผลขึ้น
เชดตั้งใจจะหาห้องที่คนไม่เยอะ เพื่อหลีกหนีความวุ่นวาย เขาเดินทอดน่องผ่านทางเดิน ระหว่างทางก็เหลือบมองภาพวาดบุคคลที่แขวนตามผนัง จนกระทั่ง มีสุภาพบุรุษวัยกลางคนท่าทางภูมิฐานเดินออกมาจากห้องข้างหน้า ถือแก้วไวน์อยู่ในมือ — ทั้งสองสบตากันและชะงักไปพร้อมกัน
“ดร.ชไนเดอร์?”
“เชด?”
ชายที่เดินออกมาจากห้องด้านข้างก็คือ ดร.ชไนเดอร์ จิตแพทย์ตาสีฟ้า เขามองเชดด้วยความตกใจ ส่วนเชดก็ตกใจยิ่งกว่า
“ตามฉันมา!”
พอได้สติ เชดก็ไม่พูดพร่ำ คว้ามือหมอแล้วพาเดินตรงไปที่หน้าต่างสุดทางเดิน ด้านนอกคือสวนของคฤหาสน์ที่จมอยู่ในแสงราตรี
เมื่อแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่ข้างนอก และไม่มีใครในทางเดินสังเกตพวกเขา เชดก็กดเสียงลงต่ำ ถามด้วยความร้อนรนว่า:
“หมอ…คุณมาทำอะไรที่นี่?”
Sponsored Ads