You have no alerts.
    Header Background Image
    นิยายแปล แบ่งปัน สนุกขำขัน ได้ที่นี่ WhatANovel.com
    Chapter Index

    โดย: ตะวันหลงทาง
    (ต้นฉบับที่ไม่ถูกตีพิมพ์ในมองมา)

    Sponsored Ads

    เราทุกคนเดินลงไปใต้เสาเอก กลางลานที่เตรียมไว้สำหรับพิธีตั้งเมืองใหม่

    แป้งข้าวเหนียวถูกหว่านลงพื้นเป็นวงกลม มือของจันถูกมัดไว้ด้วยด้ายดิบเส้นยาว ผูกเข้ากับเสาหลัก ไม่มีใครบอกว่าเธอผิด  ไม่มีใครพูดว่าเธอสมควรได้รับมัน เธอไม่ได้ดิ้น ไม่ได้พูด ไม่ได้หันมามองใครเลย

    พ่อหลวงเอื้อมมือแตะไม้เท้า กวาดตามองผู้ร่วมพิธีที่ยืนล้อมอยู่ในความเงียบ 

    “ได้เวลาแล้วลูกเอ้ย ไปยืนใต้เสาเสีย จะได้รู้ว่าตรงไหนจะเป็นเมือง”

    จันจึงเดินเข้าไปในกลางวง อย่างธรรมดา ไม่มีเพลง ไม่มีรำ ไม่มีเสียงปี่พาทย์ ไม่มีการบอกลาอย่างเป็นทางการ  เธอเดินเข้าไปเงียบ ๆ แบบที่คนไม่ยอมหนี แต่ก็ไม่จำนน

    พื้นลานที่ขุดไว้ยังเปียกนวลจากฝนเก่า กลิ่นดินผสมกลิ่นไม้แดงใหม่ที่ยังไม่แห้ง  ตรงกลางมีบ่อกลบชั่วคราว กว้างพอดีตัวคน  ใต้เสานั้นจะมีทั้งศพ ทั้งดิน ทั้งสัญญา และไม่มีใครพูดถึงว่าเป็นใครกันแน่ที่ยอม

    แม่จันตามไปเงียบ ๆ ไม่มีใครบอก แต่ทุกคนรู้ว่าคนที่จะอยู่ด้วยจนสุดท้ายคือใคร ญาติพี่น้องตามไปเงียบ ๆ ด้วยเหมือนถูกสาป  เหมือนพวกเราคือคนที่ต้องแบกเมืองนี้ตั้งแต่ยังไม่ทันสร้าง

    Sponsored Ads

    ———————

    วันนั้นเป็นฤดูร้อน แต่ฝนเพิ่งซัดมาเมื่อคืน ลานจึงเปียกเฉอะแฉะ เหนียวและขุ่น ทุกคนใส่เสื้อขาว แต่ไม่มีใครตัวสะอาด

    ที่ใต้เสามีเสื่อและผ้าเปียก ๆ ที่ปูไว้ให้ครอบครัว มีข้าวเหนียวใส่กระบอกไผ่ มีกับข้าวจากมือคนรู้จักที่ยังจำได้ 

    แม่จันป้อนทีละคำ ไม่มีใครพูดถึงเรื่องที่จันทำ ไม่มีใครพูดถึงคนที่ตาย

    มีเสียงซอจ๊อยเบา ๆ จากปลายลาน  ไม่ได้ตั้งวงใหญ่ มีเพียงนักดนตรีเฒ่าคนเดียว วนทำนองเดิม ขึ้นช้า ตกช้า เหมือนเสียงฝนพรำ ราวกับช่วยวัดจังหวะของหัวใจคนที่ยอมให้เงาตัวเองกลายเป็นส่วนหนึ่งของเมือง

    มันคือพิธีที่ไม่มีใครค้าน เพราะทุกคนรู้ว่า “การค้าน จะทำให้เสาเอียง”

    เด็ก ๆ นั่งเงียบ ไม่ถาม เพราะรู้แล้วว่าไม่มีใครตอบ

    Sponsored Ads

    ———————

    พอเสาเอกถูกตั้งขึ้นในบ่ายวันนั้น เงาของมันพาดยาวผ่านกลางตัวของจันพอดี แม่ยื่นมือไปรองเงาเสา แล้วเอามือลูบแขนลูก

    จันพูดแผ่ว ๆ ว่า “ไม่ต้องกลัว แม่ไม่ต้องทำอะไรนะ” 

    แม่ไม่ตอบ แต่กุมมือเธอแน่น

    มีบางคนกระซิบกันว่า ถ้ามีหมื่นราตรีสักหยิบ เธอคงจะหลับไปตั้งแต่ก่อนเสาตกกระทบ กลิ่นของหมื่นราตรีอ่อน ๆ ลอยจากขันน้ำข้าว  จันจำกลิ่นมันได้ตอนแม่ยื่นน้ำข้าวให้เธอ เธอชิม แล้วพยักหน้าเบา ๆ

    “ขอบคุณจ๊ะแม่”

    บันไดไม้หายไปจากสายตา เหลือแค่เงาของเธอในหลุม  และเงานั้นก็ถูกแสงกลืนไปเรื่อย ๆ

    ไม่มีใครส่งสัญญาณ  แต่เสาก็เริ่มเคลื่อน เสียงไม้เสียดสีกับเชือกเบากว่าเสียงซอ ที่ยังล่องลอยอยู่รอบตัว 

    ตอนนี้ไม่มีใครฮัมตาม แต่ทุกคนได้ยิน เหมือนมันขยับจังหวะการเต้นของหัวใจให้ช้าลง เสียงซอชะลอลง แทนที่ด้วยเสียงขุดดิน และไม้หลักที่ถูกยกขึ้นทีละต้น

    เหนือพื้นดินรอบเสาเอก มีเสาอีกสามต้นตั้งล้อมเป็นรูปสี่ทิศที่กลบดินไว้แน่นแล้ว
    ใต้เสาเหล่านั้น ไม่มีใครพูดถึง แต่บางคนกระซิบกันว่า  “อิน” อยู่ทิศเหนือ  “มั่น” อยู่ทิศตะวันออก  “คง” อยู่ทิศใต้ และ “จัน” คือทิศตะวันตกที่เหลืออยู่ในปีนี้

    ไม่มีใครเรียกชื่อต่อหน้า ไม่มีใครชี้ว่าหลุมไหนเป็นของใคร  แต่เงาเสาสี่ต้นทอดลงพื้นอย่างเงียบงัน  พร้อมเสียงซอที่จางลงเหมือนฝนปีเก่า

    “ปีหน้า… จะมีอีกไหมแม่?” 

    เสียงเด็กคนหนึ่งถาม แม่ของเขาไม่ตอบ

    Sponsored Ads

    ———————

    ไม่มีใครพูดตอนร่างของจันถูกกลบใต้ฐานเสา ไม่มีพิธีสงฆ์ ไม่มีบทสวด ไม่มีพระ ไม่มีเจ้าหน้าที่จากส่วนกลาง  มีแต่คนในหมู่บ้านที่เอามือป้องแดด แล้วพยักหน้าให้กันเบา ๆ

    คืนนั้นมีงานรำวงรอบเสาเอก ไม่มีใครพูดถึงจัน ไม่มีใครเอ่ยชื่อ แต่ทุกคนเดินเวียนรอบเสานั้น ช้า ๆ พร้อมเสียงฉิ่งเบา ๆ

    ฉันจำไม่ได้ว่าเรากลับบ้านกันอย่างไร แค่รู้ว่าเราเดินออกมาจากตรงนั้น  แล้วไม่เคยกลับไปมองตรงใต้เสาอีกเลย

    ไม่มีใครพูดคำลา  แต่ฉันรู้ว่า “ทุกคนได้ยินอยู่”

    Sponsored Ads

    ———————

    หมายเหตุ: 

    คนเฒ่าคนแก่เคยเล่าว่า ใต้ประตูพระนครแต่ละบาน มีร่างหญิงท้องสี่คนถูกฝังไว้ เพื่อให้เสา “มั่นคง” และ “เจริญรุ่งเรือง”

    บางชื่อถูกลืมไปแล้ว บางชื่อถูกจารไว้ในเพลงล่องน่าน
    แต่บางชื่อ… ถูกเปลี่ยนเป็นเพียงคำหนึ่งในแบบฝึกหัดวิชาสังคม

    “อิน จัน มั่น คง” อาจไม่ใช่แค่ชื่อจำง่าย  แต่คือเสียงสุดท้ายที่ยังจมอยู่ใต้เสา

    ได้รับแรงบันดาลใจจาก Singing My Sister Down โดย Margo Lanagan (2004)

    Singing My Sister Down โดย Margo Lanagan ไม่ใช่แค่เรื่องของ “การลงโทษกลางแจ้ง” มันคือพิธีกรรมที่เปลี่ยนคนธรรมดาให้กลายเป็นเครื่องเซ่น เป็นพิธีที่ใคร ๆ เรียกว่าธรรมเนียม แต่ความรักในครอบครัวกลายเป็นเรื่องที่ต้องเก็บเสียงให้เบาที่สุด สำหรับเรื่องนี้เขียนขึ้นเพื่อผู้หญิงคนหนึ่งที่ถูกฝังไว้ในตำนาน และเด็กคนหนึ่งที่ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมคนอื่นถึงเรียกมันว่า “บ้านเกิดเมืองนอน”

    0 Comments

    Heads up! Your comment will be invisible to other guests and subscribers (except for replies), including you after a grace period.

    Note