You have no alerts.
    Header Background Image
    นิยายแปล แบ่งปัน สนุกขำขัน ได้ที่นี่ WhatANovel.com
    Chapter Index

    วิทยุส่งเสียงแทรกดังขึ้นอีกครั้ง ตามมาด้วยเสียงกระซิบหลอน ๆ ที่ทำให้ขนลุกซู่ที่หลังคอของธนา
    “นายเลือกของเก่งจริง ๆ” ธนาพูดพลางมองเครื่องวิทยุเก่าเหมือนมันอาจจะงอกขาแล้วกระโจนใส่เขา

    Sponsored Ads

    “พูดให้น้อย แต่มืออย่าแตะอะไรเลยจะดีกว่า” นาวินตอบ โดยที่ดวงตายังคงจดจ่ออยู่กับไขควงเล็กในมือ ขณะที่เขาพยายามหลีกเลี่ยงสัญลักษณ์เรืองแสงที่จาง ๆ บนตัวเครื่องวิทยุ

    ธนาเอนตัวพิงเคาน์เตอร์ กอดอก พร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปาก “นี่มันทำให้ฉันนึกถึงครั้งแรกที่เราเจอกันเลย จำตอนล่าผีในมหา’ลัยได้ไหม? นาย ฉัน แล้วก็วิญญาณที่หงุดหงิดสุด ๆ”

    นาวินครางเสียงต่ำโดยไม่เงยหน้าขึ้น “ฉันดูเหมือนคนที่มีเวลาฟังนายเล่าเรื่องย้อนอดีตไหม?”

    “น่าเสียดาย” ธนาพูดอย่างร่าเริง “เพราะมันเป็นเรื่องที่ดีมาก และนายก็หยุดฉันไม่ได้ด้วย”

    Sponsored Ads

    ———————

    ย้อนอดีต: การล่าผีในมหาวิทยาลัย

    สมาคมสิ่งลี้ลับของมหาวิทยาลัยจัดกิจกรรมล่าผีในยามดึก โดยสัญญาว่าจะมีทั้งความตื่นเต้นและ “อาจได้พบกับวิญญาณ” ธนา ผู้มองหาเนื้อหาสำหรับไลฟ์สตรีมเสมอ ลากรูมเมทผู้ไม่เต็มใจมาร่วมด้วย

    “นี่จะต้องเจ๋งมาก” ธนาพูด ขณะที่ถือกล้องไว้ในมือ ขณะพวกเขาเดินไปตามทางเดินที่มืดสลัวของอาคารรัฐศาสตร์ “บอกสวัสดีให้แฟน ๆ หน่อยสิ นาวิน”

    นาวินขมวดคิ้วใส่กล้อง “ฉันจะไม่ทักคนดูห้าคนที่สองคนในนั้นอาจเป็นบอท”

    ไม่สะทกสะท้าน ธนาหันกล้องกลับมาหาตัวเอง “ยินดีต้อนรับสู่ Thana’s Midnight Haunt! เราจะเจอผี หรือจะโดนไล่ออกข้อหาบุกรุก? คอยติดตาม!”

    ขณะที่พวกเขาสำรวจอาคาร กลุ่มก็เดินขึ้นไปยังทางเดินชั้นสอง ที่ผนังเรียงรายด้วยภาพถ่ายเก่า ๆ ของคณบดีและผู้ก่อตั้งคณะในอดีต ใบหน้าที่ดูเคร่งขรึมเหมือนกำลังจ้องมองพวกเขาขณะเดินผ่าน

    “หลอนดีนะ” ใครบางคนกระซิบ “นายคิดว่าพวกเขามองเราอยู่ไหม?”

    หนึ่งในสมาชิกสมาคมสิ่งลี้ลับท้าธนาให้แตะกรอบรูปหนึ่งที่ดูหน้าตาเคร่งเครียดเป็นพิเศษ

    “เอาสิ” พวกเขากระตุ้น “นายกำลังไลฟ์อยู่ใช่ไหม? แสดงให้คนดูเห็นสิว่านายไม่ขี้ขลาด”

    ด้วยแชตที่เชียร์กันสุดใจ ธนาเอื้อมมือไปแตะกรอบรูปอย่างโอ้อวด

    “เห็นไหม? ไม่มีอะ—”

    Sponsored Ads

    ทันใดนั้น ไฟบนทางเดินก็กระพริบและดับลง ทิ้งบริเวณนั้นในความมืด ลมเย็นพัดผ่านโถงทางเดิน และเสียงฝีเท้าเบา ๆ ดังสะท้อนรอบตัวพวกเขา

    แล้วด้วยเสียงดัง ครืน! กรอบรูปหล่นจากผนัง กระจกแตกเป็นเศษเล็กเศษน้อย

    ธนากรีดร้อง ปล่อยโทรศัพท์หล่นลงกับพื้น แต่มันยังคงไลฟ์อยู่ ในแสงสลัว พวกเขาเห็นเงาร่างดำ ๆ ก่อตัวขึ้นที่ปลายทางเดิน ดวงตาว่างเปล่าของมันจับจ้องมาที่กลุ่ม

    นาวิน ซึ่งพยายามเก็บอาการกลัวของตัวเอง ควานหาพระสมเด็จในกระเป๋า—ของขวัญจากย่าที่เขาไม่เคยคิดว่าจะมีประโยชน์จนถึงตอนนี้ เขาพึมพำบทสวดที่เขาจำได้ยามฉุกละหุก และยกพระขึ้นไปทางเงานั้น

    ร่างนั้นหยุดนิ่ง ขอบของมันกระพริบเหมือนภาพสถิตบนทีวีเก่า ๆ ด้วยสายตาเย็นชาเป็นครั้งสุดท้าย มันก็สลายไปในอากาศ ไฟกลับมาสว่างอีกครั้ง ทิ้งกลุ่มไว้ในความเงียบที่ตะลึงงัน

    แชตไลฟ์สตรีมของธนาแตกตื่น:

    – “สตรีมนี้เจ๋งที่สุด!”
    – “เมื่อกี้ใครกรี๊ดเหมือนเด็กน้อย?”
    – “ฉันจะกดติดตามเดี๋ยวนี้เลย”

    ธนาเก็บโทรศัพท์ขึ้นมาด้วยมือที่ยังสั่น พลางยิ้มอ่อนแรงให้กล้อง “ท่านสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี นี่แหละคือวิธีที่คุณเจอผีตัวจริง และยังเป็นวิธีที่คุณได้รู้จักนาวิน ผู้ปราบผีมือฉมัง”

    นาวินจ้องเขาด้วยสายตาแข็งกร้าว “ตอนนี้นายมีศัตรูเพิ่มอีกสองคนแล้ว วิญญาณ กับแชตของนาย”

    Sponsored Ads

    ———————

    กลับสู่ปัจจุบัน: ความอยากรู้อยากลองที่อันตราย

    “ผู้ปราบผีมือฉมัง” ธนาพูดพร้อมหัวเราะกับตัวเองหลังจากจบเหตุการณ์ย้อนอดีต “นายไม่เคยขอบคุณฉันเลยนะ ที่ทำให้นายโด่งดังคืนนั้น”

    นาวินมองเขาด้วยสายตาเรียบเฉย “ฉันจะขอบคุณเมื่อไหร่นายเลิกทำให้ทุกอย่างแย่ลง”

    ธนาหยิบหน้าจอโทรศัพท์ที่แตกร้าวซึ่งวางอยู่บนโต๊ะทำงานขึ้นมา “พูดถึงเรื่องแย่ อันนี้อะไร? เซลฟี่ต้องสาป? หรือแจ้งเตือนปีศาจ?”

    ก่อนที่นาวินจะทันเตือน หน้าจอนั้นก็ส่งเสียงซ่าเบา ๆ ธนาร้องลั่น ปล่อยหน้าจอลงเหมือนมันร้อนเป็นไฟ

    “โอเค โอ๊ย! นั่นมันอะไรเนี่ย?” เขาถามพลางสะบัดมือไปมา

    “กระจกต้องสาป” นาวินตอบอย่างไม่ทุกข์ร้อน “และคราวหน้าอย่าแตะอะไรที่ดูเหมือนจะมีคำสาป”

    “ฉันจะปล่อยเรื่องผี ๆ ไว้ให้นายก็แล้วกัน” ธนาบ่นพลางเป่ามือของเขา

    Sponsored Ads

    ———————

    เสียงกระซิบจากวิทยุ

    ขณะที่นาวินกำลังปรับวิทยุให้เสถียร เสียงแทรกก็เงียบลงแทนที่ด้วยเสียงกระซิบเบา ๆ ที่ฟังจับใจความไม่ได้ ธนาชะงัก ดวงตาหันไปมองอุปกรณ์นั้น

    “เอ่อ นาวิน” เขาพูดด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ “มันควรจะมีเสียงแบบนั้นเหรอ?”

    “ไม่” นาวินตอบพลางขมวดคิ้ว

    เสียงกระซิบดังขึ้นเรื่อย ๆ ราวกับพยายามก่อตัวเป็นคำพูด อากาศในร้านเย็นลง ไฟกระพริบวูบวาบ

    ลำโพงของวิทยุเริ่มส่งเสียง แทรก ก่อนเสียงหนึ่งที่ต่ำและชวนหลอนจะดังขึ้น [คุณไม่ควรมาที่นี่]

    นาวินคว้ามีดหมอจากเคาน์เตอร์ “ธนา” เขาพูดด้วยน้ำเสียงสงบ “ไปอยู่หลังแนวสายสิญจน์เดี๋ยวนี้”

    ธนาไม่ต้องให้พูดซ้ำ เขารีบถอยหลังทันที ขณะที่เสียงกระซิบจากวิทยุเปลี่ยนเป็นเสียงหัวเราะ—แหลม บิดเบี้ยว และใกล้เกินไป

    และทันใดนั้น ความสงบวุ่นวายในร้านก็เปลี่ยนเป็นบางสิ่งที่มืดมนกว่าที่เคย

    Sponsored Ads

    0 Comments

    Heads up! Your comment will be invisible to other guests and subscribers (except for replies), including you after a grace period.

    Note