You have no alerts.
    Header Background Image
    นิยายแปล แบ่งปัน สนุกขำขัน ได้ที่นี่ WhatANovel.com
    Chapter Index

    ฉันจ้องมองสมุดโน้ตเหมือนมันเป็นหนี้ฉันอยู่

    ซึ่งถ้าคิดจากปริมาณกระดาษที่ฉันเขียนไปเมื่อเดือนที่ผ่านมา…มันก็อาจจะใช่อยู่หน่อย ๆ บนหน้าปก เขียนด้วยลายมือของฉันเองว่า:

    “Track #2 – กรุงเทพมหานคร”

    Sponsored Ads

    ไม่มีอุปมา ไม่มีชื่อเชิงกวี มีแค่ชื่อจริงของเมืองที่ฉันอาศัย ทำงาน และเอาชีวิตรอดมาได้อย่างหวุดหวิด ชื่อที่ยาวกว่าการคุยกับพ่อของฉันในรอบปี

    แต่ไม่รู้ทำไม มันถึงรู้สึกว่า “ใช่”

    ฉันฮัมท่อนฮุกให้ลาเต้ฟังไปแล้วเมื่อคืนก่อน และถึงแม้เขาจะตอบกลับด้วยการอาเจียนก้อนขนใส่สายแอมป์ของฉัน ฉันก็ตีความว่ามันคือสัญญาณแห่งกำลังใจ (แบบของเขา)

    ทำนองเพลงมันติดอยู่ในหัวฉันแล้ว — จังหวะป็อปร็อกที่สดใส กระแทกเบา ๆ พอให้ค้างในใจ มันคือเพลงเกี่ยวกับกรุงเทพฯ ไม่ใช่ในแบบโปสเตอร์การท่องเที่ยวนะ แต่ในแบบที่เป็นจังหวะหัวใจใต้พื้นปูน แบบข้าวผัดตอนตีสอง

    ฉันใช้เวลาทั้งวันในห้องเช่าเล็ก ๆ ใส่หูฟัง จับกีตาร์ ปล่อยให้เสียงในหัวไล่ล่าท่วงทำนองจากอีกโลกที่ฉันเคยอยู่

    และเมื่อฉันทำเสร็จ ฉันไม่ได้รู้สึกเหนื่อย แต่รู้สึก “พลัง” เหมือนเมืองนี้กำลังร้องตอบกลับมา

    Sponsored Ads

    ———————

    ระบบราชการกับเพลงราคา 500 บาท (อีกแล้ว)

    เช้าวันถัดมา ฉันหอบชีทเพลง แผนคอร์ด และแผ่นเดโม ไปยังกรมทรัพย์สินทางปัญญา

    อีกครั้ง

    เจ้าหน้าที่หญิงหลังเคาน์เตอร์มองหน้าฉันอย่างไม่แปลกใจเลย

    “คุณมาสองอาทิตย์ที่แล้วใช่ไหม?”

    “คิดถึงบรรยากาศครับ” ฉันตอบพลางยิ้มบาง ๆ

    เธอไม่ยิ้มตอบ เธอประทับตราในเอกสาร ยื่นใบเสร็จให้ฉัน และคิดค่าธรรมเนียม 500 บาท…อีกแล้ว

    ลิขสิทธิ์: “กรุงเทพมหานคร” — ลงทะเบียนอย่างเป็นทางการแล้ว

    กระเป๋าสตางค์ของฉันร้องไห้ ลาเต้อาจจะร้องไห้ทางจิตวิญญาณจากอีกฟากเมือง แต่ฉันก็เดินออกมาจากอาคารนั้นพร้อมใบเสร็จในมือ เหมือนถือโฉนดของอนาคต

    “เพลงที่สองเสร็จแล้ว” ฉันพึมพำกับตัวเอง

    มือถือสั่น

    พี่ต้น: ได้เดโมยัง?

    Sponsored Ads

    ———————

    ช่วงเวลาแห่งเดโม (และเสียงใบพัดพัดลมเพดานที่คลิกๆ อยู่เบื้องหลัง)

    ฉันไม่ได้อัดเดโมเสร็จในคืนเดียว

    การทำงานกะดึกไม่ได้เปิดโอกาสให้ฉันมีชั่วโมงแห่งความคิดสร้างสรรค์มากนัก โดยเฉพาะเมื่อพลังงานทั้งหมดมาจากการงีบสามชั่วโมงและมาม่าที่อุ่นไม่เคยร้อนพอ

    ฉันจึงค่อย ๆ แกะมันทีละชิ้นตลอดสองค่ำคืน — หลังตื่น ก่อนเข้างาน และบางครั้งก็ในช่วงพักที่ร้าน ตอนที่แรงบันดาลใจผุดขึ้นมาพร้อมเสียงฮัมเบา ๆ หลังชั้นวางขนม

    ในห้องเช่าเล็ก ๆ ของฉัน กระบวนการมันช้า…แต่เปี่ยมไปด้วยไฟ

    อุปกรณ์ยังคงเหมือนเดิม:

    • ไมโครโฟนโลว์ไฟแบบเก่า
    • Cakewalk Pro Audio 9 ที่มีนิสัยชอบงอแง
    • กีตาร์ไฟฟ้าหลังเต่ามือสองที่ไม่เคยตั้งสายคอร์ด G ให้ตรงได้เลย
    • และแน่นอน ลาเต้ ผู้รับบทเป็นทั้งแรงบันดาลใจและสิ่งมีชีวิตที่ขัดขวางฉันอยู่เรื่อย

    เนื้อร้องนั้นสั้นมาก — มีแค่ชื่อเต็มทางการของกรุงเทพฯ — แต่สิ่งสำคัญคือการเรียบเรียง ท่อนจังหวะ และจิตวิญญาณ มันต้อง “ขยับ” ให้ได้

    🎶 “กรุงเทพมหานคร อมรรัตนโกสินทร์
    มหินทรายุธยามหาดิลก ภพนพรัตนราชธานีบูรีรมย์
    อุดมราชนิเวศน์มหาสถาน อมรพิมานอวตารสถิต
    สักกะทัตติยวิษณุกรรมประสิทธิ์”
    🎶

    มันบ้าบิ่น สดใส แต่ก็เจ็บลึก เหมือนคนที่ยังศรัทธาในเมืองนี้ แม้มันจะเคี้ยวเขาจนแหลก แล้วส่งคืนมาแค่เศษใบเสร็จ และเมื่อฉันวางท่อนกีตาร์สุดท้ายเสร็จ — ในคืนวันหยุดของตัวเอง — ฟ้าก็เริ่มสาง

    ลาเต้หลับปุ๋ยอยู่ข้างลำโพง ขาหนึ่งชูขึ้นราวกับกำลังวาทยกรวงออร์เคสตราในอากาศ

    ฉันจูบลงบนแผ่นซีดี ไม่ใช่เพราะมันสมบูรณ์แบบ แต่เพราะมัน “มีอยู่จริง”

    Sponsored Ads

    ———————

    การเจรจา (ฉบับใหม่ – วางเงื่อนไข ยังไม่เซ็นสัญญา)

    เรานัดเจอกันที่ร้านกาแฟเจ้าเดิม — ร้านที่ยังไม่เคยค้นพบว่าเพลงหลังปี 1979 มีอยู่จริง เสียง Bee Gees คลอเบา ๆ อยู่ในแบ็กกราวด์ ขณะที่พี่ต้นเลื่อนแก้วอเมริกาโนเย็นมาตรงหน้าเหมือนกำลังส่งของเถื่อน

    “ว่าไง?” เขาถาม

    ฉันยื่นแผ่นเดโม พร้อมแฟ้มเอกสารประกอบ — ชีทคอร์ด โน้ตโครงสร้างเพลง และสำเนาลงทะเบียนลิขสิทธิ์

    เขาผิวปากเบา ๆ “เอาเรื่องนะเรา”

    “พี่ขอเพลงฮิต ฉันก็แค่มาเก็บค่าเช่า” ฉันตอบหน้าตาย

    เขาหัวเราะเก้อ ๆ แล้วหยิบซองออกมา “เรายังไม่มีเงินมากตอนนี้ แต่ถ้าเล่นสดแล้วเวิร์ก เราอยากเสนอ 8,000 บาทสำหรับลิขสิทธิ์เบื้องต้นนะ เหมือนครั้งก่อน”

    ฉันเลิกคิ้วเล็กน้อย

    “ลองเล่นในสองสามที่ก่อน ดูปฏิกิริยาคนฟัง” เขารีบเสริม “ถ้ารอด เราจะไปคุยกับค่าย ส่งสองเพลงเข้าแพ็ค แล้วจ่ายค่าลิขสิทธิ์เต็มให้”

    ฉันพยักหน้า ฟังดูยุติธรรม ฉันไม่ใช่หน้าใหม่อีกต่อไป

    “แค่จำไว้นะ” ฉันว่า “เพลงถัดไปเริ่มต้นที่หนึ่งหมื่น”

    เขายิ้มกว้าง “ตกลง ถ้าเรารอดจากซิงเกิ้ลแรกได้อะนะ”

    ร่างสัญญา (ขึ้นอยู่กับผลการแสดงสด & การอนุมัติจากค่าย)
    ชื่อเพลง: กรุงเทพมหานคร
    ศิลปิน: Ton & The Temporarys
    ผู้แต่ง/ผู้ประพันธ์: ธนากร สิริพงษ์ชัย
    ค่าลิขสิทธิ์เสนอ: 8,000 บาท (จ่ายเมื่อค่ายอนุมัติให้ออกอัลบั้ม)

    ส่วนแบ่งรายได้:

    • รายได้จากการขาย/จัดจำหน่ายบันทึกเสียง: ผู้แต่งได้รับ 20%
    • การแสดงสดในผับ/บาร์: ฟรี ไม่มีค่าลิขสิทธิ์
    • โปรดิวเซอร์: ธนากร สิริพงษ์ชัย
    • สิทธิ์การเผยแพร่: ร่วมกัน (ตามข้อตกลงปากเปล่า สัญญาทางการขึ้นกับค่าย)

    เรายังไม่ได้เซ็นกระดาษอะไร แต่เราทั้งคู่รู้ดีว่า…มันคือข้อตกลงจริง

    ก้าวต่อไป?

    ให้เมืองฟังมัน

    ———————

    การอนุมัติจากลาเต้

    พอกลับถึงห้อง ฉันเปิดเดโมฟังอีกรอบ ท่ามกลางความเงียบ

    ลาเต้มองลำโพง แล้วมองฉัน จากนั้นก็ล้มตัวลงนอนบนใบเสร็จลงทะเบียนลิขสิทธิ์อย่างมีจังหวะ

    “อนุมัติแล้วเหรอ?” ฉันถาม

    เขาพ่นเสียงครางในลำคอหนึ่งที

    เป็นเสียงครางที่เย่อหยิ่ง…และเต็มไปด้วยความมั่นใจ

    Sponsored Ads

    กรุงเทพมหานคร
    อัสนี & วสันต์

    0 Comments

    Heads up! Your comment will be invisible to other guests and subscribers (except for replies), including you after a grace period.

    Note