You have no alerts.
    Header Background Image
    นิยายแปล แบ่งปัน สนุกขำขัน ได้ที่นี่ WhatANovel.com
    Chapter Index

    ร้านของผมปิดไปแล้วตั้งแต่หลายชั่วโมงก่อน และถนนด้านนอกก็กลับมาเงียบสงบ เหลือแค่เสียงฮัมเบาๆ ของยามดึกในกรุงเทพฯ ผมส่งนิดกลับบ้านพร้อมกับคำสัญญาว่าจะตรวจสอบเจ้า aAirs ที่ดูเหมือนจะถูกวิญญาณรบกวนให้ แต่ตอนนี้ เมื่อผมอยู่คนเดียวกับมัน ความรู้สึกไม่สบายใจก็ยังคงติดอยู่ อุปกรณ์นี้ดูเล็กและไม่มีพิษภัย วางอยู่บนเคาน์เตอร์เหมือนหูฟังไร้สายคู่หนึ่งทั่วไป ทว่าเมื่อผมเอื้อมมือไปหยิบมัน ความรู้สึกแปลกๆ เหมือนมีใยล่องหนคลานขึ้นมาตามแขนของผม

    Sponsored Ads

    “เอาล่ะ” ผมพึมพำขณะที่ใส่เจ้า aAirs ลงในหู “มาดูกันว่ามีอะไรซ่อนอยู่ในนี้”

    ทันทีที่ aAirs อยู่ในหู เสียงฮัมต่ำๆ ก็ดังขึ้น เป็นเสียงคล้ายเพลงบรรเลงเพื่อช่วยในการทำสมาธิ เสียงเปียโนเบา ๆ และเสียงที่พูดอย่างอ่อนโยน กระตุ้นให้ผมหายใจลึกๆ และผ่อนคลาย ดูไม่มีพิษภัยอะไร แต่ก็มีบางอย่างแฝงอยู่ใต้เสียงนั้น เสียงกระซิบเบาๆ ที่เหมือนจะซ่อนอยู่ในทุกคำ เป็นเสียงที่เบาจนยากที่จะจับได้หากไม่ได้ตั้งใจฟังอย่างละเอียด

    ผมตั้งสมาธิ ปล่อยตัวให้จมดิ่งไปกับคำพูดและจังหวะ เสียงในหูฟังเริ่มด้วยสูตรการทำสมาธิทั่ว ๆ ไป แนะนำให้ “ปล่อยวางความกังวลในวันนี้” และ “คลายความตึงเครียด” แต่แล้วมันก็เริ่มเปลี่ยนไป

    [โอบรับความว่างเปล่า]

    เสียงนั้นพูดขึ้นอย่างสงบแต่ก็เย็นยะเยือก

    [จมดิ่งลงในความเงียบ ยอมจำนน…ยอมจำนนต่อความมืด]

    ความหนาวเย็นคืบคลานขึ้นมาตามกระดูกสันหลัง คำพูดนั้นยังคงดำเนินต่อไปอย่างนุ่มนวลและมั่นคง กระตุ้นให้ผม “ปล่อยวางจากการยึดติด” และ “ปลดปล่อยตัวเอง” แต่ละคำแฝงไปด้วยความมืดมิดที่ชักชวนให้ผมเข้าไปสู่ที่ที่ผมไม่แน่ใจว่าผมอยากไปหรือไม่

    “ไม่น่ากลัวเลยเนอะ” ผมพูดเบา ๆ แต่เสียงนั้นกลับมีพลังสะกดจิตบางอย่าง มีจังหวะที่ดึงให้ผมลึกเข้าไปในความหมายของคำพูด ผมรีบถอดเจ้า aAirs ออกมา สะบัดศีรษะเพื่อขจัดความรู้สึกว่างเปล่าที่คล้ายใยแมงมุม เสียงกระซิบนั้นหายไปทันที แต่คำพูดยังคงก้องอยู่ในมุมหนึ่งของจิตใจ

    “งั้นมาดูกันเถอะว่าเจ้าลัทธิไหนเป็นต้นตอ” ผมพูด ขณะวางเจ้า aAirs ลงและเปิดคอมพิวเตอร์ขึ้นมา

    Sponsored Ads

    ———————

    ค้นหาต้นตอ

    ผมเริ่มการค้นหาด้วยคำที่ได้ยิน เสียงเบาๆ ที่บอกให้ “โอบรับความว่างเปล่า” และ “ปล่อยวางจากการยึดติด” ไม่นานนักก็เจอผลลัพธ์สองสามรายการ แม้ว่าส่วนใหญ่จะมาจากเว็บไซต์ที่เก่ามาก ดูเหมือนจะไม่ได้อัปเดตตั้งแต่ช่วงต้นปี 2543 แต่แล้วผมก็เจอหน้าเว็บหนึ่งที่ทำให้ขนลุกขึ้นมาทันที

    กลุ่มนั้นเรียกตัวเองว่าภาคีแห่งความสงบอันเป็นนิรันดร์ ก่อตั้งขึ้นเพียงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ปรัชญาของพวกเขาทั้งหมดหมุนรอบแนวคิดเรื่อง “การหลุดพ้นอย่างแท้จริง” ซึ่งเป็นการปลดปล่อยทางจิตวิญญาณโดยการละทิ้งสิ่งยึดติดทางโลกทั้งหมด รวมถึงตัวตนของตัวเองด้วย ผู้นำของพวกเขาคือชายที่เรียกตัวเองว่า ครูบาสวรรค์ เขาสอนความสำคัญของการ “โอบรับความว่างเปล่า” “ยอมจำนนโดยสิ้นเชิง” และ “ปล่อยวางจากการยึดติดทางโลก”

    ผมนั่งจ้องหน้าจอด้วยความรู้สึกไม่สบายใจ กลุ่มลัทธินี้ได้รับผู้ติดตามกลุ่มเล็กๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาวที่แสวงหาความหมายในชีวิต แต่ในการชุมนุมครั้งสุดท้ายของพวกเขา ครูบาสวรรค์ได้พาผู้ติดตามเข้าสู่สิ่งที่เขาเรียกว่า “การทำสมาธิขั้นสุดท้าย” มันถูกอ้างว่าเป็นการก้าวเข้าสู่ความว่างเปล่าเชิงสัญลักษณ์ พิธีนี้จบลงด้วยการที่หลายคนหายตัวไปอย่างลึกลับ และแม้ว่าลัทธินี้จะถูกยุบลงอย่างเป็นทางการแล้ว แต่คำสอนของพวกเขาก็ยังคงแพร่กระจายออกไป เหมือนกับเมล็ดพันธุ์ดำที่ปลูกลงในจิตใจของอดีตผู้ติดตาม

    “ไม่มีอะไรที่ทำให้ ‘การทำสมาธิที่ผ่อนคลาย’ ดึงดูดใจเท่ากับคำสอนของลัทธิอีกแล้ว” ผมพูดพร้อมกับขยี้จมูกด้วยความเหนื่อยใจ “เหมือนจงใจนำทางให้ไปถึงห้วงลึก”

    ประโยคที่ผมได้ยินในเจ้า aAirs ไม่ใช่แค่คำชวนให้ทำสมาธิธรรมดา มันเป็นหนึ่งในมนต์เสน่ห์ของครูบาสวรรค์ เสียงที่นิดได้ฟังไม่ได้เป็นเพียงคำแนะนำให้สงบใจ แต่มันเต็มไปด้วยอิทธิพลอันมืดมนของลัทธิ คำสอนเหล่านั้นทิ้งร่องรอยที่ยังคงอยู่บนอุปกรณ์หูฟังคู่นี้ ราวกับจงใจปล่อยให้มีเจตนาอันมืดมิดแฝงอยู่

    ผมเอนหลังเพื่อคิดทบทวนความหมายของทั้งหมดนี้ หากผู้ติดตามของครูบาสวรรค์เต็มใจที่จะบันทึกเสียงมนต์เสน่ห์ของเขา มันก็เป็นไปได้ว่าพลังมืดนี้ไม่ใช่แค่พลังงานที่เหลืออยู่ แต่มันอาจถูกจงใจสาปไว้เพื่อแพร่กระจายอิทธิพลของลัทธินี้ให้แก่ใครก็ตามที่ฟังนานพอ

    “ยอดเยี่ยมเลยนะ” ผมพูดพร้อมกับมองเจ้า aAirs ด้วยความระมัดระวังมากขึ้น “แอปทำสมาธิเพื่อพาคนให้ไปสู่ความว่างเปล่า แบบนี้น่าจะเป็นสิ่งที่กรุงเทพฯ ต้องการจริง ๆ”

    Sponsored Ads

    ———————

    ความตระหนักที่น่ากังวล

    ยิ่งผมคิดมากขึ้นเท่าไร มันก็ยิ่งชัดเจนมากขึ้นเท่านั้นว่านิดไม่ได้เผชิญกับการหลอกหลอนธรรมดา นี่เป็นสิ่งประดิษฐ์ของลัทธิ เป็นเครื่องรางดิจิทัลที่สร้างขึ้นเพื่อเผยแพร่คำสอนของพวกเขาเหมือนเชื้อโรคทางเทคโนโลยี และตอนนี้มันได้พบกับโฮสต์ใหม่แล้ว

    การค้นหาอย่างรวดเร็วผ่านร้านค้าออนไลน์มือสองในกรุงเทพฯ ก็แสดงให้เห็นว่ามันง่ายเพียงใดที่จะซื้อ aAirs มือสอง ผมเลื่อนดูรายการขายมากมาย แต่ละรายการเป็นพาหะที่อาจจะมีอิทธิพลด้านมืด แต่ละชิ้นรอให้ผู้ซื้อที่ไม่รู้เรื่องซื้อไป คนที่จัดการเรื่องนี้รู้อยู่แล้วว่าพวกเขากำลังทำอะไร

    แต่ก็ยังมีบางอย่างที่ดูไม่สมเหตุสมผล หากนี่เป็นเพียงคำสาปที่เหลืออยู่ ทำไมการทำสมาธิถึงรู้สึก…เหมือนมีชีวิต? ผมเคยรับมือกับคำสาปมาก่อน พลังงานที่หลงเหลือ เสียงสะท้อนจากวิญญาณ แต่ครั้งนี้มันดูมีเจตนามากกว่า เหมือนกับว่ามันตอบสนอง ปรับตัว และแทรกซึมเข้ามาในจิตใจของผู้ที่ฟังมัน

    “ดูท่าว่าคราวนี้ต้องหาคนช่วยซะแล้ว” ผมพูดกับตัวเองเบาๆ ผู้หญิงที่ผมไม่อยากยุ่งเกี่ยวด้วย ซึ่งเธอทำงานให้หน่วยลับของรัฐบาล เธออาจจะช่วยผมติดตามแหล่งที่มาของสิ่งนี้ได้ แต่ถึงแม้จะมีความช่วยเหลือ ผมก็รู้ว่านี่ไม่ใช่งานที่จะแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว

    Sponsored Ads

    คำสาปนี้มีความดุร้าย มีความมืดที่เหมือนจะซ่อนอยู่ในตัวอุปกรณ์เอง ลัทธินี้อาจจะถูกยุบไปแล้ว แต่บางสิ่งบางอย่างในคำสอนของพวกเขายังคงมีชีวิตอยู่ และมันไม่ได้พอใจที่จะถูกฝังอยู่ในฟอรัมเก่า ๆ หรือบันทึกเสียงเก่า ๆ เท่านั้น

    ผมเอนตัวไปข้างหน้า จ้องมองเจ้า aAirs อย่างกับว่ามันจะให้คำอธิบายอะไรสักอย่างแก่ผม “เอาล่ะ ครูบาสวรรค์” ผมพึมพำ “ถ้าคุณยังอยู่ที่ไหนสักแห่ง หลอกหลอนคนผ่านแอปทำสมาธิ ผมจะตามหาคุณจนเจอ และผมจะทำให้แน่ใจว่าคุณจะถูกฝังอย่างลึกที่สุด”

    ผมเอื้อมมือไปหยิบขวดน้ำมนต์ เทลงในถ้วยเล็กๆ คืนนี้ผมจะลองทำพิธีชำระเบื้องต้นดูก่อน เพื่อดูว่าคำสาปนี้จะตอบสนองอย่างไร แต่ผมรู้ดีว่าลึก ๆ แล้ว สิ่งนี้ไม่ใช่สิ่งที่ผมจะขับไล่ได้ง่าย ๆ ด้วยน้ำมนต์ไม่กี่หยด

    นี่เป็นสิ่งที่ใหญ่กว่า มืดมนกว่า เป็นเงาที่หยั่งรากลึกในจิตใจของผู้ที่สิ้นหวัง ผู้ที่หลงทาง และตอนนี้คือผู้ที่ไม่ระวังตัว และถ้าผมจะทำลายมัน ผมจะต้องเรียนรู้ทุกอย่างที่ทำได้เกี่ยวกับภาคีแห่งความสงบอันเป็นนิรันดร์และคำสัญญาที่บิดเบี้ยวของพวกเขา

    Sponsored Ads

    ———————

    น่าตื่นเต้น

    ขณะที่ผมเอื้อมไปหยิบเจ้า aAirs อีกครั้ง เตรียมพร้อมที่จะเริ่มพิธี ผมก็รู้สึกถึงพลังงานที่แผ่วเบานั้นอีกครั้ง ราวกับเสียงกระซิบที่ค่อยๆ แทรกเข้ามาในจิตใจของผม กระตุ้นให้ผม “ปล่อยวางจากการยึดติดทั้งหมด” คำพูดนั้นล่องลอยอยู่ในอากาศ ค้างอยู่ในความเงียบ ราวกับว่าความมืดกำลังเฝ้ามองและทดสอบความมุ่งมั่นของผม

    ผมวางเจ้า aAirs ลง รู้สึกถึงความเย็นแผ่ซ่านไปตามกระดูกสันหลัง

    นี่ไม่ใช่การหลอกหลอนธรรมดา และผมก็ได้เข้าไปลึกเกินกว่าที่คิดแล้ว

    Sponsored Ads

    0 Comments

    Heads up! Your comment will be invisible to other guests and subscribers (except for replies), including you after a grace period.

    Note