221- ยา กระจก และเขาวงกต

“การเป็นคนที่มีโชคชะตาพิเศษหมายความว่าอย่างไร?”

เชดถาม และมิสอานาตชี้ไปที่เขา

“นี่เป็นเงื่อนไขที่ง่ายที่สุดในพิธีกรรม เพราะคุณและฉันก็ทำได้ คุณอยู่เหนือโชคชะตา และฉันก็…”

Sponsored Ads

มิสบาสก์เอามือปิดตาโดยอัตโนมัติ แต่ก็รีบวางลง และตอบด้วยน้ำเสียงมั่นคง

“มันง่ายกว่าที่ฉันคิดไว้มาก หากค่าตอบแทนของการได้รับพลังคือการสูญเสียตา ฉันคิดว่าฉันน่าจะรับมือได้”

พิธีกรรมนี้ต้องสละดวงตาของตนเอง ดังนั้นไม่สามารถใช้ตาเวทมนตร์หรืออะไรที่คล้ายกันแทนได้

“แต่ในพิธีกรรมที่สละตาเพื่อถวายแด่เทพเจ้า หากต้องสละตาของคุณ ก็มีโอกาสที่มันจะไม่สามารถฟื้นคืนได้ ”

เชดเตือนด้วยความกังวล เขาเพิ่งจะรู้จักความรู้ลึกลับมากขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ เธอยังแค่สิบเจ็ดปี การตัดสินใจนี้จะมีผลต่อชีวิตทั้งหมด

“นักสืบ การได้รับพลังย่อมมีค่าใช้จ่าย”

มิสบาสก์กัดฟันแน่นอย่างเคร่งขรึม

“ฉันตัดสินใจที่จะเป็นผู้ถูกเลือก ไม่ใช่เพราะใครมาบังคับฉัน แต่เพราะฉันอยากทำจริงๆ ฉันไม่ใช่คนที่มีความตั้งใจมากนัก แต่พลังนี้มันคอยวนเวียนรอบตัวฉัน มันเป็นส่วนหนึ่งของฉัน ดวงใจของฉันก็ต้องการที่จะค้นหามัน คุณไม่ใช่ฉัน คุณจะไม่เข้าใจความปรารถนาที่รุนแรงแบบนี้ ในยามที่ฝันกลางดึก ฉันมักคิดถึงพลังที่ซ่อนอยู่ในจิตวิญญาณและร่างกายของฉัน ว่ามันคืออะไร ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้ว”

Sponsored Ads

เชดและมิสอานาตมองดูเธอ มิสบาสก์แสดงท่าทีแน่วแน่

“ตาแค่ข้างเดียวแลกกับพลังอันมหาศาลอย่างปลอดภัย ฉันคิดว่าไม่มีใครจะปฏิเสธได้ และที่จริงแล้ว มันก็ไม่ใช่ว่าจะไม่สามารถฟื้นฟูได้ แต่…นักสืบ ถ้าตาที่ฉันสละไปไม่สามารถฟื้นคืนได้จริงๆ หวังว่าคุณจะไม่คิดว่าหน้าฉันมัน…”

“ไม่หรอก”

“อืม”

เธอพยักหน้า ไม่พูดอะไรต่อ

เชดเข้าใจความรู้สึกของเธอในตอนนี้ได้ยาก แต่ถ้าเป็นเขาที่พบโอกาสแบบนี้ ใช้ตาข้างเดียวแลกกับศักยภาพที่จะกลายเป็นนักเวทวงแหวนขั้นที่ 13 และพลังที่เหนือธรรมดา เขาก็คงจะเลือกยอมรับด้วยความยินดีหลังจากลังเลอยู่สักครู่

การมีพลังย่อมมีค่าใช้จ่ายเสมอ ในโลกนี้ ไม่มีสิ่งที่ได้มาโดยไม่ต้องเสียอะไร

“แล้วศัตรูแห่งโชคชะตา อิลูน่า เธอจะเลือกใคร?”

หลังจากรออยู่พักใหญ่ เมื่อเห็นว่ามิสบาสก์สงบลงบ้างแล้ว มิสอานาตจึงถามขึ้น

“ชายตาเงิน”

Sponsored Ads

คำตอบนี้แทบจะไม่ต้องเดาเลย นี่เป็นทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด พิธีกรรมสละแบบนี้ ไม่ใช่ว่าจะเลือกคนธรรมดามาแทนได้ง่ายๆ

“เรื่องตาไม่ต้องกังวลนะ แม้ว่าจะไม่สามารถฟื้นฟูได้จริงๆ ฉันก็จะสามารถใช้การทำนายหาแนวทางการรักษาให้เธอได้”

มิสอานาตกล่าวอย่างแผ่วเบา มิสบาสก์ยิ้มให้เธอ

“รู้จักพวกคุณมันก็ดีนะ”

“คำพูดแบบนี้ ไว้พูดหลังจากที่เธอได้รับสถานะผู้ถูกเลือกสำเร็จแล้วเถอะ”

นักพยากรณ์หยิบเหรียญทองขึ้นมาอีกเหรียญ ครั้งแรกที่ทำการทำนาย เหรียญเลือดเหลือเพียงสองเหรียญแล้ว

“ฉันขอใช้เหรียญอีกหนึ่งเหรียญ เพื่อทำนายปัญหาที่อาจพบในการต่อสู้กับชายตาเงินได้ไหม?”

เธอถามเชด

“ถามฉันทำไม?”

“เหรียญเลือดนี้ไม่ใช่คุณชนะมาเหรอ? มันเป็น [เศษซาก] ของคุณ”

“อืม?”

เชดถึงจะเข้าใจตรรกะของเธอ จึงพยักหน้า

Sponsored Ads

“ของแบบนี้ที่แทบไม่มีผลต่อนักเวทวงแหวน ฉันก็ไม่กล้าเก็บไว้ ใช้ก็ใช้ไป แต่มิสอานาต การทำนายแบบนี้ต่อเนื่องกัน มันไม่ทำให้คุณมีภาระหรือ?”

มิสบาสก์ก็คิดถึงข้อนี้เหมือนกัน มองดูนักพยากรณ์ด้วยความห่วงใย

เมื่อรับรู้ถึงความห่วงใยจากเพื่อนร่วมทางทั้งสองคน มิสอานาตยิ้มอย่างอ่อนโยน

“คนหนึ่งยอมเสียสละดวงตาของตัวเอง อีกคนยอมเสียสละ [เศษซาก] ที่มีค่า ฉันจะสามารถเก็บอะไรไว้ได้อย่างไร? แต่ไม่เป็นไร หลังจากการทำนาย ฉันจะนอนพักสักหน่อยก็พอ”

“ตกลง งั้นเหรียญเลือดเหรียญที่ห้านี้จะเป็นของฉันเอง”

เชดกล่าว เขาคิดว่าหลังจากใช้เหรียญเลือดแล้วตนไม่ได้รู้สึกถึงคำสาปใด ๆ อาจเป็นเพราะ “แสงสายัณห์ของเทพเจ้า” ที่มีอยู่

มิสอานาตไม่ได้ปฏิเสธเชด จึงรับเหรียญเลือดจากมือเขาหลังจากที่ลายด้านหน้าและด้านหลังของเหรียญปรากฏขึ้น

เมื่อแสงสีม่วงหายไปจากดวงตา นักทำนายที่ดูอ่อนเพลียก็ให้คำตอบว่า

“ข้อมูลที่สามารถทราบได้จากเหรียญเลือดมีจำกัด อย่างแรกคือเรื่องของชายตาเงิน ในตอนนี้พลังของเขามีแค่ระดับหกวงแหวน เพราะได้รับบาดเจ็บสาหัสจึงกังวลว่าจะไม่สามารถควบคุมเศษซากได้ เขาจึงถือเศษซากไม่มาก สิ่งที่อันตรายที่สุดคือตาที่ทำให้เขาโด่งดัง ดวงตาคู่นั้นเป็นตาปีศาจระดับปราชญ์ ฉันไม่สามารถให้ข้อมูลที่ชัดเจนได้”

“อันนี้ฉันรู้”

มิสบาสก์กล่าว เธอหายใจเข้าลึกเพื่อควบคุมความโกรธ

Sponsored Ads

“ทีมที่ฉันอยู่ตอนเป็นนักเวทวงแหวนหนึ่งวงแหวน ถูกทำลายล้างเพราะตาปีศาจคู่นั้น ตาปีศาจมีชื่อว่า [ความโลภสีเงิน] ตาทั้งสองข้างเป็นตาปีศาจ ผลลัพธ์เฉพาะต้องกระตุ้นเพื่อเปิดใช้งาน และไม่สามารถคงสภาพตาปีศาจไว้นานได้ ในช่วงที่ผลกระทบมีผล คนที่ถูกจ้องมองด้วยตาจะกลายเป็นรูปปั้นเงินบริสุทธิ์อย่างถาวรที่ไม่สามารถย้อนกลับได้ เว้นแต่จะตัดส่วนของร่างกายที่ถูกแปลงแล้วออกทันที”

“จะต่อสู้กับมันได้อย่างไร?”

เชดถาม

“หลังเหตุการณ์นั้น โบสถ์ได้สร้างเครื่องรางที่สามารถต้านทานผลกระทบของตาปีศาจได้ชั่วคราว แต่เนื่องจากมันเป็นเศษซาก เครื่องรางจึงต้านทานได้เพียงสามวินาทีและใช้ได้เพียงครั้งเดียว”

“สามวินาทีก็เพียงพอแล้ว”

มิสอานาตกล่าว

“ตกลง ฉันจะดูแลเรื่องเครื่องรางเอง ครั้งนี้ฉันจะไม่ปล่อยเขาไปแน่นอน”

มิสบาสก์หายใจเข้าลึกหลายครั้งก่อนที่จะสงบสติอารมณ์ได้

มิสอานาตกล่าวต่อ

“ทางที่นำไปยังส่วนลึกที่สุดของซากโบราณสถาน ถูกวางเศษซากที่อันตรายไว้สามชิ้น ใกล้ทางออกมากที่สุดคือเศษซากระดับผู้พิทักษ์ [การ์กอยล์หินพันตา หมายเลข 3765] มันเป็นlสิ่งประดิษฐ์เล่นแร่แปรธาตุในยุคที่สี่ มีคุณสมบัติของหินและเลือดเนื้อ มันทรงพลังมากในการต่อสู้ ชำนาญการต่อสู้ระยะประชิดและการใช้คาถา หลังจากฆ่าศัตรู จะคว้าดวงตาของพวกเขามาติดตั้งบนตัวเอง เพื่อให้มีการมองเห็นที่เกือบจะไม่มีจุดบอด”

Sponsored Ads

“ต้องต่อสู้ตรงๆ ไหม? การ์กอยล์หินเทียบเท่ากับนักเวทวงแหวนกี่วงแหวน?”

มิสบาสก์ถาม

“ไม่ ถ้าต้องสู้ตรงๆ เพื่อจัดการมัน [เลือดปรอท] ก็คงไม่สามารถครอบครองซากโบราณสถานได้ ทุกครั้งที่จ่ายตาคนที่ยังมีชีวิตสามคู่ จะทำให้ปีศาจหินหยุดโจมตีมนุษย์ชั่วคราว ต้องเป็นตาคนที่ยังมีชีวิตที่ถูกผ่าจากร่างในที่นั้น”

แต่ [เลือดปรอท] สามารถทำได้โดยไม่ลังเล แต่เชดและพวกทั้งสามไม่สามารถทำได้

“แล้วถ้าจ่ายด้วยตาปีศาจล่ะ?”

เชดขมวดคิ้วถาม

มิสอานาตรู้เรื่องที่เกิดขึ้นในวันจันทร์จากการเรียนรู้ในชมรม และก็รู้ถึงแผนการของเชด

“ตาปีศาจสองดวง จะทำให้มันสงบได้ 48 ชั่วโมง แต่ตาปีศาจจะเพิ่มพลังให้ [การ์กอยล์หินพันตา หมายเลข 3765] เศษซากชิ้นนี้ เป็นเศษซากที่หายากที่สามารถเพิ่มพลังให้ตัวเองได้อย่างต่อเนื่อง”

“ตอนนี้ยังไม่ต้องสนใจเรื่องนี้ ฉันมีตาปีศาจหนึ่งดวงในมือ แต่ยังต้องการอีกดวงหนึ่ง มีใครหามันได้บ้าง?”

เชดถามโดยไม่สนใจว่าของที่ตัวเองเสียสละมีค่าแค่ไหน

มิสบาสก์ยกมือ

“บังเอิญสัปดาห์ที่แล้วฉันเจอเหตุการณ์ตาปีศาจควบคุมไม่ได้ ตาดวงนั้นฉันยังไม่ได้ขายออกไป ตาปีศาจดวงที่สองฉันจะจัดการเอง”

มิสอานาตพยักหน้า

Sponsored Ads

“เศษซากชิ้นที่สอง เศษซากระดับผู้พิทักษ์ [กระจกด้านหลัง] ซึ่งไม่มีผลกับคนธรรมดา แต่เป็นเศษซากโจมตีที่หายากซึ่งมีผลกับ ‘ตัวฉันอีกคน’ ของนักเวทวงแหวน มันสามารถสร้างความเสียหายที่แทบจะไม่สามารถแก้ไขได้กับ ‘ตัวฉันอีกคน’ ของนักเวทวงแหวนที่ต่ำกว่าวงแหวนเจ็ดวงแหวน และเมื่อ ‘ตัวฉันอีกคน’ ได้รับบาดเจ็บ เราเองก็จะได้รับบาดเจ็บร้ายแรงเช่นกัน”

เชดได้ยินเสียงหัวเราะ ผู้หญิงหัวเราะเบาๆ ข้างหู เขาคุ้นเคยกับเสียงหัวเราะนี้

‘คุณทำได้ไหม?’

[ฉันก็คือคุณ แสงสายัณห์ของเทพเจ้าได้เสริมพลังให้คุณ และก็เสริมพลังให้ฉันเช่นกัน]

“ไม่ต้องพูดแล้ว เรื่องนี้ฉันจะจัดการเอง”

เชดยกมือเป็นสัญญาณ

สุภาพสตรีทั้งสองมองเขาด้วยความสงสัย มิสอานาตเตือนว่า

“นักสืบ นี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น กระจกนั้นสามารถทำร้ายนักเวทวงแหวนที่มีวงแหวนถึง 13 วง คุณควรจินตนาการถึงความอันตรายของมัน ถ้าไม่ใช่เพราะเงื่อนไขในการกักกันมันง่ายเกินไป ระดับของสิ่งนี้คงไม่ใช่แค่ระดับผู้พิทักษ์ เศษซากระดับปราชญ์ส่วนใหญ่อาจจะไม่อันตรายกว่านี้”

“ไม่เป็นไร ฉันไม่มีปัญหา”

“แต่แม้ไม่มีปัญหา ก็หมายความว่านักสืบคุณต้องตามเราลงไปยังส่วนลึกของซากโบราณสถาน”

มิสบาสก์พูดด้วยความกังวล

“สถานการณ์ในซากโบราณสถานนั้นไม่มีใครรู้ มิสอานาตทำนายก็ไม่สามารถเห็นได้ทุกมุม ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่า หาก[เลือดปรอท] ค้นพบการบุกรุกของเรา จะมีคนเข้ามายังซากโบราณสถานเพื่อขัดขวางเราในระยะเวลาอันสั้นแน่นอน”

“แต่การปฏิบัติการคงไม่ปลอดภัยแน่นอนใช่ไหม?”

เชดถาม ในซากโบราณสถานมี [กล่องของขวัญของเทพเจ้า] และในกล่องของขวัญนั้นมีของขวัญที่เทพเจ้าโบราณ [เทพเจ้าแห่งความไร้เดียงสา] มอบให้กับเขา และกล่องนั้นไม่สามารถออกจากซากโบราณสถานได้ ดังนั้นไม่ว่าอย่างไรเขาต้องไป

Sponsored Ads

“พวกคุณไม่ต้องกังวลว่าฉันจะเป็นตัวถ่วง เมื่อถึงเวลาจำเป็น บางทีฉันอาจจะเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในพวกเราทั้งหมด”

เมื่อเขาพูดเช่นนั้น มิสอานาตและมิสบาสก์จึงไม่ได้คัดค้านต่อ

“แล้วเศษซากชิ้นสุดท้าย เป็นแค่ระดับบรรณารักษ์ เท่านั้น [เทียนเขาวงกต] ไม่ใช่การป้องกันของซากโบราณสถานเอง แต่เป็นสิ่งที่ชายตาเงินวางไว้ที่นั่น เมื่อจุดแล้วจะสร้างเขาวงกตภาพลวงตาขนาดใหญ่ในพื้นที่ปิด ต้องเดินออกจากเขาวงกตให้ได้ถึงจะดับเทียนได้”

มิสอานาตหยุดชั่วคราวเพื่อให้พวกเขามีเวลาคิด แล้วจึงส่ายหน้าก่อนที่อีกสองคนจะพูด

“เรื่องนี้พวกคุณไม่ต้องกังวล ฉันมีเส้นสายอยู่ในสมาคมผู้พยากรณ์ สามารถยืมเศษซากรูปทรงเข็มทิศมาใช้ได้ ตอนที่บุกเข้าไปในซากโบราณสถาน เทียนนี้ฉันจะจัดการเอง”

“ฉันก็มีเพื่อนในโบสถ์ และนักเวทวงแหวนของโบสถ์ก็สามารถขอยืมเศษซากจากโบสถ์ได้เช่นกัน ตอนนั้นฉันก็จะเอาของดีมาใช้บ้าง”

มิสบาสก์กล่าว

เชดรู้จักคนไม่มาก แต่มีอยู่คนหนึ่งที่ไม่หวง

“ฉันก็มีเพื่อนคนหนึ่ง เธออยากได้ศพของชายตาเงินไปเป็นเหยื่อล่อปลามาก ฉันจะขอให้เธอช่วย ถึงเธอจะไม่ตกลงช่วยโดยตรง แต่เธอก็คงไม่หวงที่จะให้ฉันยืมความช่วยเหลือบ้าง”

เขาหมายถึงมิสคารินา ขณะนี้นักเวทวงแหวน 13 วงแหวนของโบสถ์แห่งสุริยเทพอยู่ในโทเบสก์ เธอคงไม่ช่วยโดยตรง แต่คุณหญิงคนนี้มีของดีในมือแน่นอน