You have no alerts.
    Header Background Image
    นิยายแปล แบ่งปัน สนุกขำขัน ได้ที่นี่ WhatANovel.com

    หลายๆ คนอาจจะสงสัยทำไมในมังงะ และ อนิเมะ ญี่ปุ่นหลายๆ มีตัวละครที่เชื่อมั่นในตนเองอย่างสุดๆ เป็นกูรูรอบรู้ไปซะทุกเรื่อง สร้างภาพลวงตาจากความหมกมุ่นของพวกเขาทำราวกับว่าเขานั้นมีความรู้ลึกลับหรือมีพลังซ่อนเร้น อาการเหล่านี้คืออะไร ?

    วัฒนธรรมญี่ปุ่น – คำศัพท์เฉพาะ!?

    คนหนุ่มคนสาวทุกคนมักนึกถึงจินตนาการส่วนตัวและดื่มด่ำกินเที่ยวเพื่อบรรเทาความเบื่อหน่ายหรือความวิตกกังวล อย่างไรก็ตามการพูดนอกเรื่องโดยธรรมชาติและชั่วคราวดังกล่าวนั้น ไม่รุนแรงพอที่จะรับประกันการระบุด้วยคำศัพท์เฉพาะที่จัดหมวดหมู่ หรือมีผลกระทบทางจิตวิทยาอื่น ๆ ที่สมเหตุสมผล

    และด้วยคำศัพท์เฉพาะของญี่ปุ่นที่ไม่เหมือนใคร จึงเกิดคำ เช่น “ฮิคิโคโมริ Hikikomori (ひきこもり หรือ 引きこもり)” “ซึนเดเระ Tsundere (ツンデレ)” และ “ยันเดเระ Yandere (ヤンデレ)” ซึ่งหมายถึงสถานะทางจิตที่ส่งผลต่อพฤติกรรมทางสังคมของแต่ละบุคคลอย่างเห็นได้ชัด

    Sponsored Ads

    ฮิคิโคโมริ เป็นการถอนตัวจากสังคมโดยสิ้นเชิงและแสวงหาความโดดเดี่ยวทางสังคมและการกักขังในระดับสุดโต่ง ฮิกิโคโมริถูกอธิบายว่าเป็นคนนอกรีตหรือ “ฤาษีสมัยใหม่”

    ซึนเดเระ แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงบุคลิกภาพแบบสุดขั้ว เฉกเช่นกระบวนการพัฒนาตัวละครที่มีบุคลิกเริ่มต้นที่เย็นชา เจ้าอารมณ์ หัวร้อน (และบางครั้งก็เป็นศัตรู) ก่อนที่จะค่อยๆ แสดงให้เห็นด้านที่อบอุ่นและเป็นมิตรมากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป

    ยันเดเระ หมายถึงการแสดงความรักที่โรแมนติกอย่างแรงกล้าอย่างแท้จริง ตัวละครยันเดเระมีจิตใจที่ไม่มั่นคง วิกลจริต และใช้ความรุนแรงหรือการล่วงละเมิดทางอารมณ์เป็นช่องทางระบายอารมณ์ ปกติแล้วยันเดเระมักจะเป็นตัวละครหญิง

    แต่คำศัพท์ที่กล่าวมาเป็นศัพท์ที่ใช้ทางจิตวิทยาไม่ใช่ใน มังงะหรืออนิเมะ

    จูนิเบียว – โรคเด็กม.2!

    ด้วยความรู้สึกตามธรรมชาติของมารยาททางสังคมเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพจิต ผู้คนส่วนใหญ่ทำได้ก็เพียงแค่การผลักไสการตอบสนองต่อความบกพร่องทางจิตใจออกไปให้พ้นตัว เช่น “พวกเขาจะเติบโตขึ้นในที่สุด” หรือ “บุคคลนั้นผิดปกติ” ซึ่งการตอบสนองที่เกิดต่อมาในภายหลังนั้นสังเกตเห็นได้ชัดเจนเป็นพิเศษใน มังงะและอนิเมะของญี่ปุ่น ซึ่งไม่มีการให้ความช่วยเหลือแก่บุคคลที่แสดงความผิดปกติทางจิต ในทางกลับกัน บุคคลดังกล่าวจะถูกเพิกเฉย เยาะเย้ย หรือเพียงยอมรับว่าเป็นคนแปลกประหลาด แทนที่จะต้องการคำปรึกษาด้านจิตวิทยา นั่นคือ จูนิเบียว

    จูนิเบียว Chunibyō (中二病) เป็นคำศัพท์ที่มักใช้ในโลกของมังงะและอนิเมะของญี่ปุ่น สำหรับเด็กวัยรุ่น (โดยเฉพาะเด็กผู้ชาย) อายุราวๆ 13-14 ปี ที่แสดงพฤติกรรมของพวกเขาที่ทำตัวราวกับว่าพวกเขาเป็นผู้ใหญ่ พวกเขาแค่ทำสิ่งที่ไม่สำคัญ หรือพวกเขาเชื่อว่าพวกเขาเป็นคนในโลกแฟนตาซีต่อไป ซึ่งคำว่า ” chuugakkou ni nen (中学校二年) ” หมายถึง มัธยมศึกษาปีที่สอง และคำว่า “Byou (病)” หมายถึง “เจ็บป่วย” แต่นี่ไม่ใช่อาการเจ็บป่วยที่แท้จริง อย่างไรก็ตามหากมองจากคนรอบข้างแล้วดูเหมือนเป็นโรค จึงเป็นที่มาเพื่อล้อเลียนพฤติกรรมดังกล่าว หรือจะเรียกง่ายๆ ว่า “โรคเด็กม.2” ถ้าในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลักจะถูกเรียกว่า “โรคเด็กเกรดแปด” (8th Grade Syndrome)

    Sponsored Ads

    “ฉันป่วยเหรอ? ก็แค่จูนิเบียวเอง” – รายการวิทยุ Ijuin Hikaru UP’S

    Hikaru Ijuin (Twitter: @hikaruijuin) ถือเป็นคนแรกที่ใช้คำว่า “chuunibyou” ในรายการวิทยุของเขา Ijuin Hikaru UP’S (伊集院光のUP’S) ที่ออกอากาศเมื่อ 11 พฤศจิกายน 1999 เขากล่าวว่า

    “I’m still contracting ‘chuunibyou myself

    “ฉันยังทำสัญญา ‘จูนิเบียวกับตัวเอง

    Hikaru Ijuin , Ijuin Hikaru UP’S, 11 November 1999

    ในเวลาต่อมาเขาได้เปิดช่วงหนึ่งในรายการของเขาที่ชื่อว่า “ฉันป่วยเหรอ? ก็แค่จูนิเบียวเอง” “Am I sick? Oh, it’s just Chuunibyou. (かかったかな? と思ったら中二病) ” ซึ่งเป็นช่วงเวลาสำหรับการอ่านว่า “กรณี” ของผู้ฟังทางบ้านที่แสดงออกถึงอาการจูนิเบียว ในช่วงแรก “พวกเขาต่อต้านการศึกษาในโรงเรียน” หรือ “พวกเขามีความรู้เล็กน้อยและทำกิจกรรมบางอย่าง” และหลังจากนั้นรูปแบบรายการก็ค่อยๆ เปลี่ยนไป เป็นการพูดคุยเรื่องราวที่ฟังดูมีปรัชญาและน่าขำ เช่น “การแยกตัวประกอบมีประโยชน์อย่างไร”, “ผู้ใหญ่สกปรก”, “ผมไปเที่ยวมาเพื่อค้นหาตัวเอง” หรือ “ผมกำลังมองหาของจริง เพื่อนสนิท”

    Ijuin ให้คำจำกัดความคำว่า “จูนิเบียว” ว่าเป็น “สิ่งที่คนทั่วไปทำในช่วงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2” คำนี้มีแพร่หลายอย่างรวดเร็วในอินเทอร์เน็ต และมีคำศัพท์อีกหลายเวอร์ชันก็ได้วิวัฒนาการมาจากต้นฉบับ เช่น “โรคม.ปลายปี 2 – kounibyou” (高二病, “second year high school syndrome”) และ “โรคเด็กป.2 – shounibyou” (小二病, “second year elementary school syndrome”) หลังจากนั้น Ijuin ก็ post ใน Twitter ว่า

    もう僕の作った時の意味と違うから言葉自体に興味無いです。

    “ฉันไม่สนใจคำนี้อีกต่อไปแล้ว เพราะมันสูญเสียความหมายดั้งเดิมไป เมื่อตอนที่ฉันอธิบายมันครั้งแรก”

    Hikaru Ijuin , @HikaruIjuin, 5 December 2009

    Sponsored Ads

    จูนิเบียวทั้ง 4 ประเภท

    หนังสือ Chuunibyou User Manual ได้แบ่งประเภทจูนิเบียวเป็น 4 ประเภทดังนี้

    รักสุดเพี้ยนยัยเกรียนหลุดโลก!

    คำว่า “จูนิเบียว” กลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้งในปี 2011 ด้วยซีรีส์ Chuunibyou demo Koi ga Shitai! (中二病でも恋がしたい!) หรือ “รักสุดเพี้ยนของยัยเกรียนหลุดโลก!” เป็นเรื่องราวของ โทงาชิ ยูตะ นักเรียนชั้นมัธยมปลาย ในครั้งที่เขาเรียนอยู่โรงเรียนมัธยมต้น เขาเป็นจูนิเบียว โดยคิดว่าเขามีพลังพิเศษที่ได้รับมา และเรียกตัวเองว่า Dark Flame Master ทำให้เขารู้สึกแปลกแยก และเมื่อหลุดพ้นจากภาวะดังกล่าว เขารู้สึกอายทุกครั้งและพยายามจะลืม ๆ มันไปให้หมด และเริ่มต้นชีวิตใหม่ในโรงเรียนมัธยมปลาย

    Sponsored Ads

    ส่งท้าย

    หากจะสรุปง่ายๆ จูนิเบียว Chuunibyou นั่นหมายถึงวัยรุ่นช่วงต้น ที่พยายามทำตัวให้เท่เพื่อสร้างความประทับใจให้ผู้คนในวัยเดียวกันและมีความสำคัญในตัวเองที่พยายามทำตัวให้มีเอกลักษณ์ อย่างไรก็ตาม วิธีคิดแบบนี้อาจยังคงดำเนินต่อไปแม้ว่าวัยรุ่นจะโตเป็นผู้ใหญ่แล้วก็ตาม แต่จริงๆ แล้วไม่เกี่ยวข้องกับภาวะทางการแพทย์หรือความผิดปกติทางจิตใดๆ เป็นเหมือนช่วงเติบโตของวัยรุ่นบางคนมากกว่า


    0 Comments

    Heads up! Your comment will be invisible to other guests and subscribers (except for replies), including you after a grace period.

    Note