อากาศยามค่ำคืนพัดแรงผ่านอีธานขณะที่เขาวิ่งฝ่าท้องถนนในวัลเมียร์ ความคิดของเขาสับสนวุ่นวายด้วยความตื่นตระหนก เขารู้สึกได้ถึงความร้อนแผดเผาของรอยประทับบนฝ่ามือ มันเต้นแรงเหมือนหัวใจดวงที่สอง ราวกับว่ามันพยายามนำเขาไปสู่บางสิ่งที่มืดมนและหลีกเลี่ยงไม่ได้ เงาร่างลึกลับที่เผชิญหน้ากับเขาในโรงแรมนั้นยังคงสดใหม่ในความคิด ความสง่างามที่ผิดธรรมชาติและการปรากฏตัวที่บิดเบี้ยวของมัน
Sponsored Ads
เขาไม่ได้หลบหนี เขารู้ดี เขาเพียงแค่เลื่อนเวลาให้กับสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เท่านั้น
ตรอกซอยที่คดเคี้ยวของวัลเมียร์รู้สึกเหมือนกับเขาวงกต แต่หมอกที่คลุมความรู้สึกของเขาเริ่มบางลงแล้ว เสียงหัวใจของเขาเต้นดังในหูขณะที่เขามุดผ่านตรอกเล็ก ๆ พยายามหาที่หลบภัย แต่ไม่ว่าเขาจะวิ่งเร็วแค่ไหน ความรู้สึกที่มีใครบางคนเฝ้ามองก็ไม่เคยหายไป
ทันใดนั้น มือหยาบกระด้างก็จับตัวเขาจากข้างหลัง ลากเขาไปยังตรอกแคบ ๆ อีธานแทบไม่มีเวลาได้ดิ้นรนก่อนที่เขาจะถูกผลักลงกับพื้น แขนของเขาถูกกดไว้ด้านหลังอย่างเจ็บปวด เงารอบตัวเขาเคลื่อนตัวไป และก่อนที่เขาจะตะโกน เสียงที่ต่ำและมีความคมของเหล็กก็กดเข้าที่ลำคอของเขา
“เงียบซะ ไอ้หนู” เสียงต่ำคำราม มีดคมกดลงที่ลำคอ
“แกก่อเรื่องมากพอแล้ว”
อีธานพยายามต่อสู้ แต่แรงของผู้จู่โจมนั้นมากเกินไป พวกเขามัดข้อมือของเขาด้วยโซ่ก่อนจะลากเขาขึ้นยืน ความคิดของเขาหมุนวน พยายามหาทางออก แต่รอยประทับบนฝ่ามือเต้นแรงด้วยความเจ็บปวด ความร้อนของมันแทบจะทนไม่ไหวแล้ว
Sponsored Ads
เขากำลังถูกพาไปที่ไหนสักแห่ง ที่ที่เลวร้ายกว่าเดิม
อีธานไม่รู้ว่าเขาหมดสติไปนานแค่ไหน เมื่อเขาตื่นขึ้นอีกครั้ง ฮู้ดก็หายไปแล้ว และห้องรอบตัวเขาก็หมุนไปมาไม่ชัดเจน ลมเย็นพัดผ่าน นำพากลิ่นสมุนไพรที่ถูกเผาและกลิ่นหินชื้น ๆ มาด้วย เขากะพริบตาหลายครั้ง พยายามเคลียร์ความพร่ามัวจากจิตใจ
เขาอยู่ในห้องโถงขนาดใหญ่ ผนังถูกล้อมรอบด้วยชั้นวางที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์การเล่นแร่แปรธาตุแปลก ๆ ขวดบรรจุของเหลวหมุนวน หนังสือหุ้มหนัง และเครื่องมือโลหะแปลก ๆ ที่ส่งเสียงฮัมเบา ๆ แสงในห้องสลัว สร้างเงายาวที่เต้นรำอยู่ในมุมสายตาของเขา
ข้อมือของเขาถูกล่ามไว้กับเก้าอี้ไม้กลางห้อง
“ยินดีต้อนรับกลับมา อีธาน รูค” เสียงเรียบเนียนและคุ้นเคยดังมาจากสุดปลายห้อง
หัวใจของอีธานเต้นแรงเมื่อเขาจำชายที่ยืนอยู่ข้างโต๊ะได้ ดวงตาที่เย็นชาเหล่านั้นจ้องมองมาที่เขา นั่นคือบารอน ราสก์
“คุณรู้จักชื่อฉันได้ยังไง” อีธานเริ่มถาม แต่คอของเขาแห้งเกินกว่าจะพูดจบ เขากลืนน้ำลายอย่างแรง พยายามบีบคำพูดออกมา “คุณรู้จักชื่อฉันได้ยังไง”
ราสค์หัวเราะเบา ๆ ใบหน้าแสดงความสนุกผสมกับการคำนวณ
“วัลเมียร์อาจดูเหมือนมุมที่ถูกลืมของโลกนี้ แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นที่นี่โดยที่ข้าไม่รู้” เขาเดินเข้ามาใกล้ขึ้น ศึกษาอีธานด้วยสายตาคม “ข้าจับตาดูเจ้าตั้งแต่คุณมาถึงเมืองของข้าแล้ว”
Sponsored Ads
จิตใจของอีธานหมุนไป พยายามปะติดปะต่อสถานการณ์ “จับตามองฉัน?”
“น่าจะเรียกว่าการสังเกตมากกว่า” ราสค์พูดด้วยเสียงต่ำ
“เจ้าไม่ใช่คนแรกที่มาวัลเมียร์เพื่อหาที่หลบภัย แต่เจ้าเป็นคนแรกในหลายปีที่มีความรู้จากโลกอื่น”
อีธานแข็งทื่อ ราสค์รู้ได้ยังไง? เขาระมัดระวังไม่พูดถึงอะไรเกี่ยวกับชีวิตในอดีตของเขาเลย ไม่ต่อหน้าใครทั้งนั้น บารอนต้องกำลังพูดโกหก
ราสค์ดูเหมือนจะอ่านความคิดของเขาได้ เขายิ้มเย็นชา
“เจ้าเห็นไหม พวกที่นับถือพวกนั้นกระซิบกระซาบเกี่ยวกับเจ้า อีธาน พวกเขาสนใจในความสัมพันธ์ของเจ้ากับเอลด์ริช แต่พวกเขาไม่ใช่พวกเดียวที่สนใจ”
หน้าอกของอีธานแน่นขึ้นเมื่อคำพูดของราสค์ซึมเข้าไป
“ฉันไม่รู้ว่าคุณกำลังพูดถึงอะไร”
บารอนเลิกคิ้ว “โอ้ แต่เจ้ารู้ดี การมาถึงของเจ้าไม่ใช่เรื่องบังเอิญใช่ไหม? เจ้ามีรอยประทับแห่งเอลด์ริช รอยประทับที่ผูกมัดเจ้ากับพลังที่อยู่นอกเหนือจากมิตินี้ และยังไงก็ตาม เจ้ารอดจากการเผชิญหน้ากับพวกนับถือและภัยคุกคามอื่น ๆ ที่จะฆ่าคนธรรมดา ทำไมล่ะ?”
Sponsored Ads
อีธานรู้สึกถึงความร้อนจากรอยประทับที่ลุกโชนใต้ถุงมือ ความเจ็บปวดเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เขากำหมัดแน่น จิตใจหมุนอย่างรวดเร็ว เขาไม่อาจไว้ใจราสค์ได้ แต่เขาก็ไม่สามารถเปิดเผยอะไรได้มากเกินไป
“ฉันรอดมาเพราะฉันพยายามกำจัดรอยประทับนั่นแค่นั้น”
ราสค์ยิ้มอีกครั้ง คราวนี้มีบางสิ่งที่มืดมนกว่าเดิม
“นั่นอาจจะเป็นสิ่งที่เจ้าเชื่อ แต่ข้าคิดว่ามันมีอะไรมากกว่านั้น เจ้าไม่ใช่แค่คนเดินทางธรรมดาใช่ไหม อีธาน? ข้าเห็นวิธีที่คุณเคลื่อนไหว วิธีที่เจ้าคิด เจ้าเป็นคนคำนวณ รอบคอบ เหมือนคนที่เข้าใจกลไกของโลกนี้”
ลมหายใจของอีธานติดขัด ราสค์กำลังจับผิดอะไรบางอย่าง แต่เขารู้ได้ยังไง?
บารอนชี้ไปที่โต๊ะใกล้ ๆ ซึ่งมีอุปกรณ์แปลก ๆ หลายชิ้นวางอยู่
“ข้าลองเล่นแร่แปรธาตุมาหลายปี แต่ความรู้ที่ข้าได้รับ… มันถูกจำกัดด้วยขอบเขตของโลกนี้ เจ้าต่างหากที่มีความรู้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์”
จิตใจของอีธานหมุนเร็ว ราสค์ต้องเห็นอะไรบางอย่าง บางทีอาจจะเป็นวิธีที่อีธานประเมินถนน หรือช่วงเวลาสั้น ๆ ที่อีธานใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์เพื่อปรับสภาพแวดล้อมของเขา ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม บารอนเข้าใจมากกว่าที่อีธานตั้งใจจะเปิดเผย
ราสค์เดินวนรอบตัวเขาช้า ๆ เสียงของเขาลดลงเหลือเพียงเสียงกระซิบที่สมรู้ร่วมคิด
“วิธีที่เจ้าหนีจากตรอก วิธีที่เจ้าหลบเลี่ยงพวกนับถือ เจ้าไม่ได้ใช้แค่โชคใช่ไหม? เจ้ากำลังใช้หลักการที่คนอื่นที่นี่ไม่สามารถเข้าใจได้ หลักการของเล่นแร่แปรธาตุและวิทยาศาสตร์”
Sponsored Ads
อีธานจ้องมองพื้น หัวใจเต้นแรง ความจริงถูกเปิดเผย แต่ไม่ใช่แค่นั้น ราสค์จับตามองเขา เรียนรู้จากเขา ยังไงก็ตาม เขาได้ปะติดปะต่อความรู้ทางเคมีของอีธาน และเข้าใจว่าอีธานไม่ได้มาจากโลกนี้
ราสค์ก้าวเข้ามาใกล้ขึ้น เสียงของเขาอ่อนโยนแต่เต็มไปด้วยด้วยความคุกคาม
“ข้าช่วยเจ้าได้นะ อีธาน เจ้ามีค่ามากกว่าจะเป็นแค่หมากของเหล่าเทพเจ้าแห่งความมืด ด้วยความรู้ของเจ้าและทรัพยากรของข้า เราจะควบคุมพลังแห่งเอลด์ริชที่คุกคามโลกนี้ได้ เราจะก้าวข้ามขอบเขตทั้งหมด”
ท้องของอีธานปั่นป่วน ราสค์ไม่ได้เสนอตัวช่วย เขาเสนอโอกาสที่จะใช้อีธานเพื่อประโยชน์ของตนเองในทางมืด “คุณต้องการให้ฉันทำอะไร?”
ดวงตาของราสค์เป็นประกายขณะที่เขาเดินไปที่ตู้ เปิดมันออกเพื่อเผยให้เห็นขวดของเหลวที่เรืองแสงอยู่หลายขวด “ข้ามีการทดลองที่ทำมาหลายปีแล้ว มันอาจจะปลดล็อคพลังที่แท้จริงของเอลด์ริชได้ แต่มันต้องการความละเอียดอ่อนในระดับหนึ่ง เจ้ามีความละเอียดอ่อนในระดับนั้น”
หัวใจของอีธานเต้นแรงขณะที่ราสค์วางขวดเหล่านั้นบนโต๊ะ แต่ละขวดส่องประกายด้วยแสงที่ผิดธรรมชาติ “ข้าต้องการให้คุณทำการแปรธาตุครั้งสุดท้าย กระบวนการทางการเล่นแร่แปรธาตุที่จะผูกมัดพลังแห่งเอลด์ริชไว้ภายใต้เจตจำนงของเรา แต่เพื่อที่จะทำเช่นนั้น เจ้าต้องยอมรับความรู้ทั้งสองโลกของเจ้า”
เลือดของอีธานเย็นเฉียบ ราสค์รู้เกี่ยวกับพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ของเขา และตั้งใจจะใช้เขาเพื่อรวมมันเข้ากับพลังของเอลด์ริช ความคิดที่จะยุ่งเกี่ยวกับบางสิ่งที่มืดมนและอันตรายเช่นนี้ทำให้เขาหวาดกลัว
Sponsored Ads
“ฉันจะไม่ช่วยคุณ” อีธานพูดด้วยเสียงที่หนักแน่น
รอยยิ้มของราสค์เลือนหายไป ดวงตาแข็งกระด้าง “เจ้าเข้าใจผิด รูค เจ้าไม่มีทางเลือก”
จิตใจของอีธานหมุนไปอย่างรวดเร็วขณะที่เขาชั่งน้ำหนักตัวเลือก เขาถูกล่ามไว้ อ่อนแอ และอยู่คนเดียว แต่ราสค์ไม่รู้ทุกอย่าง เขาไม่รู้เกี่ยวกับขวดแก้วสองสามใบที่อีธานจัดการซ่อนไว้ในเสื้อผ้าของเขา
หัวใจของอีธานเต้นรัวในอกขณะที่เขาจ้องมองบารอน ราสค์ แสงริบหรี่จากห้องใต้ดินสะท้อนอยู่บนสัญลักษณ์บิดเบี้ยวที่สลักไว้บนผนังหิน สร้างเงายาวและบิดเบี้ยวไปมา
ตอนนี้บารอนยืนขวางระหว่างอีธานกับความหวังใดๆ ที่จะหนีไปได้ รอยยิ้มเย้ยหยันของราสค์ซ่อนอยู่ในแสงริบหรี่ของคบเพลิง
“เจ้าคิดว่าจะเล่นงานข้าได้ใช่ไหม เจ้านักเล่นแร่แปรธาตุ?” ราสค์เย้ยหยัน เสียงของเขาแฝงไปด้วยความเคียดแค้น “เจ้าคิดว่าเล่ห์เหลี่ยมของเจ้าจะช่วยให้รอดพ้นจากสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้?”
จิตใจของอีธานทำงานอย่างรวดเร็ว คิดคำนวณความเป็นไปได้ ร่างกายของเขายังคงปวดร้าว แต่สัญชาตญาณบอกเขาว่าการยอมแพ้ไม่ใช่ทางเลือก ราสค์ประเมินเขาต่ำเกินไป เชื่อว่าอีธานพึ่งพาวิชาเล่นแร่แปรธาตุจนทำให้เขาดูอ่อนแอ แต่ความจริงแล้วอีธานไม่ใช่แค่นักวิชาการ เขาคือผู้รอดชีวิต
“ฉันไม่จำเป็นต้องเล่นงานคุณ” อีธานตอบ เสียงของเขามั่นคงแม้บรรยากาศจะตึงเครียด “ฉันเพียงแค่ต้องรอดเท่านั้น”
Sponsored Ads
ราสค์หัวเราะ เสียงหัวเราะ ดังสะท้อนในห้อง “รอดหรือ? กับข้า? เจ้าน่าจะหลงตัวเองเกินไป” เขายกมือขึ้น เรียกพลังแห่งเอลด์ริชที่พวยพุ่งออกมาจากสัญลักษณ์บนผนังรอบตัว อากาศหนาหนักไปด้วยพลังมืดที่น่ากลัว ทำให้อีธานรู้สึกเสียวสันหลัง
เขาสูดหายใจลึก นิ้วมือสัมผัสขอบถุงที่ซ่อนอยู่ หากราสค์ต้องการเล่นกับพลังแห่งเอลด์ริช งั้นอีธานจะให้เขาลองชิมดู
ในจังหวะเดียวกัน อีธานบิดตัวในเก้าอี้ ดึงขวดออกมาแล้วขว้างมันลงพื้น แก้วแตกกระจาย ปล่อยควันหนาทึบที่มีกลิ่นฉุนออกมาทั่วห้อง ราสค์เซถอยหลัง ไอออกมา ดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ
อีธานพุ่งไปที่ประตูอย่างไม่ลังเล ขาของเขายังอ่อนแรงแต่เต็มไปด้วยพลังจากอะดรีนาลีน เขาลุยผ่านควันหนา ฟังเสียงตะโกนด้วยความโกรธของราสค์ที่ดังตามหลัง แต่เขาไม่หยุด
ทะลุออกสู่อากาศเย็นยามค่ำคืน อีธานวิ่งฝ่าถนนในวัลเมียร์ ปอดของเขาเผาไหม้ขณะที่เขาพยายามหนีให้พ้นจากความมืดที่ไล่ตามมา
เขาหนีออกมาได้ แต่เขารู้ว่าราสค์จะมาตามหาเขาอีกครั้ง
และพวกลัทธิก็จะอยู่ไม่ไกลจากนี้เช่นกัน