066-ตั๋วที่ไม่มีชื่อฉัน

การจองตั๋วรถไฟในประเทศไทย เวอร์ชั่น RB51 เป็นเหมือนล็อตเตอรี่แบบพิเศษ แต่ตัวเลขถูกล็อกไว้แล้ว และรางวัลของคุณคือการได้นั่งข้างคนที่กินปลาหมึกย่างตอนเจ็ดโมงเช้า

Sponsored Ads

[North Freedom Line – ระบบจองออนไลน์]
Sprinter Express ไปเชียงราย
9–10 เมษายน 2544: เต็ม
โปรดติดต่อผู้วิเศษประจำท้องที่ของท่าน

ฉันลองเลือกวันอื่น ลองกรอกชื่อต่าง ๆ แล้วก็มองหน้าลาเต้ ที่มองกลับมาราวกับจะบอกว่า แกเป็นมนุษย์นะ แกจัดการสิ

“อย่ามองแบบนั้น” ฉันบ่น “นายก็ไม่ได้จ่ายค่าตั๋วตัวเองด้วยซ้ำ”

ลาเต้กระพริบตาช้า ๆ แล้วเริ่มข่วนกระเป๋าสะพายของฉันอย่างหน้าตาเฉย

ฉันต้องหาที่นั่งให้ตัวเอง ต้องขออนุญาตนำสัตว์เลี้ยงขึ้นรถ และต้องทำให้เสร็จก่อนวันที่จะกลับ เพราะยังไม่ได้ซื้อของฝาก ยังไม่ได้ขอใบรับรองสุขภาพให้ลาเต้ และ…ยังไม่ได้เตรียมใจเลยสักนิด

ราคาทางการคือ:

  • ฿1,200 สำหรับฉัน
  • ฿500 สำหรับลาเต้
  • รวมแล้ว ฿1,700…

…ไม่มีที่นั่งเลย แม้แต่ตู้ผีก็เต็ม ฉันเลยโทรหา “เจ้าถิ่น” คนเดียวที่ฉันกล้าหวังพึ่งในเมืองนี้

[โทรออก: ลุงเอ๋]

เสียงกริ๊งดังได้สองที ก่อนเสียงห้าว ๆ ที่คุ้นเคยจะรับสาย

“หลานรัก…กลิ่นความสิ้นหวังทะลุลำโพงมาเลยนะ “ขอเดา ไม่มีตั๋ว ไม่มีแผน และจะพาแมวไปเชียงราย?”

“9 เมษา เชียงราย คนกับแมวครับ”

“แหม ช่วงนั้นทั้งคนทั้งผีต่างก็กลับบ้าน ไม่มีที่เหลือเลย?”

“ไม่มีเลยครับลุง แม้แต่ช่องยืนข้างถังดับเพลิงก็เต็ม”

“โอเค ฟังให้ดี ตั๋วหลาน ฿1,200 ตั๋วแมว ฿500 ค่าปาฏิหาริย์ของลุง ฿1,000 รวมทั้งสิ้น ฿2,700 หลานจะได้ PDF สีเทาตามกฎหมายจะถูกส่งให้ใน 45 นาที”

“แล้วผมจะได้นั่งขบวนไหนครับ?”

“ถ้าลุงบอกตอนนี้…มันจะเรียกว่าปาฏิหาริย์ได้ยังไงล่ะ?”

“ก็ยังเลขเดิมใช่ไหมลุง?”

บัญชีลุงไม่เปลี่ยน…แต่โลกอาจจะนะ”

เสียงวางสายมาก่อนคำขอบคุณจะหลุดจากปาก และฉันก็รู้ว่า…ฉันกับลาเต้ได้ขึ้นรถแน่ ๆ แม้ไม่รู้ว่าคืนนี้จะฝันถึงรางรถไฟ หรือโต๊ะเหล็กที่ร้านเจ๊แช่มก่อนกัน

ฉันเปิดแอปธนาคาร โอน ฿2,700 ด้วยเสียงถอนหายใจ ลาเต้หาว ยืดเส้น แล้วกลับไปนอนในกระเป๋าเดินทางเหมือนนี่เป็นแผนที่ตกลงกันไว้แล้ว

หมายเหตุประเทศไทย เวอร์ชัน RB51:

การได้ตั๋วรถไฟช่วงเทศกาล ไม่ใช่เรื่องของ “มีเงินก็จองได้”  มันคือการประมวลผลของเครือข่าย ความเชื่อ และระดับศีลธรรมที่คุณยอมลด

ค่าใช้จ่าย:

– ฿1,200 — ตั๋วของฉัน (ผู้โดยสารที่ไม่มีแผนสำรอง)

– ฿500 — ตั๋วของลาเต้ (ผู้โดยสารขนฟูไม่เต็มใจ)

– ฿1,000 — ค่าปาฏิหาริย์จากลุงเอ๋ (ผู้ให้บริการระดับคำว่า “ไม่ถามเพิ่ม”)

รวมทั้งสิ้น: ฿2,700 

แพงไหม? ก็ไม่แพงไปกว่า “การติดอยู่ในกรุงเทพฯให้แมวตัดสินชะตาชีวิต”

บางคนเรียกแบบนี้ว่า “เอาเปรียบ” 

บางคนเรียกว่า “โครงสร้างพื้นฐาน” 

ลาเต้ไม่เรียกอะไรเลย เขาแค่เลียเท้า แล้วจามใส่เป้ของฉัน

ฉันเปิดไฟล์ยืนยันการจอง  มีชื่อฉัน มีเลขตู้ มีเวลาชัดเจน  มีแต่ชื่อ “ปลายทาง” ที่ยังเบลออยู่ในใจ เราได้ตั๋วแล้ว เหลือแค่…อย่าให้ฉันตายก่อนวันที่ 9 ก็พอ

Sponsored Ads

———————

กล่อง แมว คลินิก และเงาของดอกมะลิ

การอุ้มแมวอ้วน ๆ เข้าเพ็ทมอลล์ ฟังดูเหมือนอะไรที่ทำให้คุณดูน่ารักได้ แต่ใน RB51 มันทำให้คุณดูเหมือน มนุษย์ลุงที่หย่าร้างและแพ้คดีสิทธิ์เลี้ยงลูก… แล้วต้องดูแลแมวแทน

ลาเต้ ตอนนี้น้ำหนักเป็นทางการ 7.1 กิโลกรัมแห่งการตัดสินจากสายตา ไม่มีท่าทีจะนั่งนิ่ง ๆ เลย ขนของเขาเป็นสีครีมนุ่ม ๆ ปนคาราเมล เหมือนกาแฟที่ใครเผลอเติมนมมากไปหน่อยในโชคชะตา

หลังจากปฏิเสธกล่องแมวห้าใบ และพนักงานขายสองคนที่พูดว่า “คาวาอี้นะค้า~” แบบเหนื่อยใจ

ฉันก็ยอมจบที่กล่องสีเขียวขี้ม้าชื่อ Furr-ward Explorer™มีพัดลม USB และช่องจ่ายน้ำในตัว

ราคา: ฿1,390
กับศักดิ์ศรีที่เสียไปแบบประเมินค่าไม่ได้ แต่ภารกิจจริงคือที่คลินิกสัตว์

เราต้องใช้ ใบรับรองสุขภาพสัตว์เลี้ยง ข้อบังคับนับตั้งแต่ RB51 รับนโยบายสหรัฐฯ สไตล์ “สัตว์เลี้ยงคือครอบครัว คลินิกทุกแห่งคือที่จ่ายบิล”

คลินิกไม่เปลี่ยนเลย โปสเตอร์เดิม ตู้ปลาตัวเดิม กลิ่นน้ำยาผสมเดจาวูเดิม ๆ

ในคลินิก สัตวแพทย์เงยหน้าขึ้น เธอกระพริบตา

“ลาเต้เหรอ?! โอ้โห—ดูสิ! อ้วนขึ้นนะเรา!”

ลาเต้คำรามใส่ ฉันรีบกระซิบบอกเขา “เธอไม่ได้หมายความอย่างนั้น”

“เอ๊ะ…แล้วแฟนคุณล่ะ? คนที่เคยพาเขามาตลอด?”

ฉันรู้ว่าวันนี้จะมาถึง

“เมย์ใช่ไหม?” หมอพูดเบา ๆ “กลิ่นหอมเหมือนดอกมะลิเลย เธอจะห่อลาเต้มาด้วยผ้าขนหนูลายลูกเป็ดทุกครั้ง”

ลาเต้กระพริบตา เหมือนจำได้ ฉันพยักหน้า แค่ครั้งเดียว ไม่พูดอะไร เราบอกลากันในเดือนมกราคม 2543 เธอทิ้งแมวไว้ให้ฉัน บิลสองสามใบ คอมพิวเตอร์เครื่องเก่า และคีย์บอร์ดไฟฟ้าอีกหนึ่งตัว

หมอพลิกแฟ้มประวัติ

ชื่อ: ลาเต้
สายพันธุ์: แมวบ้านธรรมดา
เพศ: ผู้ (ทำหมันแล้ว)
อายุ: ~3 ปี
สถานะ: น้ำหนักเกิน เลยกำหนดฉีดยา เฝ้าติดตามนานเกินกำหนด

“ต้องฉีดวัคซีนรวม FVRCP, กระตุ้นพิษสุนัขบ้า, หยดเห็บหมัด แล้วก็ออกใบรับรองสุขภาพ”

“เท่าไหร่ครับ?”

“เราเป็นคลินิกที่อยู่ในระบบ RB51 — คุณไม่ตายหรอก”

เธออมยิ้ม แต่ฉันไม่

ค่ารักษาแบบละเอียด:

  • วัคซีนรวม FVRCP (เข็มหลัก): ฿450
  • บูสเตอร์พิษสุนัขบ้า: ฿350
  • หยดกันเห็บหมัด: ฿300
  • ใบรับรองสุขภาพเดินทาง: ฿650

รวมทั้งหมด: ฿1,750

“ช่วยจับเขาหน่อยนะคะ”

ฉันพยายามแล้ว ผลคือเสียงกรีดร้องจากแมว รอยเล็บสามแห่ง และวัคซีนที่ฉีดสำเร็จอย่างปาฏิหาริย์ ลาเต้ขู่ฟ่อ ฉันเลือดซึม หมอเช็ดมือต่ออย่างใจเย็น

“ใช้ได้ 7 วันจากวันนี้นะคะ เดินทางวันไหน?”

“9 เมษายนครับ”

“ฝากความคิดถึงเมย์ด้วยนะค่ะ”

ฉันพยักหน้าอีกครั้ง แต่ฉันรู้ว่าเราไม่เจอ ลาเต้ก็ไม่หันกลับเหมือนกัน

หมายเหตุประเทศไทย เวอร์ชัน RB51: หมวดการเดินทางของสัตว์เลี้ยง

• สัตว์เลี้ยงน้ำหนักไม่เกิน 10 กิโลกรัม สามารถขึ้นตู้โดยสารได้ หากอยู่ในกรง และฉีดวัคซีนครบ 

• ใบรับรองสุขภาพมีอายุ 7 วัน 

• ห้ามใช้ยาสลบ 

• ไม่มีข้อยกเว้น 

• ไม่มีการคืนเงิน 

• *ยกเว้นกรณีเดียว: สัตว์ที่มี “แววตาเศร้าลึกแบบอธิบายไม่ได้” (ลาเต้ผ่านฉลุย  เจ้าหน้าที่ไม่กล้าสบตาแม้แต่เสี้ยววินาที)

ระหว่างทางกลับ ลาเต้นอนงอนอยู่ในกระเป๋าแคปซูลใบใหม่ของเขา หางกระตุกเบา ๆ เหมือนกำลังฝันว่ากำลังต่อรองราคาทูน่ากับใครสักคน

ฉันมองเขา แล้วพึมพำ “เธอดีกับคุณนะ แต่คนที่อยู่…คือฉัน”

เขาไม่ตอบ แต่ก็ไม่ข่วน ซึ่งในโลกแมว นั่นแหละ…คือคำอภัยที่มากที่สุดเท่าที่เขาให้ได้

Sponsored Ads

———————

ใบเสร็จ ความรู้สึกผิด และคำที่เราไม่เคยพูด

คุณอาจคิดว่าการซื้อของขวัญให้ครอบครัวเป็นเรื่องง่าย แต่จริง ๆ แล้ว…การที่คุณไม่รู้ว่าพวกเขาชอบอะไรอีกต่อไป มันทำให้ทุกอย่างยากขึ้นเยอะ

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง… เมื่อคุณไม่ได้เจอพวกเขามากว่าเจ็ดปีแล้ว

อย่างแรก: แล็ปท็อป

ฉันไปพันธุ์ทิพย์ด้วยเป้าหมายง่าย ๆ  หาเครื่องที่เปิด Word แล้วไม่แฮงก์ เซลส์แมนเสนอ Toshiba Dynabook S1 “รุ่น Edu-Pro RB51 Edition”

  • Pentium III, RAM 128MB, HDD 20GB
  • มาพร้อม Microsoft Office ’97 ลิขสิทธิ์แท้
  • แถมฟรี: เมาส์ลูกบอลแบบมีแบรนด์, กระเป๋าไนลอน, และสติกเกอร์ที่เขียนว่า “Powered by Grit”

ราคา: ฿49,900 ฉันใช้เวลาตัดสินใจ: 0.7 วินาที มันไม่ถูก แต่ฉันไม่ได้จนอีกแล้ว

ฉันเป็นนักแต่งเพลงแล้ว แปลว่าฉันต้องมีเครื่องมือ และข้อแก้ตัว… ไม่ใช่ข้ออ้างอีกต่อไป

ต่อไป: ของขวัญ

ฉันไม่ได้เขียนชื่อไว้ข้างของ มีแค่โน้ตบางคำ ความทรงจำบางบรรทัด เสียงในหัวที่หายไปนานเกินไปแล้ว

  • BrightBloom Tokyo Peony Serum สีชมพูซากุระ

“เธอไม่เคยชอบกลิ่นดอกไม้… แต่ตอนนี้อาจจะเปลี่ยนไปแล้วก็ได้”

  • เสื้อยืดกราฟิกแนวอุตสาหกรรมลาย “RB51 Power Tools Division”

“ไม่ฉูดฉาด ไม่ปลอม… ใช้งานได้จริง เหมือนเขาเมื่อก่อนเลย”

  • ชุดจุกจิกแวววาว: ฟิกเกอร์ Princess Lightwave, สมุดโน้ตแฟนตาซี, ปากกากลิ่นบับเบิลกัม

“เธออาจจะโตเกินของแบบนี้แล้ว… แต่ถ้าไม่ เธอจะรู้ว่าฉันยังจำได้”

  • เครื่องตัดผมไฟฟ้า TrueTools พร้อมหัวบดกาแฟเสริม

“ของสองอย่างที่พ่อคนหนึ่งอยากได้เสมอ: ใบมีดคม ๆ กับกาแฟแรง ๆ”

  • กระเป๋าเหรียญผ้าทอมือ จากบูธ Hilltribe Collaboration

“สวยเกินจะเอาไว้ใช้วันตลาด… แต่เธออาจจะเก็บไว้ในลิ้นชักก็ได้”

ฉันซื้อพวกมันอย่างเงียบ ๆ ทีละชิ้น ทีละร้าน ปล่อยให้ใบเสร็จแต่ละใบพับเก็บลงในกระเป๋าสตางค์ เหมือนกระดาษที่พิมพ์สิ่งที่ฉันไม่กล้าพูดออกมา

ลาเต้ไม่ได้ช่วยอะไร นั่งอยู่ในกระเป๋าแมว กระพริบตาอย่างตำหนิ แล้วเลียไหล่ตัวเองแบบโอเวอร์แอ็กติ้ง

“คิดว่าฉันพยายามชดเชยมากเกินไปใช่ไหม?”

เขาจาม

“โอเค ก็ได้ ฉันยอมรับก็ได้”

ถุงช้อปปิ้งที่เต็มไปด้วยอารมณ์

  • ยอดรวมที่จ่ายไป: ~฿3,800
  • ต้นทุนทางอารมณ์: ยังไม่ประเมิน
  • จำนวนของขวัญที่ติดป้ายว่า “สำหรับน้อง”: 0
  • จำนวนของขวัญที่ดูเฉพาะเจาะจงจนน่าสงสัย: 3

ฉันยืนต่อคิวในคาเฟ่ที่ MBK ถือช็อกโกแลตร้อนที่ไม่ได้สั่ง คิดถึงคำที่ไม่เคยพูด

“คิดว่าเขาจะชอบของพวกนี้ไหม?” ฉันกระซิบเบา ๆ

ลาเต้ไม่ตอบ แต่เขาก็ไม่ได้ร้องใส่ฉัน ซึ่งในภาษาแมว… ก็ประมาณว่า อนุมัติแล้ว

Sponsored Ads

———————

กระเป๋าใบเดียว กับคำลาสองครั้ง

แล็ปท็อปวางอยู่บนโต๊ะแล้ว ยังใหม่พอจะมีกลิ่นพลาสติกกับเทปใสจากโรงงาน ฉันลูบแป้นพิมพ์เบา ๆ ไม่มีสติกเกอร์ ไม่มีเพลง มีแค่พื้นที่ว่าง กับความเป็นไปได้

ลาเต้ม้วนตัวอยู่ข้างกระเป๋า มองฉันอย่างกับฉันติดค่าเช่า

ฉันเปิดสมุดบันทึก พลิกไปหน้าสุดท้าย หน้าที่ฉันเขียนไว้ว่า “บัญชีความเสียหาย”

ยอดเริ่มต้น: ฿722,482

ฉันเริ่มไล่รายการ:

  • ตั๋วรถไฟ (Sprinter กรุงเทพ–เชียงราย): ฿1,200
  • ค่าโดยสารลาเต้ + ค่าดำเนินการจากลุงเอ๋: ฿1,500
  • กระเป๋าแมว (Furr-ward Explorer): ฿1,390
  • วัคซีน ยาเห็บ ใบรับรองเดินทาง: ฿1,750
  • Toshiba Dynabook Edu-Pro RB51 (ใหม่): ฿49,900
  • ของขวัญให้ครอบครัว (5 ชิ้น): ฿3,800

รวมที่ใช้ไป: ฿59,540

ฉันตรวจเลขอีกรอบ

ยอดคงเหลือ: ฿662,942

ยังเหลือพอใช้ ไม่ถึงกับรวย แต่ก็ปลอดภัย เป็นความรู้สึกแปลกดี หลังจากเคยนั่งคิดหลายคืนว่าเงิน 500 บาทจะอยู่ได้กี่วัน

ฉันเอนหลังมองกระเป๋าที่เก็บไว้เรียบร้อย มันไม่หนักหรอก แค่เต็มไปด้วยเวลา เวลาที่ไม่ได้กลับบ้าน เวลาที่ไม่ได้เป็น “ของใคร” ของครอบครัวใครเลย

ลาเต้เหยียดยาวแล้วจามใส่กระเป๋าแคปซูลใบใหม่

“มันไม่ใช่บทลงโทษนะ” ฉันพูดเบา ๆ “แค่การเดินทาง”

เขาหลับตาเหมือนจะบอกว่ามันแย่ยิ่งกว่า

ฉันหยิบกระเป๋าใส่เหรียญขึ้นมาอีกครั้ง ใช้นิ้วลูบรอยเย็บ มันไม่ใช่ของมีค่าอะไร แต่ฉันเลือกมัน เพราะมันดูเหมือนทำด้วยมือ เหมือนยังมีจังหวะหัวใจอยู่ในนั้น ของขวัญชิ้นอื่นวางเรียงกันเหมือนทหาร แต่ละชิ้นซ่อนคำขอโทษไว้เงียบ ๆ

พัดลมส่งเสียงเหมือนเครื่องยนต์เก่าใกล้พัง ข้างนอกมีคนปิดประตูดังปัง ตึกนี้ไม่เคยเงียบ แต่คืนนี้… มันเงียบพอให้ฉันรู้สึกเหมือนมี “ความสงบ”

ฉันเปิดแล็ปท็อปใหม่ขึ้นอีกครั้ง พิมพ์สิ่งแรกที่นึกออก

“ฉันไม่รู้ว่าจะได้รับการต้อนรับแบบไหน แต่ครั้งนี้… อย่างน้อย ฉันก็มีบางสิ่งติดมือไปด้วย”

ฉันลองนั่งนับของอีกครั้ง ไม่ใช่แค่ยอดเงิน แต่คือ “เหตุผล” ที่ทำให้ฉันซื้อของแต่ละชิ้น มันไม่ใช่ความรู้สึกผิด ไม่ใช่ความค้างคา 

แต่มันคือการ “พยายามจะเป็นส่วนหนึ่ง” ของบางสิ่ง ที่ฉันเคยหลีกเลี่ยงจะเรียกว่าครอบครัว

ฉันไม่ได้เติบโตมากับพวกเขาในโลกก่อน ไม่มีภาพแม่ยิ้มตอนรับปริญญา ไม่มีความทรงจำพี่ชายสอนปั่นจักรยาน  ไม่มีน้องสาวที่เคยเถียงกันเรื่องขนม

แต่บ้านสวนที่ฉันกำลังจะกลับไป เสียงรองเท้าแตะของแม่ เสียงแทรกเตอร์ของพ่อ เสียงเงียบ ๆ ที่พี่ชายใช้ตอบคำถามแทนคำพูด

…มันเริ่มฟังดูไม่แปลกอีกต่อไป

บางที ความผูกพันไม่จำเป็นต้องมีราก แค่คุณกล้าปลูกลงไป โดยไม่รู้ว่าจะงอกเมื่อไหร่ 

แค่นั้น…มันก็เริ่มแล้ว

ฉันเซฟไฟล์ ปิดฝาเครื่อง ปิดไฟ เหลือแค่หลอดสีส้มข้างประตู

ห้องดูโล่งขึ้นนิดหนึ่ง เหมือนมันยอมให้ฉันจากไป

ลาเต้กระโดดเข้ากระเป๋าแคปซูลเองโดยไม่บ่น แค่นั้นก็รู้สึกเหมือนเป็นพรแล้ว

พรุ่งนี้… ฉันจะกลับไปยังที่ที่เคยหนีมา ไม่ใช่ในฐานะคนล้มเหลว และยังไม่ใช่คนที่ประสบความสำเร็จ

แต่ตอนนี้ ฉันเป็นคนที่ “กลับบ้านได้” แล้ว

Sponsored Ads