พอเที่ยงวัน เว็บบอร์ดก็ได้บัญญัติศัพท์นี้ไว้แล้วว่า “Waterlight Effect”
บางคนบอกว่าเหมือนชื่อกลิ่นน้ำหอมยุค 90 บางคนว่าเหมือนโดนตบด้วยถุงมือกำมะหยี่ แต่สิ่งที่ทุกคนเห็นตรงกันคือ เพลง “ดาวบนผืนน้ำ” มันแรงกว่าที่ใครคาดไว้
Sponsored Ads
ไม่ใช่เพลงดัง ไม่ติดเทรนด์ แต่มันอยู่ และนั่นแหละ ที่ทำให้หลายคนเริ่มรู้สึกไม่สบายใจ
“ไม่รู้ใครแต่งนะ” ดีเจคนหนึ่งพูดกลางรายการ FM Voice88
“แต่ฮุกที่ร้องว่า ‘ไม่ใช่ดาวบนท้องฟ้า ไม่มีค่า เป็นได้แค่เงาของเขา เรื่อยไป’ มันไม่ได้แค่เฉือน แต่มันเปิดแผลเลยครับ”
บางคนเชื่อว่ามันคือคำตอบตรง ๆ ของเพลง “เจ้าหญิงคนต่อไป”
บางคนเรียกมันว่า “กับดักทางอารมณ์ของบอสสาว”
ส่วนพวกที่ยอมรับว่าคิดผิดไม่ได้ ก็ไปอีกทาง “เพลงนี้คือ การโต้แย้งฝั่งตรงข้ามที่ถูกจัดวางมาอย่างจงใจ เพื่อเรียกพื้นที่คืน”
ซึ่งฟังแล้วน่าขำดี เพราะสิ่งเดียวที่กรณ์ทำ ก็คือแค่เขียน
ในภาพภายนอก ไอรีไม่ได้ตอบโต้ เธอไม่ได้ทวีต (เพราะนี่คือปี 2544) ไม่ได้ให้สัมภาษณ์ (เพราะไม่มีใครถาม)
เธอแค่ยืนอยู่ตรงนั้น
ในเฟรมกล้องรายการเคเบิลท้องถิ่น ร้องเพลงบนเวทีชุมชนหลังห้างสรรพสินค้าวิคตอรี่ ถือไมค์สายธรรมดา กับเสียงที่ไม่สั่นแม้แต่นิด
คอลัมน์ต่าง ๆ เริ่มนุ่มลง ไม่ใช่ทุกฉบับ แต่พอให้สังเกตได้
บางคนลบโพสต์เก่าเงียบ ๆ บางคนใส่เชิงอรรถว่า “บทความนี้เขียนก่อนซิงเกิลล่าสุด”
และบางคน แค่ไม่กี่คน ยอมรับว่า
บางที… แค่บางที… พวกเขาอาจประเมินเธอต่ำไป
หรือแย่กว่านั้น ฟังผิดเสียงตั้งแต่ต้น
คำว่า “indie plant – ไม่ใช่อินดี้จริง” ยังโผล่อยู่ แต่ตอนนี้มันมาพร้อมคำใหม่
“misidentified – รู้จักผิด”
และในกระทู้ใต้บทวิจารณ์ของ มโนสังคีต มีคอมเมนต์หนึ่งเขียนไว้
“เธออาจไม่ได้เป็นเสียงของใครเลยก็ได้… แต่เธอคือตัวเธอเอง — ในที่สุด”
ที่ไหนสักแห่ง ระหว่างกระทู้สนทนาและคลื่นวิทยุ มือถือของเขาสั่นขึ้นหนึ่งครั้ง หน้าจอสว่างขึ้น เงียบ เรียบ เล็ก
[SMS – Bank of New Siam]
เงินเข้า: ฿15,000.00
จาก: Phuengjai Music Co., Ltd.
รายละเอียด: Payment – Demo ดาวบนผืนน้ำ
ยอดเงินคงเหลือ: ฿552,942
ไม่มีกระดาษโปรย ไม่มีแสงไฟ แค่ตัวเลขหนึ่ง
เงียบ ๆ ยืนยันว่า บางถ้อยคำก็มีค่าพอจะจ่ายจริง ๆ
—
ที่ห้องเช่าอ่อนนุช กรณ์ไม่ได้ร่วมเฉลิมฉลอง เขาไม่ได้เปิดเว็บบอร์ด ไม่ได้ตอบอีเมล แค่กด play อีกครั้งบนเครื่องเทปเก่า ๆ เดโม ดาวบนผืนน้ำ ดังแผ่ว ๆ แต่สม่ำเสมอ
ลาเต้ ขดตัวครึ่งหนึ่งอยู่บนโต๊ะ มองเทปหมุนอย่างรู้ดีว่า ช่วงเวลาแบบนี้อยู่ไม่นาน แต่บางเสียงสะท้อน มันอยู่นานกว่าปรบมือ โดยเฉพาะเมื่อผืนน้ำ… ยังจำแสงได้
Sponsored Ads
———————
เสียงที่ไม่ต้องตะโกน
โทรศัพท์ดังตอนที่ฉันกำลังยกโมเด็มขึ้นสูงราวกับจะให้ศีลล้างบาปเข้าสู่ยุค DSL ฉันเอื้อมเท้ากดรับสาย ยังไม่ทันตั้งใจจะพูดก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเกินเหตุ
“มึงยังไม่เปลี่ยนพัดลมอีกเหรอ?”
เสียงพี่ต้นกร้าวมาเหมือนแอมป์ที่ขัดสายไฟ
“หรือจะรอให้แมวมึงมันสปาร์คสายไฟจนกลายเป็นตำนานกลางห้องวะ?”
ฉันหัวเราะเบา ๆ “ลาเต้ยังไม่ถึงขั้นนั้นครับ… แต่พัดลมก็ยังตัวเดิม”
“ชัดเจนว่ามึงยังหมือนเดิม“ เขาว่า
“แล้วโทรมาประชันความชำรุดเหรอครับ?”
“โทรมาเอาเพลงใหม่โว้ย”
มาแล้ว แบบพี่ต้น ไม่อ้อม ไม่ถาม ไม่ทักทาย แค่ยิงตรงเหมือนปิ่นโตที่ไม่ผ่านการกรองคำ
“สำหรับวงพี่เหรอครับ?”
“วงกูนี่แหละไอ้สัส! หรือจะให้กูใส่วิกขึ้นเวทีไปโปรโมตสบู่ออร์แกนิก?”
เขาตอบเสียงห้วน “กูอยากปล่อยเพลงใหม่ แล้วกูก็อยากให้มึงแต่ง”
ฉันหยุดคิด “ทำไมต้องผม?”
“เพราะมึงไม่เขียนเพื่อให้คนชอบ มึงเขียนให้คนรู้สึก”
แล้วเขาเติมมาเบา ๆ ว่า “แล้วเพลงล่าสุดของมึงอะ… แม่งเขย่าวงการวิจารณ์เหมือนกูเปิดสแตนด์บนหลังคารัฐสภา”
“ผมก็ไม่คิดว่ามันจะระเบิดแบบนั้นหรอกครับ”
“ก็เพราะมึงไม่คิดไง เลยตรง มึงไม่ใส่แอร์บรัช มึงไม่ทำเสียงให้หวาน — แล้วคนแม่งได้ยิน”
“แล้วอยากได้เพลงที่ตะโกนอีกเหรอครับ?”
“เปล่า” เขาเกือบจะฟังดูขำด้วยซ้ำ
“กูอยากได้เพลงที่ไม่ต้องตะโกน แต่แม่งทำคนทั้งห้องเงียบได้”
ฉันเกาหลังคอ หน้ากระดาษยังว่างเปล่า
แต่เสียงพี่ต้น… มันทำให้มือฉันอยากหยิบปากกาขึ้นมาอีกครั้ง
“ผมยังไม่มีไอเดียเลยนะพี่”
…แต่ดินสอก็อยู่ในมือแล้ว
“มีหรือไม่มี มึงก็เขียนอยู่ดี — กูแค่โทรมาบอกว่า ถ้ามึงจะเริ่มเขียน… คิดถึงวงกูด้วย”
ฉันพยักหน้า แม้เขาจะมองไม่เห็น “ครับพี่”
“แล้วถ้ามึงแต่งเพลงให้ใครอีก กูก็ไม่ว่า… แค่อย่าลืมว่าพวกกูยังอยู่ตรงนี้ — เล่นสดแบบเหงื่อท่วม ไม่ไลฟ์แบบเสียงพรีเซต”
แล้วเขาก็วางสาย ไม่มีคำลา นั่นคือการจับมือของเขา
ฉันนั่งพิงเก้าอี้ มองเคอร์เซอร์กะพริบบนหน้ากระดาษว่าง บางครั้ง สิ่งที่ผลักให้เราเริ่มเขียนอีกครั้ง ไม่ใช่กำหนดส่ง ไม่ใช่ค่าจ้าง
แค่เสียงหนึ่ง ที่เตือนว่าเรายังเป็นใคร ก่อนจะเงียบตามโลก
Sponsored Ads
———————
ทีวีที่ไม่ได้ตั้งใจเปิด
ฉันไม่ได้ตั้งใจจะเปิดทีวี
มันแค่…เกิดขึ้นเอง นิ้วกดรีโมตไปก่อนที่สมองจะสั่ง เหมือนร่างกายต้องการเสียงอะไรก็ได้ ที่ไม่ใช่ความคิดของตัวเอง
สายตาฉันไม่ได้จ้องจอด้วยซ้ำ จนกระทั่งเสียงของเธอเริ่มขึ้น
🎶 “ได้เจอครั้งสุดท้าย ตอนที่ดูรูปถ่าย และเมื่อหลับตาครั้งใด ยังเห็นเธอ…” 🎶
แล้วเปียโนที่ราวกับกำลังกล่อมความทรงจำไม่ให้ตื่น ฉันนิ่ง ไม่กระพริบตา
ห้องเงียบตาม
ไม่มีฟุตเทจบนจอ มีแค่ภาพถนนซากุระกับกลีบดอกไม้ร่วง เครดิตภาษาญี่ปุ่นเลื่อนขึ้นช้า ๆ ข้างจอ แปลอังกฤษไม่สมบูรณ์
Cards Capture: Sakura รีรัน ตอนที่ 12 ED
แน่นอน
โปรเจกต์ทดลองของ ToSi ที่เอาเสียงของนีน่าไปใช้ประกอบแอนิเมะนำเข้า โดยไม่เปิดเผยชื่อ
เพลงที่ฉันเขียนไว้ตั้งแต่หลายเดือนก่อน เพลงที่ฉันคิดว่า…ไม่มีใครจะได้ยิน
🎶 “แม้เพลงนี้เธอไม่ได้ฟัง ทุก ๆ คำที่เคยบอกไว้ งดงามแม้ยิ่งห้ามใจ ฉันจำได้เสมอ…” 🎶
ฉันไม่รู้ตัวเลยว่าขยับเข้าไปใกล้หน้าจอ จนเข่าชนโต๊ะเตี้ยตรงหน้า
เสียงของนีน่าไม่หวาน เธอไม่เคยพยายามให้มันหวาน แต่มัน อยู่ตรงนั้น เหมือนกับควันที่ไม่สนใจว่ามันจะลอยไปทางไหน
และเมื่อเธอขึ้นท่อนฮุก…
🎶 “ที่เธอเคยบอกฉัน อย่าร้องไห้ อยู่ให้ได้ถ้าเธอไม่อยู่…” 🎶
…ลำคอฉันแน่นขึ้นเหมือนฉันเพิ่งจำได้ว่ารู้สึกอย่างไรที่ต้องสูญเสียบางสิ่งที่ฉันไม่เคยได้เอ่ยชื่อ
เธอไม่จำเป็นต้องปรากฏตัว แค่เสียงนั้นก็พอ
รายการจบ จอกลับมาเป็นโฆษณาแชมพูที่ทำจากข้าวหมักและนวัตกรรมจากสหรัฐอเมริกา
ฉันกดปิดทีวี
ความเงียบกลับมาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้… มันนุ่มลง เหมือนความรู้สึกที่ไม่ได้ถูกห้ามอีกต่อไป
ฉันนั่งเอนหลัง หลับตา
เพลงที่ฉันเขียนให้ และเสียง กับความรู้สึกที่ลืมไปว่า… เราเคยมีสิทธิ์รู้สึก
แล้วฉันก็เปิดสมุดอีกเล่มหนึ่ง ไม่ใช่เล่มบันทึกค่าลิขสิทธิ์ ไม่ใช่เล่มบันทึกตารางงาน แต่เล่มที่ถ้าไม่เขียน มันจะเจ็บเกินจะเก็บไว้เฉย ๆ
Sponsored Ads
———————
ไม่มีใครพูดชื่อ แต่ทุกคนมองหา
เครื่องแฟกซ์ดังขึ้นเบา ๆ ตอนเที่ยงคืนสี่สิบเอ็ด ช้ากว่าที่เคย แต่อยู่ในเวลาเดียวกับที่ไฟดวงสุดท้ายในออฟฟิศพึ่งใจเพิ่งปิดลง
ดุจดาววางแก้วกาแฟอย่างเงียบเชียบ ก่อนจะหยิบกระดาษแผ่นนั้นขึ้นมาอ่าน
หัวกระดาษเขียนไว้ชัดเจน:
“การจัดลำดับเพลงวิทยุประจำสัปดาห์ – เครือฟังสากลร่วมไทย-สหรัฐ”
รายชื่อเพลงถูกเรียงไว้เป็นตาราง แต่ไม่มีชื่อ “ดาวบนผืนน้ำ” ไม่มีแม้แต่ “เจ้าหญิง”กลับเป็นเพลงจากศักดินาเรคคอร์ดที่ติดลิสต์ถึงสี่เพลง และทุกเพลงถูกรับเข้าระบบ ทันทีที่ปล่อย
ดุจดาวขมวดคิ้วข้างเดียว ไม่ได้แปลกใจมากนัก แต่ก็ไม่ใช่เรื่องควรมองข้าม
ในทางเทคนิคแล้ว ทั้ง “เจ้าหญิง” และ “ดาวบนผืนน้ำ” เพลงทั้งสองมี metadata ครบ ไม่มีปัญหาสิทธิ์ ไม่มีข้อพิพาท ชื่อผู้แต่งระบุชัดเจนว่า “ธนากร” ในทุกระบบ
แต่ถึงอย่างนั้น ไม่มีคลื่นวิทยุหลักใดหยิบไปเปิด
นี่ไม่ใช่การกีดกันแบบเปิดเผย แต่เป็นสิ่งที่อ่อนนุ่มกว่า และพบได้บ่อยเกินไปในระบบเสียงของ RB51
การ “ตั้งใจละเว้น” อย่างเงียบ ๆ ไม่ใช่เพราะเพลงไม่ดี ไม่ใช่เพราะไม่ได้ลงทะเบียน แต่เพราะมัน “ไม่สะดวก”
ดุจดาวเคยเห็นกลวิธีแบบนี้มาหลายครั้ง
เพลงนี้พูดชัดเกินไป เพลงที่บอกว่า “ไม่รอเจ้าชาย” เพลงนี้ใช้ประโยคว่า “ฉันรู้ว่าฉันคือใคร” โดยไม่ให้ใครรู้สึกว่าตัวเองยังอยู่เหนือ
เธอเปิดเว็บบอร์ดสาธารณะที่เคยใช้ดูแนวโน้ม โพสต์ใหม่กำลังไต่ขึ้นสู่กระทู้ยอดนิยม
“ใครแต่ง ‘ดาวบนผืนน้ำ’?”
“เพลงนี้ดิบดี ไม่เห็นมีออกวิทยุเลย?”
“ใครร้องคอรัสอยู่ข้างหลังตอนเดโม รั่วปะ…?”
ไม่มีใครตอบตรง ๆ ไม่มีการปฏิเสธ ไม่มีการยืนยัน มีแต่ความเคลื่อนไหวที่พอจะเรียกได้ว่าเป็น “สัญญาณของแรงสั่น”
ดุจดาวไม่ได้ตอบอะไร เธอแค่หยิบสมุดปกแข็งขึ้นมา แล้วเขียนบรรทัดหนึ่งไว้เงียบ ๆ
“เพลงที่พูดมากเกินไป อาจไม่ได้หายไปเพราะพูดผิด แต่อาจเพราะ ‘พูดจริง’ มากเกินไป”
เธอพลิกย้อนกลับไปดูบันทึกก่อนหน้า รายชื่อเพลงที่เงียบหาย ชื่อศิลปินที่ไม่มีซิงเกิลที่สอง ชื่อที่หายไปจากโพสต์สาธารณะ แต่ยังสะท้อนอยู่ในห้องซ้อม
แล้วก็มาถึงไอรี สองเพลงในระบบ หนึ่งเดโมที่หลุด ศูนย์ครั้งออกอากาศ แต่มีพันแรงกระเพื่อมอยู่ใต้ผิวน้ำ
เธอกลับมาที่คอมพิวเตอร์ ไม่ใช่เพื่อโพสต์ ไม่ใช่เพื่อแฉ แค่พิมพ์ข้อความสั้น ๆ ส่งให้หนึ่งใน mod รุ่นเก่าของ มโนสังคีต
“ดูเวลาปล่อยข่าวให้ดี สังเกตว่าใคร ‘ไม่ได้’ แสดงความคิดเห็น แล้วจะรู้ว่าใครกำลังกังวล”
ไม่ต้องเอ่ยชื่อ ไม่ต้องพูดอะไรต่อ
เธอแค่โยนเหรียญลงบ่อน้ำในจังหวะที่เหมาะ แล้วให้เสียงกระเพื่อมเป็นคนพูดเอง
Sponsored Ads
หมายเหตุประเทศไทย เวอร์ชัน RB51
– ระบบ metadata ไม่สามารถปิดชื่อผู้แต่ง แต่ระบบจัดชั้นเพลงของสถานีวิทยุสามารถเลือก “ละเว้น” เพลงไม่เหมาะสมต่อกระแสหลักได้