ค่ำคืนปกคลุมกรุงเทพฯ ด้วยอากาศอบอ้าวแบบที่คุ้นเคยเสมอ ผมเพิ่งนั่งลงพร้อมกับกาแฟแก้วแรกของคืนนี้ได้ไม่นาน เสียงกระดิ่งหน้าร้านก็ดังขึ้น และชายหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามาในร้าน ดูเหมือนว่าเขาเพิ่งจะเห็นผีหนึ่งตัว หรืออาจจะหลายตัว
Sponsored Ads
ดูจากชุดเสื้อยืดที่เหมือนใส่มาแล้วสามวันติด กางเกงยีนส์หลวมๆ และกระเป๋าสะพายไหล่เดียวที่ดูเหมือนจะหลุดลงมาได้ตลอดเวลา เขาน่าจะเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย เขาถือแล็ปท็อปที่ดูเยินเหมือนเป็นสิ่งเชื่อมโยงสุดท้ายที่เหลืออยู่กับโลกนี้
“คุณคือคุณนาวินใช่ไหม?” เขาถาม เสียงของเขาฟังดูเหมือนผสมกันระหว่างความหวังกับความสิ้นหวัง
“ว่ากันอย่างนั้น” ผมจิบกาแฟ แล้วพยักหน้าไปทางเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามเคาน์เตอร์ “นั่งสิ เล่าให้ฟังหน่อยว่าอะไรพาคุณมาที่นี่”
เด็กหนุ่มทรุดตัวลงนั่ง กอดแล็ปท็อปแน่นเหมือนเป็นเครื่องป้องกันตัว “ผม…ผมชื่อปรีชา ผมซื้อแล็ปท็อปนี้มือสองตอนที่เรียนอยู่ที่ฝรั่งเศส ดูเป็นข้อเสนอที่ดีนะครับ แต่ตั้งแต่ผมกลับมา มันก็เริ่ม…แปลกๆ”
“แปลก?” ผมเลิกคิ้วขึ้น “ช่วยอธิบายคำว่า ‘แปลก’ หน่อย”
Sponsored Ads
ปรีชาโน้มตัวเข้ามา มองไปรอบๆ อย่างระแวงเหมือนกลัวว่าจะมีใครได้ยิน “มันเริ่มจากเล็กๆ น้อยๆ มีป๊อปอัปแบบสุ่มขึ้นมาในภาษาที่ผมไม่รู้จัก จากนั้นก็มีไฟล์แปลกๆ โผล่ขึ้นมาเอง ไฟล์ที่ชื่อว่า ‘lost_souls.jpg’ กับ ‘whispering_walls.mp3’” เขากลืนน้ำลาย หน้าเริ่มซีด “แล้วสองสามคืนที่ผ่านมา ผมเริ่มได้ยินเสียง…เสียงกระซิบ ออกมาจากลำโพง เหมือนมีใคร…ใครสักคนพยายามจะพูดกับผม”
ผมมองเขา แล้วก็มองแล็ปท็อป ก่อนจะกลับไปมองเขาอีกครั้ง พลางพยายามกลั้นยิ้ม “แน่ใจนะว่าไม่ใช่แค่พัดลมเสีย? อาจจะเป็นปัญหาฮาร์ดแวร์ก็ได้”
ปรีชาส่ายหน้า หน้าตาจริงจัง “ไม่ใช่ นี่…นี่มันต่างออกไป มันเหมือนกับมีบางอย่างอยู่ข้างใน และมันต้องการบางอย่าง”
ผมถอนหายใจ และถูสันจมูก “ถ้ามีอะไรแฝงอยู่ในแล็ปท็อปของคุณ มันคงไม่ยอมไปง่ายๆ” ผมเคาะเคาน์เตอร์เบาๆ ด้วยนิ้ว “ผมจะลองดูให้ แต่ว่าค่าตรวจเช็คเบื้องต้น 1,000 บาทนะ รวมค่าขับไล่เบาๆ หากจำเป็น ส่วนค่าใช้จ่ายอื่นๆ เกินกว่านั้น ค่อยว่ากัน”
ปรีชาพยักหน้าเร็วมาก เหมือนกับได้รับเชือกช่วยชีวิต “อะไรก็ได้ครับ ช่วยผมเถอะ”
“เอาล่ะ ส่งมานี่” ผมเอื้อมมือไปรับแล็ปท็อป ครึ่งหนึ่งในใจก็คาดว่ามันอาจจะส่งเสียงขู่ใส่ผม มันเป็นรุ่นเก่าที่ทนทาน มีรอยขีดข่วนชัดเจนและถูกใช้งานมาพอสมควร มีสติกเกอร์หลายอันลอกตามมุม ผมเอานิ้วลูบเบาๆ บนพื้นผิว รู้สึกถึงความอุ่นแปลกๆ เหมือนมันถูกวางไว้กลางแดดนานเกินไป
“เอาล่ะ มาดูกันว่ากำลังเผชิญกับอะไรอยู่” ผมพึมพำ กดปุ่มเปิดเครื่อง
Sponsored Ads
———————
การตรวจสอบแล็ปท็อปผีสิงครั้งแรก
หน้าจอเริ่มกะพริบสว่างขึ้น และในเสี้ยววินาที ผมเห็นเงาสะท้อนของตัวเองในพื้นผิวมันๆ ของหน้าจอ นานพอที่จะเห็นใบหน้าผีจางๆ ซ้อนอยู่กับของผม ผมกระพริบตา และมันก็หายไป
“นั่นสิ่งใหม่สินะ” ผมพึมพำ พลางสะบัดความเย็นยะเยือกที่เกาะอยู่บนผิวออก
เครื่องบู๊ตขึ้นมา และทันทีที่บู๊ตเสร็จ หน้าจอก็เต็มไปด้วยป๊อปอัป หน้าต่างหลายสิบบานในภาษาที่ผมไม่คุ้นเคย ตัวอักษรและสัญลักษณ์ดูโบราณ ราวกับเป็นอักขระในพิธีกรรมโบราณ บางบานมีขอบที่ส่องแสงระยิบระยับ เหมือนถูกจุดด้วยแสงเทียน หนึ่งในนั้นกระพริบเป็นคำภาษาฝรั่งเศสว่า [l’âme]
“แปลว่า ‘วิญญาณ’” ผมแปลออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ “ไม่ได้น่ากลัวเลยสักนิด”
ปรีชามองดูด้วยความสยดสยองและทึ่ง ผสมปนเปกัน “มันเป็นแบบนี้ทุกครั้งที่ผมเปิดเครื่อง”
“ยอดเยี่ยม” ผมบ่น พลางเปิดตัวจัดการงาน (task manager) “งั้นเรามาลองปิดป๊อปอัปพวกนี้ก่อน แล้วค่อยดูกันว่ามีอะไรซ่อนอยู่ข้างในบ้าง”
ป๊อปอัปพวกนั้นปิดลงอย่างไม่เต็มใจ ราวกับพลังบางอย่างที่ขับเคลื่อนมันพยายามต่อต้าน ผมเริ่มตรวจสอบไฟล์ต่างๆ และแน่นอนว่าปรีชาไม่ได้โกหก ฮาร์ดไดรฟ์เต็มไปด้วยไฟล์ชื่อแปลกๆ น่าขนลุก ตั้งแต่ “forgotten_dreams.wav” ไปจนถึง “never_come_back.txt” และวันที่ของไฟล์นั้น? มันเก่ากว่าแล็ปท็อปเองเสียอีก
“นี่ไม่ใช่มัลแวร์ธรรมดา” ผมพูด พลางหรี่ตามองหน้าจอ “นี่มัน…บางอย่างที่ต่างออกไป”
“ต่างออกไปแบบไหน?” ปรีชากระซิบด้วยเสียงเบาๆ
“ก็เหมือนมีวิญญาณของเจ้าของเก่าไม่สบอารมณ์ ทิ้งของฝากเล็กๆ ไว้” ผมพิมพ์คำสั่งลงไปสองสามบรรทัด เพื่อค้นหาอะไรที่ซ่อนอยู่ในระบบ “เดาว่าล่ะสิ—แล็ปท็อป ‘ราคาดี’ ที่คุณซื้อมานี้ไม่มีข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับผู้ขาย ไม่มีติดต่ออะไร แค่ยักไหล่แล้วพูดว่า ‘Bonne chance’ ใช่ไหม?”
เขาพยักหน้า ดูมีท่าทีสำนึกผิดเล็กน้อย “รู้ได้ไงครับ?”
“ก็แค่เดาเอา” ผมตอบกลับแห้งๆ “งั้นเรามาลองเขย่ามันออกจากเครื่องนี้ดูกัน”
Sponsored Ads
———————
การสืบสวนของนาวินและการปรากฏตัวครั้งแรก
ขณะที่ผมเลื่อนดูไฟล์ต่างๆ จู่ๆ ก็มีเสียงกระซิบเบาๆ ดังลอดออกมาจากลำโพง เสียงนั้นเบามาก แทบจะเป็นเพียงลมหายใจ แต่ก็ทำให้ผมรู้สึกขนลุกซู่ ผมโน้มตัวเข้าไปใกล้ ลองฟังให้ชัดขึ้น
ปรีชาเบิกตากว้าง มือเกาะขอบเคาน์เตอร์แน่น “คุณได้ยินไหมครับ?”
“ได้ยินสิ” ผมตอบและหันไปมองเขา “คุณฟังออกไหมว่ามันพูดอะไร?”
เขาส่ายหน้า แต่ผมจับคำพูดได้ มันกำลังพึมพำเป็นภาษาฝรั่งเศส ซึ่งแปลคร่าวๆ ได้ว่า “ปล่อยฉันออกไป”
ผมถอนหายใจ “แน่นอน มันอยากออกไป”
ผมเอื้อมมือไปหยิบพระสมเด็จในกระเป๋าขึ้นมาบีบเบาๆ เพื่อเสริมกำลังใจ “เอาล่ะ มาลองวิธีเก่าๆ กันหน่อย ผมต้องการให้คุณนั่งนิ่งๆ เงียบๆ และพยายามอย่าตื่นกลัว เพราะมันอาจจะ…แปลกไปนิดหน่อย”
ปรีชาพยักหน้า แม้จะดูหวาดกลัวอยู่ไม่น้อยแล้วก็ตาม
ผมตั้งสมาธิ หลับตาลงครู่หนึ่ง ปล่อยให้พลังจากพระสมเด็จไหลเวียนในตัว พอลืมตาขึ้นอีกครั้ง ผมจ้องมองตรงเข้าไปที่หน้าจอแล็ปท็อป รู้สึกถึงพลังของพระสมเด็จที่คอยนำทาง หน้าจอเริ่มเปลี่ยน แสดงภาพเบาบางของใบหน้าผีจางๆ ที่ผมเห็นมาก่อนหน้านี้ แต่คราวนี้ชัดขึ้น มันอยู่ใต้กระจกเหมือนกับกำลังจ้องขึ้นมาจากน้ำลึก
“เอาล่ะ เพื่อน” ผมพูดกับวิญญาณ “คุณต้องการอะไร?”
ใบหน้าขยับ ริมฝีปากสั่นเบาๆ ตอบกลับมาเป็นข้อความ ข้อความค่อยๆ ปรากฏบนหน้าจอ ทีละตัวอักษรที่สั่นสะท้าน
[Je suis piégé] [ฉันติดอยู่]
“อืม อันนั้นดูออกอยู่แล้ว” ผมพึมพำ “คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”
ตัวอักษรปรากฏขึ้นอีกครั้ง ตัวอักษรสั่นไหวว่า [Trahison. Perdu. Retrouve-moi.] [การทรยศ หลงทาง หาให้เจอ]
“หาให้เจอ?” ผมทวนคำ “เจอที่ไหน?”
หน้าจอกะพริบ แล้วภาพบ้านหลังหนึ่งก็ปรากฏขึ้นมา มันตั้งอยู่ในป่า ลางๆ ผ่านหมอกหนา ดูเก่าและร้าง มีความรู้สึกคล้ายกับเป็นสถานที่ในความทรงจำมากกว่าจะเป็นความจริง
ผมหันไปหาปรีชา “นี่ดูคุ้นๆ ไหม?”
เขาส่ายหัว ดูท่าทางหวาดกลัว “ไม่เคยเห็นมาก่อนครับ”
ใบหน้าของวิญญาณกลับมาปรากฏบนหน้าจออีกครั้ง ดวงตาแสดงความวิงวอน หาให้เจอ ปล่อยฉันเป็นอิสระ และแล้วภาพก็หายไป ปล่อยให้หน้าจอว่างเปล่า เป็นสีดำสนิท
Sponsored Ads
———————
ค่าซ่อมที่พุ่งสูงขึ้น
ผมเอนหลังกอดอก “ปรีชา ดูเหมือนว่านายจะได้อะไรมากกว่าคอมพิวเตอร์จากการเดินทางนะ”
เขากลืนน้ำลาย จ้องหน้าจอด้วยความหวาดกลัว “งั้น…งั้นมันมีผีจริงๆ ใช่ไหม?”
“มีผี ถูกสาป ถูกครอบงำโดยวิญญาณฝรั่งเศสที่หลงทางสุดๆ เลือกเอา” ผมพูด “และจากภาพที่เราเห็น วิญญาณนี้ต้องการความช่วยเหลือ คิดว่ามันคงไม่หยุดกระซิบจนกว่าจะได้สิ่งที่ต้องการ”
ปรีชาดูเหมือนจะร้องไห้ “คุณช่วยกำจัดมันได้ไหม?”
ผมจ้องแล็ปท็อปยาวๆ รู้สึกถึงพลังของวิญญาณที่ยังคงแฝงตัวอยู่ข้างใน “ผมจะลองดู แต่นี่เป็นงานไล่ผีที่หนักมาก และวิญญาณนี้มีเรื่องราวที่ยาวนาน ค่าเริ่มต้นมัน 1,000 บาท แต่สำหรับกรณีนี้ ค่าบริการจะอยู่ที่ 3,500 บาทเป็นขั้นต่ำ และนั่นก็ในกรณีที่วิญญาณนี้ไม่ก่อเรื่อง”
เขากัดริมฝีปาก พยักหน้า “ตกลง…ตกลง ผมจะจ่าย แค่ช่วยให้มันหายไปทีเถอะครับ”
ผมยิ้ม หยิบขวดน้ำมนต์ออกจากกระเป๋า “ตกลงคุณได้ทำสัญญาแล้ว มาลองดูสิว่าเราจะส่งเพื่อนชาวฝรั่งเศสนี้กลับที่ของเขาได้ไหม”
Sponsored Ads
———————
ข้อความสุดท้าย
ขณะที่ผมเตรียมทำพิธีพิธีชำระล้าง แล็ปท็อปเริ่มสั่นแรง หน้าจอก็เปิดขึ้นมาอีกครั้ง ใบหน้าผีปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง ปากขยับช้าๆ ซ้ำๆ ด้วยประโยคเดิม เสียงกระซิบลอยวนและสะท้อนออกมาในห้อง
[Trouve-moi ou je te trouverai.] [หาให้เจอ ไม่งั้นฉันจะมาหาเอง]
ข้อความนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า และดังขึ้นเรื่อยๆ จนเสียงสะท้อนก้องไปทั่วห้องอย่างน่าขนลุก ผมกำพระสมเด็จแน่น จ้องมองหน้าจอที่สั่นไหว วิญญาณนี้ไม่ยอมไปง่ายๆ และมันคงจะไม่ไปโดยไม่มีการต่อสู้
“เอาเถอะ นั่นสิ่งใหม่จริงๆ” ผมพึมพำ พลางเตรียมพร้อมรับมือในขณะที่แล็ปท็อปสั่นสะท้านอยู่ในมือ
Sponsored Ads