ประตูร้านของผมเปิดออกพร้อมเสียงกระดิ่งดังกังวาน ตามมาด้วยเสียงที่ฟังดูเหมือนใครบางคนสะดุดธรณีประตู ผมเงยหน้าจากโต๊ะทำงานขึ้นมอง เห็นธนาเพื่อนสนิทสุดเว่อร์ของผม นอนแผ่หลาอยู่บนพื้น มือข้างหนึ่งกำโทรศัพท์ไว้แน่นเหมือนมันเก็บความลับของจักรวาล
Sponsored Ads
“นาวิน!” เขาอุทาน ลุกขึ้นมายืนแบบทุลักทุเล “นายต้องดูนี่!”
ผมถอนหายใจ วางแผงวงจรที่กำลังตรวจสอบอยู่ลง “นี่จะเกี่ยวกับเทคโนโลยีต้องสาปอีกหรือเปล่า หรือแค่มาเสียเวลาฉันเฉย ๆ?”
ธนายื่นโทรศัพท์มาจ่อหน้าผม บนหน้าจอเป็นวิดีโอสั่น ๆ แสดงภาพเปียโนดิจิทัลสีดำเงาวับตั้งอยู่ในมุมห้องรับแขกสุดหรู คีย์เปียโนเคลื่อนไหวเอง บรรเลงท่วงทำนองที่ชวนขนลุกจนสันหลังวาบ เสียงบรรยายเบา ๆ ที่ฟังดูเร่งร้อนจากผู้ถ่ายคลิป—ซึ่งน่าจะเป็นพลอย เพื่อนของธนา—ดังแทรกอยู่ในพื้นหลัง
“มันเล่นเอง!” เธอพูดด้วยเสียงสั่น “ฉันสาบาน ไม่มีใครอยู่ตรงนั้นเลย!”
ผมขมวดคิ้ว เอนตัวพิงเก้าอี้ “ดูเหมือนปัญหาสายไฟหรือแค่การแกล้งกันขำ ๆ”
ธนาส่ายหัวอย่างแรงจนผมที่เซ็ตไว้กระดก “มันไม่ได้เสียบปลั๊กเลยนะ นาวิน และมันยิ่งแย่กว่านั้น—พลอยบอกว่าเพลงมันเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ทุกครั้งที่เธอได้ยิน มันสะท้อนถึงความกลัวที่เลวร้ายที่สุดของเธอ”
คราวนี้ผมสนใจขึ้นมาเลย เพราะปัญหาไฟฟ้ามักจะไม่พัวพันกับอารมณ์ของคน
“เอาล่ะ” ผมพึมพำ ลุกขึ้นยืน “แต่ถ้าสุดท้ายแล้วนี่เป็นแค่การแกล้งเล่นอีก ฉันจะคิดค่าบริการสองเท่า”
Sponsored Ads
———————
บ้านหรูของพลอย
บ้านของพลอยเป็นแบบที่เห็นแล้วรู้ทันทีว่าเงินเยอะ—พื้นหินอ่อน หน้าต่างบานใหญ่เกินตัว และเฟอร์นิเจอร์ที่ดูแพงกว่าร้านผมทั้งร้านรวมกัน แต่ถึงจะหรูแค่ไหน บรรยากาศในบ้านกลับรู้สึกแปลก… เหมือนอากาศรอบตัวมันหนักอึ้ง
ทันทีที่เราก้าวเข้าไปในห้องรับแขก เปียโนก็เริ่มเล่นเพลง
ท่วงทำนองนั้นเริ่มต้นอย่างนุ่มนวล ชวนหลงใหล แต่มีอะไรบางอย่างที่ผิดเพี้ยน—เหมือนเพลงกล่อมเด็กที่ร้องผิดโน้ตเล็กน้อย คีย์เปียโนเคลื่อนตัวเอง บรรเลงโน้ตที่สะท้อนในอกของผม
“ฉันนอนไม่หลับ” พลอยพูดด้วยเสียงแผ่วเบา เธอกอดหมอนผ้าไหมไว้แน่นเหมือนมันเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เธอยังยืนอยู่ได้ “ทุกครั้งที่ฉันคิดว่ามันหยุด มันก็เริ่มใหม่อีก”
“ไม่ต้องห่วง” ผมบอก พลางเดินเข้าไปตรวจดูเปียโน “ขอผมดูหน่อย”
ผมลองกดคีย์เปียโนหนึ่งตัวด้วยความระมัดระวัง เปียโนตอบสนองด้วยการบรรเลงเพลง Mary Had a Little Lamb เวอร์ชันช้าและหลอน เสียงท่วงทำนองก้องกังวานไปทั่วห้อง เพลงเด็กง่าย ๆ กลับถูกบิดเบือนจนกลายเป็นสิ่งที่ชวนขนลุก
ธนา ผู้ซึ่งไม่เคยพลาดโอกาสยิงมุก พูดขึ้นทันที “นายคิดว่ามันจะเล่น Baby Shark ได้ไหม?”
ผมหันไปจ้องเขาเขม็ง “พูดอีกคำเดียว นายจะเป็นคนลองคีย์ตัวต่อไปเอง”
Sponsored Ads
———————
การสืบสวนเบื้องต้น
เมื่อผมมองใกล้ ๆ เปียโนดูเหมือนใหม่เอี่ยม ไม่มีรอยเสียหาย ไม่มีร่องรอยการถูกดัดแปลง แต่เมื่อผมโน้มตัวเข้าไปใกล้ กลับรู้สึกถึงความเย็นที่แผ่ออกมาจากคีย์ เหมือนเครื่องดนตรีนี้มีชีวิต ผมหยิบกระจกวิญญาณ ซึ่งเป็นกระจกทองเหลืองขนาดพกพาที่สลักสัญลักษณ์ป้องกันไว้ ยกขึ้นเหนือเปียโน
ภาพสะท้อนในกระจกสั่นไหว แทนที่จะสะท้อนภาพเปียโน มันกลับเผยให้เห็นเงาดำคล้ายเส้นเถาวัลย์พันรอบเครื่องดนตรีนี้ พลังงานบางอย่างที่ไม่เป็นธรรมชาติเต้นอยู่ในเงามืดนั้น
“พลอย” ผมถามด้วยเสียงเรียบ นิ่งที่สุดเท่าที่จะทำได้ “มันเริ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว” เธอตอบ “ฉันซื้อมันมามือสองจากคนรู้จัก ตอนแรกมันก็ใช้ได้ปกติ แต่แล้ว…” เสียงของเธอสั่นเล็กน้อย “แล้วเพลงก็เริ่มขึ้นเอง ตอนกลางคืน มันเหมือนกับว่า… มันกำลังมองฉันอยู่”
ผมสบตากับธนา ซึ่งท่าทีโอ้อวดตามปกติของเขาหายไปอย่างเห็นได้ชัด
Sponsored Ads
———————
น่าตื่นเต้น
ผมเอื้อมมือไปจับพระสมเด็จที่ห้อยคอ แสงสีทองอ่อน ๆ จากพระช่วยทำให้ผมใจเย็นขึ้น “นี่ไม่ใช่แค่เครื่องเสีย” ผมพูด เหมือนพูดกับตัวเองมากกว่าคนอื่น “มีบางอย่างผูกติดอยู่กับเปียโนนี้”
เหมือนเป็นการตอบสนอง ท่วงทำนองของเปียโนเปลี่ยนไป เสียงโน้ตแหลมคมขึ้น ดุดันขึ้น บรรยากาศในห้องเต็มไปด้วยความหวาดหวั่นที่แทบสัมผัสได้ พลอยร้องอุทานเบา ๆ ขยับถอยหลังขณะที่เสียงดนตรีเหมือนกำลังจ้องจะเข้าหาเธอ
แล้วจู่ ๆ เปียโนก็หยุดเล่น
อากาศในห้องหนักอึ้งไปด้วยความตึงเครียดที่มองไม่เห็น ผมรู้สึกถึงแรงกดดันจากบางสิ่งที่ผูกติดอยู่กับเปียโนนี้ และมันไม่พอใจที่เรามาอยู่ที่นี่
“เอาล่ะ” ธนาเอ่ยขึ้น เสียงเขาดังผิดปกติในความเงียบ “นี่ต้องเป็นไลฟ์สตรีมสุดมันแน่ ๆ”
“ธนา” ผมหันไปตวาด “ถ้านายแม้แต่จะคิดไลฟ์สดขึ้นมา ฉันจะทำให้นายลืมเรื่องเปียโนไปเลย”
รอยยิ้มแหย ๆ ของเขาค่อย ๆ เลือนหายไป ขณะที่คีย์ของเปียโนเริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้ง กดเสียงต่ำเพียงเสียงเดียวที่ดังก้องจนรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนในกระดูก
คืนนี้คงจะเป็นคืนที่ยาวนานแน่ ๆ
Sponsored Ads