แสงอาทิตย์ส่องผ่านตึกระฟ้าของกรุงเทพฯ อย่างเกียจคร้าน ทอประกายสีทองเหนือเส้นขอบฟ้า ผู้บัญชาการสิริกร สิริภัทรกร หรือที่คนใกล้ชิดเรียกว่า “หลิน” และสำหรับคนทั่วไปเธอคือ “ผู้บัญชาการ” นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานซึ่งจัดเรียงอย่างเป็นระเบียบในสำนักงานของหน่วยม่าน (Veil Unit) ความสง่างามของเธอทำให้คนหยุดมองได้ทันที ด้วยส่วนสูง 170 เซนติเมตร รูปร่างเพรียวบาง โครงหน้าเฉียบคม และผมสีดำที่รวบตึงเป็นหางม้า เธอมีดวงตาคมเข้มที่สามารถทำให้ห้องทั้งห้องเงียบลงได้ด้วยสายตาเดียว วันนี้ ดวงตาคู่นั้นกำลังอ่านรายงานด้วยความแม่นยำ
Sponsored Ads
ในวัยเพียง 26 ปี หลินเป็นหนึ่งในผู้นำที่อายุน้อยที่สุดในระบบราชการ เธอจบการศึกษาด้วยคะแนนสูงสุดจากมหาวิทยาลัยนานาชาติชั้นนำ โดยเรียนสองสาขาวิชา รัฐศาสตร์และกระบวนการยุติธรรมทางอาญา ด้วยสถานะลูกสาวคนเดียวของข้าราชการระดับสูง อนาคตของเธอดูเหมือนจะถูกกำหนดให้เป็นนักการทูตหรือผู้บริหารในสายการเมืองที่มั่นคงและเรียบง่าย แต่เธอกลับท้าทายความคาดหวัง เลือกเดินเส้นทางที่เต็มไปด้วยความเสี่ยงและไม่ธรรมดาด้วยการเข้าร่วมหน่วยม่าน ซึ่งเป็นหน่วยลับที่จัดการกับปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติในประเทศไทย
การตัดสินใจครั้งนั้นไม่ได้ปราศจากการเสียสละ ครอบครัวมองว่าเส้นทางอาชีพของเธอเป็นเรื่องอื้อฉาว “เธอกำลังทำลายศักยภาพของตัวเอง” พ่อของเธอเคยกล่าวด้วยความผิดหวังที่แทงใจหลินลึกกว่าที่เขาคิด แต่หลินเป็นคนที่แน่วแน่ หลังจากผ่านการฝึกฝนอย่างหนักและภารกิจภาคสนามนับไม่ถ้วน เธอกลายเป็นผู้นำที่เฉียบแหลมและไม่ย่อท้อ
“วันนี้” เธอพึมพำพลางพลิกหน้ารายงาน “ฉันจะเคลียร์ทุกอย่าง ไม่มีการขัดจังหวะ ไม่มีสถานการณ์ฉุกเฉิน แค่วันอันเงียบสงบ”
ความคิดนั้นคงอยู่ได้เพียงเจ็ดนาที
เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นทำลายความสงบของเช้า หลินหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว พลางทำใจรับความวุ่นวายที่กำลังจะเกิดขึ้น
Sponsored Ads
“นี่ ผู้บัญชาการหลิน” เธอตอบเสียงเรียบเฉียบ
“ผู้บัญชาการครับ นี่ผู้อำนวยการสมศักดิ์จากสนามบินแดนทองคำ เรามี… สถานการณ์ครับ”
หลินยกมือขึ้นกดที่สันจมูก “สถานการณ์แบบไหน?”
“เป็น unicycle (รถจักรยานล้อเดียว) ของทีมรักษาความปลอดภัยตัวหนึ่งครับ มัน… เอ่อ… ทำตัวแปลก ๆ”
“แปลกยังไง?”
“มันวิ่งด้วยความเร็วสูงในพื้นที่หวงห้าม ไฟกะพริบ และ… ส่งเสียงครับ”
“เสียงเหรอ?”
“เสียงเหมือนมนุษย์ครับผู้บัญชาการ มันหัวเราะ”
หลินนิ่งไปครู่หนึ่ง ปล่อยให้ความไร้สาระของคำพูดนั้นซึมซับในใจ จากนั้นเธอถอนหายใจ เอนตัวพิงเก้าอี้ “เพราะการจัดการกับ unicycle หลุดโลกคืองานที่ฉันฝึกมาสินะ” เธอบ่นพึมพำ
“ครับ?” สมศักดิ์ถามงง ๆ
“ไม่มีอะไร ฉันจะไปถึงในอีกชั่วโมง” เธอกดวางสาย พร้อมกับเริ่มเสียใจกับวันนี้
Sponsored Ads
———————
หลินหยิบเสื้อแจ็คเก็ตจากพนักพิงเก้าอี้ การเคลื่อนไหวของเธอรวดเร็วและเด็ดขาด แม้เธอจะรำคาญแต่เธอก็รู้ดีว่าห้ามมองข้ามเหตุการณ์นี้ unicycle หลุดโลกที่ส่งเสียงเหมือนมนุษย์ไม่ใช่เหตุการณ์ที่หน่วยม่านจะมองข้ามได้ วัตถุที่มีพฤติกรรมผิดปกติส่วนใหญ่มักมีต้นตอจากสิ่งเหนือธรรมชาติ—และผลกระทบที่เหนือธรรมชาติ
ขณะที่เธอก้าวออกจากห้อง เสียงพูดคุยของทีมงานในหน่วยก็ดังก้องในโถงทางเดิน เจ้าหน้าที่พยักหน้าทักทายเธอด้วยความเคารพ ท่าทางของพวกเขาผสมกันระหว่างความนับถือและความเกรงกลัว ชื่อเสียงของหลินในเรื่องความเฉียบขาดและความไม่ทนต่อความไม่รอบคอบเป็นที่รู้กันทั่ว
หน่วยม่านอาจเป็นการเดิมพันในสายอาชีพ แต่เป็นการเดิมพันที่เธอไม่เคยเสียใจ มันผสมผสานความฉลาดเฉียบแหลมของเธอกับความหลงใหลในสิ่งเหนือธรรมชาติ ทำให้เธอได้แก้ไขคดีที่ไม่มีใครกล้าแตะต้อง และแม้ว่าเธอจะไม่ค่อยยอมรับ แต่เธอก็ภาคภูมิใจกับงานนี้—แม้จะเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์แปลก ๆ อย่าง unicycle หลุดโลก
ในใจลึก ๆ เธอนึกถึงใบหน้าที่คุ้นเคย นาวิน สิริพงษ์ชัย ช่างซ่อมเทคโนโลยีอิสระผู้ซึ่งความสามารถในการจัดการกับสิ่งแปลก ๆ ทำให้เขาได้กลายเป็นหุ้นส่วนอย่างไม่เป็นทางการกับหน่วยม่าน ความสัมพันธ์ของพวกเขานั้น… ซับซ้อน ทั้งความตึงเครียดในงานและความไว้วางใจอย่างไม่เต็มใจ พร้อมด้วยการหยอกล้อที่มักจะกลายเป็นการเถียงกัน คนมักล้อว่าพวกเขาเถียงกันเหมือนคู่แต่งงาน แต่หลินไม่สนใจคำพูดนั้น เธอเคารพความเฉลียวฉลาดของเขา แม้ว่าท่าทางสบาย ๆ ของเขาจะทำให้เธอปวดหัวอยู่เสมอ
และตอนนี้ ด้วยสถานการณ์ที่สนามบิน เธอเริ่มคิดถึงการโทรหาเขา วันนี้คงไม่ใช่วันที่เงียบสงบอย่างที่หวังไว้
Sponsored Ads
———————
การเดินทาง
SUV สีดำเงาของหน่วยม่านแล่นผ่านถนนที่คับคั่งของกรุงเทพฯ หลินมองออกไปนอกหน้าต่าง ปล่อยความคิดลอยตามทิวทัศน์ของเมืองที่ผ่านไปอย่างพร่ามัว
เธอเกิดมาในครอบครัวที่เพียบพร้อม—พ่อเป็นข้าราชการระดับสูง ส่วนแม่เป็นนักสังคมชั้นสูงที่เฉียบแหลมในแวดวงการเมือง ตั้งแต่เด็ก เส้นทางชีวิตของหลินถูกกำหนดไว้ชัดเจน: โรงเรียนชั้นนำ อาชีพในสายการทูตหรือการเมือง และชีวิตที่มั่นคงและคาดเดาได้
แต่หลินไม่เคยสนใจความคาดเดาได้เลย ขณะที่เพื่อนร่วมชั้นฝันถึงงานเลี้ยงค็อกเทลและการอภิปรายเชิงนโยบาย หลินกลับใช้เวลายามเย็นไปกับการอ่านหนังสือเกี่ยวกับนิทานพื้นบ้านและปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติ ความหลงใหลในสิ่งที่มองไม่เห็นทำให้ครอบครัวของเธองงงวย แต่หลินไม่เคยหยุดยั้งการตามหาความจริง ขัดกับความคาดหวังทั้งหมด เธอเข้าร่วมหน่วย—หน่วยงานลับที่จัดการกับกระแสเหนือธรรมชาติในประเทศไทยยุคปัจจุบัน
หลินภาคภูมิใจในความมีประสิทธิภาพของเธอ แม้ว่าวิธีการของเธอมักจะทำให้เหล่าข้าราชการหัวเก่ามองค้อน สำหรับหลิน ผลลัพธ์สำคัญกว่าขั้นตอน และหากนั่นหมายถึงการจัดการกับ unicycle ที่ถูกสิงในเวลา 8 โมงเช้า เธอก็พร้อมทำ
Sponsored Ads
———————
เหตุการณ์ที่สนามบิน
สนามบินแดนทองคำเต็มไปด้วยความวุ่นวายตามปกติ เทอร์มินัลกว้างขวางแวดล้อมด้วยเสียงนักเดินทางเร่งรีบเพื่อขึ้นเครื่อง หลินก้าวลงจาก SUV พร้อมพบกับผู้อำนวยการสมศักดิ์ที่มีท่าทางกระสับกระส่าย
“ผู้บัญชาการ ขอบคุณที่มาด่วนครับ” เขาพูดพลางเช็ดเหงื่อ
“เข้าเรื่องเลยดีกว่า” หลินตอบกลับ “เจ้า unicycle นั่นอยู่ไหน?”
ผู้อำนวยการสมศักดิ์ชี้ไปที่จอมอนิเตอร์ซึ่งฉายฟุตเทจจากกล้องวงจรปิด หลินเฝ้าดู unicycle มันวาวคันหนึ่งวิ่งซิกแซกผ่านจอ มันพุ่งผ่านรถเข็นสัมภาระและเจ้าหน้าที่ที่ตกตะลึง ไฟของมันกะพริบไม่เป็นจังหวะ สาดเงายาวน่าขนลุกไปทั่วทางเดิน
แล้วมันหัวเราะ
เสียงนั้นเบา แต่ชัดเจนว่าเป็นเสียงมนุษย์—เสียงหัวเราะแหลมสูงที่ทำให้หลินรู้สึกเย็นสันหลังวาบ
“มีเสน่ห์ดี” เธอพูดแห้ง ๆ “ตอนนี้มันอยู่ที่ไหน?”
“เราคิดว่ามันอยู่ในเทอร์มินัล 3 ครับ เราปิดพื้นที่ไว้แล้ว”
หลินพยักหน้า ส่งสัญญาณให้เจ้าหน้าที่สองคนของหน่วยม่านติดตามเธอไป ขณะเดินไปยังเทอร์มินัล เธออดไม่ได้ที่จะรู้สึกถึงความอยากรู้อยากเห็น สิ่งของที่แสดงพฤติกรรมผิดปกติไม่ใช่เรื่องแปลกในงานของเธอ แต่สิ่งนี้? นับว่าใหม่
Sponsored Ads
———————
Unicycle หลุดโลก
เทอร์มินัล 3 เงียบผิดปกติ ความพลุกพล่านตามปกติของนักเดินทางถูกแทนที่ด้วยความเงียบอึดอัด เสียงรองเท้าบูทของหลินสะท้อนบนพื้นมันวาวขณะที่เธอกวาดสายตาสำรวจพื้นที่
แสงวาบขึ้นมาดึงดูดสายตาเธอ unicycle พุ่งออกมาจากหลังเสา เสียงล้อเสียดสีกับพื้นดังลั่นขณะที่มันหยุดนิ่งตรงหน้าหลิน มันนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ไฟของมันกะพริบเหมือนจังหวะการเต้นของหัวใจ จากนั้นมันเริ่มหมุนรอบตัวเอง ส่งเสียงหัวเราะแหลมสูงที่ไม่ชวนฟัง
ทีมของหลินตั้งท่าเตรียมอาวุธ แต่เธอยกมือขึ้น “อย่าทำให้สถานการณ์เลวร้ายกว่านี้”
unicycle หยุดหมุน ราวกับรับรู้คำสั่งของเธอ จากนั้นมันพุ่งไปตามทางเดิน เสียงหัวเราะดังก้องราวกับเย้ยหยัน
“ตามมันไป!” หลินตะโกนก่อนออกวิ่ง
การไล่ล่านั้นสั้นแต่วุ่นวาย unicycle พุ่งหลบสิ่งกีดขวางด้วยความแม่นยำผิดปกติ การเคลื่อนไหวของมันดูเหมือนมีจุดประสงค์ ในที่สุดมันหยุดที่ปลายทางเดิน ไฟของมันส่องแสงจาง ๆ บนผนังราวกับแสงของวิญญาณ
หลินค่อย ๆ เข้าใกล้อย่างระมัดระวัง ทีมของเธอขนาบข้าง รถล้อเดียวยังคงนิ่งอยู่ แต่หน้าจอมันกลับแสดงข้อความหนึ่งคำ
[ทำไม?]
Sponsored Ads
———————
น่าตื่นเต้น
ลมหายใจของหลินสะดุดเมื่อแสงในเทอร์มินัลกะพริบ unicycle เริ่มส่งเสียงฮัมต่ำ ๆ ก้องกังวานไปทั่วอากาศ
“เธอกำลังพยายามจะบอกอะไร?” เธอพึมพำกับตัวเอง
เสียงหัวเราะกลับมาอีกครั้ง ดังขึ้นกว่าเดิม และหน้าจอก็แสดงข้อความอีกครั้ง
[หา… ฉัน…]
เป็นครั้งแรกของเช้าวันนี้ที่หลินรู้สึกหวาดหวั่น บางสิ่งนี้ไม่ใช่แค่เครื่องจักรขัดข้องธรรมดา และมันไม่ใช่วันที่จะสงบง่าย ๆ แน่นอน