NOVEL / The Signal Beyond the Veil · January 9, 2025 0

054-ไม้เซลฟี่สุดหลอน (ผีแย่งซีน)

เสียงกระดิ่งเหนือประตูร้านดังขึ้น ขัดจังหวะความสงบในเช้าวันนั้น ผมเงยหน้าขึ้นมอง เห็นคู่หนุ่มสาวยืนอยู่ตรงประตู—ชายหนุ่มร่างผอมใส่แว่น และ แฟนสาวที่ดูตื่นกลัวพอ ๆ กัน พวกเขาดูเหมือนพร้อมจะเผ่นหนีไปทุกเมื่อ แต่หลังจากหันมามองหน้ากันอย่างลังเล พวกเขาก็ก้าวเข้ามาในร้าน

Sponsored Ads

ชายหนุ่มกระแอมและยิ้มให้ผมอย่างเก้อเขิน “เอ่อ… คุณคือนาวิน ช่างซ่อม ใช่ไหมครับ?”

“ใช่แล้ว” ผมตอบพร้อมกับผายมือไปที่เคาน์เตอร์ “พวกคุณดูเหมือนมีเรื่องที่อยากพูดนะ”

ชายหนุ่มพยักหน้าแน่น ๆ มือของเขากำไม้เซลฟี่แบบไฮเทคไว้แน่น ราวกับว่ามันเป็นของต้องคำสาป ซึ่งก็ไม่ผิดซะทีเดียว “ผมชื่อฟิล์ม และนี่แพทครับ เรามี… เอ่อ ปัญหานิดหน่อยกับเจ้านี่”

แพทสะกิดเขาและกระซิบอะไรบางอย่างเบา ๆ ฟิล์มถอนหายใจแล้วยื่นโทรศัพท์ให้ผม “คุณคงต้องดูด้วยตาตัวเองครับ”

ผมหยิบโทรศัพท์จากเขามาดู ภาพแรกที่โผล่ขึ้นมาคือภาพทั้งสองคนยืนอยู่หน้าวัด ยิ้มแย้มแจ่มใส แต่ตรงกลางระหว่างพวกเขามีเงาลางๆ บางสิ่งที่ดูคล้ายกับการผิดพลาดของกล้องธรรมดา ๆ

แล้วผมก็เลื่อนไปดูรูปต่อไป

เงานั้นเริ่มชัดขึ้น เป็นรูปร่างคล้ายคนยืนอยู่ระหว่างพวกเขา ดูเหมือนใบหน้าที่เริ่มปรากฏ ผมขมวดคิ้วและเงยหน้ามองพวกเขา ทั้งสองพยักหน้าเหมือนอยากให้ผมเลื่อนไปดูรูปต่อไป

Sponsored Ads

ในรูปที่สาม เงานั้นพัฒนาเป็นรูปร่างที่ชัดเจนยิ่งขึ้น ยืนอยู่ระหว่างพวกเขา เอียงหัวไปด้านข้างเล็กน้อย ใบหน้าเริ่มเป็นรูปร่าง แต่บิดเบี้ยวจนผมไม่แน่ใจว่ามันแสดงอารมณ์อะไร ผมขนลุกซู่ รู้สึกได้ถึงความเย็นยะเยือกอันคุ้นเคยที่บ่งบอกว่าสิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องธรรมดา

“แล้ว… พวกคุณได้เจ้าไม้เซลฟี่ตัวนี้มาจากไหนล่ะ?” ผมถาม พลางพยักหน้าไปที่ไม้เซลฟี่ที่ฟิล์มยังคงกำไว้แน่น

เขากลืนน้ำลาย “เราซื้อมาจากร้านออนไลน์ มันมีรีวิวดี ๆ เยอะด้วยนะครับ! แต่พอเรากลับไปดูอีกที… ร้านนั้นหายไปเลย เหมือนว่ามัน ‘ไม่เคยมีอยู่’”

แพทขนลุกเล็กน้อย “พวกเราไม่สามารถทิ้งมันไปได้ มันรู้สึกเหมือนว่า… มันอยากจะอยู่กับเรา”

“ก็แน่ล่ะ เราทุกคนรู้ดีว่าโซเชียลมีเดียมันเกาะติดแค่ไหน” ผมพูดพลางตรวจดูไม้เซลฟี่ “บางทีคุณอาจจะได้เจอวิญญาณอินฟลูเอนเซอร์ ที่ติด’แกรมก็เป็นได้”

พวกเขาพยายามยิ้ม แต่เห็นได้ชัดว่ามุกตลกของผมไม่ได้ทำให้พวกเขารู้สึกดีขึ้น ผมตรวจสอบไม้เซลฟี่อย่างละเอียดพยายามหาสิ่งผิดปกติ แต่มันดูธรรมดามาก แต่ความเย็นยะเยือกในบรรยากาศทำให้ผมต้องคิดอีกที

ผมวางไม้เซลฟี่ลงบนเคาน์เตอร์ “โอเค ผมจะตรวจสอบมันอย่างละเอียด ค่าตรวจเช็คเบื้องต้นคือ 1,500 บาท ถ้าหากมันเป็นของผีสิง โดนคำสาป หรืออะไรที่เหนือธรรมชาติ เราค่อยคุยเรื่องค่าบริการพิเศษกันอีกที”

ฟิล์มพยักหน้า เริ่มควักกระเป๋าสตางค์ “อะไรก็ได้ครับ แค่ช่วยทำให้มันหยุดที”

ผมมองดูรูปถ่ายอีกครั้ง ความรู้สึกเย็นยะเยือกไต่ขึ้นมาที่กระดูกสันหลัง “เดี๋ยวมาดูกันว่ามันคืออะไร”

Sponsored Ads

———————

ทดลองทดสอบ

หลังจากที่ฟิล์มและแพทกลับไปแล้ว ผมหยิบไม้เซลฟี่ขึ้นมาถือไว้อย่างระวัง ราวกับว่ามันอาจจะระเบิดออกมา ผมเจออุปกรณ์อาถรรพ์มามากมายแล้ว แต่ส่วนมากมันจะมีสัญญาณที่ชัดเจนกว่า เช่น ไฟกะพริบ หน้าจอบิดเบี้ยว หรือเสียงกระซิบในคืนเงียบ ๆ แต่เจ้านี่ดูธรรมดาเกินไป ถ้าไม่นับบรรยากาศที่น่าขนลุก

“เอาล่ะ ไม้เซลฟี่ผี” ผมพึมพำ “มาดูกันหน่อยว่านายจะน่ากลัวจริงแค่ไหน”

ผมยืดไม้เซลฟี่ออก ติดโทรศัพท์ของผมไว้ที่ปลายไม้แล้วเปิดกล้องหน้า หน้าจอแสดงภาพสะท้อนของผมที่ดูหน้าตาน่าสงสัยสุด ๆ กับแถวของอุปกรณ์แปลก ๆ ในร้านเป็นฉากหลัง ผมยิ้มแห้ง ๆ แล้วกดถ่ายภาพ

ทันทีที่กล้องถ่ายภาพ ผมรู้สึกได้ถึงความเย็นสั่นเหมือนมีคนเป่าลมลงคอ ขนของผมเริ่มลุกชูชัน และรู้สึกเหมือนมีแรงดึงดูดบางอย่างที่บังคับให้ผมหันไปด้านหลัง แต่ผมฝืนไว้ พยายามจดจ่ออยู่ที่โทรศัพท์

ผมลดไม้เซลฟี่ลงและเปิดภาพขึ้นมา

ที่นั่น ในนั่น มีเงารูปร่างคน ยืนอยู่ข้าง ๆ ผมในกรอบภาพ ใกล้กว่าในภาพถ่ายของฟิล์มและแพท ใบหน้าห่างจากผมไม่ถึงคืบ ดวงตาสีดำที่ว่างเปล่าจ้องตรงมาที่กล้อง

ความหนาวเย็นแทรกเข้าไปถึงกระดูก และในเสี้ยววินาที ผมไม่สามารถละสายตาจากดวงตาที่ว่างเปล่านั้นได้ ไม่ว่าจะเป็นใครหรืออะไรก็ตาม มันอยู่ใกล้—ใกล้เกินไป

“เอาล่ะ ดูท่าจะไม่ใช่แค่ความผิดพลาดของกล้องธรรมดาซะแล้ว” ผมพึมพำ วางโทรศัพท์ลงและยืดนิ้วเพื่อลดความรู้สึกชาที่เหลือ “ดูท่าผมต้องขุดลึกกว่านี้”

Sponsored Ads

———————

การเผยตัวของผี

ผมวางไม้เซลฟี่ลง ความคิดในหัวแล่นพล่าน นึกถึงพิธีกรรม เครื่องราง และวิธีป้องกันตัวทุกอย่างที่เคยเรียนรู้ ความเย็นยังคงอบอวลอยู่ในอากาศ ราวกับว่าวิญญาณได้ทิ้งร่องรอยไว้ ราวกับเป็นลายเซ็น และในแง่นี้ มันก็ช่วยยืนยันบางอย่างได้ เพราะอุปกรณ์ผีสิงมักจะปล่อยพลังงานออกมาในแบบหนึ่ง แต่นี่มันต่างออกไป—แข็งแรงกว่า มีจุดมุ่งหมายมากกว่า เหมือนกับว่ามัน… กำลังมองหาบางอย่าง

ผมส่ายหัวถอนหายใจ พึมพำกับตัวเองว่า “ทำไมคนถึงไม่ใช้กล้องปกติบ้างนะ? ไม้เซลฟี่น่ะ เกินความจำเป็นจริง ๆ โดยเฉพาะเมื่อมาพร้อมกับการปรากฏตัวของผี”

แต่จะเมินเฉยก็ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว วิญญาณที่สิงอยู่ในไม้เซลฟี่นี้มันเริ่มแข็งแกร่งขึ้น และปรากฏชัดเจนขึ้นในทุกภาพที่ถ่าย และถึงแม้ว่าผมจะพูดเล่นๆ เรื่องนี้ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันรู้สึกน่าขนลุกมาก ที่วิญญาณนั้นต้องการจะปรากฏตัว เหมือนอยากอยู่ใกล้กับคนเป็น ในวิธีที่ส่วนตัวและใกล้ชิดขนาดนี้

ผมมองลงไปที่รูปสุดท้ายในโทรศัพท์ รูปที่เงามืดจ้องมาที่กล้องโดยตรง ใบหน้าของมันดูเหมือนจะเปลี่ยนไปเล็กน้อย มีประกายบางอย่างในดวงตาที่ว่างเปล่าเหล่านั้น ราวกับว่ามันจดจำอะไรบางอย่างได้

“เอาล่ะ” ผมพูดขึ้นมาดัง ๆ ครึ่งหนึ่งพูดกับวิญญาณ อีกครึ่งหนึ่งพูดกับตัวเอง “ฉันเข้าใจแล้ว คุณอยู่ที่นี่ เอาล่ะ มาดูกันว่าคุณต้องการอะไร”

Sponsored Ads

———————

น่าตื่นเต้น

อากาศในร้านร้านเย็นขึ้น ผมรู้สึกได้ถึงน้ำหนักของบางสิ่งที่กำลังเฝ้ามองอยู่ ตรงขอบสายตา รอให้ผมก้าวต่อไป มันเหมือนกับว่าผีกำลังท้าทายให้ผมค้นหาต่อไป เพื่อเปิดเผยความจริงเบื้องหลังการปรากฏตัวของมันในอุปกรณ์ธรรมดาชิ้นนี้

ผมหยิบไม้เซลฟี่ขึ้นมาอีกครั้ง รู้ดีว่าสิ่งที่กำลังจะเจอนั้นอาจไม่ใช่เรื่องง่าย—หรือปลอดภัย ใบหน้าของเงาในรูปดูเหมือนจะขยับเข้ามาใกล้มากขึ้น เงาดูเข้มขึ้น ชัดเจนขึ้น

“เอาล่ะ ผี” ผมกระซิบ มือกำด้ามไม้เซลฟี่แน่น “มาดูกันหน่อยว่าคุณซ่อนความลับอะไรไว้”

Sponsored Ads