ร้านเงียบสนิท มีเพียงเสียงฮัมเบา ๆ จากแล็ปท็อปและเสียงแผ่ว ๆ ของพลังป้องกันที่เริ่มทำงาน ผมยืนอยู่กลางห้อง ท่ามกลางเครื่องมือผสมผสานระหว่างยุคโบราณและยุคสมัยใหม่ สายเคเบิลที่ได้รับการอธิษฐาน ผ้ายันต์คลุมไว้อย่างระมัดระวังบนแล็ปท็อป พระสมเด็จที่เรืองแสงอ่อน ๆ บนคอของผม และสายสิญจน์ที่พันแน่นรอบข้อมือ
Sponsored Ads
ธนานั่งขัดสมาธิอยู่บนพื้น ดวงตาของเขามองไปรอบ ๆ อย่างหวาดระแวง ระหว่างหน้าจอที่กำลังเรืองแสง ข้างหนึ่งเขากำสายสิญจน์ไว้แน่นเหมือนเกาะยึดชีวิต ข้างอีกมือหนึ่งถือถุงมันฝรั่งทอดที่กินเหลือครึ่งถุง “เรามั่นใจว่ามันจะได้ผลใช่ไหม?” เขาถาม น้ำเสียงเจือไปด้วยความอยากรู้และความกลัว
“ไม่” ผมตอบโดยไม่ละสายตาจากแล็ปท็อป “แต่ถ้ามันไม่ได้ผล อย่างน้อยฝันร้ายของนายก็คงน่าสนใจขึ้น”
“เยี่ยมเลย ฉันไม่ได้สมัครมาเป็นเจ้าหน้าที่ไอทีให้โลกวิญญาณนะ”
Sponsored Ads
———————
เตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้
โค้ดหลักของแอปเต็มไปด้วยชั้นการเข้ารหัสที่ซับซ้อน ไม่ใช่แค่การตั้งโปรแกรมล้ำสมัย แต่มันยังฝังสัญลักษณ์โบราณเข้าไปในระบบอีกด้วย ใครก็ตามที่ออกแบบสิ่งนี้ไม่ได้แค่เก่งเทคโนโลยี แต่ยังชำนาญในการหลอมรวมระหว่างโลกเหนือธรรมชาติและดิจิทัล
“นี่คือแผน” ผมพูด พลางหยิบกระจกส่องวิญญาณเล็ก ๆ จากโต๊ะ “สัญลักษณ์พวกนี้ทำหน้าที่เหมือนไฟล์วอลของวิญญาณ ถ้าฉันแยกมันออกได้ ฉันน่าจะตัดการเชื่อมโยงระหว่างแอปกับผู้ใช้งานได้”
ธนาหรี่ตามองกระจก “แล้ว… กระจกนี่เอาไว้ทำอะไร? สะท้อนผีกลับไปที่ตัวมันเองเหรอ?”
“เปล่า กระจกนี่ไว้ช่วยให้ฉันเห็นสิ่งที่ซ่อนอยู่ในโค้ด” ผมตอบ “สัญลักษณ์พวกนี้ซ่อนอยู่ในชั้นข้อมูลที่ต้องใช้เครื่องมือพิเศษถึงจะมองเห็นได้ หยุดถามแล้วถือสายสิญจน์ให้มั่น ๆ หน่อย”
เขาขยับสายสิญจน์รอบข้อมือให้แน่นขึ้น พึมพำว่า “นายชอบสั่งจังเลย ตอนนายแฮ็กพวกเหนือธรรมชาติ นายรู้ตัวไหม?”
ผมไม่สนใจเขา มุ่งความสนใจอยู่กับงานตรงหน้า ผ้ายันต์คลุมแล็ปท็อปเพื่อป้องกันพลังมืด และสายเคเบิลศักดิ์สิทธิ์ที่ช่วยตัดสัญญาณรบกวน ผมเริ่มพิมพ์อย่างรวดเร็ว พร้อมพึมพำบทสวดที่ย่าน้อยเคยสอนด้วยเสียงที่มั่นคง อากาศรอบตัวเริ่มเย็นลง และผมรู้สึกได้ว่าร้านกำลังเตรียมรับมือกับบางสิ่งที่ไม่เป็นมิตร
Sponsored Ads
———————
เริ่มต้นการแฮ็ก
หน้าจอรอบ ๆ ร้านกระพริบ แอปที่ถูกสาปเริ่มทำงาน ตัวเลขปรากฏขึ้นบนหน้าจอ [4-2-8] [1-6-9] [5-7-3] ตัวเลขสีแดงสดที่ไหลผ่านหน้าจออย่างไม่หยุดยั้ง พร้อมเสียงกระซิบเบา ๆ ที่ดังแผ่วในอากาศ อุณหภูมิในร้านลดลงอย่างรวดเร็ว และลมหายใจของผมกลายเป็นควัน
ธนากำสายสิญจน์แน่นขึ้น เสียงสั่นเครือ “เอ่อ นาวิน? หน้าจอพวกนี้… มันกำลังพูดอยู่นะ”
ผมเงยหน้าขึ้นมองแวบหนึ่ง เห็นเงาดำปรากฏขึ้นบนหน้าจอ ดวงตาว่างเปล่าจ้องมาที่ผม เสียงของมันก้องกังวานในร้าน เสียงทุ้มลึกที่เหมือนรวมหลายเสียงไว้ด้วยกัน
[เข้าร่วมการจับฉลาก… ถึงตาคุณแล้ว…]
“ไม่มีทาง” ผมพึมพำ พิมพ์มือไวขึ้น มือของผมเคลื่อนไหวไปเอง สำรวจโค้ดที่ถูกเข้ารหัสไว้ในแอป ขณะที่บทสวดที่ย่าเคยสอนยังคงหลั่งไหลจากปากของผม
พระสมเด็จบนคอของผมเริ่มอุ่นขึ้น พลังของมันสร้างเกราะป้องกันที่คอยต้านพลังของเงาที่เริ่มรุกล้ำ เงานั้นขยับร่างอย่างกระตุก ดูเหมือนจะถูกผลักกลับเล็กน้อย แต่มันไม่ได้ถอยไปไหน…
Sponsored Ads
———————
เงาโจมตี
ทันใดนั้น หน้าจอแล็ปท็อปเริ่มบิดเบี้ยว โค้ดที่เคยเรียบง่ายเปลี่ยนรูปเป็นรูปร่างประหลาด คล้ายกับสัญลักษณ์ที่ผมค้นพบก่อนหน้านี้ เสียงกระซิบของเงาดังขึ้นเรื่อย ๆ เหมือนกำลังกดดันให้ผมหยุดทำ อากาศเย็นลงจนเกิดน้ำแข็งเกาะตามขอบจอมอนิเตอร์ และนิ้วมือของผมเริ่มแข็งขณะที่พิมพ์
ไฟในร้านกระพริบถี่ และผมรู้สึกถึงแรงกดดันที่หน้าอก—เป็นน้ำหนักที่ไม่ใช่ทางกายภาพ แต่เป็นพลังทางจิตวิญญาณ เงาพยายามจะผลักผมถอยหลัง ผมคว้ากระจกวิญญาณขึ้นมาและยกมันส่องหน้าจอ ในช่วงเสี้ยววินาที สัญลักษณ์เหล่านั้นก็ปรากฏขึ้น เรืองแสงจาง ๆ ในกระจกสะท้อน
“เจอแกแล้ว” ผมพึมพำ พลางจ้องหน้าจอแน่วแน่
“เอ่อ นาวิน?” เสียงของธนาแตกพร่า “มันกำลังขยับ”
ผมหันไปทางซ้ายและเห็นเงากำลังย่างก้าวออกมาจากจอมอนิเตอร์ รูปร่างมันชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ แขนยาวเรียวเหยียดออกมาหาผม ดวงตาว่างเปล่าของมันเรืองแสงจาง ๆ เสียงกระซิบเปลี่ยนเป็นเสียงก้องกังวาน
[ถึงตาคุณแล้ว! … ถึงตาคุณแล้ว!]
“ธนา!” ผมตะโกน “โยนข้าวสารเสก!”
เขากะพริบตา เหมือนถูกแช่แข็งด้วยความกลัว
“เร็วเข้า!”
ธนาคว้าถุงข้าวสารเสกที่วางอยู่บนเคาน์เตอร์ ก่อนจะโยนมันไปทางเงาด้วยมือสั่น ๆ ข้าวสารโปรยกระจายไปทั่วร้าน อากาศสั่นไหว พลังป้องกันจากข้าวสารเสกเริ่มรบกวนการเคลื่อนไหวของเงา ร่างของมันชะงัก รูปร่างกระพริบหายไปเป็นระยะ แต่เสียงกระซิบมันยังไม่หยุด
Sponsored Ads
———————
ฝ่าทะลุ
“ใช้เวลานานเกินไปแล้ว” ผมพึมพำ นิ้วมือพิมพ์อย่างรวดเร็ว โค้ดชั้นสุดท้ายของแอปปรากฏขึ้นเบื้องหน้า เป็นชั้นป้องกันที่ล้อมรอบด้วยสัญลักษณ์ที่ซับซ้อนที่สุดสัญลักษณ์หนึ่ง ลวดลายเรืองแสงสลับไปมาด้วยพลังงานมืด
ผมสูดลมหายใจลึก ก่อนจะคว้ามีดหมอขึ้นมาและลากปลายมีดตามลวดลายของสัญลักษณ์บนหน้าจอ ขณะเดียวกันก็ท่องบทสวดสุดท้าย
หน้าจอแล็ปท็อปสว่างวาบ สัญลักษณ์แตกกระจายเป็นพิกเซลก่อนจะหายไปหมดสิ้น อากาศรอบตัวสงบนิ่ง และผมคิดว่าทุกอย่างน่าจะจบลงแล้ว
แต่มอนิเตอร์รอบร้านกลับดับไปทีละเครื่อง เหลือเพียงหน้าจอแล็ปท็อปที่เรืองแสงเล็กน้อย โค้ดของแอปยังทำงานอยู่ แต่คราวนี้ผมมองเห็นความจริง สัญลักษณ์ไม่ได้แค่ป้อนพลังงานให้แอป แต่กำลังดูดพลังงานความกลัวจากผู้ใช้ทุกคน
“พวกมันใช้ความกลัวของคนเพื่อจ่ายพลังให้บางสิ่งที่ใหญ่กว่า” ผมพูด เสียงตึงเครียด
“และมันเกือบเสร็จสมบูรณ์แล้ว”
Sponsored Ads
———————
การจับฉลากครั้งสุดท้าย
หน้าจอกระพริบอีกครั้ง พร้อมตัวเลขนับถอยหลังปรากฏ [00:23:59]
ธนาโน้มตัวมามองผ่านไหล่ผม ดวงตาเบิกกว้าง “นั่นมันอะไร?”
“นี่คือจุดจบของแอป” ผมตอบเสียงเข้ม “การจับฉลากครั้งสุดท้าย ถ้าพิธีเสร็จสมบูรณ์ มันจะดึงผู้ใช้ทั้งหมดเข้าไปในฝันร้ายถาวร—และเปิดประตูไปสู่สิ่งที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมดนี้”
หน้าของธนาซีดเผือด “แล้ว… เราจะทำยังไง?”
ผมกำพระสมเด็จในมือแน่น พลังความอุ่นของมันช่วยให้จิตใจผมมั่นคงขึ้น “เราต้องหยุดมัน แต่คราวนี้ไม่ใช่แค่แฮ็กแล้ว มันต้องใช้… ทุกอย่างที่เรามี”
ตัวเลขนับถอยหลังยังคงเดินหน้า เสียงกระซิบของเงาก้องกังวานในความเงียบ
[ถึงตาคุณแล้ว! … ถึงตาคุณแล้ว!]
ผมหันไปมองธนา บังคับให้ตัวเองยิ้มมุมปากแม้ความกดดันจะมากขึ้นเรื่อย ๆ
“ดูเหมือนคืนนี้เราต้องอดนอนอีกคืนแล้วล่ะ”
Sponsored Ads