NOVEL / The Signal Beyond the Veil · March 1, 2025 0

098-ภาพสุดท้าย (ไขรหัส)

ห้วงลึกสั่นสะเทือนด้วยความคาดหวัง ขณะที่ผมกับหลินก้าวไปข้างหน้าบนพื้นผิวที่เรียบลื่นราวกระจก แต่เย็นเยียบเหมือนสุสาน ทุกย่างก้าวนำเราเข้าใกล้ สัญลักษณ์ขนาดมหึมาที่หมุนวนอยู่กลางความมืดเบื้องบน มันคือวงแหวนซับซ้อนที่เรืองแสงวูบไหวเปล่งประกายจางๆ ด้วยพลังงานที่สับสนวุ่นวาย

Sponsored Ads

เสียงหัวเราะแผ่วเบาและเสียงกระซิบดังสะท้อนอยู่รอบกายเรา ราวกับถูกพัดพามาด้วยสายลมที่มองไม่เห็น ควายธนูเรืองแสงยังคงวนเวียนรอบตัวเรา แสงสีทองของมันส่องประกาย ต้านทานเงามืดที่คืบคลานเข้าหาอย่างเงียบงัน

เสียงของหลินดังขึ้นทำลายความเงียบสงัด
“สัญลักษณ์นั่นไม่ใช่แค่สัญลักษณ์ มันเป็นกุญแจล็อก ดูการหมุนของชั้นต่าง ๆ สิ มัน… เป็นลำดับขั้น”

ผมหรี่ตาลง จ้องมองไปยังสัญลักษณ์ที่เบื้องบน มือกำมีดหมอแน่น ความจริงบางอย่างแล่นวาบเข้ามาในหัว

“มันคือกุญแจแบบรหัสหมุน แต่ละชั้นเกี่ยวพันกับอารมณ์ ดูสิ—ความสุข ความเชื่อใจ ความรัก ความกลัว”

คิ้วของหลินขมวดแน่น “ถ้าเราสามารถถอดรหัสลำดับนี้ได้ เราอาจจะเปิดมันออกได้—หรือทำลายมันได้อย่างสมบูรณ์”

เงามืดรอบตัวเราขยับ ราวกับมันรับรู้ถึงความตั้งใจของเรา

“กดดันใช่เล่นเลยแฮะ” ผมพึมพำ

Sponsored Ads

———————

กุญแจและมีดหมอ

เราจัดการแบ่งหน้าที่ หลินใช้แนวทางเชิงกลยุทธ์ วิเคราะห์การเคลื่อนไหวของสัญลักษณ์ พยายามจับคู่กับอารมณ์ที่สลักอยู่บนสัญลักษณ์ ส่วนผมคุกเข่าลงบนพื้นแก้ว ค่อย ๆ แกะสลักยันต์ขัดขวางลงบนผิวกระจกด้วยมีดหมอเพื่อสกัดกั้นเงาดำที่กำลังก่อตัวเข้ามาใกล้

เสียงของหลินเฉียบคมและเต็มไปด้วยสมาธิ “ลำดับแรก—ความสุข มันคือชั้นที่สว่างที่สุด ดูการกะพริบของมัน มันเต้นเป็นจังหวะสามจังหวะ”

ผมเสี่ยงชำเลืองขึ้นไปมอง ชั้นนอกสุดของสัญลักษณ์สว่างวาบเป็นจังหวะ คล้ายกับจังหวะการเต้นของหัวใจ หลินยกปืนพลาสมา เล็งอย่างแม่นยำ ก่อนจะยิงลำแสงพุ่งตรงไปยังส่วนที่ถูกต้อง

สัญลักษณ์ชั้นนอกหยุดนิ่ง ส่งเสียงหึ่งกังวานออกมาอย่างแผ่วเบา

“เสร็จหนึ่งอัน” หลินพ่นลมหายใจออกมา “ลำดับต่อไป—ความเชื่อใจ”

ห้วงลึกแห่งความว่างเปล่านั้นสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงในการตอบสนอง รอยร้าวแผ่กระจายเป็นใยแมงมุมบนผิวแก้วใสรอบตัวเรา

เงามืดโถมเข้ามาเหมือนคลื่นยักษ์

“นาวิน!” หลินตะโกน

ผมกระแทกมีดหมอลงบนพื้นแก้ว แกะสลักยันต์ขัดขวางอีกอัน แสงสีขาวสว่างวาบออกมา เงามืดร้องโหยหวนก่อนจะสลายหายไปเป็นหมอกดำ

Sponsored Ads

หลินเล็งอีกครั้ง สายตาคมกริบของเธอจับจ้องไปที่ชั้นที่สอง เธอยิงลำแสงพลังงานพุ่งตรงไปยังจุดที่ถูกต้อง

ชั้นที่สองของสัญลักษณ์หยุดนิ่ง แต่บางสิ่งในอากาศก็เปลี่ยนไป

ความกดดันรอบตัวเพิ่มขึ้น ราวกับความเงียบสงัดก่อนพายุจะโหมกระหน่ำ

สัญลักษณ์สองชั้นสุดท้ายเริ่มหมุนเร็วขึ้น เส้นแสงกลายเป็นเส้นสายพร่ามัว

“มันเร่งความเร็วขึ้น!” ผมพูด เสียงของผมแฝงไปด้วยความกังวล

ริมฝีปากของหลินเม้มแน่นเป็นเส้นตรง “เราเหลือเวลาไม่มากแล้ว”

เงาดำเริ่มขยับเข้ามาใกล้มากขึ้น ร่างพวกมันกรีดร้องด้วยเสียงที่เหมือนกระจกแตกเป็นพันชิ้น

ในมือของผม มีดหมอเรืองแสงสลัว ขณะที่แสงสีทองจากควายธนูยังคงส่องประกายสู้กับความมืดที่คืบคลานเข้ามา

เบื้องบน สัญลักษณ์ขนาดมหึมาเรืองแสงแรงกล้า หมุนวนราวกับเครื่องจักรโบราณที่กำลังจะถึงจุดแตกหัก

“ลุยต่อ นาวิน!” หลินตะโกน

และเราก็พุ่งไปข้างหน้า—เข้าสู่ใจกลางของวงแหวนแห่งพิธีกรรม ที่ซึ่งทุกอย่างกำลังจะถึงจุดจบ

Sponsored Ads

———————

การเดิมพันครั้งสุดท้าย

สัญลักษณ์วงแหวนชั้นที่สาม—‘ความรัก’—ส่องแสงสว่างเจิดจ้ายิ่งกว่าชั้นอื่น ๆ แสงของมันอบอุ่นและเต้นเป็นจังหวะนุ่มนวล ราวกับการเต้นของหัวใจ

“มันต้องการบางอย่าง” หลินเอ่ยเบา ๆ ดวงตาของเธอจับจ้องไปที่สัญลักษณ์นั้น “มันกำลังตอบสนองต่อเจตจำนง”

อากาศรอบตัวเรากระเพื่อมด้วยพลังงาน ความว่างเปล่าอันมืดมิดดูเหมือนจะโน้มตัวเข้ามาใกล้ราวกับมันกำลังตั้งใจฟัง

ผมกำมีดหมอแน่นจนข้อนิ้วซีด เหงื่อไหลซึมลงมาตามกรอบหน้า “มันกำลังขอ… ความจริงใจ การเชื่อมโยงที่แท้จริง”

หลินหันมามองผม ดวงตาคมกริบสบตาผมอย่างแน่วแน่ สำหรับช่วงเวลาสั้น ๆ การคำนวณอันเย็นชาในฐานะผู้บัญชาการดูเหมือนจะจางหายไป

“ความรักไม่ใช่เรื่องของตรรกะ นาวิน มันคือความเสี่ยง… คือการเสียสละ”

โดยไม่ลังเล เธอเก็บปืนพลาสมาเข้าซองและก้าวไปข้างหน้า รองเท้าบูทของเธอกระทบกับพื้นแก้วสะท้อนแสงด้วยเสียง ‘กึก กีก’

“หลิน! เดี๋ยว!” ผมตะโกน มือเอื้อมไปคว้าเธอ

เธอหันกลับมานิดหนึ่ง ใบหน้าเรียบสงบและแน่วแน่ “หนึ่งในพวกเราต้องทำสิ่งนี้ และถ้ามันต้องแลกมาด้วยฉัน… ก็ให้มันเป็นอย่างนั้น”

“ไม่!” ผมพูดเสียงแข็ง “เราไม่ได้เล่นไปตามเกมของมัน”

สัญลักษณ์ส่องสว่างยิ่งขึ้น สัญลักษณ์หมุนวนเป็นพายุเหนือหัวเรา

หลินก้าวไปอีกก้าวหนึ่ง แต่ก่อนที่เธอจะก้าวไปไกลกว่านี้ ผมพุ่งตัวไปข้างหน้าแทน

“อ๊ากกกกก!”

ด้วยเสียงตะโกนสุดแรง ผมแทงมีดหมอลงไปบนพื้นแก้วใต้สัญลักษณ์สุดท้าย แกะสลักยันต์เพียงอันเดียว ‘เสียสละ’

ทุกอย่างหยุดนิ่ง

ความว่างเปล่ารอบตัวดูเหมือนจะหยุดหายใจ เวลาถูกหยุดนิ่งในช่วงวินาทีที่ยาวนานและทรมาน

Sponsored Ads

———————

สัญลักษณ์แตกสลาย

‘แกร๊ก!’

สัญลักษณ์แตกร้าว รอยแตกแผ่ขยายไปทั่วพื้นผิวที่ส่องแสงสว่าง รัศมีแสงสีขาวสาดกระจายออกมาราวกับท้องฟ้าที่กำลังแตกสลายเป็นเสี่ยง ๆ

เหนือศีรษะของเรา ความว่างเปล่าส่งเสียงกรีดร้อง เสียงก้องกังวานและหนักแน่นสั่นสะเทือนพื้นผิวแก้วใต้เท้าของเรา เงามืดทะลักออกมาจากทุกทิศทาง ใบหน้าที่บิดเบี้ยวอย่างบ้าคลั่ง แขนที่เหยียดยื่นออกมาราวกับจะพยายามดิ้นรนอย่างสิ้นหวังเพื่อคว้าจับสัญลักษณ์ที่กำลังพังทลายในห้วงลึงแห่งความว่างเปล่า

จากที่ไหนสักแห่งภายห้วงลึกของความมืด มิสเตอร์วาเลนไทน์ส่งเสียงก้องออกมา เสียงของเขาคมกริบและเต็มไปด้วยพิษร้าย

“พวกคุณทำลายความรักไม่ได้… พวกคุณทำได้แค่ชะลอมันเท่านั้น!”

หลินคว้าแขนผม ดึงให้ถอยหลัง เศษชิ้นส่วนเรืองแสงจากสัญลักษณ์แตกกระจายร่วงหล่นลงมา ก่อนจะสลายกลายเป็นละอองแสงระยิบระยับ

“มันกำลังจะล่มสลาย!” หลินตะโกนท่ามกลางเสียงอึกทึก

แต่มีบางอย่างผิดปกติ…

สัญลักษณ์ได้แตกสลายออกไปแล้วสามชั้น ความสุข ความเชื่อใจ และความรัก แต่ชั้นสุดท้าย—กุญแจสุดท้าย—ยังคงเรืองแสงริบหรี่ สั่นไหวอย่างรุนแรง สัญลักษณ์ของมันส่องแสงสีแดงเข้ม แหลมคม และแฝงไปด้วยความรุนแรง

ความกลัว

ผมยืนนิ่ง รู้สึกเหมือนลมหายใจถูกดูดหายไปจากปอด ความกลัวคือกุญแจสุดท้าย มันยังคงดูดกลืนพลังงาน มันยังคงเลี้ยงดูความว่างเปล่านี้ และหากเราไม่ทำลายมันตอนนี้ วงจรนี้จะยังคงอยู่ จะยังคงเน่าเฟะเหมือนบาดแผลที่เปิดอ้า

“นาวิน!” เสียงของหลินตัดผ่านเสียงโกลาหล “ชั้นสุดท้ายยังไม่ถูกทำลาย! เราพลาดอะไรไป?”

ความว่างเปล่าเคลื่อนตัวรอบตัวเรา เสียงสะอื้นห่างไกลดังแทรกผ่านเสียงกระซิบ ภาพเงาจาง ๆ ปรากฏขึ้นทั่วพื้นผิวแตกสลายของความว่างเปล่า —คู่รักที่ติดอยู่ ใบหน้าของพวกเขาบิดเบี้ยวไปด้วยความกลัว

มือของพวกเขายื่นออกมาแต่ไม่อาจแตะต้องกันได้ ช่วงเวลาสุดท้ายของพวกเขาถูกฝังลงไปในสัญลักษณ์ กักขังพวกเขาไว้ตลอดกาล

“พวกเขายังกลัวอยู่!” ผมตะโกนออกมา เสียงสั่นเครือด้วยความตื่นตระหนก “พิธีกรรมนี้ยังไม่สมบูรณ์เพราะความกลัวกำลังกักขังพวกเขาไว้ นี่คือเส้นใยสุดท้าย!”

หลินยิงปืนพลาสมาใส่เงามืดรอบตัวเรา ปืนพลาสมาของเธอส่งเสียงคำรามอย่างรุนแรง พลังงานสีฟ้าสว่างจ้าฉีกกระชากเงาร่างให้สลายไปเป็นหมอกควัน “แล้วเราจะทำลายมันยังไง!?”

ผมกำมีดหมอไว้แน่น ใบมีดส่องแสงสว่างจาง ๆ ในแสงสะท้อนที่สั่นไหว มือผมสั่นไหว ความตระหนักถึงทางเลือกหนึ่งกดทับลงมาบนบ่าของผม

“ใครบางคนต้องเผชิญหน้ากับมัน” ผมพูดออกมาเสียงแผ่ว “ใครบางคนต้องยอมรับความกลัว… และปล่อยมันไป”

หลินสบตากับผม ดวงตาของเธอแน่วแน่และเต็มไปด้วยความเข้าใจ

เรารู้แล้วว่าใครจะเป็นคนทำสิ่งนี้

ผมก้าวไปข้างหน้า มุ่งตรงไปยังสัญลักษณ์สุดท้ายที่ยังคงส่องแสงอยู่

Sponsored Ads

———————

สัญลักษณ์สุดท้าย

ส่วนสุดท้ายของสัญลักษณ์ส่องแสงสีแดงเข้ม แสงนั้นทอดยาวเป็นเงาทาบทับพื้นผิวที่แตกร้าวของความว่างเปล่า ทุกครั้งที่แสงสว่างวาบขึ้นมา มันมาพร้อมกับเสียงสะอื้นแผ่วเบา คำอ้อนวอนที่แหลกสลาย หรือเสียงหายใจเฮือกสุดท้ายของใครบางคนที่ติดอยู่ในห้วงแห่งความหวาดกลัว

ผมคุกเข่าลงต่อหน้าสัญลักษณ์ที่เรืองแสง มีดหมอในมือสั่นไหวเล็กน้อย

“ความกลัว…” ผมพึมพำ “มันเป็นความกลัวเสมอใช่ไหม? สิ่งที่ฉุดรั้งเราไว้ สิ่งที่ขังเราเอาไว้ไม่ให้ก้าวไปข้างหน้า”

เสียงกระซิบคืบคลานเข้ามารอบตัวผม เหมือนควันพิษที่แผ่กระจายไปทั่ว

[คุณไม่เพียงพอ… คุณจะล้มเหลว… คุณจะสูญเสียเธอ… คุณจะตายที่นี่… อย่างโดดเดี่ยว]

ลมหายใจของผมติดขัดน้ำหนักของคำพูดเหล่านั้นกดทับลงบนหน้าอกผมราวกับหินก้อนใหญ่

แต่แล้ว เสียงหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลัง—เสียงที่ชัดเจนและมั่นคง

“นาวิน นายไม่ได้อยู่คนเดียว”

เสียงของหลินตัดผ่านความมืดเหมือนลำแสงที่ส่องผ่านทะลุรอยแยกในกำแพง

ผมผ่อนลมหายใจออกมาอย่างช้า ๆ มือกำมีดหมอแน่นยิ่งขึ้น

และด้วยการเคลื่อนไหวครั้งสุดท้าย ผมแทงมีดหมอลงไปที่สัญลักษณ์ที่เรืองแสงอย่างรุนแรง ใบมีดฝังลึกลงไปบนพื้นแก้วสีดำ แสงสีแดงเข้มระเบิดออกมา—แสงสว่างจ้า แสบร้อน และสุดท้าย

ชั่วขณะหนึ่งที่แสนเจ็บปวด เสียงกระซิบทั้งหมดกลายเป็นเสียงกรีดร้อง หลายร้อยเสียงร้องโหยหวนเป็นหนึ่งเดียวเมื่อกุญแจสุดท้ายถูกทำลายลง

สัญลักษณ์แตกสลาย เปล่งแสงสีทองระยิบระยับ เศษชิ้นส่วนของมันกระจายออกไปทั่วความว่างเปล่าเหมือนอุกกาบาต

เหนือศีรษะเรา ความมืดมิดแตกสลาย ปล่อยให้แสงจ้าส่องผ่านเข้ามา เผาผลาญเงามืดและปลดปล่อยเงาร่างของคู่รักที่ถูกขังเอาไว้

———————

ล่มสลาย

ความว่างเปล่ากรีดร้องเหมือนโลกทั้งใบกำลังหายใจเฮือกสุดท้าย เงามืดของวิญญาณที่ถูกกักขังไว้—สลายกลายเป็นละอองแสงสีทอง ลอยขึ้นสู่ฟากฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวริบหรี่ ก่อนจะจางหายไปในความเวิ้งว้าง

เสียงของ มิสเตอร์วาเลนไทน์ กลับมาอีกครั้ง—เบาลง คราวนี้เต็มไปด้วยความพ่ายแพ้

“ความกลัวเป็นโซ่ตรวนที่แข็งแกร่งที่สุด… แต่มันก็ยังสามารถถูกทำลายได้”

หลินคว้าแขนผมไว้ ดึงผมออกมาจากสัญลักษณ์ที่กำลังพังทลาย ขณะที่ความว่างเปล่าเริ่มยุบตัวลง ราวกับดาวฤกษ์ที่กำลังจะตาย

“เราต้องไปแล้ว!” เธอตะโกน

แรงมหาศาล—เหมือนแรงโน้มถ่วงกลับด้าน—กระชากตัวเราย้อนกลับไป อากาศกลายเป็นบางเบา แหลมคม และเต็มไปด้วยกระแสไฟฟ้า

ทุกอย่างบิดเบี้ยว รอยแยกในความเป็นจริงแยกออกเหมือนกระจกแตกละเอียด

และจากนั้น— ความว่างเปล่าพังทลายลงเหมือนกระจกที่แตกเป็นเสี่ยง ๆ

แสงสว่างจ้าเข้าครอบคลุมทุกสิ่งทุกอย่าง