ฉันกดเด้งแทร็กอีกรอบ
ไม่มีเอฟเฟกต์ ไม่มีเสียงประสาน ไม่มีเทคสอง มีแค่เสียงคีย์ เสียงคอร์ด และเสียงร้องเปราะบางที่ไม่ใช่เสียงของฉัน แต่ก็คงเป็นไปได้ ถ้าฉันอายุสิบหกอีกครั้งและยังไม่เหนื่อยขนาดนี้
Sponsored Ads
เวฟฟอร์มหยุดนิ่ง ความเงียบตกลงมา ไม่ใช่แบบที่เงียบแล้วอุ่นใจนะ แต่แบบที่ทำให้เริ่มสงสัยทุกอย่างที่เพิ่งตัดสินใจไป
ลาเต้ขยับตัวเบา ๆ บนหมอนที่เขายึดครองมาตั้งแต่เมื่อคืน ขาหน้าข้างหนึ่งเหยียด ออกมาแบบเฉื่อย ๆ เหมือนจะไปกดปุ่ม undo โดยไม่ได้ตั้งใจ
“อย่าเลยนะ” ฉันพูดเบา ๆ “ฉันไม่มีแรงจะเทคใหม่แล้วจริง ๆ”
แน่นอนว่าเขาไม่ตอบ แต่เขาก็ไม่ได้เหยียบอะไรต่อ ซึ่งก็ถือว่าเป็นสัญญาณดี ฉันเลื่อนหูฟังออก ลูบสันจมูกตัวเองพลางมองจอที่ยังกระพริบอยู่
File saved: TOSi_YaakRoo_Demo1_vFinal.wav
ฉันจ้องคำว่า “Final” อยู่นานเกินเหตุ ไม่มีอะไรในนี้ที่ final สักอย่าง
ไม่ใช่ไฟล์นี้ ไม่ใช่ดีลนี้ และแน่นอน ไม่ใช่ความจริงที่ฉันยังไม่ได้บอกใครเลย แม้แต่ดุจดาว ว่าเพลงนี้สำคัญกับฉันแค่ไหน
มันไม่ใช่แค่ insert song มันคือคำถามที่ฉันไม่เคยกล้าถามในตอนนั้น เมโลดี้ที่เคยฮัมเบา ๆ ตอนทำงานกะดึก ทั้งที่ในใจก็ไม่เคยเชื่อว่าเพลงจะเปลี่ยนอะไรได้ มันคือความทรงจำที่แฝงตัวอยู่ในรูปของเรื่องแต่ง ซึ่งเอาเข้าจริงก็อาจเป็นความทรงจำที่แท้จริงที่สุดแล้ว
ฉันหันไปมองลาเต้ เขากำลังเลียขาหน้าด้วยความสง่างามเกินกว่าจะเข้ากับสถานการณ์ และแน่นอน…ไม่แม้แต่จะมองหน้าฉัน
“เออ ก็ได้” ฉันพึมพำ “แกล้งทำเป็นไม่ใช่แนวเพลงที่ชอบก็แล้วกัน”
เขาหยุดเลีย แล้วหาวเฉย ๆ
“โอเค ๆ นายอยากให้มันเพี้ยนมากกว่านี้รอบหน้า รับทราบ”
ฉันหันกลับไปมองจออีกที แถบ export ไปถึง 100% แล้ว ฉันส่งไฟล์ให้ดุจดาวได้เลยตอนนี้ และก็ควรจะส่งด้วย
แต่ฉันก็แค่นั่งอยู่ตรงนั้น เสียงเดียวในห้องคือเสียงพัดลมเก่า ๆ ที่เริ่มจะหอบ กับเสียงปรบมือจากผู้ชมที่ไม่มีตัวตน
แต่ถึงอย่างนั้น…ฉันก็โค้งให้มันเบา ๆ
อีเมลเข้าตอนที่ฉันกำลังจ้องกำแพงอยู่พอดี
[ToSi Payments] แจ้งการโอนเงิน: ได้รับ ฿17,000
ไม่มีแอนิเมชันพลุ ไม่มีเสียงดัง “ติ๊ง!” แบบเวลาถูกหวย มีแค่ข้อความสั้น ๆ บนหน้าจอ กับยอดเงินที่อัปเดตเรียบร้อย
หนึ่งหมื่นเจ็ดพันบาท
สำหรับเพลงหนึ่งเพลง สำหรับบางอย่างที่ถูกดึงออกมาจากกึ่งหลับกึ่งตื่น จากคอร์ด ราคาถูก กับเสียงเปียโน MIDI ที่หอบเหมือนคนเป็นหอบหืด สำหรับเมโลดี้ที่ฉันไม่เคยแน่ใจเลยว่าจะมีใครได้ยิน หรือเชื่อมันด้วยซ้ำ
ฉันไม่ได้แตะคีย์บอร์ด ไม่ได้คลิกอะไรเลย แค่นั่งเฉย ๆ แล้วดูตัวเลขนั้นเรืองแสงบนจอ CRT เก่า ๆ ที่สีซีดจนเหมือนความฝัน
ลาเต้ย่องขึ้นมาข้าง ๆ แบบไม่มีเสียง เขามองหน้าจอแป๊บเดียว แล้วหาวใส่มันหน้าตาเฉย จากนั้นก็นั่งทับใบเสร็จค่าข้าวของเดือนก่อน เหมือนจะบอกว่า ยอดเงินก็เหมือนอุณหภูมิ เดี๋ยวก็ขึ้น เดี๋ยวก็ลง
ฉันพยักหน้า ไม่ได้พยักให้เขา ไม่ได้พยักให้จอ แค่…พยักให้กับช่วงเวลานั้น
เงินไม่ใช่เวทมนตร์ในกรุงเทพฯ มันไม่ได้ช่วยชีวิตคุณ แต่มันยังไม่หายไปในวันนี้ และแค่นั้นก็พอแล้ว
ฉันปล่อยให้ตัวเลขอยู่ตรงนั้นอีกสักพัก ก่อนจะขยับตัวอีกครั้ง
Sponsored Ads
———————
Subject ไฟล์แนบ และ
Subject: [ToSi Project – Insert Song] Final Demo Attached
ไฟล์แนบ:
- TOSi_YaakRoo_Demo1_vFinal.wav
- Lyrics_YaakRoo_25Feb.txt
- StructureNotes_v2.doc
ฉันจ้องหน้าร่างอีเมลนานกว่าตอนรอเดโม่ export อีก ทุกอย่างอยู่ครบ ไฟล์ เพลง
เนื้อร้อง ตารางแยกย่อยที่สุภาพ เรียงหัวข้อชัด: intro / verse / pre-chorus / refrain / instrumental bridge / outro
เรียบร้อย เป็นมืออาชีพ เหมือนคนที่รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไร
ฉันก็รู้สึกภูมิใจอยู่นิด ๆ แบบเงียบ ๆ แบบไม่อยากยอมรับ ประมาณเดียวกับเวลาคุณเลี้ยงต้นไม้ไม่ตาย ถึงแม้จะลืมรดน้ำไปสามรอบ
แต่แทนที่จะกดส่ง ฉันกด Enter สองครั้ง แล้วพิมพ์เพิ่มอีกบรรทัด
P.S.
นอกเรื่องนิดนะ ไม่ต้องตอบก็ได้ แต่ถ้าสมมุติว่ามีคนอยากเริ่มทำค่ายเล็ก ๆ หรือบริษัทโปรดักชันเพลงเอง มันยังทำได้อยู่ไหมในยุคนี้?
แบบ…โดยไม่ต้องมีแบ็กอัปจากพวกช่องรับรองใหญ่หรือ CCO อะไรพวกนั้น?
แค่สงสัย เผื่อไว้สำหรับอนาคต
ฉันจ้องบรรทัดนั้น ดูไม่มีพิษมีภัยอะไร ก็แค่คำถาม ไม่มีแผน ไม่มีพรีเซนต์ ไม่มีประกาศปฏิวัติ แต่มันก็ยังรู้สึกเหมือนจุดไม้ขีดในห้องแอร์อยู่ดี
ลาเต้เดินเฉียดผ่านพรม แล้วหยุดข้างเก้าอี้ฉัน เขามองหน้าจออยู่แว้บหนึ่ง แล้วกระโดดขึ้นไปนั่งบนลำโพง ไม่ได้ทับอะไรหรอก แค่นั่ง หนักพอให้ฉันรู้ว่าเขาเห็น
ฉันกดส่ง แล้วก็ปิดจอไปเลย ไม่อยากเห็นมันบินออกไป ไม่อยากคิดถึงเสียงของคำถาม…ตอนที่มันไปตกอยู่ใน inbox ของใครอีกคน
Sponsored Ads
———————
ระบบที่ไม่ได้สร้างมาเพื่อคนอย่างคุณ
อีเมลเข้าตอน 8:47 น.
เธอเปิดอ่านตอน 9:03
ฟังเดโม่ตอน 9:05
ตอบกลับตอน 9:17
ดุจดาวไม่ได้ฟังเดโม่ซ้ำสองรอบ
ไม่จำเป็น บางเพลงก้องสะท้อนในตัวมันเองอยู่แล้ว
เธอวางหูฟังลงเบา ๆ แล้วเปิดเอกสารแนบ โครงสร้างท่อน, การแจกแจงคอร์ด, การไหลของเนื้อเพลง ครบ แม่น เหมือนคนที่ทำแบบนี้มานาน แต่ไม่เคยอยากให้ใครรู้ว่าทำเป็น
แล้วเธอก็เห็นบรรทัดสุดท้าย เหตุผลจริง ๆ ที่อีเมลนี้ใช้เวลานานกว่าปกติ
P.S.
นอกเรื่องนิดนะ ไม่ต้องตอบก็ได้ แต่ถ้าสมมุติว่ามีคนอยากเริ่มทำค่ายเล็ก ๆ หรือบริษัทโปรดักชันเพลงเอง มันยังทำได้อยู่ไหมในยุคนี้?
แบบ…โดยไม่ต้องมีแบ็กอัปจากพวกช่องรับรองใหญ่หรือ CCO อะไรพวกนั้น?
แค่สงสัย เผื่อไว้สำหรับอนาคต
เธอหยุด ไม่ใช่เพราะต้องคิด เธอรู้คำตอบอยู่แล้ว แต่เพื่อชั่งใจว่าจะใจดีแค่ไหนดี
สุดท้าย เธอเลือกเวอร์ชันที่ จริง ไม่ใช่เวอร์ชันที่ อ่อนโยน
Subject: [RE ToSi Project – Insert Song] งานไพเราะ — และคำตอบเดียวที่จริงใจ
กรณ์,
เดโม่ดีมาก แปลกในทางที่ทีมเราต้องการ ขอเวลาประสาน ToSi อีกนิด แต่เพลงนี้น่าจะได้ใช้จริง
สำหรับคำถามท้ายเมล
ใช่, ยัง “เปิดบริษัทได้”ถ้าหมายถึงเอกสารจดทะเบียน แต่ถ้าหมายถึง ออกเพลงเองให้คนฟังได้ โดยไม่โดนเพิกเฉย, ปัดตก, หรือโยนเข้าหมวด “ไม่ปลอดภัยทางสังคม”
ระบบตอนนี้ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อคนแบบคุณ และไม่ได้พังง่ายขนาดให้ใครคนเดียวเปลี่ยนมันได้
แต่มันมีรอยรั่ว มีคนที่หลุดรอด มีบทเพลงที่ถูกปล่อยให้หล่น และบางครั้ง คนที่ฟังเสียงหล่น ๆ เหล่านั้น…ก็เข้าใจมันดีพอที่จะขยายเสียงให้ก้องขึ้นได้
เงื่อนไข:
- ต้องไม่กลัวความเงียบ
- ต้องไม่รีบ
- และต้องเข้าใจว่า “สิ่งที่ไม่มีชื่อ” จะไม่มีทางได้รับการอนุมัติ
ถ้ายังอยากทำหลังอ่านจบ ฉันจะไม่ห้าม
ดุจดาว
เธอไม่ได้กลับไปอ่านทวน ไม่จำเป็นต้องลดน้ำหนักคำพูดลง กรณ์จะไม่สะดุ้งหรอก
ไม่ใช่เขาตัวจริง ภายใต้เสียงประชดแห้ง ๆ กับเกราะ lo-fi ที่ห่อหุ้มตัวเองไว้
เธอวางเมาส์ลงเบา ๆ แล้วกดส่ง หน้าจอเด้งขึ้นมาว่า: [Message sent – 9:18 a.m.]
และแค่นั้น อีกหยดหนึ่งในกระแสเลือดของระบบ
Sponsored Ads
———————
ไม่ใช่แค่คำพูด
คำตอบกลับมาเร็วกว่าที่คิด
สิบห้านาที บวกลบน้ำหนักของคำ
ฉันอ่านมันหนึ่งรอบ แล้วอีกรอบ แล้วก็นั่งจ้องย่อหน้าสุดท้ายก่อนจบ ตรงที่เขียนว่า
ระบบตอนนี้ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อคนแบบคุณ
มันไม่เจ็บหรอกนะ ไม่จริง ๆ มันแค่…ตรงเกินไป เหมือนมีใครเปิดประตูแล้วพูดว่า “เข้าได้นะ แต่เราไม่ได้เตรียมที่นั่งไว้ให้”
ลาเต้นอนอยู่ข้างลำโพง ไม่ขยับ เขาไม่ได้มองฉัน เหมือนรู้ว่า ตอนนี้ฉันไม่ได้ต้องการสายตาใคร แค่ต้องการให้เสียงในหัวมันเงียบลงเอง
ฉันปิดหน้าจอ ไม่จำเป็นต้องอ่านทวน ก็จำประโยคที่สำคัญได้อยู่แล้ว
ถ้ายังอยากทำหลังอ่านจบ ฉันจะไม่ห้าม
มันไม่ใช่การอนุญาต แต่ก็ไม่ใช่คำว่า “ห้าม” ในกรุงเทพฯ แค่นี้ก็มีความหมายมากกว่าที่ฉันอยากยอมรับ
ฉันดึงสมุดโน้ตเข้ามาใกล้ ๆ เล่มเดิม ที่เต็มไปด้วยความฝันที่ยังไม่ได้จ่ายเงิน พลิกผ่านรายชื่อ ผ่านแผนงาน ผ่านเดดไลน์ค่าเช่า จนเจอหน้าว่างใกล้ ๆ ด้านหลังสุด
เขียนสามคำ
PLAN B: no permission
ฉันปิดฝาปากกา แล้วนั่นแหละ ลาเต้ก็โดดขึ้นโต๊ะ ไม่ทับอะไรเลย แค่มานั่งพาดขอบสมุด เหมือนจะบอกว่า งั้นก็เริ่มคิดซะสิ
ฉันพยักหน้า ไม่ใช่ให้เขา ไม่ใช่ให้แผน แต่ให้กับความจริงว่า ครั้งนี้
ฉันถามคำถามไป…แล้วไม่เสียใจเลยที่ถาม
Sponsored Ads