อพาร์ตเมนต์ของเต๋าให้ความรู้สึกเหมือนหม้อแรงดันที่เต็มไปด้วยพลังงานด้านลบ เป็นสถานที่ที่ทำให้คุณขนลุกและความคิดดังชัดในหัว การนับถอยหลังบนโทรศัพท์ต้องคำสาปเหลือเพียง 24 ชั่วโมงแล้ว และเสียงสั่นยิ่งแย่ลงกว่าเดิม มันเหมือนฝูงยุงโมโหที่ติดอยู่ในหน้าจอ อะไรก็ตามที่อยู่ในนี้ มันไม่มีทางปล่อยให้เราผ่านคืนนี้ไปได้อย่างสงบ
Sponsored Ads
ผมนั่งขัดสมาธิอยู่บนพื้น มีแล็ปท็อปวางอยู่ตรงหน้าและโทรศัพท์ต้องคำสาปเสียบเชื่อมกับมัน เต๋ายืนอยู่ใกล้ๆ กัดเล็บราวกับมันเป็นอาหารมื้อสุดท้าย
“แล้วที่ร้านเป็นยังไงบ้าง?” เต๋าถามเสียงสั่น
ผมเงยหน้าจากหน้าจอแล็ปท็อป “ไม่มีอะไรมาก แค่หน้าร้านที่ถูกปิดตายกับผ้ายันต์ป้องกันที่แขวนอยู่เหนือประตู คนที่เคยดูแลร้านนี้รู้ดีว่าพวกเขากำลังยุ่งกับอะไร แต่ไม่อยากอยู่รับมือกับมันนานนัก”
เต๋าทรุดตัวพิงกำแพง “แปลว่า…เราหมดหวังแล้วเหรอ?”
“ยังไม่หมด” ผมตอบ “แต่เรามีเวลาจำกัด”
ผมกลับไปขุดค้นไฟล์ในโทรศัพท์ ลอกชั้นของการเข้ารหัสออกทีละชั้นเหมือนลอกหัวหอมเน่า ใครก็ตามที่ผูกวิญญาณไว้กับโทรศัพท์เครื่องนี้จงใจทำให้มันซับซ้อนพอๆ กับความโกรธของเขาสัญลักษณ์คำสาป แต่ละอันถูกฝังไว้ลึก ต้องคลี่มันออกอย่างระวังไม่ให้ไปกระตุ้นอะไรที่แย่กว่านั้น นี่ไม่ใช่แค่การซ่อมโทรศัพท์ธรรมดา แต่เป็นการ ปลดชนวนระเบิดเหนือธรรมชาติ
Sponsored Ads
———————
**เจาะรหัสคำสาป**
หลังจากผ่านไปประมาณชั่วโมงหนึ่ง พร้อมคำสบถใส่ทั้งโทรศัพท์และแล็ปท็อป ผมก็เจอสัญลักษณ์ ที่ซ่อนลึกอยู่ในระบบ มันเป็นคำสั่งซับซ้อนที่ผูกโยงไม่ใช่แค่กับวิญญาณ แต่กับตัวเต๋าเองด้วย คนที่ทำคำสาปนี้ได้เชื่อมมันกับชื่อ เสียง และแม้กระทั่งการมีอยู่ของเต๋า นั่นอธิบายได้ว่าทำไมคำสาปถึงตามเขาอย่างไม่ลดละ
“นี่ไม่ใช่แค่คำสาปทั่วไป” ผมพูด ขณะเพ่งมองหน้าจอ “มันเป็นเรื่องส่วนตัว”
เต๋าครางเบาๆ “ต้องเป็นพิมแน่ๆ ใช่ไหม? ผมรู้แล้ว!”
ผมยังไม่ตอบในทันที แต่ผมเลื่อนนิ้วไปบนแป้นพิมพ์เจาะทะลุชั้นสุดท้ายของการเข้ารหัสได้สำเร็จ และแน่นอน มีข้อความฝังอยู่จากคนที่เป็นต้นเหตุของฝันร้ายนี้
“เต๋าสมควรโดน เขาทำให้ฉันรู้สึกไร้ตัวตน ลองมาดูกันว่าเขาจะชอบไหม ถ้าต้องโดนหลอกบ้าง”
—พิม
เต๋ายกมือปิดหน้า “โอ้พระเจ้า เธอเป็นบ้าไปแล้ว ผมไม่อยากเชื่อเลยว่าเธอจะทำแบบนี้ได้”
“พูดตามตรง” ผมตอบขณะปิดข้อความ “คุณยังโชคดีที่เธอไม่สาปรองเท้าผ้าใบของคุณด้วยนะ”
“เดี๋ยวนะ… มันทำได้ด้วยเหรอ?” เต๋าถามตาโต
“ผมเจออะไรที่แย่กว่านี้มาแล้ว” ผมตอบ พลางถอดสายเชื่อมต่อโทรศัพท์ออก จากนั้นหยิบพระสมเด็จขึ้นมา ถือมันไว้เหนือหน้าจอเพื่อเช็คดูว่ามีพลังงานวิญญาณเหลืออยู่ไหม หน้าจอกระพริบหนึ่งครั้ง เผยให้เห็นเงาใบหน้ายิ้มเยาะของวิญญาณ ก่อนที่หน้าจอจะมืดลงอีกครั้ง
“เออ ยังมีผีอยู่อย่างแน่นอน”
Sponsored Ads
———————
**วิญญาณสวนกลับ**
ก่อนที่ผมจะวางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะ หน้าจอบิดเบี้ยวอย่างรุนแรง จากนั้นเงามืดก็พวยพุ่งออกมาจากโทรศัพท์ เงาดำพันกันเป็นเส้นยืดยาวพุ่งขึ้นสู่ฟ้า เต๋าถอยหลัง หายใจสะดุดเพราะความหวาดกลัว อุณหภูมิในห้องลดลงสิบองศาในชั่วพริบตา เงาทุกเงายืดยาวผิดธรรมชาติ ราวกับความมืดกำลังจะยึดพื้นที่ทั้งหมดคืน
“อยู่ข้างหลังผม!” ผมตะโกน พลางควักควายธนูออกจากกระเป๋า
ทันทีที่ควายธนูสัมผัสฝ่ามือของผม มันเปล่งแสงสีทองสว่างจ้า พลังโบราณสั่นสะเทือนราวกับจังหวะการเต้นของหัวใจ บางสิ่งที่เก่าแก่และทรงพลังยิ่งกว่าวิญญาณที่เรากำลังเผชิญหน้า ผมสวดภาวนา “นะโมพุทธายะ พระพุทธะ ไตรรัตนะญาณ มณีนพรัตน์ สีสะหัสสะ…”
วิญญาณนั้นกรีดร้องและมันถอยร่นกลับไป แต่สายเกินไปแล้ว ควายธนูตอบสนอง มันไม่ใช่แค่เครื่องรางป้องกัน แต่มันเป็นเหมือนวิญญาณควายโบราณที่ถูกเรียกออกมาเพื่อต่อสู้ ร่างควายธนูขนาดมหึมาเปล่งแสงเป็นประกายทอง พวยพุ่งออกมา ไอร้อนพ่นออกจากจมูกของมัน พร้อมกับตะกุยเท้ากับพื้น เตรียมจะพุ่งเข้าใส่
ดวงตาที่สว่างเรืองแสงของควายธนูจ้องเขม็งไปยังเงามืด มันเต็มไปด้วยโทสะของผู้พิทักษ์ศักดิ์สิทธิ์
“ใช่แล้ว” ผมพึมพำ กำควายธนูในมือแน่น “แกเลือกโทรศัพท์ผิดเครื่องที่จะสิงแล้วล่ะ”
Sponsored Ads
———————
**การปะทะกันครั้งยิ่งใหญ่**
วิญญาณพุ่งเข้าใส่พวกเรา เงาดำพันกันเหมือนแส้ แต่ควายธนูโน้มเขาลงต่ำ ปล่อยเสียงคำรามกึกก้องที่ทำให้ผนังสั่นสะเทือน มันพุ่งชนเข้าใส่เงามืดที่หมุนวน กระจายเงาดำรอบตัวเหมือนควันท่ามกลางพายุ
วิญญาณตอบโต้กลับอย่างดุร้าย พันเงาดำรอบตัวควายธนู พยายามรัดมันไว้แน่น แต่ควายธนูดีดตัวขึ้น เหวี่ยงแส้เงาทิ้งด้วยพลังอันบริสุทธิ์ ประกายสีทองกระเด็นไปทั่วห้องทุกครั้งที่ทั้งสองฝ่ายปะทะกัน
เต๋าหอบหายใจอย่างหนักจับหน้าอกของตัวเองไว้ในขณะที่เงาของเขาสั่นไหว และถูกดึงระหว่างการโจมตีของวิญญาณกับพลังปกป้องของควายธนู วิญญาณไม่ได้ต้องการฆ่าเต๋าโดยตรง มันพยายามดูดเงาของเขา เพื่อกลืนกินวิญญาณจากภายใน
ควายธนูส่งเสียงฟึดฟัดดังสนั่น พร้อมกับกระทืบเท้าลงบนพื้น ส่งคลื่นพลังทองกระจายไปทั่วห้อง บังคับให้วิญญาณถอยร่นไปทีละนิด แต่วิญญาณนั้นก็ยังดื้อรั้นมันหมุนวนเหมือนพายุเงา พยายามหาโอกาสโจมตีและพยายามหลบเลี่ยงผ่านควายธนูเข้าหาเต๋า
Sponsored Ads
———————
**จุดพลิกผัน**
ควายธนูยึดพื้นด้วยกีบเท้าและแผ่พลังออกมา แต่ผมรู้ว่านี่ไม่ใช่การต่อสู้ที่จะคงอยู่ได้นาน ควายธนูนี้ทรงพลัง แต่ก็ไม่ใช่การแก้ไขถาวร มันอาจซื้อเวลาให้ผมได้ ไม่มีอะไรมากไปกว่านี้
“เร็วสิๆ” ผมพึมพำ พร้อมกับควานหาผ้ายันต์ที่อยู่ในกระเป๋า ถ้าผมสามารถดักส่วนหนึ่งของวิญญาณกลับเข้าไปในโทรศัพท์ได้ มันอาจจะอ่อนแอลงพอที่เราจะมีโอกาสเอาชนะ
ควายธนูส่งเสียงคำรามดังลั่นอีกครั้ง และพุ่งชนเงาดำด้วยเขาที่แข็งแกร่ง วิญญาณนั้นกรีดร้องขณะที่เงาพันกันหมุนอย่างบ้าคลั่ง แส้เงาอันหนึ่งตวัดผ่านเงาของเต๋า ทำให้เขาทรุดลงกับพื้น ส่งเสียงร้องหายใจไม่ออก ก่อนที่ร่างของเขาจะล้มกระแทกกับพื้นอย่างแรง
“ไม่ดีเลย” ผมพึมพำหัวใจของผมเต้นแรงอยู่ในอก
ผมโยนผ้ายันต์คลุมลงบนโทรศัพท์ พร้อมกับพึมพำบทสวด “พุทโธ พัทธัง นะกันตัง อะระหัง พุทโธ ธัมโม ธัมมัง นะกันตัง อะระหัง…” อย่างรวดเร็ว ผมส่งพลังที่เหลืออยู่เพียงเล็กน้อยผ่านผ้ายันต์ไป ควายธนูดูเหมือนจะรับรู้ถึงเจตนาของผม มันส่งเสียงคำรามครั้งสุดท้ายก่อน กระทืบกีบเท้าลงบนพื้น และส่งคลื่นพลังไปทั่วห้อง
วิญญาณนั้นกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด มันบิดตัวไปมาอย่างทุรนทุรายขณะที่ส่วนหนึ่งของมันถูก ดูดกลับเข้าไปในโทรศัพท์ ผูกติดชั่วคราวด้วยผ้ายันต์
Sponsored Ads
———————
**หลังเหตุการณ์**
เต๋านอนหมดสภาพอยู่บนพื้น ใบหน้าซีดเซียว หายใจหอบหนัก เงาของเขากระพริบราวกับเปลวเทียนที่สั่นไหวในสายลม วิญญาณควายธนูส่องแสงครั้งสุดท้ายราวกับกำลังโค้งคำนับในชัยชนะ ก่อนจะเลือนหายกลับเข้าไปในควายธนู ความเงียบเข้าปกคลุมห้อง เหลือเพียงเสียงหายใจหอบของเต๋าและเสียงฮัมเบาๆ ของโทรศัพท์ต้องคำสาป ที่ยังคงนับเวลาถอยหลังเหลือ 23 ชั่วโมง 29 นาที 45 วินาที
ผมคุกเข่าลงข้างเต๋า ตบแก้มเขาเบาๆ “เฮ้ ยังไหวไหม?”
เต๋าครางออกมาเบาๆ ก่อนที่เปลือกตาจะกระพริบเปิด “นั่น… นั่นมันบ้าอะไรเนี่ย?”
“ควายธนู” ผมตอบ พลางเก็บควายธนูใส่กระเป๋า “ข่าวดี? คุณยังไม่ตาย ข่าวร้ายเหรอ? เราเหลือเวลาน้อยกว่า 24 ชั่วโมง ก่อนที่วิญญาณนั้นจะกลับมา และครั้งหน้า มันจะไม่มาเล่นๆ แล้ว”
เต๋าพยายามลุกขึ้นนั่ง กุมอกอย่างเจ็บปวด “แล้ว… แล้วจะยังไงต่อ”
“ตอนนี้เหรอ?” ผมเหลือบมองโทรศัพท์ต้องคำสาปที่ยังคงสั่นเบาๆ ใต้ผ้ายันต์ “ตอนนี้ เราต้องไปหาพิมและทำให้เธอยกเลิกคำสาปนี้ ไม่อย่างนั้น ครั้งต่อไปที่เงาของคุณหายไป มันจะพาคุณทั้งคนไปด้วย”
เต๋าครางอีกครั้ง พึมพำบางอย่างเกี่ยวกับการที่เขาไม่อยากมีแฟนอีกเลย
“คิดในแง่ดีสิ” ผมพูด พลางสะพายกระเป๋าขึ้นบ่า “อย่างน้อยคุณก็จะมีเรื่องเล่าเด็ดๆ ให้คนอื่นฟัง ถ้าคุณรอดไปเล่าได้ล่ะนะ”
Sponsored Ads
———————
**น่าตื่นเต้น**
โทรศัพท์ต้องคำสาปส่งเสียงสั่นเป็นครั้งสุดท้ายจากใต้ผ้ายันต์ และผมรู้สึกได้ว่าวิญญาณยังคงซุ่มรออยู่ มันเตรียมจะโจมตีอีกครั้ง ทุกวินาทีที่ผ่านไป 22 ชั่วโมง 59 นาที และเวลายังคงนับถอยหลัง
เราต้องหาพิมให้เจอโดยเร็ว ไม่อย่างนั้น การเผชิญหน้าครั้งหน้าของเต๋าอาจเป็นครั้งสุดท้าย
“ไปกันเถอะ” ผมพูด พลางดึงเต๋าลุกขึ้นยืน
เต๋าทรงตัวโซเซเล็กน้อย แต่เดินตามผมไปที่ประตูโดยไม่ปริปาก ด้านนอกอากาศยามค่ำคืนอึดอัดและเต็มไปด้วยลางร้าย และผมรู้สึกได้ว่าเรื่องราวกำลังจะเลวร้ายลงก่อนจะดีขึ้น
แต่มันก็เป็นแบบนี้เสมอ เมื่อคุณต้องสู้กับวิญญาณ แม้แต่เทพเจ้าก็ยังเหนื่อยล้า
และตอนนี้ เวลาเรากำลังจะหมดลง