คืนถัดมา ผมกลับไปที่อพาร์ตเมนต์พร้อมกับอุปกรณ์ในมือข้างหนึ่งและสายสิญจน์ ในอีกข้างหนึ่ง คุณกรรณิกา เจ้าของอพาร์ตเมนต์ ยืนรอผมอยู่ที่ล็อบบี้ด้วยท่าทีที่ดูร้อนรน มือของเธอกำโทรศัพท์ไว้แน่นตลอดเวลา เธอยืนกรานที่จะตามขึ้นไปด้วย แม้ว่าก้าวที่ระมัดระวังของเธอจะแสดงให้เห็นว่าเธออาจเริ่มเสียใจกับการตัดสินใจนี้แล้ว
Sponsored Ads
“ไม่ใช้เวลานานหรอกครับ” ผมพูดอย่างมั่นใจเมื่อเราขึ้นมาถึงชั้นสาม “แค่คุณรักษาระยะห่างไว้ก็พอ”
“ตามที่คุณว่าเถอะค่ะ” เธอตอบเสียงเบา พลางยืนอยู่ใกล้บันไดเหมือนพ่อแม่ที่กำลังลุ้นลูกในงานแสดงที่โรงเรียน
ผมพันสายสิญจน์รอบกรอบประตูของห้องที่มีปัญหา พร้อมกับท่องบทสวดที่ย่าน้อยเคยสอน สายสิญจน์สีขาวเปล่งแสงจาง ๆ ขณะที่มันเข้าที่ ราวกับสร้างเขตกั้นพลังงานที่มองไม่เห็นเพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งใดที่ยังคงหลงเหลืออยู่หลุดออกมา อากาศรอบตัวดูเหมือนจะหนักขึ้น พร้อมกับกลิ่นโลหะบาง ๆ ที่ปะปนอยู่ในอากาศ
ผมก้าวถอยหลังพร้อมถอนหายใจช้า ๆ ก่อนจะวางกระจกวิญญาณ ไว้ข้างกำแพง “เอาล่ะ” ผมพึมพำ พลางมองไปที่ล็อคดิจิทัล “แสดงอะไรออกมาให้ดูหน่อยสิ”
Sponsored Ads
———————
วงจรที่เผยออกมา
เมื่อถึงเวลา 23:47:00 พอดี ล็อคส่งเสียงบี๊บสองครั้งก่อนจะคลายตัวออกด้วยเสียงคลิกเบา ๆ หน้าจอเรืองแสงขึ้น พร้อมกับแสดงตัวเลขลำดับหนึ่งซ้ำไปซ้ำมา
ผมโน้มตัวเข้าไปใกล้เมื่อเห็นลำดับนั้น 110647
ผมรู้ทันที ตัวเลขนี้คือตัวรหัสผ่านเก่าของผู้เช่าที่ล่วงลับไปแล้ว มันยังคงอยู่ในระบบความจำของล็อค ล็อคกำลังเล่นซ้ำช่วงเวลาสุดท้ายของเธอ ราวกับพยายามให้เธอกลับเข้ามาอีกครั้ง
ผมวางน้ำมนต์ไว้ข้างๆ ล็อค ผิวน้ำในขวดสั่นเล็กน้อยเมื่อพลังงานรอบประตูเริ่มทวีความเข้มข้น หน้าจอกระพริบอีกครั้ง ก่อนที่รหัสจะหายไปและปรากฏเพียงเคอร์เซอร์ที่เต้นเป็นจังหวะเงียบ ๆ
“เธอยังคงพยายามกลับบ้าน” ผมพึมพำกับตัวเอง
เสียงของคุณกรรณิกาดังขึ้นจากด้านหลัง เธอถามด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ “พยายามกลับ? แล้วทำไมล่ะคะ… ทำไมเธอไม่ไปต่อ?”
“บางทีเธออาจติดอยู่ หรือบางที” ผมตอบขณะที่มองตาเธอที่เบิกกว้าง “เธออาจไม่รู้ว่าควรจะไปยังไง”
Sponsored Ads
———————
อารมณ์ขันที่ช่วยคลายความตึงเครียด
คุณกรรณิกาชะโงกหน้าออกไปในโถงทางเดินด้วยท่าทีหวาดกลัว ใบหน้าของเธอซีดเซียว “คุณแน่ใจนะคะว่าจะจัดการได้?”
“ผมคิดเงินคุณสำหรับงานนี้อยู่ใช่ไหม?” ผมตอบ พลางเลิกคิ้วพร้อมกับแกะมีดหมอออกมา “ถ้าผมพลาด อย่างน้อยก็ตายแบบมีรายได้”
เธอไม่ได้หัวเราะออกมา แต่ผมเห็นมุมปากของเธอกระตุกเล็กน้อย ก่อนที่เธอจะถอยกลับไปยืนใกล้บันไดอีกครั้ง
Sponsored Ads
———————
เงาในกระจกวิญญาณ
ผมหยิบกระจกวิญญาณขึ้นมา พลางเอียงมันไปทางประตู พื้นผิวของกระจกเริ่มมัวลงทันที ก่อนที่ภาพร่างลาง ๆ ของใครบางคนจะปรากฏขึ้นตรงกลาง
เป็นผู้หญิงไหล่ของเธอห่อลู่ราวกับกำลังแบกรับน้ำหนักที่มองไม่เห็นอยู่ เธอยืนอยู่หลังประตู ใบหน้าของเธอไม่ชัดเจน เหมือนภาพถ่ายที่ยังล้างไม่เสร็จ แต่การมีอยู่ของเธอไม่อาจปฏิเสธได้
ขณะที่ผมเตรียมจะลบข้อมูลรหัสผ่านที่เก็บไว้ในล็อค กระจกเริ่มเปล่งแสงแรงขึ้น และภาพสะท้อนก็เปลี่ยนไป
ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้อยู่หลังประตูอีกแล้ว เธออยู่ด้านหลังผม
หัวใจผมเต้นแรงจนได้ยินในหู กลิ่นดอกมะลิจางๆ ลอยมาในอากาศ—กลิ่นที่ผมไม่ทันได้สังเกตมาก่อน ผมหันไปช้า ๆ แต่โถงทางเดินด้านหลังว่างเปล่า
แสงของกระจกค่อย ๆ หรี่ลง และผมก็ถอนหายใจออกมาแรง ๆ “เรื่องนี้คงต้องเล่นถึงตัวแล้วล่ะ” ผมพูด พลางกำสายสิญจน์แน่นขึ้น
เสียงกระซิบของคุณกรรณิกาดังขึ้นทำลายความเงียบ “เกิดอะไรขึ้นหรือคะ?”
“ไม่มีอะไรครับ” ผมโกหก รู้สึกถึงน้ำหนักของสถานการณ์ที่ถาโถมลงมา “เหลืออีกนิดหน่อยที่จะต้องจัดการ”
หน้าจอของล็อคกระพริบอีกครั้ง และผมก็รู้ได้ทันทีว่าวงจรนี้จะไม่มีวันจบลงจนกว่าจะได้บอกลาอย่างสมบูรณ์
Sponsored Ads