โรงงานทอผ้าที่ถูกทิ้งร้างตั้งตระหง่านเหมือนผู้เฝ้ายุคสมัยที่ถูกลืม หน้าต่างที่แตกกระจายดูคล้ายฟันที่แหลมคม ผนังที่เต็มไปด้วยรอยสนิมบอกเล่าเรื่องราวของวันวานที่ดีกว่า เมื่อผมเข้าใกล้ตัวอาคาร บรรยากาศที่อึดอัดปกคลุมรอบตัว ทำให้ทุกก้าวของผมหนักขึ้นเรื่อย ๆ เสียงพลังงานวิญญาณเบา ๆ ลอยอยู่ในอากาศ มันเป็นชนิดที่ทำให้ขนที่ต้นคอลุกชัน
Sponsored Ads
ภายใต้แสงสลัวของยามเช้า กราฟฟิตีสีสันสดใสและข้อความหยาบคายกระจายอยู่ทั่วกำแพง ดูเหมือนจะเรียกร้องความสนใจ แต่เมื่อผมขยับเข้าใกล้มากขึ้น ผมสังเกตว่ามีบางลายที่ไม่เหมือนกับศิลปะข้างถนนทั่วไป มันเป็นสัญลักษณ์ที่มีเหลี่ยมมุมและถูกแกะสลักอย่างตั้งใจลงบนก้อนหิน
สัญญาณจากลำโพงได้นำผมมาที่นี่ และตอนนี้มันส่งพลังงานอ่อน ๆ ออกมาจากกล่องบรรจุของผม เหมือนมันกระตือรือร้นที่จะเข้าร่วมกับบางสิ่งที่ซ่อนอยู่ข้างใน ซึ่งตรงข้ามกับผมโดยสิ้นเชิง
———————
ผู้บัญชาการหลิน
“คุณชอบเดินเข้าตึกต้องคำสาปคนเดียวแบบนี้เป็นประจำหรือไง?”
ผมหันกลับมา พบกับผู้บัญชาการหลินยืนอยู่ห่างออกไปไม่กี่ก้าว เธอยืนกอดอกด้วยสีหน้านิ่งเฉยแววตาคมกริบที่ดูเหมือนสามารถตัดเหล็กได้ เบื้องหลังเธอคือทีมปฏิบัติการหน่วยม่าน ที่กำลังจัดเตรียมอุปกรณ์พลังงานของพวกเขาอย่างพิถีพิถัน
“สวัสดีปีใหม่ ผู้บัญชาการ” ผมพูดด้วยท่าทางสบาย ๆ พยายามทำตัวไม่ตื่นเต้น “ผมไม่คิดว่านี่จะใหญ่พอที่จะทำให้คุณต้องลงมาด้วยตัวเองนะ ผู้บัญชาการ”
หลินเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย แสดงความไม่ประทับใจ “ประชาชนคนธรรมดาที่เดินเข้ามาในพื้นที่เหนือธรรมชาติที่กำลังเกิดเหตุการณ์ พร้อมกับวัตถุต้องคำสาป นี่ไม่ใหญ่พอเหรอ?”
“คุณจะกลับไปก็ได้นะ” ผมพูดสวนกลับ พร้อมปรับสายกล่องบรรจุของผมให้เข้าที่
เธอยิ้มมุมปากด้วยแววตาเจ้าเล่ห์ “ฝันไปเถอะ”
Sponsored Ads
———————
อาคารที่ตื่นขึ้น
ภายในโรงงานเป็นเหมือนเปลือกที่กลวงเปล่าของอดีต ฝุ่นปกคลุมพื้นเหมือนชั้นขี้เถ้าที่ไม่ถูกรบกวน ยกเว้นเพียงรอยเท้าของเรา หน้าต่างที่แตกกระจายให้แสงซีดส่องเข้ามาเป็นเส้น ๆ สร้างเงาประหลาดที่แตกร้าวไปตามกำแพงที่แตกร้าว อากาศหนักอึ้งด้วยกลิ่นสนิมและเชื้อรา เป็นหลักฐานถึงการถูกทิ้งร้างมายาวนาน
หลินส่องไฟฉายไปทั่วพื้นที่ว่างเปล่า “ทำไมถึงต้องเป็นที่นี่?” เธอถาม เสียงเธอแผ่วเบาแต่แฝงความอยากรู้อยากเห็น
“สัญลักษณ์บนลำโพงตรงกับที่อยู่ข้างนอก” ผมตอบ เดินไปยังเสาค้ำยันที่กำลังพังทลาย ซึ่งมีร่องรอยจาง ๆ ของสัญลักษณ์สลักอยู่บนคอนกรีต เส้นลวดลายซับซ้อนนั้นเรืองแสงแผ่วเบาภายใต้ลำแสงไฟฉายของผม “มันกำลังขยายพลังงานจากที่นี่ แม้ว่าที่นี่จะว่างเปล่าก็ตาม”
ราวกับตอบสนองต่อคำพูดของผม ตัวอาคารดูเหมือนจะหายใจ เสียงเอี๊ยดอ๊าดเบา ๆ ดังสะท้อนผ่านคาน เสียงลมที่พัดผ่านหน้าต่างที่แตกเปลี่ยนไปเป็นเหมือนทำนองกระซิบ
ทีมของหลินหยุดนิ่ง เครื่องมือของพวกเขากะพริบอย่างผิดปกติ
“อะไรทำให้เกิดเรื่องแบบนี้?” สมชาย หนึ่งในเจ้าหน้าที่หนุ่มของเธอถามพลางปรับปุ่มบนเครื่องสแกนพลังงานในมือ
ก่อนที่ผมจะตอบ เสียงฝีเท้าเบา ๆ ดังมาจากอีกฝั่งของห้อง หลินหันไฟฉายไปทางนั้นทันที เผยให้เห็นเพียงความว่างเปล่า
Sponsored Ads
“บอกทีว่าคุณได้ยินเหมือนกัน” สมชายกระซิบ จับเครื่องสแกนในมือแน่น
“ได้ยิน” ผมพึมพำ เดินอย่างระมัดระวังไปทางต้นเสียง
เงาในห้องเริ่มเคลื่อนไหวอย่างผิดธรรมชาติ รวมตัวอยู่ตามมุมและกำแพง สักพักพวกมันดูเหมือนจะก่อตัวเป็นรูปร่างคล้าย ๆ มนุษย์ก่อนจะสลายไปอีกครั้ง เสียงหัวเราะแหลมเล็กดังมาในอากาศ บิดเบี้ยวและผิดธรรมชาติ
“ไม่มีเครื่องจักร” หลินพูด เสียงเธอสงบนิ่งแต่เด็ดขาด “แต่บางสิ่งกำลังทำงานอยู่ที่นี่แน่”
“มันคือสัญลักษณ์” ผมชี้ไปยังเครื่องหมายจาง ๆ อีกจุดหนึ่งบนกำแพงใกล้ ๆ “มันไม่ได้แค่ขยายพลังงาน แต่มันกำลังถ่ายพลังงาน บางสิ่งที่เคยอยู่ที่นี่ก่อนหน้านี้ กำลังสะท้อนออกมาในปัจจุบัน”
เสียงหัวเราะนั้นดังขึ้น เปลี่ยนเป็นสิ่งที่อยู่ระหว่างเสียงครวญครางและเสียงร้องโหยหวน สัญลักษณ์เริ่มเรืองแสงสว่างขึ้น จังหวะการเต้นสอดคล้องกับเสียงนั้น พื้นใต้เท้าสั่นสะเทือนเล็กน้อย คอนกรีตเต้นเป็นจังหวะเหมือนหัวใจที่เต้น
“เตรียมกางเขตกักกัน” หลินสั่ง น้ำเสียงของเธอมั่นคง เจ้าหน้าที่ของเธอเริ่มเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว วางอุปกรณ์ปิดผนึกในจุดสำคัญปล่อยเส้นแสงพลังงานบางเบาพวยพุ่งออกมาในอากาศส่องแสงระยิบระยับ พลังงานในห้องดูเหมือนจะหดตัวลงไปชั่วขณะ
เงาบนกำแพงรวมตัวกันอีกครั้ง คราวนี้มีรูปร่างชัดเจนขึ้น—เหมือนคนงานที่ก้มหน้าก้มตาอยู่กับเครื่องจักรล่องหน ใบหน้าของพวกเขาพร่ามัว แต่การเคลื่อนไหวดูเร่งรีบ เสียงพึมพำต่ำๆ ของเสียงพูดไร้ตัวตนดังขึ้น ปะปนกันเป็นเสียงประสานที่สับสน
“ทำไมผมรู้สึกว่าพวกเขากำลังรออะไรบางอย่าง?” ผมพึมพำ
หลินก้าวมายืนข้างผม ขากรรไกรของเธอขบแน่นขณะกวาดสายตามองห้อง “เพราะพวกเขารออยู่”
ทันใดนั้น สัญลักษณ์ส่องแสงวาบขึ้น เงาทั้งหมดหันมาทางเราในเวลาเดียวกัน ใบหน้าที่ว่างเปล่าดูเหมือนจ้องเขม็ง อากาศรอบตัวหนักอึ้งไปด้วยแรงกดดันที่เกือบสัมผัสได้
“อะไรก็ตามที่อยู่ที่นี่” หลินพูด เสียงเธอแผ่วเบาแต่เฉียบคม “มันรู้ว่าเรากำลังเฝ้าดูมัน”
พื้นสั่นสะเทือนอีกครั้ง และพื้นที่ใต้สัญลักษณ์ที่ใหญ่ที่สุดเริ่มแตกร้าว แสงสีแดงสว่างแผ่ว ๆ รั่วออกมาจากรอยแยก บางสิ่งกำลังตื่นขึ้น—และมันไม่ได้พอใจเลยแม้แต่น้อย
Sponsored Ads
———————
สัญลักษณ์ขนาดมหึมา
หัวใจของความผิดปกติอยู่ที่ห้องกลาง เมื่อพวกเราเดินผ่านประตูเข้าไป พลังงานที่กดดันแทบทำให้ผมทรุดเข่าลงกับพื้น อากาศรู้สึกหนักอึ้ง และพื้นดินใต้เท้าดูเหมือนจะสั่นเบา ๆ ตามจังหวะทุกก้าวเดิน
ที่กลางห้อง สลักลึกลงไปในพื้นคือสัญลักษณ์ที่ใหญ่ที่สุดที่ผมเคยเห็น มันแผ่พลังงานเป็นจังหวะเบา ๆ และแต่ละจังหวะนั้นสอดคล้องกับเสียงสวดจากลำโพงอย่างสมบูรณ์แบบ
“ให้ฉันเดา” หลินพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด “นี่ก็ตรงกับลำโพงเหมือนกันใช่ไหม”
“มากกว่านั้น” ผมตอบ ขณะนั่งยอง ๆ เพื่อตรวจดูมัน “นี่ไม่ใช่แค่สัญลักษณ์ มันเป็นตัวนำพลังงาน”
“ตัวนำพลังงานสำหรับอะไร?”
ก่อนที่ผมจะตอบ สัญลักษณ์ก็สว่างวาบขึ้น สายลายมันเรืองแสงเป็นสีแดงน่ากลัว เสียงสวดเริ่มต้นอีกครั้ง คราวนี้สะท้อนออกมาจากกำแพงเอง เสียงเครื่องจักรดังขึ้นเหมือนมันกำลังประท้วง และเงาบนกำแพงรวมตัวกันเป็นรูปร่างคล้ายผี ร่างโปร่งที่มีดวงตาว่างเปล่าและมือโครงกระดูก
Sponsored Ads
“บางอย่างกำลังมา” ผมเตือน ขณะกำมีดหมอแน่นในมือ
หลินก้าวไปข้างหน้า ทีมของเธอก่อตัวเป็นวงล้อมป้องกันรอบห้อง “งั้นเรามาทำให้มันเสียใจที่มันโผล่มาเถอะ”
แสงของสัญลักษณ์เรืองแสงเข้มข้นขึ้น อากาศเต็มไปด้วยพลังงานและเสียงกระซิบเบาบางของสิ่งที่มองไม่เห็น เสียงสวดดังขึ้นเรื่อย ๆ ก้องไปทั่วห้องราวกับมันท้าทายให้เราลงมือทำอะไรบางอย่าง
หลินหันมามองผม ใบหน้าเธอยังคงนิ่งสงบแต่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น “แผนคืออะไร นาวิน?”
ผมกลืนน้ำลายลงคอ มองไปที่สัญลักษณ์ที่กำลังเต้นเป็นจังหวะและเงาที่กำลังสั่นไหว “ด้นสด”
ห้องทั้งห้องสั่นสะเทือน และแสงจากสัญลักษณ์ก็ลุกวาบจนกำแพงทั้งสี่ด้านถูกแต่งแต้มด้วยสีแดงเลือด สิ่งที่ถูกขังอยู่ที่นี่กำลังตื่นขึ้น และมันไม่ได้มาอย่างพอใจเลย
Sponsored Ads