NOVEL / The Signal Beyond the Veil · February 19, 2025 0

089-ประตูแห่งเสียงกระซิบ (เศษเสี้ยวสะท้อน)

เจ้าหน้าที่หน่วยม่านเคลื่อนตัวด้วยความแม่นยำราวกับเครื่องจักร เส้นพลังงานสีฟ้าบางเฉียบทอดผ่านพื้นห้อง สลักลวดลายวงกลมและสัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์ที่ออกแบบมาเพื่อสะกดบางสิ่งบางอย่างที่ซ่อนอยู่หลังประตูแห่งเสียงกระซิบ

Sponsored Ads

ผู้บัญชาการหลินเดินไปมาอย่างกระวนกระวาย สั่งการอย่างฉับไวและเฉียบขาด

“ตอกหมุดปิดผนึกทุกมุมให้เรียบร้อย! ห้ามให้วงแหวนพลังขาดแม้แต่นิดเดียว—ถ้ามีช่องว่างล่ะก็ ชั้นนี้ทั้งชั้นจะกลายเป็นโต๊ะบุฟเฟ่ต์สำหรับอะไรก็ตามที่ซ่อนอยู่ข้างหลังนั่น”

ผมนั่งยอง ๆ ใกล้กับประตูไม้ในตำนาน มือหนึ่งถือสมุดใบลานของย่าน้อย อีกมือกำมีดหมอไว้แน่น ใบลานโบราณส่องแสงเรืองรองเบาๆ ขณะที่ผมใช้นิ้วพลิกผ่านแผ่นใบที่เปราะบาง ดวงตาจับจ้องไปที่สัญลักษณ์ที่สลักบนบานประตูอย่างตั้งใจ

“สัญลักษณ์พวกนี้…” ผมพึมพำเบาๆ

เสียงรองเท้าบูทของหลินหยุดอยู่ห่างจากผมไม่กี่นิ้ว “มีอะไร นาวิน?”

ผมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนพูด “มันไม่ใช่แค่สัญลักษณ์อัญเชิญ แต่มันคือ… คำสั่ง เศษเสี้ยวของพิธีกรรมที่ออกแบบมาเพื่อเปิดประตูบานนี้ และเรียกบางสิ่ง—หรือบางคน—ให้ข้ามผ่านมา”

ดวงตาของหลินหรี่ลงอย่างระแวดระวัง “ใคร?”

“ครูบาสวรรค์”

ความตึงเครียดกดทับอากาศในห้องในทันที แม้แต่เจ้าหน้าที่หน่วยม่าน—ผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านเหตุการณ์เหลือเชื่อมานับครั้งไม่ถ้วน—ก็ยังเหลือบมองกันอย่างไม่สบายใจ

กรามของหลินขบกันแน่น “ครูบาสวรรค์หายตัวไปหลายปีแล้ว เขาเคยเป็นผู้นำของภาคีแห่งความสงบอันเป็นนิรันดร์แล้วจากนั้น… ก็ไม่มีใครพบเห็นเขาอีกเลย หายไปอย่างไร้ร่องรอย”

ผมชี้ไปยังชุดสัญลักษณ์ชุดหนึ่ง—เส้นสายที่บิดเกลียวและทับซ้อนกัน บางจุดไม่สมบูรณ์ แต่ยังคงเปล่งพลังงานอันตรายออกมาอย่างชัดเจน

“เขาไม่ได้หายไป” ผมเอ่ยช้าๆ “เขาถูก กลืนกิน ประตูบานนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อดึงเขากลับมา แต่บางอย่างผิดพลาด บางทีพิธีกรรมอาจจะถูกขัดจังหวะ หรือบางที… สิ่งที่อยู่ข้างหลังประตูนี้อาจ ไม่ยอมปล่อยเขาออกมา

สายตาของหลินจดจ้องไปที่ประตู สัญลักษณ์เรืองแสงสะท้อนแสงซีดจางลงบนใบหน้าคมคายของเธอ

“แล้วถ้าเราเปิดมันล่ะ?” เธอถาม เสียงของเธอแผ่วเบา แต่มั่นคง

ผมเงยหน้าขึ้นมองเธอ น้ำเสียงแผ่วเบาแต่หนักแน่น “เรา ไม่อยากรู้คำตอบ นั้นหรอก”

Sponsored Ads

———————

สื่อกลางแห่งความมืด

สมุดใบลานส่องแสงเรืองรองจางๆ ในมือของผม อักษรโบราณที่เขียนด้วยลายมือค่อยๆ เปลี่ยนรูปไปมาราวกับหมึกที่ซึมผ่านกระดาษเก่า แสงจาง ๆ จากสัญลักษณ์บนประตูไม้ส่องสว่างออกมาเป็นระยะ เงาที่ทอดผ่านใบหน้าของผมดูบิดเบี้ยวในแสงสลัวนั้น

“นี่มันไม่ใช่แค่ประตูธรรมดา” ผมพูด น้ำเสียงตึงเครียด “มันคือ สื่อกลาง—สะพานเชื่อมระหว่างที่นี่กับ… ที่นั่น”

ผู้บัญชาการหลินยืนอยู่ข้างๆ ดวงตาคมกริบของเธอจดจ้องไปยังสัญลักษณ์เรืองแสงบนประตู ชุดยุทธวิธีสีดำสะท้อนแสงจากสัญลักษณ์เรืองแสงที่ปักลงบนเนื้อผ้าอย่างประณีต

“อธิบายคำว่า ‘ที่นั่น’ มาหน่อย” เธอถาม น้ำเสียงนิ่งแต่แฝงไปด้วยความตึงเครียด

“ห้วงลึก หรือจะเรียกมันว่า ความว่างเปล่า ก็ได้ มันคือช่องว่างระหว่างทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่มีแสง ไม่มีอากาศ มีเพียง… ความว่างเปล่า” ผมหยุดพูดชั่วครู่ ลมหายใจของผมกลายเป็นไอขาวในอากาศเย็นเฉียบ “และมันกำลังหิวโหย”

อุณหภูมิในห้องลดลงอีกครั้งจนรู้สึกได้ ฟันผมกระทบกันเบาๆ แต่ผมยังคงพูดต่อ

“และมันกำลัง… ฟังอยู่” ผมกลืนน้ำลายลงคอ “มันต้องการบางสิ่ง—หรือบางคน—ที่จะก้าวผ่านไป”

เสียงกระซิบดังขึ้นอีกครั้ง คมชัดและเยือกเย็นราวกับแก้วที่ถูกขูดขีดเข้าหากัน

[ห้วงลึกกลืนกิน… อาจารย์สวรรค์… กำลังจะกลับมา…]

คำพูดเหล่านั้นห่อหุ้มพวกเราเอาไว้ราวกับโซ่มองไม่เห็น บีบรัดขอบเขตของสติสัมปชัญญะให้แคบลงทุกขณะ

Sponsored Ads

มือของหลินเลื่อนไปใกล้กับปืนพลาสม่าที่คาดไว้ที่เอว อาวุธสีดำทรงเพรียวบางนี้ถูกสลักด้วยสัญลักษณ์เรืองแสงสีฟ้าตามลำกล้อง มันส่งเสียงหึ่งแผ่วเบา บ่งบอกว่าพร้อมใช้งานแล้ว

“อะไรก็ตามที่อยู่หลังประตูบานนี้ มันยังมีสติรับรู้” หลินพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นแต่แฝงไปด้วยความเด็ดเดี่ยว “เราจะปล่อยให้พิธีกรรมนี้เสร็จสิ้นไม่ได้”

ผมเอื้อมมือไปแตะสัญลักษณ์เรืองแสงบนประตู รู้สึกได้ถึงจังหวะการเต้นของพลังงานที่ไม่สม่ำเสมอใต้พื้นผิวไม้

“มันยังไม่สมบูรณ์” ผมพูดอีกครั้ง “แต่มันกำลัง… ตื่นขึ้น เหมือนบาดแผลที่เริ่มมีเลือดไหลซึมอีกครั้ง”

สายตาของหลินหันไปทางเจ้าหน้าที่ของเธออย่างรวดเร็ว

“เตรียมตาข่ายกักกันเดลต้า! เสริมจุดเชื่อมต่อทุกจุด จัดตำแหน่งสนามพลังงาน และเตรียมเตรียมตัวทำลายสัญลักษณ์ EMP! เราจะล็อคมันไว้ เดี๋ยวนี้!”

เจ้าหน้าที่หน่วยม่านขยับอย่างรวดเร็ว อุปกรณ์กักกันพลังงานขนาดใหญ่ถูกหยิบออกมา—สี่เหลี่ยมหนาทรงพลังที่ถูกสลักด้วยสัญลักษณ์เรืองแสงสีฟ้า บีมพลังงานบางเฉียบถูกยิงออกจากอุปกรณ์ ก่อเป็นวงแหวนผนึกที่สลับซับซ้อนทั่วพื้นและผนัง

“ตาข่ายพลังงานสำรองพร้อมใช้งานในหกสิบวินาที ผู้บัญชาการ!” เจ้าหน้าที่หญิงคนหนึ่งตะโกนรายงานด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

ผมย่อตัวลงใกล้กับประตู พลิกหน้าสมุดใบลานอีกแผ่นหนึ่ง ขอบของมันแตกเป็นผงใต้ปลายนิ้ว

“พิธีกรรมนี้…” ผมพึมพำ พยายามถอดรหัสสัญลักษณ์โบราณ “มันยังไม่เสร็จสมบูรณ์ หรือบางทีมันอาจถูกขัดขวาง แต่ไม่ว่าจะยังไง มันไม่เสถียร”

หลินขมวดคิ้วแน่น ปรับหมวกยุทธวิธีของเธอให้มั่นคง ปืนพลาสม่าของเธอเปล่งแสงจ้า ราวกับมันกำลังเตรียมพร้อมสำหรับบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่

“แล้วถ้ามันเสถียรขึ้นมาล่ะ?” เธอถาม น้ำเสียงสงบนิ่งราวกับใบมีดเย็นเยียบ

ผมสบตาเธอ “เราจะได้เจอกับบางอย่างที่อยู่อีกฟากหนึ่ง และเชื่อผมเถอะ มันไม่ได้อยากชวนเรานั่งจิบชาและคุยดิไอดอลหรอก”

กรามของหลินขบแน่น “เจ้าหน้าที่มาลัย! สถานะอุปกรณ์ขัดจังหวะล่ะ?”

“พร้อมใช้งานในสามสิบวินาที ผู้บัญชาการ!”

แต่นั่นคือตอนที่ มันเริ่มขึ้นอีกครั้ง

Sponsored Ads

———————

เงามืดตื่นขึ้น

รอยร้าวใต้ประตูขยายกว้างออกไป และเงาดำมืดเริ่มไหลซึมออกมา แผ่กระจายไปทั่วพื้นราวกับน้ำมันดำ พวกมันเลื้อยไหลอย่างผิดธรรมชาติ ค่อยๆ ก่อตัวขึ้นเป็นรูปร่างที่กระตุกและบิดเบี้ยว เหมือนพยายามจะยืนขึ้น

เจ้าหน้าที่หน่วยม่านเปิดใช้อาวุธของพวกเขาพร้อมกัน—เสียงหึ่งของ ปืนพลาสม่า และเสียงแหลมต่ำจาก ระเบิดคลื่นพลังงานดังก้องไปทั่ว ฉายแสงสีฟ้าขาวส่องสะท้อนบนชุดยุทธวิธีของพวกเขา

เสียงกระซิบแหลมขึ้น ราวกับประสานกันเป็นคอรัสที่บิดเบี้ยว เสียงแหลมต่ำ สับสน และซ้อนทับกัน

[ครูบาสวรรค์… ความว่างเปล่า… โอบรับ… โอบรับ…]

ตาข่ายกักกันกระพริบวูบวาบ เมื่อเงาหนึ่งพุ่งออกมา รูปร่างคล้ายมนุษย์ แต่บิดเบี้ยวเกินจะเรียกว่ามนุษย์ ดวงตาเปล่งแสงจางๆ ราวกับเข็มแสงสองจุดที่จ้องมองมา

“ยิงเลย!” หลินสั่งเสียงดัง

สายพลังงานพลาสม่าสีฟ้าขาวพุ่งออกมาจากอาวุธของหน่วย ทุกนัดพุ่งตรงไปที่เงามืด ทำให้พวกมันกรีดร้องและสลายกลายเป็นควันสีดำที่ค่อยๆ จางหายไป

ผมถอยหลังอย่างรวดเร็วเมื่อเงาตัวหนึ่งพุ่งเข้ามาหา แขนที่เหมือนกรงเล็บยื่นออกมาพร้อมจะฉีกกระชากผม แต่หลินหันมาและยิงด้วยปืนพลาสม่าของเธอ สายพลังงานพุ่งตรงเข้าใส่กลางลำตัวเงามืด

มันระเบิดเป็นกลุ่มควัน ทิ้งร่องรอยไหม้ดำไว้บนพรม

แต่ประตูไม้สั่นสะเทือน เสียงไม้ส่งเสียงครืดคราดภายใต้แรงกดดันมหาศาล

สัญลักษณ์ส่องแสงวาบ รัวเร็วจนเหมือนรหัสมอร์สสะท้อนอยู่ทั่วห้อง

หลินตะโกนใส่ไมโครโฟนที่ติดอยู่บนหูฟังของเธอ “เจ้าหน้าที่ทุกคน! โฟกัสการยิงไปที่กลุ่มสัญลักษณ์ตรงฐานประตู! เราต้องทำลายโครงสร้างมันให้ได้!

Sponsored Ads

———————

เสียงกระซิบที่ดังขึ้น

อากาศหนาแน่นขึ้นจนหายใจลำบาก ราวกับมีแรงกดทับหนักหน่วงอยู่บนหน้าอกของผม เสียงหึ่งของตาข่ายกักกันเริ่มสั่นไหว แสงสีฟ้าขาวจากอุปกรณ์กักกันกระพริบอย่างไม่มั่นคง

ผมหยิบสมุดใบลานของย่าน้อยขึ้นมา กวาดตามองผ่านตัวอักษรโบราณ หวังว่าจะเจออะไรสักอย่าง—เบาะแส หรือร่องรอยใดๆ ที่จะหยุดพิธีกรรมนี้ได้

และผมเห็นมัน—สัญลักษณ์ขัดขวางขนาดเล็ก จางมากจนแทบมองไม่เห็น ซ่อนอยู่ตรงมุมซ้ายล่างของประตู

“หลิน!” ผมตะโกนลั่น ฝ่าความวุ่นวายของเสียงระเบิดพลังงานพลาสม่าและเสียงกรีดร้องของเงามืด “ตรงฐานประตู—สัญลักษณ์มุมซ้ายล่าง! นั่นคือจุดเชื่อมสำคัญ!

หลินหันขวับ สายตาคมกริบของเธอจับจ้องไปที่จุดนั้นทันที

“เจ้าหน้าที่ทุกคน! ยิงไปที่จุดนั้น—เดี๋ยวนี้!”

เสียงพลังงานพลาสม่าดังขึ้นพร้อมกัน สายแสงพุ่งตรงไปยังสัญลักษณ์ที่ผมชี้ไว้

สัญลักษณ์เปล่งแสงสีขาวจ้า—และจากนั้นก็แตกออกเป็นเสี่ยงๆ รอยแตกร้าวแผ่กระจายไปตามสัญลักษณ์อื่น ๆ บนประตู

ทุกอย่างหยุดนิ่งชั่วขณะ

เสียงกระซิบเงียบลง

เงามืดหยุดนิ่งกลางอากาศ ใบหน้าบิดเบี้ยวของพวกมันสั่นไหวราวกับเปลวเทียนใกล้ดับ

แต่แล้วประตูก็สั่นสะเทือนอีกครั้ง ไม้แตกร้าวเป็นเสี่ยงๆ เมื่อมีบางสิ่งมหึมาดันมาจากอีกด้านหนึ่ง

เสียงต่ำกังวาน—ระหว่างเสียงคำรามกับเสียงถอนหายใจ—แผ่ซ่านไปทั่วห้อง

สัญลักษณ์บนประตูส่องแสงจ้าเป็นครั้งสุดท้าย สว่างจนเหมือนมีแสงแฟลชระเบิดออกมา

และจากนั้น เสียงอันเย็นเยียบที่ดูเหมือนดังอยู่ในสมองผมก็ดังขึ้น:

[พวกเจ้าทำได้แค่ถ่วงเวลา… แต่หยุดมันไม่ได้ จงโอบรับ… ความว่างเปล่า…]

ทุกอย่างกลับมาสู่ความโกลาหลอีกครั้ง เงามืดพุ่งเข้าใส่จากทุกทิศทาง และประตูก็เริ่มแยกออกจากกัน

หลินหันมาทางผม ดวงตาเด็ดเดี่ยวไม่มีความลังเล

“นาวิน! เราจะปล่อยให้ประตูบานนี้เปิดออกไม่ได้เด็ดขาด!”

และในใจลึกๆ ผมก็รู้ดีอยู่แล้ว—

เวลาของเรากำลังจะหมดลง…