NOVEL / Number One Dungeon Supplier · August 25, 2021 0

14- หัวหน้าสัตว์ประหลาด

เมื่อได้ยินความคิดเห็นนั้น อารมณ์ของฝูงชนก็เงียบลงทันที สิ่งที่จินพูดออกมาเป็นนัยนั้นเป็นความจริง นับตั้งแต่กฎหมายที่เข้มงวดกำหนดไว้สำหรับผู้ฝึกตน คนส่วนใหญ่บ่มเพาะเพื่อประโยชน์ง่ายๆ เช่น เหนื่อยน้อยลง พวกเขาไม่ได้บ่มเพาะเพื่อต้องการเป็นคนยอดเยี่ยมที่สุด แต่บ่มเพาะก็เพียงแค่เพื่อผลประโยชน์สำหรับพวกเขาเท่านั้น

“ถ้าพวกคุณต้องการจะฝึกตน ทำไมพวกคุณบ่มเพาะแค่ครึ่งๆ กลางๆ?” บอสจินต่อยพวกเขาอย่างหนักด้วยความจริง “อย่ามัวแต่พร่ำ ว่าฉันมีงานต้องทำดังนั้นฉันจึงไม่สามารถบ่มเพาะได้มาก ย้อนกลับไปในสมัยอดีตผู้ฝึกตนยังบ่มเพาะได้ในขณะที่ไถอึม้าทั้งวัน”

จากนั้นบอสจินก็เดินออกไปและคิดว่าเขาให้อาหารพวกเขาเพื่อคิด “คำพูดนั่นก็เหมือนกับอึม้าเหมือนกันนะ” หยุนกล่าวขณะส่งอิโมจิเหงื่อตก 😅 ลงในโทรศัพท์

“เอ๊ะ? ฉันคิดว่ามันโอเคนะ” จู่ๆ จินก็อายและไปซ่อนตัวใกล้ประตูแพนด้าของเขา

“ก็ไม่มีประโยชน์อะไร ที่จะร้องไห้เพราะนมหก แม้ว่าสิ่งที่คุณพูดจะค่อนข้างจริงและเหมือรไม่เกี่ยวข้องอะไรกัน ฉันหวังว่าการแสดงของผู้ฝึกตนรุ่นเยาว์ทั้งสี่จะเป็นแรงบันดาลใจให้พวกเขา” หยุนถอนหายใจในหัวของเขา

Sponsored Ads

ฝูงชนก็ดุเดือดอีกครั้งหลังจากนั้นไม่นาน และจินใช้ประตูแพนด้าของเขาเพื่อสังเกตความคืบหน้าของสถานี 1 เมื่อเทียบกับประสิทธิภาพครั้งก่อนของบูดง จินรู้สึกประทับใจที่บูดงเรียนรู้จากความผิดพลาดของเขาและระวังตัวมากขึ้นโดยไม่ประเมินก็อบลินต่ำเกินไป

เยว่เหวินแทงก๊อบลินดาบสั้นไร้แขนอีกสองสามครั้งด้วยไม้เท้าดาบของเธอ เพื่อให้แน่ใจว่ามันตายแล้ว หลังจากที่คงเซียนผ่าทำลายทั้งอาวุธและมือของก๊อบลินดาบสั้น ขณะที่บูตงกำลังขัดขวางการโจมตีของก๊อบลินหอก เยว่ฮันใช้เคล็ดวิชาค้างคาวตาใสของเขาฟาดฟันเข้าหาก็อบลินหอกอย่างรวดเร็วทั้งๆ ที่เขาได้รับบาดเจ็บภายใน

มันซื้อเวลาให้คงเซียนดึงบูดงออกจากระยะของก็อบลินหอก และเยว่ฮันก็ถอยกลับทันที “รุ่นพี่เยว่เหวินช่วยรักษาบูดง! ฉันจะเบี่ยงเบนความสนใจและจัดการก็อบลินหอกเอง” คงเซียนสั่งเยว่เหวินและพุ่งเข้าหาก็อบลินหอก

“รักษาฉันด้วย พี่สาว ฉันคิดว่าฉันถูกพิษจากก็อบลินดาบสั้น” เยว่ฮันเริ่มหอบอย่างหนักและใบหน้าของเขาเริ่มซีดเล็กน้อย

ก็อบลินหอกมองที่แขนซ้ายของมัน การฟันอย่างรวดเร็วของเยว่ฮันนั้นไม่ลึกนัก แต่ก็น่ารำคาญเล็กน้อย มันยังคงรับมือได้และไม่ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของหอกมากนัก ก็อบลินหอกเอาเลือดจากบาดแผลนั้นและทาใบหน้าของมันด้วย เนื่องจากมันเป็นตัวสุดท้าย มันอยากล้มลงอย่างทรงเกียรติเช่นกัน

คงเซียนคุ้นเคยกับการต่อสู้แบบตัวต่อตัวตั้งแต่เขาอยู่ในสโมสรเคนโด้ ในขณะที่การแข่งขันเคนโด้อย่างเป็นทางการห้ามมิให้ใช้การบ่มเพาะ แต่นั่นไม่ได้หมายถึงในการแข่งขันที่ไม่เป็นทางการ หรือระหว่างการฝึกซ้อมหรือแม้แต่ในดันเจี้ยน เขาขยับท่าทีให้เหมาะสมกับผู้ใช้อาวุธยาวโดยเฉพาะ

แม้แต่ตัวก็อบลินเองก็มีท่าป้องกันซึ่งทำให้ผู้ชมแทบคลั่ง เสียงของฝูงชนไม่ได้ดังรบกวนใคร แต่ผู้คนจำนวนมากๆ ใกล้ถนนช้อปปิ้งเริ่มตั้งคำถามว่าเกิดอะไรขึ้น และเรื่องราวเกี่ยวกับดันเจี้ยนก็เริ่มแพร่กระจายราวกับไฟป่า

“ฉันไม่แน่ใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ก๊อบลินดูเหมือนมนุษย์มากกว่าก็อบลินที่เราทุกคนคุ้นเคย!”

“ฉันคิดว่ามันกำลังสู้เหมือนหมาจนตรอก ก็อบลินตัวนี้กล้าหาญมาก!”

จินยิ้มให้กับการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ในขณะที่เขายังคงดูจากประตูแพนด้า ตอนแรกเขาต้องการที่จะบ่มเพาะทักษะ ‘แพนด้าฟาด’ ของเขาให้เชี่ยวชาญถึงระดับกลางเป็นอย่างน้อยก่อนที่เขาจะเริ่มออกล่าอีกครั้ง อย่างไรก็ตามความกระหายที่จะล่านั้นมีมากยิ่งขึ้น

หากฝูงชนกลายเป็นลูกค้าของเขาจริงๆ เขาจำเป็นต้องค้นหาสัตว์ประหลาดที่ยากกว่าหรืออย่างน้อยก็มีหลากหลาย ความปรารถนาอันแรงกล้าของการบ่มเพาะเริ่มเผาไหม้อย่างรุนแรงภายในตัวเขา เพราะเขาต้องการได้รับพลังมากขึ้นเพื่อที่จะเป็นผู้ผลิตดันเจี้ยนอันดับหนึ่ง

“ว้าว! นายเคนโด้คนนั้นปัดหอกในนาทีสุดท้ายและผ่าก็อบลินออกเป็นสองส่วน!” ฝูงชนต่างส่งเสียงเชียร์คงเซียนโดยที่เขาไม่รู้ตัว

ในเวลาเดียวกันเยว่เหวินพยายามรักษาแผลที่แขนของบูดง เธอนำกระเป๋าสะพายข้างที่บรรจุอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นบางอย่าง เช่น ผ้าพันแผลและยาแก้พิษพื้นฐานที่เธอใช้เรียนในมหาวิทยาลัยมาด้วย เมื่อเยว่ฮันบอกพี่สาวของเขาเกี่ยวกับก็อบลินที่ใช้พิษ เธอก็เตรียมตัวมาพร้อม

เยว่เหวินใช้พลังชี่ของเธอเองผ่านการบ่มเพาะเคล็ดวิชา เทพธิดาคุ้มครอง เพื่อรักษาแผลที่แขนหลังจากที่เธอพันแผลไว้อย่างดี เธอยังบอกเยว่ฮันให้เข้าสู่การบ่มเพาะเพื่อพยายามชะลอพิษภายในตัวเขาหลังจากที่เขาดื่มยาแก้พิษหนึ่งขวด

คงเซียนเริ่มมองไปรอบๆ และถามว่า “อินสแตนซ์นี่ควรจบแล้วใช่ไหม?”

“ฉันไม่รู้สิ บางทีอาจมีก็อบลินอยู่รอบๆ มากกว่านี้ คงเซียนระวังไว้ด้วย อา รุ่นพี่เยว่เหวินช่วยกรุณานุ่มนวลกว่านี้หน่อยได้ไหมครับ?” บูตงดิ้นรนเล็กน้อยเมื่อเยว่เหวินเพิ่มแรงกดไปที่บาดแผลอีกเล็กน้อย

“ฮ่าฮ่าฮ่า ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าแชมป์จากราชาสัตว์ประหลาดนั้นกลัวความเจ็บปวด” เยว่เหวินเพิ่มแรงกดอีกเล็กน้อยอย่างหน้าไม่อาย บรรากาศรอบๆ ดันเจี้ยนมีชีวิตชีวาขึ้นเล็กน้อย แต่สิ่งที่ดีเช่นความสงบคงอยู่ไม่นาน ความรู้สึกกดดันอย่างหนักปรากฏขึ้นจากที่ไหนสักแห่ง

“ความกดดันนี้…มันเป็นระดับ 1 ขั้นสูงสุด!” คงเซียนขยับดาบของเขาเตรียมพร้อมให้อยู่ในท่าป้องกัน

เสียงฝีเท้าหนักแน่นและเสียงของสัตว์ขยับใกล้เข้ามายังตำแหน่งของพวกเขา เสียงของผู้ประกาศหญิงได้ออกคำเตือนในดันเจี้ยน แม้แต่ฝูงชนก็ยังตกใจกับการเปลี่ยนแปลงของการพัฒนา

“ระวัง! หัวหน้าสัตว์ประหลาด ระวัง!”

“รุ่นพี่เยว่เหวินไปดูแลเยว่ฮันและเอาพิษของมันออกไปให้เร็วที่สุด แขนขวาของฉันขยับได้อยู่และตอนนี้ฉันรู้สึกได้ถึงมือซ้ายของฉันแล้ว ค่อยมาดูฉันทีหลัง!” บูดงและคงเซียนพร้อมต่อสู้ในทันทีเมื่อแรงกดดันหมดลง

หมูป่าแปดขาโผล่ออกมาจากป่าและที่ใดก็ตามที่มันผ่านต้นไม้พังพินาศตามแนวทางเดิน หัวหน้าสัตว์ประหลาดหมูป่าแปดขาเห็นมนุษย์ทั้งสองและจ้องมองไปที่พวกเขา

“เวรเอ๊ย! ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้วว่าทำไมอินสแตนซ์ของบอสจินถึงมีราคาแพง!”

“ตอนนี้ฉันก็เข้าใจแล้วว่าทำไมนายถึงขอให้ฉันสวมเกราะเคนโด้” คงเซียนเหงื่อตก

Sponsored Ads

“ถ้าอย่างนั้น เรามาทุบหมูตัวนี้กันเถอะ” เยว่ฮันพูดด้วยอาการหอบในขณะที่เขาใช้ดาบของเขาพยุงตัว

“ตกลง แต่รอให้อะดรีนาลีน(1)สูบฉีดก่อน เย่ว์ฮัน มิฉะนั้นนายจะไม่มีเรี่ยวแรง” เยว่เหวินฉีดเข็มฉีดยาเข้าไปที่เยว่ฮันโดยไม่ได้ขออนุญาตจากเขา

“พี่เป็นผู้รักษา…แต่ทำไมพี่ถึงทำดาเมจให้ผมเจ็บมาก” เยว่ฮันอยากจะร้องไห้อย่างมาก

“อุ๊งงงงงงง!” หมูป่าส่งเสียงขู่อย่างน่ารักจนอารมณ์ของปาร์ตี้ดีขึ้นและผู้คนข้างนอกก็หัวเราะออกมา “ฉันคิดว่านั่นหมายถึงการยั่วเราใช่ไหม?” คงเซียนเริ่มต้นการโจมตีของเขาหลังจากที่เขาสงบลงเล็กน้อยจาก ‘คำรามที่น่ากลัว’ จากหัวหน้าสัตว์ประหลาด

“ไปกันเถอะ!” บูดงชี้ดาบไปที่หมูป่าแล้วก้าวตามหลังคงเซียน เยว่ฮันและเยว่เหวินแยกตัวออกจากกลุ่มโดยหวังว่าจะขนาบข้างทั้งซ้ายและขวา

“การแสดงเเริ่มต้นแล้ว…ฉันหวังว่านะ” จินมองที่หน้าจอของเขาด้วยความสนใจอย่างมาก

(1) อะดรีนาลีน Adrenaline หรือ อิพิเนฟริน (Epinephrine) เป็นฮอร์โมนที่ผลิตจากต่อมหมวกไต ซึ่งอยู่เหนือไตทั้ง 2 ข้าง และเป็นฮอร์โมนที่ทำให้หัวใจเต้นอย่างแข็งแรง และทำให้เลือดไปเลี้ยงเนื้อเยื่อมากขึ้นในช่วงที่ร่างกายเกิดความเครียด ซึ่งการเพิ่มขึ้นของฮอร์โมนเหล่านี้จะทำให้ร่างกายพร้อมต่อการ “ต่อสู้ หรือหลบหนี” หรือการเตรียมพร้อมสำหรับกิจกรรมที่รวดเร็ว และใช้กำลังมาก