ผมเหลือบมองกระดาษโน้ตอีกครั้ง หมึกที่ซีดจางแต่ลายมือยังคงคุ้นเคยไม่เปลี่ยน
“ขอให้โชคดี จากย่าน้อย”
ไม่มีเสียงอะไรในร้าน นอกจากเสียงหึ่ง ๆ ของป้ายไฟนีออนจากภายนอก และเสียงพลุที่ดังอยู่ไกลๆ
Sponsored Ads
แต่ในขณะที่ผมจ้องมองไปที่รูปปั้นแมวกวักนั้น เพียงเสี้ยววินาที—แผ่วเบาจนเหมือนอุปทานไปเอง—ผมได้ยินเสียงของเธอ
เสียงกระซิบแผ่วเบา อบอุ่น และคุ้นเคยเหลือเกิน
“ดูแลกันและกันนะ นาวิน และอย่าลืมดูแลตัวเองด้วย”
ผมผ่อนลมหายใจออกมาช้าๆ ความรู้สึกหนักอึ้งในอกจางหายไปบางส่วน เหลือไว้เพียงความอบอุ่นลึกๆ ในใจ
“สุขสันต์วันปีใหม่ครับ ย่าน้อย” ผมพึมพำเบาๆ
Sponsored Ads
———————
ข้อความถึงผู้อ่าน
ผมหันไปมองเว็บแคมเก่าๆ ที่วางพาดอยู่บนโต๊ะทำงานของผม ไฟสถานะเล็กๆ บนมันเรืองแสงจางๆ
“ธนา,” ผมพูดขึ้นลอย ๆ พลางเอนตัวพิงเก้าอี้, “นายรู้สึกไหม เหมือนมีใครบางคนกำลังดูเราอยู่”
ธนาหันขวับไปที่กล้องทันที พร้อมทำหน้าตกใจเกินเบอร์ราวกับตัวประกอบในละครเวที
“โอ้ ไม่! เราถูกไลฟ์สดอีกแล้วเหรอ? เราดังแล้วใช่ไหมเนี่ย!”
ผมถอนหายใจ พลางใช้นิ้วนวดขมับตัวเอง “มีสมาธิหน่อย ธนา บางทีอาจจะมีใครบางคนกำลังฟังเราอยู่จริง ๆ ก็ได้ บางทีพวกเขาอาจจะอยู่กับเรามาตลอดทั้งปีสุดวุ่นวายนี้”
ธนาขยับตัวให้ตรง แสร้งทำหน้าจริงจัง—ซึ่งจริงๆ ก็แค่หน้าธนาปกติ แต่ยิ้มน้อยลงหน่อย
“ถึงทุกคนที่อยู่ตรงนั้น—ไม่ว่าคุณจะเป็นนักล่าผี นักทำลายคำสาป หรือแค่พยายามเอาตัวรอดจากปีที่เต็มไปด้วยความหลอนในแบบของคุณเอง—ขอบคุณที่อยู่กับเรามาตลอดนะครับ”
“และจำไว้,” ธนาเสริมพลางชี้นิ้วขึ้นเหมือนคุณครูในชั่วโมงเรียน, “ถ้าไม่มั่นใจว่าจะแก้ปัญหายังไง ให้ลองถอดปลั๊กออกก่อนเสมอ”
ผมหัวเราะพรืด ส่ายหัวช้าๆ “แต่พูดจริงๆ นะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้—ไม่ว่าจะเป็นประตูมิติ คำสาป หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าสุดเฮี้ยนอะไรอีก—พวกคุณก็อยู่กับเรามาทุกย่างก้าว และนั่นสำคัญกับเรามาก”
เราทั้งคู่ยกแก้วกาแฟและกระป๋องโซดาขึ้นพร้อมกัน หันไปทางกล้อง
“สุขสันต์วันปีใหม่ครับ! ขอให้ปลอดภัย มีสติ และถ้าเป็นไปได้ พกสายสิญจน์ติดกระเป๋าไว้สักเส้น—กันไว้ดีกว่าแก้”
Sponsored Ads
———————
เสียงกระซิบในความเงียบ
หลังจากช่วงเวลาอันยาวนาน ทุกอย่างในร้านก็กลับสู่ความเงียบอีกครั้ง เสียงพลุจากข้างนอกค่อยๆ จางหายไป เหลือเพียงกลุ่มควันบางเบาและแสงประกายสุดท้ายลอยอยู่เหนือเส้นขอบฟ้าของกรุงเทพฯ
ผมยืดแขนขึ้นเหนือหัว เสียงข้อต่อดังกรอบแกรบอย่างประท้วง “โอเค ธนา ออกไปได้แล้ว ก่อนที่ฉันจะเริ่มเก็บเงินค่านั่งบำบัดหลังเลิกงานจากนาย”
ธนายิ้มแหยๆ ตามสไตล์เขาเอง พร้อมกับเอียงหมวกปาร์ตี้ “สุขสันต์วันปีใหม่” สีแสบตาให้ดูเท่ขึ้นมาหน่อย
“ก็ได้ๆ แต่พรุ่งนี้ ฉันจะลากนายไปทำบุญที่วัดอรุณให้ได้” เขาพูดพลางชี้นิ้วใส่ผม “นายต้องการบุญเยอะๆ หลังจาก…ปีนี้”
ผมยิ้มมุมปาก “การทำบุญมันยังนับว่าได้บุญอยู่ไหม ถ้านายโดนบังคับให้ไป?”
“ได้สิ! ได้เต็มๆ เลยล่ะ” ธนาตอบกลับทันที เขายกมือขึ้นทำท่าคำนับล้อเลียนขณะเดินถอยหลังไปทางประตู “อย่านอนดึกมากล่ะนะ แล้วก็อย่าคุยกับเครื่องใช้ไฟฟ้าผีสิงของนายจนเช้า”
ธนาหันมายิ้มอีกครั้ง ก่อนจะหายลับไปในอากาศยามค่ำคืนอันเย็นสบาย
ภายในร้าน…สงบลงอย่างประหลาด เงียบสงบ อย่างที่ไม่ได้รู้สึกมานานแล้ว
ผมถอนหายใจยาว เดินไปที่เคาน์เตอร์ และมองไปที่เจ้าแมวกวักเซรามิกตัวเล็กที่ยังคงวางอยู่ตรงนั้น ดวงตาที่ทาสีเอาไว้ดูแวววาวสะท้อนแสงไฟจางๆ ราวกับมันกำลังจ้องมองผมอย่างเข้าใจทุกอย่างที่เกิดขึ้น
ที่ไหนสักแห่งในความเงียบสงัด—เบาจนแทบจะคิดว่าเป็นเพียงสายลม หรืออาจจะเป็นเสียงหึ่งๆ จากเมืองที่ไม่เคยหลับใหล—ผมได้ยินเสียงกระซิบแผ่วเบา
ไม่ใช่คำสาป ไม่ใช่คำเตือน
แค่…ความเงียบสงบ
และเป็นครั้งแรกในรอบปี ผมรู้สึกว่ามัน…โอเคแล้วจริงๆ
Sponsored Ads
———————
สายโทรศัพท์ที่ไม่คาดคิด
ผมกำลังจะปิดไฟในร้านเมื่อโทรศัพท์สั่นครืดอยู่บนโต๊ะ หน้าจอเรืองแสงแสดงชื่อสายเรียกเข้า
ผู้บัญชาการหลิน
ผมถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะรับสาย “หลิน บอกผมทีว่าหน่วยม่านไม่ได้ใช้คืนวันปีใหม่ไปกับการสืบสวนเครื่องคาราโอเกะต้องคำสาปอีกเครื่องนะ”
มีเสียงเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนที่เสียงคมกริบแต่ราบเรียบของหลินจะดังขึ้นผ่านสายโทรศัพท์
“ใจเย็น นาวิน สิ่งเดียวที่ฉันจะสืบสวนในคืนนี้คือแชมเปญราคาแพงนี่ ว่าจะดื่มหมดก่อนเที่ยงคืนได้ไหม”
“ผู้การหลิน… คุณกำลังพักผ่อนอยู่เหรอ?” ผมถามด้วยน้ำเสียงแสร้งทำเป็นตกตะลึง
“อย่าทำให้มันดูไม่เป็นธรรมชาติแบบนั้นสิ” เธอตอบกลับด้วยน้ำเสียงติดประชด “ฉันเองก็มีวันหยุดเหมือนกันนะ เป็นครั้งคราว”
เสียงหัวเราะแผ่วเบาดังมาจากปลายสาย คงเป็นลูกทีมของเธอในห้องพักของหน่วยม่านที่ตกแต่งครึ่งๆ กลางๆ สำหรับปีใหม่
“เอาล่ะ” หลินพูดต่อ เสียงของเธอนุ่มลง “ฉันโทรมาเพราะถึงแม้คุณจะชอบเถียงสวนคำสั่งฉันและแหกกฎอยู่บ่อยๆ แต่คุณก็ทำได้ดีในปีนี้นะ นาวิน คุณช่วยชีวิตคนไว้มากมาย… รวมถึงชีวิตฉันด้วย”
ผมยกมือขึ้นเกาหลังคออย่างเก้อเขิน “คุณทำเหมือนผมเป็นฮีโร่เลย ผมก็แค่คนซ่อมอุปกรณ์เสียๆ แล้วก็บางครั้งก็ใช้มีดหมอแทงผีเท่านั้นเอง”
“นั่นแหละเหตุผลที่คุณยังมีชีวิตอยู่” หลินตอบกลับพร้อมเสียงหัวเราะแผ่วๆ “ยังไงก็ตาม สุขสันต์วันปีใหม่ นาวิน… แล้วก็…”
ผมได้ยินเสียงเธอลังเล—สิ่งที่หาได้ยากจากผู้บัญชาการหลิน
“…ถึงใครก็ตามที่ติดตามเรื่องราวของคุณ ไม่ว่าจะเป็นจากเงามืดหรือจากจอโทรศัพท์ ฟังคำบ่นของนายและมุกตลกแย่ๆ ของธนา—บอกพวกเขาด้วยว่า สุขสันต์วันปีใหม่ โลกนี้มีเงามืดมากมาย แต่พวกเขาเองก็มีแสงสว่างในตัว และบางครั้ง… แค่นั้นมันก็เพียงพอแล้ว”
มุมปากของผมยกขึ้นเป็นรอยยิ้มจริงใจ “ก็ได้ หลิน สุขสันต์วันปีใหม่เช่นกันนะ อย่าซักถามแชมเปญมากเกินไปล่ะ”
“ฉันรับปากไม่ได้หรอก” เธอตอบ ก่อนสายจะถูกตัดไป
Sponsored Ads
———————
คำสุดท้าย
ผมวางโทรศัพท์ลงและปล่อยให้ความเงียบปกคลุมร้านอีกครั้ง
นอกหน้าต่าง กรุงเทพฯ ยังส่องแสงระยิบระยับ—เมืองที่เต็มไปด้วยวิญญาณโบราณและแสงนีออน เมืองที่ยังคงตื่นตัว ยังคงส่งเสียง และยังคงมีชีวิตอยู่
ผมหันหน้าไปยังเว็บแคมที่ตั้งอยู่บนโต๊ะทำงาน ไฟสีเขียวเล็กๆ บนกล้องกะพริบแผ่วเบา ราวกับกำลังรออะไรบางอย่าง
“เอาล่ะ” ผมพูด พลางเอนตัวเข้าใกล้กล้อง “ดูเหมือนว่าผู้บัญชาการยังหยุดพักได้ งั้นเราก็ควรจะพักบ้างเหมือนกัน”
ผมหยุดไปครู่หนึ่ง น้ำหนักของปีที่ผ่านมาเกาะกุมอยู่บนบ่า แต่ก็ไม่ได้รู้สึกแย่เท่าไหร่นัก
“ถึงทุกคนที่อยู่ตรงนั้น—สุขสันต์วันปีใหม่ครับ”
ผมพยักหน้าให้กล้องเล็กน้อยด้วยรอยยิ้มจริงใจ
“ไม่ว่าคุณจะกำลังซ่อมคอมพิวเตอร์ ต่อสู้กับเครื่องดูดฝุ่นผีสิง หรือแค่พยายามประคองชีวิตของตัวเองเอาไว้—ขอบคุณที่อยู่กับพวกเรามาตลอดปีนี้ พวกคุณกล้าหาญกว่าที่คิด แข็งแกร่งกว่าที่รู้ และพูดตามตรงเลยนะ คุณสมควรได้นอนหลับมากกว่าพวกเราทุกคน”
ผมยกแก้วกาแฟที่เหลือเพียงครึ่งแก้วขึ้นมา
“แด่คุณ แด่เรา และแด่สิ่งที่จะมาถึง—ขอให้เราเผชิญหน้ามันไปด้วยกัน และขอให้แสงสว่างของพวกเราเปล่งประกายเจิดจ้ายิ่งขึ้นในความมืด”
ผมเอื้อมมือไปกดปิดเว็บแคม
ร้านกลับสู่ความเงียบสงบ มีเพียงเสียงหึ่งเบาๆ ของเครื่องจักรและแสงไฟนีออนที่ยังคงส่องสว่างอยู่ไกลๆ
นอกหน้าต่าง กรุงเทพฯ ยังคงดำเนินต่อไป พร้อมกับเสียงเชียร์ไกลๆ พลุไฟระยิบระยับ และเสียงพูดคุยของเมืองที่ไม่เคยหลับใหล
และที่ไหนสักแห่ง—บางทีอาจจะอยู่ท่ามกลางซากพิธีกรรมที่ถูกทิ้งไว้ หรือในเสียงกระซิบที่ลอยผ่านอากาศ—บางสิ่งบางอย่างยังคงจับจ้องอยู่
แต่ตอนนี้ ทุกอย่างสงบลงแล้ว
และสำหรับคืนนี้…แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว.
Sponsored Ads