เครื่องคาราโอเกะตั้งอยู่อย่างน่าขนลุกบนโต๊ะทำงานของผม ด้วยดีไซน์ฉูดฉาดที่ขัดแย้งกับพลังงานชวนอึดอัดที่แผ่ออกมา ผมเอนตัวพิงเคาน์เตอร์ จิบชาเย็นในมือ ขณะที่ธนากำลังเลื่อนดูฟอรัมสมคบคิดในโทรศัพท์ของเขา
Sponsored Ads
“เครื่องนี้ยังทำตัวดราม่ายิ่งกว่านายอีก” ธนาพูด พร้อมชี้นิ้วโป้งไปที่เครื่อง “และนั่นก็พูดอะไรได้เยอะ”
เอกที่ยังดูหวาดกลัวจากเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ ขยับตัวอย่างอึดอัดในมุมห้อง “ฉันสาบานเลยนะนาวิน ฉันไม่ได้ตั้งใจเอาเรื่องนี้มาวุ่นวายในชีวิตนาย ฉันแค่คิดว่ามันน่าสนุก”
“ใช่ แล้วไง” ผมพูดขณะวางแก้วชา “ความสนุกส่วนใหญ่ไม่ค่อยเกี่ยวกับผู้ชมผี ๆ กับการร้องคาราโอเกะแบบต้องคำสาปหรอก”
Sponsored Ads
———————
ขุดคุ้ยอดีต
ผมพลิกเครื่องคาราโอเกะหาเลขซีเรียลหรือตราประทับของผู้ผลิต หลังจากง่วนอยู่สักพัก ผมเจอรอยแกะจาง ๆ ใกล้กับช่องเสียบไฟ ตัวเลขเลือนลางแต่ยังพออ่านออก เป็นการแกะด้วยมือมากกว่าการประทับจากโรงงาน
“เจออะไรบางอย่าง” ผมพึมพำ ขณะหยิบแล็ปท็อปขึ้นมา ขณะที่คนอื่น ๆ มองข้ามไหล่ผม ผมพิมพ์ตัวเลขลงในฐานข้อมูลที่ใช้ค้นหาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เก่า ผลลัพธ์ออกมาน้อยมาก แต่มีชื่อหนึ่งโผล่ขึ้นมา EchoTone Electronics
“บริษัทเลิกกิจการแล้ว” ผมอ่านออกเสียง “ปิดตัวไปประมาณสิบห้าปีก่อน ผลิตอุปกรณ์เครื่องเสียงเฉพาะกลุ่ม รวมถึง—ฟังนี่น่ะ—เครื่องคาราโอเกะสั่งทำพิเศษ”
“เฉพาะกลุ่มแบบ ‘ต้องคำสาปตามสั่ง’?” ธนาถาม พลางหรี่ตามองหน้าจอ
“เฉพาะกลุ่มแบบราคาแพงและซับซ้อนเกินไปน่ะ” ผมตอบ “แต่เรื่องมันแปลกกว่านั้น ผู้ก่อตั้งบริษัทเป็นนักดนตรีชื่อ ชัชชาย กิตติศักดิ์ เขาดูเหมือนจะหมกมุ่นกับการสร้างประสบการณ์ดนตรีที่สมบูรณ์แบบ”
เอกขมวดคิ้ว “แล้วมันเกี่ยวอะไรกับสัญลักษณ์พวกนั้น?”
ผมเอนตัวลงบนเก้าอี้ ขยี้ขมับ “ตามข่าวลือ ชัชชายไม่ได้เป็นแค่นักดนตรี เขายังเข้าไปยุ่งกับศาสตร์ทางจิตวิญญาณ เชื่อว่าดนตรีเป็นประตูสู่จิตวิญญาณ เขาคิดว่าการใช้สัญลักษณ์พวกนี้จะช่วยเพิ่มพลังให้กับอุปกรณ์ของเขา ทำให้สามารถจับ ‘แก่นแท้’ ของผู้แสดงได้”
ธนาเลิกคิ้ว “จับ…ในความหมายว่าขังไว้?”
“ดูเหมือนจะใช่” ผมพูดเสียงหนัก “ถ้าเครื่องนี้เป็นหนึ่งในผลงานของเขา มันอาจยังมีเศษซากของสิ่งที่เขาพยายามทำให้สมบูรณ์แบบอยู่ก็ได้”
Sponsored Ads
———————
การยกระดับของเหนือธรรมชาติ
ราวกับตอบสนองต่อการพูดคุยของเรา เครื่องคาราโอเกะเริ่มทำงานด้วยเสียงฮัมต่ำ ๆ หน้าจอเรืองแสงขึ้น ท่วงทำนองหลอน ๆ เริ่มบรรเลงเบา ๆ แต่ยืนกราน เหมือนกำลังท้าทายให้เราทำอะไรต่อ
“เอ่อ… มันควรจะทำแบบนั้นไหม?” เอกถามด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ
“ไม่ควร” ผมตอบ ขณะที่เอื้อมมือคว้าสายสิญจน์ “ถอยออกไป”
ท่วงทำนองดังขึ้น เติมเต็มบรรยากาศในร้านด้วยความสะพรึงกลัว จู่ ๆ ห้องก็ดูเหมือนจะกระเพื่อม อากาศหนาหนักขึ้นเหมือนความจริงกำลังบิดเบี้ยว
“โอเค นี่มันใหม่แล้ว” ธนาพูดด้วยน้ำเสียงที่เริ่มแฝงความตื่นตระหนก จากนั้นเขาหยุดนิ่ง ดวงตาเบิกกว้าง “โอ้ ไม่”
ผมมองตามสายตาของเขาไปยังผนังร้าน ซึ่งเริ่มปรากฏภาพเบลอ ๆ คล้ายฉายโปรเจ็กเตอร์ มันคือการแสดงละครโรงเรียน—การแสดงที่ใช้งบประมาณสุดประหยัดที่ฮาจนน้ำตาเล็ด เผยให้เห็นธนาในวัยเด็กที่ดูอึดอัดในชุดต้นไม้กระดาษแข็ง เขาพูดบทแบบแข็งทื่อและหุ่นยนต์ เรียกเสียงหัวเราะจากผู้ชมในจินตนาการ
“โอเค ฉันเข้าใจแล้ว!” ธนาตะโกน เสียงของเขาแตกพร่า “ฉันเป็นต้นไม้ที่แย่มาก เปลี่ยนฉากเถอะ!”
ก่อนที่ผมจะทันตอบ เอกก็ส่งเสียงร้องโหยหวน ภาพอีกภาพปรากฏขึ้น คราวนี้เป็นฝูงคนไร้หน้ารายล้อมเขา พวกเขากระซิบเสียงซ้อนกันว่า
[ไม่มีใครรู้จักนาย นายไม่มีค่าอะไรเลย]
“หยุดมัน!” เอกตะโกน พร้อมกับกุมหัวตัวเอง “หยุดเดี๋ยวนี้!”
ผมหยิบสายสิญจน์ขึ้นมาและพันรอบเครื่อง พลางสวดเบา ๆ ภาพเหล่านั้นเริ่มสั่นไหวแต่ไม่หายไป พลังงานยังคงถูกเลี้ยงไว้ด้วยสัญลักษณ์ที่อยู่ข้างใน
Sponsored Ads
———————
การค้นพบที่น่าสะพรึง
เมื่อรู้ว่าเครื่องกำลังพยายามเบี่ยงเบนความสนใจ ผมจึงเปลี่ยนไปตรวจสอบภายนอก ใช้มือลูบตามรอยต่อของเครื่อง และนั่นคือเวลาที่ผมสัมผัสได้ถึงร่องเล็ก ๆ ใกล้ช่องหยอดเหรียญ ผมค่อย ๆ งัดมันออก และพบช่องลับ
ข้างในนั้นมีภาพถ่ายเล็ก ๆ ที่ซีดจาง รูปชายคนหนึ่ง—ชัชชาย กิตติศักดิ์—กำลังถือไมโครโพนเครื่องคาราโอเกะในห้องที่มีแสงสลัว สีหน้าของเขาดูภาคภูมิใจ ราวกับคนที่ประสบความสำเร็จอย่างบ้าคลั่ง ด้านหลังของภาพถ่ายมีข้อความขีดเขียนด้วยลายมือที่แหลมคม “นี่คือผลงานชิ้นเอกของฉัน”
เสียงดนตรีหยุดกะทันหัน ทิ้งไว้เพียงความเงียบเย็นยะเยือก ผมพลิกภาพในมือ รู้สึกได้ถึงน้ำหนักของความหลงใหลที่กดทับจากชัชชาย
“เขาไม่ได้สร้างแค่เครื่องคาราโอเกะ” ผมพูดเสียงต่ำ “เขาพยายามทำให้ตัวเองเป็นอมตะในเครื่องนี้”
ธนา ซึ่งยังดูตกใจแต่เริ่มตั้งตัวได้ มองภาพถ่ายอย่างไม่เชื่อสายตา “เยี่ยมเลย งั้นมันไม่ใช่แค่เครื่องต้องสาป แต่มันมีเรื่องส่วนตัวด้วย”
เครื่องส่งเสียงฮัมเบา ๆ เหมือนกำลังเห็นด้วย ผมจ้องมัน สัญลักษณ์บนตัวเครื่องยังคงเรืองแสงจาง ๆ ใต้ผิวโลหะ และผมรู้ว่านี่มันยังไม่จบ
Sponsored Ads
———————
น่าตื่นเต้น
“เราต้องรู้ว่าชัชชายพยายามทำอะไรอยู่” ผมพูด พลางวางภาพถ่ายลงบนโต๊ะ “และที่สำคัญกว่านั้น ต้องรู้ว่าจะหยุดมันยังไง”
หน้าจอของเครื่องกระพริบอีกครั้ง พร้อมแสดงข้อความสั้น ๆ
[ร้อง…ให้ฉัน]
ธนาครางเสียงดัง พลางพูดประชดประชัน “ยอดเยี่ยมไปเลย เครื่องคาราโอเกะที่มีปัญหาเรื่องถูกทิ้งขว้าง”
แต่เบื้องหลังอารมณ์ขันของเขา ผมรู้สึกได้ถึงความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้น อะไรก็ตามที่ชัชชายขังไว้ใน “ผลงานชิ้นเอก” ของเขา มันยังไม่จบกับเรา
Sponsored Ads