จินไม่มีเคล็ดวิชาการบ่มเพาะซึ่งไม่เหมือนกับผู้ฝึกตนระดับ 2 ส่วนใหญ่ หมิงปู่ของเขาสังเกตว่าจินมีศักยภาพในการบ่มเพาะที่ยอดเยี่ยม แต่ด้วยประสบการณ์ในกองทัพที่มีมานานหลายปี หมิงไม่พบเคล็ดวิชาการบ่มเพาะที่เหมาะสมสำหรับเขา ดังนั้น ภายใต้การสั่งสอนของหมิง จินได้รับการฝึกฝนโดยนำเอาเคล็ดวิชาการบ่มเพาะและศิลปะการต่อสู้ที่หลากหลายมาเสริมความแข็งแกร่งให้กับร่างกายและประสาทสัมผัสของเขา
เขาเพิ่มความเร็วของเขาด้วยเคล็ดวิชาเสือดาวกระโจน เสริมความแข็งแกร่งด้วยเคล็ดวิชากระทิงแกร่ง และฝึกประสาทสัมผัสด้วยเคล็ดวิชาตุ่นปากเป็ดหรรษา ศักยภาพและการทำงานหนักของเขาทำให้เขาสามารถเลื่อนระดับการบ่มเพาะเข้าสู่ระดับ 2 เมื่อการปรับสภาพร่างกายของเขาในรูปแบบต่างๆ แสดงให้เห็นผล
จุดอ่อนของการผสมผสานรูปแบบดังกล่าวคือจินสามารถไปถึงระดับ 2 หรือมากสุดคือระดับ 3 หมิงตัดสินใจที่จะทำเช่นนี้เพื่อให้จินมีรากฐานที่แข็งแกร่งก่อนที่เขาจะพบเจอการบ่มเพาะที่คู่ควรกับศักยภาพของเขา น่าเสียดายที่หมิงเสียชีวิตก่อนที่เขาจะสามารถค้นคว้าเกี่ยวกับเคล็ดวิชาการบ่มเพาะที่ดีที่สุดสำหรับจินได้
ด้วยประสาทสัมผัสจากเคล็ดวิชาตุ่นปากเป็ดหรรษา เขาสามารถสรุปได้ว่าพวกก็อบลินเหนื่อยและกำลังมองหาที่พักผ่อน ถ้าพวกเขาโจมตีตอนนี้ เขาอาจจะได้เปรียบกว่าพวกมัน
เขาไม่รู้ว่าพวกก๊อบลินเองก็มีการบ่มเพาะหรือไม่ เพราะอะไรๆ ก็เป็นไปได้ เขาก้าวไปข้างหน้าทีละก้าวโดยใช้เคล็ดวิชาเสือดาวโจนและเห็นก็อบลินอยู่ในสายตา เขาฟาดดาบลง เงาของมนุษย์สีเบจเบลอๆ สองคน ปรากฏขึ้นข้างหลังจินขณะที่เขาฟันดาบไปที่ก็อบลินที่ยังไม่รู้ตัว
Sponsored Ads
จำนวนเงาพร่ามัวแสดงให้เห็นถึงระดับที่จินเข้าถึง สีของเงาสะท้อนถึงระดับความแข็งแกร่งของจินในระดับนั้นๆ และเงารูปมนุษย์บ่งบอกถึงประเภทของการบ่มเพาะที่จินใช้ เนื่องจากจินไม่ได้ใช้เคล็ดวิชาใดเลย พลังของเขาจึงแสดงออกเป็นเงาของมนุษย์แทน
หากผู้ฝึกตนใช้เคล็ดวิชาการบ่มเพาะพยัคฆ์ขั้นสูงสุดของระดับ 2 ผู้ใช้สามารถแสดงภาพพยัคฆ์สองตัวที่มีชีวิตชีวาด้วยเฉดสีสดใสที่คล้ายกับภาพที่เห็นในความละเอียด 4K HDR ในทำนองเดียวกัน หากผู้ฝึกตนเพิ่งบรรลุระดับการบ่มเพาะระดับ 2 โดยใช้เคล็ดวิชาการบ่มเพาะงู เงางูสองตัวจะปรากฏขึ้น แต่พวกมันจะดูหยาบมาก เบลอ และเป็นขาวดำ
ดังนั้นในระดับเดียวกันจึงมีความแตกต่างของอานุภาพในระดับหนึ่ง ซึ่งผู้ฝึกตนสามารถสร้างความแตกต่างในตนเองได้
ก็อบลินเกือบตายจากการซุ่มโจมตีอย่างกะทันหัน และชีพจรของมันก็อ่อนแอลงทันที “จิน เร็วเข้า! โยนโทรศัพท์ไปหามันซะ อย่าให้มันตาย!” หยุนตะโกนอยู่ภายในหัวของจิน จินโยนโทรศัพท์ไปที่ก็อบลินที่กำลังจะตาย
หยุนเปลี่ยนแอปของโทรศัพท์เป็น “ล่า! ล่า!” ในทันที หากใครสามารถมองดูหน้าจอเริ่มต้น ได้เริ่มแอปในขณะที่จินเริ่มขว้างโทรศัพท์ มีแพนด้าสวมหมวกถือตาข่ายอยู่ในนั้น โทรศัพท์ชนเข้ากับก็อบลินที่กำลังจะตาย และก็อบลินก็ถูกดูดกลืนเข้าไปในโทรศัพท์ ทันใดนั้นหน้าจอก็แสดงแถบความคืบหน้าในการโหลด
“กำลังฝึกให้เชื่องอยู่ กรุณารอสักครู่” แถบค่อยๆ ขยับไปจนกว่าจะถึง 100%
“ถูกจับเรียบร้อยแล้ว โปรดดูการ์ดสัตว์ประหลาด” โทรศัพท์ลอยกลับมาหาจินทันที และเขามองดูก็อบลินสี่ตัวที่เหลือตกใจอยู่ ตัวหนึ่งคือผู้ถือหอก ผู้ใช้หน้าไม้ ก๊อบลินที่สวมเสื้อคลุม และก็อบลินที่แบกสิ่งของมากมาย
“ภารกิจเสร็จสิ้น คุณอยากจะอยู่ต่ออีกไหมเพื่อทำวัตถุประสงค์ทางเลือกให้สำเร็จ?” หยุนถามอย่างเป็นกลาง
“ให้ฉันลองตัวเลือกนี้” จิน เริ่มฮึดเต็มที่แล้ว เป็นเวลานานแล้วที่เขาไม่รู้สึกแบบนี้
ก็อบลินหอกพุ่งออกมาแล้วแทงหอกอย่างแรงไปที่จิน แต่เขาก็สามารถหลบมันได้ฉิวเฉียด “ดูเหมือนฉันจะขาดการฝึกฝนจริงๆ” จิน ก้าวไปข้างหน้าโดยใช้เสือดาวกระโจนและตีก็อบลินหอกด้วยด้ามดาบในมือขวา เขาสามารถทำให้มันตกตะลึงได้ชั่วขณะหนึ่ง เขาจึงถือโอกาสปลดอาวุธก็อบลินด้วยการดึงหอกออกด้วยมือซ้าย
จินก็สัมผัสได้ถึงอันตรายที่พุ่งเข้ามาหาเขา ดังนั้นเขาจึงหลบซ่อนตัวอยู่หลังก็อบลินหอกโดยใช้มันต่างโล่ ก็อบลินหอกใช้โอกาสนี้กัดเข้าที่ไหล่ซ้ายของจิน
จินร้องตะโกนด้วยความเจ็บปวด แต่เขายังคงต้องสู้ต่อไป เขารู้ว่าถ้าเขาตายที่นี่มันคงน่าละอายมากสำหรับระดับ 2 จินรวบรวมกำลังของเขาด้วยรูปแบบกระทิงที่แกร่งและฟาดดาบเหล็กระดับ 1 เข้าใส่ก็อบลินโดยมีเงามนุษย์ทั้งสองปรากฏขึ้นข้างหลังเขาอีกครั้ง
จินปล่อยหอกจากมือซ้ายที่เขาพยายามจะปลดอาวุธออก และดึงโทรศัพท์มือถือออกจากกระเป๋าคาดเอว เขารวบรวมความแข็งแกร่งเข้ากับมือซ้ายที่ถือโทรศัพท์มือถือและต่อยก็อบลินอย่างแรง
แอพในโทรศัพท์ที่ถูกควบคุมจากระยะไกลโดยหยุน เธอจึงเปิดใช้งานการจับอีกครั้ง ในที่สุดก๊อบลินก็ถูกจับโดยโทรศัพท์และกระบวนการฝึกให้เชื่องก็สำเร็จด้วยดี
“อีกสามคน…! เดี๋ยวนะ ก๊อบลินที่สวมเสื้อคลุมหายไปไหน?” จู่ๆ จินก็รู้สึกถึงออร่าการฆ่าฟันมาจากด้านหลัง เขาหันร่างกายอย่างรวดเร็วเนื่องจากการรับรู้ทางไฟฟ้า(1)ขั้นต้นที่เขาได้รับจากการฝึกฝนตุ่นปากเป็ดหรรษา ทำให้เขาประเมินได้ว่ามีการโจมตีมาจากทางไหน
-แคร็ง!-
จินสังเกตเห็นว่าก็อบลินที่สวมเสื้อคลุมนั้นสวมหน้ากากอยู่ ในขณะที่เขาสังเกตเห็นของเหลวสีเขียวกระเด็นหลุดออกจากดาบสั้นเมื่อมันกระแทกเข้ากับดาบเหล็กของเขา “พิษ!?” จินเดินโซเซเล็กน้อยและก็อบลินดาบสั้นก้าวถอยหลังและหายเข้าไปในป่า
“นายท่าน ฟื้นเร็ว!” มิลค์ร่ายคาถาจากหนังสือของเธอเสร็จแล้ว แล้วรัศมีแห่งการรักษาได้ปรากฏขึ้นตรงหน้าจิน ตราบใดที่จินอยู่ใกล้ๆ เขาจะได้รับการเยียวยา จินสังเกตว่าความเหนื่อยล้าของเขาค่อยๆ หายไปทีละนิดทีละนิดและบาดแผลที่ถูกก็อบลินกัดก็ปิดลงอย่างช้าๆ
ก็อบลินดาบสั้นสังเกตเห็นว่าจินไม่ได้มาคนเดียว และการต่อสู้อาจไม่ได้รับชัยชนะหากได้รับความช่วยเหลือจากมิลค์ ดังนั้นมันจึงเปลี่ยนเป้าหมายมาเป็นมิลค์ และพุ่งเข้าหาเธออย่างรวดเร็ว
มิลค์ไม่มีความตื่นกลัวคล้ายกับคาดไว้ว่าเธอจะถูกจู่โจม จินตระหนักดีว่ารูปแบบเสือดาวกระโจนของเขาไม่เร็วพอที่จะขัดขวางก็อบลินได้โดยไม่ใช้พลังบ่มเพาะ “ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฉัน นายท่าน” มิลค์เอ่ยขึ้นอย่างนิ่งๆ
ก็อบลินดาบสั้นกระโจนเข้าหามิลค์ บาเรียจางๆ ก็หยุดก๊อบลินดาบสั้นที่อาบยาพิษอยู่ด้านนอก หลังจากมิลค์ร่ายคาถา ‘โล่ศักดิ์สิทธิ์’ และต่อด้วยคาถา ‘การรักษาขั้นกลาง’ ไปที่จิน
จากนั้นมิลค์ก็หยิบหนังสือที่เธอถืออยู่มาฟาดเข้าใส่หัวก๊อบลินดาบสั้น มันช่างน่าประหลาดใจ จินเห็นเงาเทวดามีสีสันและรายละเอียดสูงสององค์ปรากฏขึ้นข้างหลังมิลค์ ในขณะที่เธอฟาดหนังสือ รอยแยกปรากฏขึ้นที่หัวของก็อบลินดาบสั้นและหนังสือเล่มนั้นก็เต็มไปด้วยเลือดและเศษสมอง
Sponsored Ads
จินไม่ลืมที่จะโยนโทรศัพท์ไปทางก๊อบลินทันที ก็อบลินถูกจับและถูกฝึกให้เชื่องได้สำเร็จในทันที “วัตถุประสงค์ทางเลือกเสร็จสมบูรณ์ เริ่มกระบวนการกลับคืน” หยุนพูดในหัวของจิน และเขาก็หายตัวไปก่อนที่จะถูกลูกธนูยิงเข้าใส่
เมื่อจินลืมตาและพบว่าเขากลับมาที่บ้านแล้ว เขาหอบเล็กน้อยและพบว่าเสื้อผ้าของเขาเปื้อนเลือด มิลค์มองดูหนังสือของเธอที่ยังมีเศษสมองของก๊อบลินติดอยู่ “นายท่าน การล่าเสร็จสิ้นแล้ว โปรดเรียกหาฉันอีกครั้งเมื่อคุณต้องการความช่วยเหลือจากฉัน มันสนุกมากค๊า!”
มิลค์แตะโทรศัพท์ที่จินถืออยู่และเธอก็หายไป “ฉันเข้าใจว่าการเป็นระดับ 2 ขั้นสูง มันมีความหมายมาก ฉันต้องรีบให้เร็วมากกว่านี้” จินพึมพำกับตัวเอง
“ใช่ จิน สมรรถภาพของคุณต่ำกว่าที่คาดไว้” หยุนกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ตรงไปตรงมา
“แต่คุณก็ทำภารกิจสำเร็จ ฉันจะมอบรางวัลให้คุณตามที่ตกลงกันไว้”
(1) การรับรู้ทางไฟฟ้า Electroreception คือสมรรถภาพของสิ่งมีชีวิตในการรับรู้ตัวกระตุ้นทางไฟฟ้าตามธรรมชาติ ในสัตว์น้ำหรือสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก รวมทั้งตุ่นปากเป็ดด้วย
