NOVEL / The Signal Beyond the Veil · December 3, 2024 0

019- ลูปหลอน (เสียงสะท้อนจากอดีต)

บรรยากาศในวิลล่าดูเบาสบายขึ้น ราวกับภาระหนักที่เคยถ่วงบ้านหลังนี้ถูกปลดเปลื้อง เปียโนตั้งเงียบสงบอยู่ในมุมเดิม ไม่มีพลังงานกดดันเหมือนก่อน พลอยยืนอยู่ข้างเปียโน นิ้วของเธอแตะคีย์เบา ๆ ด้วยความเคารพและระมัดระวัง

Sponsored Ads

“ขอบคุณนะคะ” เธอพูดเสียงเบา น้ำเสียงเต็มไปด้วยความโล่งใจของคนที่เพิ่งหลุดพ้นจากฝันร้าย “ฉันจะดูแลมันให้ดี ฉันสัญญา”

ผมพยักหน้าให้ แม้สีหน้าของผมจะดูระมัดระวังมากกว่าสบายใจ “แค่ระวังอย่าลองดีก็พอ ถึงสัญลักษณ์จะหายไปแล้ว แต่พลังงานบางส่วนอาจจะยังหลงเหลืออยู่ เหมือนกับ…เศษอาหารที่เหลือในตู้เย็น ทำความสะอาดรอบ ๆ ได้ แต่ห้ามเอามาอุ่นซ้ำ”

ธนา ผู้เป็นทั้งนักสร้างบรรยากาศและตัวป่วนประจำทีม ยิ้มกว้าง “หรืออีกทางนะ งดเล่นเพลงหลอนตอนตีสามก็พอ”

พลอยหัวเราะเบา ๆ แม้แววตาของเธอยังสะท้อนถึงความเหนื่อยล้าจากสิ่งที่เธอเพิ่งเผชิญ “ต่อไปนี้ฉันคงเล่นตอนกลางวันเท่านั้น แล้วจะเลือกเพลงที่สดใสกว่านี้”

Sponsored Ads

———————

กลับมาที่ร้าน

กลิ่นที่คุ้นเคยของสายไฟเก่าและตะกั่วบัดกรีลอยต้อนรับผมทันทีที่ก้าวเข้ามาในร้านช่วงบ่ายแก่ๆ หลังจากเคสเปียโนที่เหน็ดเหนื่อย ผมต้องการความสงบจากเสียงฮัมเบา ๆ ของโต๊ะซ่อมเพื่อดึงสติกลับมาอีกครั้ง

ขณะที่ผมนั่งเอนหลังกับเก้าอี้ เหตุการณ์ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาไหลย้อนเข้ามาในความคิด ทั้งสัญลักษณ์ เพลงที่ยังไม่สมบูรณ์ และเสียงกระซิบ  และเสียงกระซิบ ทั้งหมดชี้ไปที่ความหมกมุ่นอย่างเดียวกัน นักเปียโนที่สร้างต้นแบบเปียโนคำสาปนี้ไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายใคร เขาแค่ไล่ตามความสมบูรณ์แบบ ชิ้นงานที่สมบูรณ์แบบ ช่วงเวลาที่สมบูรณ์แบบ แต่การแสวงหาความสมบูรณ์แบบโดยไร้ขีดจำกัดนำไปสู่ความมืดมนที่ลึกกว่าที่เขาคาดคิด

เสียงของย่าน้อยดังก้องขึ้นในใจผม “แม้ว่าความตั้งใจดี แต่ถ้าไม่รู้ว่าจะเดินไปที่ไหน ก็อาจจะพาไปสู่นรกได้”

ผมมองไปที่กองอุปกรณ์ต้องคำสาปที่รอการซ่อมอยู่ข้าง ๆ แต่ละชิ้นล้วนเป็นบทเรียนที่คอยย้ำเตือนเรื่องเดียวกัน—เทคโนโลยี ความทะเยอทะยาน ความหลงใหล—ไม่มีสิ่งใดเป็นสิ่งชั่วร้ายโดยธรรมชาติ แต่ทั้งหมดมีศักยภาพที่จะนำไปสู่ความวุ่นวาย

เสียงเก้าอี้ขูดกับพื้นดึงผมกลับจากความคิด ธนาเข้ามาในร้านพร้อมถุงขนมวางบนเคาน์เตอร์และมือถือในมือ

Sponsored Ads

———————

การผจญภัยครั้งใหม่ของธนา

“โอเค ฟังฉันก่อน” เขาพูด พร้อมยกโทรศัพท์ขึ้นมาเหมือนมันเป็นของล้ำค่า “ถ้าฉันโพสต์วิดีโอเปียโนล่ะ? แค่ทีเซอร์เล็ก ๆ ไม่หลอนมาก นายคิดว่าไง”

ผมเลิกคิ้ว “นายไม่ได้เรียนรู้อะไรจากเคสนี้เลยเหรอ? บางทีอย่าไปยั่วผีเพื่อยอดไลค์เลย”

ธนาหัวเราะพลางโบกมือ  “ตอนนี้มันไม่เป็นไรแล้วใช่ไหม? แถมยอดวิวต้องพุ่งแน่! ชื่อคลิปว่า ‘เมื่อเปียโนพยายามฆ่าเรา’ ฟังดูดีใช่ไหม?”

ผมถอนหายใจ หยิบสมุดโน้ตจากโต๊ะแล้วเปิดหน้าดู “พูดถึงเรื่องเปียโน นายยังติดหนี้ฉันเรื่องค่าใช้จ่ายอยู่นะ”

ธนาชะงักกลางคำและกลางขนม “ค่าใช้จ่ายอะไร?”

“มาดูกัน” ผมแตะปากกาบนหน้ากระดาษ “น้ำมนต์ 300 บาท สายสิญจน์ 150 บาท ค่าซ่อม… ปัดขึ้นไป 1,000 บาทถ้วน”

ธนาทำหน้าตกใจ ขนมหล่นจากปาก “นายจะเก็บเงินฉันเหรอ? ฉันเป็นกำลังใจเชียวนะ!”

ผมหัวเราะเบา ๆ “กำลังใจไม่จ่ายค่าของศักดิ์สิทธิ์ได้ ธนา”

เขาบ่นอุบอิบขณะหยิบมือถือขึ้นมาคำนวณ “เอาเถอะ แต่ต้องมีส่วนลดเพื่อนสนิทให้ด้วยนะ”

Sponsored Ads

———————

ภัยคุกคามที่ยังค้างคา

ผมหันกลับไปหาชุดอุปกรณ์ ปล่อยให้ธนาบ่นเรื่อง “ค่าบริการสุดโหด” ขณะเลื่อนดูมือถือ แต่จู่ ๆ ความเงียบแปลก ๆ ก็ปกคลุมร้าน ผมเงยหน้าขึ้น เห็นธนาจ้องหน้าจอของเขา สีหน้าที่เคยยิ้มแย้มค้างไปทันที

“มีอะไรอีกล่ะ?” ผมถาม น้ำเสียงเหนื่อยล้าพร้อมรับมือหายนะครั้งใหม่

ธนากลืนน้ำลาย ยื่นมือถือมาให้ดู วิดีโอที่เขากำลังตัดต่ออยู่หายไปหมด แทนที่ด้วยข้อความเดียวที่กะพริบขึ้นมา 

[การแสดงต้องดำเนินต่อไป]

บรรยากาศในร้านหนักอึ้งขึ้นทันที เรานิ่งไปชั่วครู่ ก่อนที่ธนาจะหัวเราะแห้ง ๆ ทำลายความเงียบ “เอ่อ… อาจจะไม่โพสต์แล้วก็ได้ ลบเลยดีกว่า”

ผมหัวเราะเบา ๆ ส่ายหัวก่อนหยิบสายสิญจน์จากโต๊ะทำงาน “ส่งมือถือมานี่ เดี๋ยวฉันจัดการให้ จะได้ไม่ต้องฟังเพลงอังกอร์จากเปียโนอีก”

Sponsored Ads

———————

ปิดท้ายความคิด

ขณะที่ผมล็อกร้านในคืนนั้น ผมอดไม่ได้ที่จะหันไปมองในร้านที่มีแสงสลัวอีกครั้ง เคสพวกนี้ไม่มีทางจบสนิทจริง ๆ หรอก มักจะมีอะไรบางอย่างที่ยังค้างคา พลังงานบางอย่างที่ยังหลงเหลือ หรือคำเตือนที่ยังซ่อนอยู่ในเงามืด แต่ผมก็เรียนรู้ที่จะยอมรับชัยชนะเล็ก ๆ เท่าที่จะหาได้

ธนายังยืนบ่นเรื่อง “บิล” อยู่หน้าร้าน ผมตบหลังเขาเบา ๆ “คิดในแง่ดีสิ นายไม่ตาย ถือว่าคุ้มแล้ว”

เขามองผมด้วยสายตาตัดพ้อแต่ไม่ได้เถียงอะไร ก่อนเดินออกไปพร้อมเก็บมือถือไว้ในกระเป๋ากางเกง

“ความสมบูรณ์แบบมันเกินจำเป็นไปหน่อย” ผมพึมพำกับตัวเอง พลางพลิกป้ายหน้าร้านเป็น ปิดทำการ “ข้อบกพร่องต่างหากที่ทำให้ชีวิตเราน่าสนใจ”

และด้วยความคิดนั้น ผมเดินออกสู่ค่ำคืนที่ครึกครื้นของกรุงเทพฯ พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับปริศนาแปลกประหลาดครั้งต่อไปที่กำลังรอผมอยู่

Sponsored Ads