แม้ว่าเซรุจะหายตัวไปในอากาศ แต่เขาก็ยังส่งการแจ้งเตือนผ่านแอปเบลเลเตอร์ “การฝึกจะเริ่มใน 3 วัน” จินตระหนักว่าเซรุรู้ว่ารายได้ส่วนใหญ่มาจากช่วงสุดสัปดาห์นับแต่จินเปิดร้านตั้งแต่เช้าจรดค่ำในช่วงสุดสัปดาห์
“ฉันเชื่อว่าระบบไม่ต้องการให้ฉันเสียเงินจำนวนมากขนาดนั้น แม้ว่าฉันจะต้องได้รับการฝึกฝน” จินยิ้มเล็กน้อย
ในขณะเดียวกันหยุนขอให้จินเคลียร์ภารกิจและงานส่วนตัวจำนวนมาก เช่น การปรับปรุงสมุดคูปอง ก่อนที่เขาจะเริ่มต้นการฝึกในวันจันทร์ มิฉะนั้นเขาอาจจะไม่มีเวลาเพียงพอในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าที่จะทำมัน
“อันที่จริง หยุน ฉันอาจต้องการความช่วยเหลือเกี่ยวกับการจับฉลาก” ทั้งจินและหยุนล็อกประตูบ้านก่อนจะจากไป
“หืม อะไรนะ” หยุนหยิบหมวกกีฬาสีดำออกมาสวมอย่างน่าอัศจรรย์
“ฉันมีไอเดียบางอย่างสำหรับการจับฉลาก แต่อาจจำเป็นต้องใช้ทรัพยากรของระบบ” จินหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อศึกษารายชื่อเจ้าของที่เข้าร่วมในสมุดคูปองจากอีเมลที่ซือฟางส่งมาให้
“ถ้าคุณทำอย่างนั้น ระบบอาจจะสร้างวัตถุประสงค์ของภารกิจ คุณเต็มใจที่จะเสี่ยงหรือเปล่า?” หยุนเดินข้างๆ จินในขณะที่เขายังคงดูโทรศัพท์ของเขาต่อไป
“ไม่เป็นไร ระบบได้รับการแก้ไขแล้ว คุณค่อนข้างจะเหมือนคนปกติ ฉันเชื่อว่ามันคงจะเป็นวัตถุประสงค์ของภารกิจที่สมเหตุสมผล” จินพูดด้วยความมั่นใจ
Sponsored Ads
“โอ้โห อย่ามั่นใจเกินไป คุณยังต้องตกจากสวรรค์ด้วยระบบก็ได้” หยุนหัวเราะคิกคัก
“มันจะแย่ได้ขนาดไหนกัน?” จินคิดเงียบๆ แต่เขาลืมไปว่าหยุนสามารถฟังความคิดของเขาได้หากเธอต้องการ
“แล้วภารกิจตามหาแฟนล่ะ?” หยุนแหย่จินและเขาเกือบสะดุดล้มขณะเดิน
“โอเค โอเค ฉันขอโทษ ฉันต้องจำขีดจำกัดของตัวเองให้ได้” ความพยายามในความสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายของเขาเป็นเรื่องที่ยากจะลืมเลือนและเขายังต้องเดินหน้าต่อไป
ทั้งสองมาถึงร้านภายใน 10 นาที และเมื่อเปิดประตูด้านข้าง พวกเขาพบซองจดหมายหนาๆ อยู่ในกล่องจดหมายที่ประตู
“ไม่พบภัยคุกคาม คุณสามารถเปิดมันได้อย่างปลอดภัย” หยุนกล่าวอย่างสบายๆ ขณะที่เธอถอดหมวกและปล่อยผมลงครู่หนึ่งก่อนจะมัดผมอีกครั้ง
“คุณหมายถึงระบบสแกนจดหมายของฉันเหรอ?” จินเปิดผนึกซองจดหมายและพบสมุดคูปองต้นแบบและทัมบ์ไดรฟ์ เพื่อแก้ไขสมุดคูปองหากจำเป็น มีนามบัตรของสตูดิโอออกแบบกราฟิกและร้านพิมพ์ของย่านช้อปปิ้งในซองจดหมายแนบมาด้วย
“ฉันต้องทำ เราไม่สามารถปล่อยให้โฮสต์ของเราตายจากระเบิดในซองจดหมายหรือจากการโจมตีของเชื้อแอนแทรกซ์(1) ใช่ไหม?” หยุนเดินเข้าไปในเคาน์เตอร์บาร์เพื่อล้างมือ
“บางครั้ง ฉันสงสัยว่าเป้าหมายของระบบคืออะไร” จินเดินเข้าไปใกล้ตู้แล้วหยิบพิซซ่าทริปเปิ้ลชีสมาหั่นเป็นชิ้นๆ
“สำหรับคุณในตอนนี้? การเป็นผู้ผลิตดันเจี้ยนอันดับหนึ่งของโลก” หยุนไปชงกาแฟแบล็คไอโวรี่ ให้ตัวเอง
“ในตอนนี้? คุณหมายความว่าคุณมีแผนอื่นสำหรับฉันหลังจากบรรลุเป้าหมายนั้นแล้วใช่ไหม?” จินกัดพิซซ่าคำใหญ่และมองดูอย่างมีความสุข
“ความลับทางการค้า!” หยุนหัวเราะคิกคักขณะที่เธอพยายามทำให้กาแฟเย็นลงเล็กน้อย
Sponsored Ads
“ชิ ลอกเลียนแบบ” จินเปิดแอปเบลเลเตอร์ของเขาและเรียกทั้งเปปเปอร์และมิลค์ออกมาเพื่อทำภารกิจซอมบี้ เป็นอีกครั้งที่มิลค์สวมชุดผ้าไหมสีทองของเธอนอนเอนกายอยู่บนโซฟา โดยมีรูปร่างที่โค้งมนดูเซ็กซี่เหมือนเคย เปปเปอร์อยู่ในชุดนอนลายแพนด้าของเธอนอนอยู่ข้างโซฟา ขณะที่เธอกอดหมอนใบใหญ่แล้วน้ำลายไหล
มิลค์ลืมตาข้างหนึ่งและเห็นจินและหยุนมองมาที่พวกเขา “อีกห้า…อี๊ยยยยยยย!” หยุนดึงขาของมิลค์และเปปเปอร์ขึ้นไปที่ชั้นสองทันที เปปเปอร์ยังหลับสนิทเหมือนท่อนไม้ ทั้งๆ ที่ตัวและหัวกระแทกบันไดหลายครั้ง แม้ว่าหัวใจจะสู้ แต่ร่างกายกลับไม่เป็นเช่นนั้น และมิลค์ก็เหมือนกับว่าเธอดิ้นรนเพื่อสู้กับหยุนไม่ได้ “นาาาย ท่าาาน….ช่วยยยย”
และจินก็จำฉากนี้ติดตราตรึงอยู่ในใจ เขาอดไม่ได้ที่จะคิดถึงเบลเลเตอร์คนที่สามของเขา แต่จู่ๆ เขาก็สลัดความคิดนั้นออกไปทันทีที่เขารู้สึกถึงกลิ่นอายมืดๆ เล็ดลอดออกมาจากโทรศัพท์ของเขา
หยุนตะโกนบอกจินเพื่อขอเวลาให้เธอ 10 นาที เพิ่มจากปกติอีก 5 นาที เนื่องจากมีสมาชิกใหม่ในคลับหลับบนโซฟา
ดังนั้น จินจึงดูข่าวรออยู่ครู่หนึ่ง และมีข่าวหนึ่งที่ทำให้เขาสนใจ กำเนิดลูกแพนด้าตัวใหม่โดยเจียเจียและหลีหลีในสวนสัตว์ประจำจังหวัดเซินเจิ้น ภาพถ่ายที่สวยงามและลูกแพนด้าน้อยก็น่ารักเกินไป
“ฉันว่าน่าจะหยุดไปดูแพนด้าในสวนสัตว์ซักวันนะ นั่นก็จะเป็นสื่อการสอนที่ดีเช่นกัน การได้เห็นว่าแพนด้าเคลื่อนไหวอย่างไรอาจทำให้ฉันเข้าใจในการบ่มเพาะของฉันได้” จินตัดสินใจขอปิดร้านหนึ่งวัน
ทันใดนั้น มีการแจ้งเตือนปรากฏขึ้นเมื่อเขาดูข่าว
********
ภารกิจ: เดินทางไปยังสวนสัตว์ประจำจังหวัดเซินเจิ้นและถ่ายรูปเซลฟี่กับลูกแพนด้า
รางวัล: ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับสมุดคูปองทั้งหมด ระบบชำระให้เต็มจำนวน
********
“หยุน! คุณเพิ่งให้ภารกิจกับฉันเหรอ?” จินตะโกนจากชั้นหนึ่ง
“ดูเหมือนว่าฉันว่างพอใช่ไหม!” หยุนตะโกนกลับราวกับแม่ที่อุ้มทารกสองคนที่ไม่ดื้อรั้น
Sponsored Ads
“โอ้ ภารกิจนี้เป็นไปตามเจตจำนงของระบบ…? ฉันคิดว่ามันอนุญาตให้หยุนเป็นผู้แทนซะอีก เดาว่าอาจจะมีข้อยกเว้นเป็นครั้งคราว” จินคิดว่ามันค่อนข้างจะทะแม่งๆ เล็กน้อย แต่การทำภารกิจของระบบให้สำเร็จนั้นจำเป็นต่อการเติบโตของเขาในฐานะผู้ผลิตดันเจี้ยน
“มันคงมีเหตุผลที่จะทำเช่นนั้น” จินยักไหล่ขณะที่พยายามให้เหตุผลกับตัวเองและรอให้เบลเลเตอร์สองคนเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับโลกซอมบี้
“คุณสามคนพร้อมหรือยัง?” หยุมมัดรวบผมของเธอให้เป็นระเบียบหลังจากจัดการเบลเลเตอร์ทั้งสองให้พร้อมทำงาน และเธอก็หอบเล็กน้อย ทั้งสามพยักหน้าด้วย ‘ความกระตือรือร้น’ มาก และหยุนก็เคลื่อนย้ายพวกเขาไปยังโลกซอมบี้ และเธอก็ดื่มกาแฟแบล็คไอโวรี่ของเธอต่อไป
“กาแฟยังคงดีที่สุดสำหรับในยามเช้า” ในที่สุดหยุนก็มีความสงบสุขอีกครั้ง
เมื่อมาถึงโลกซอมบี้อย่างปลอดภัย จินก็พบว่าตัวเองอยู่ในที่ที่เขาเคยเห็นบนอินเทอร์เน็ต แต่นั้นมันก็ไม่เหมือนกับที่เขาจำได้
“เซี่ยงไฮ้ทาวเวอร์…?”
เขามองผ่านหน้าต่างของอาคารรกร้างที่หยุนได้เคลื่อนย้ายพวกเขามาและเขามองเห็นเซี่ยงไฮ้ทาวเวอร์ในซากปรักหักพัง “ทำไมถึงมีอาคารที่คล้ายกับเซี่ยงไฮ้ทาวเวอร์ที่นี่ในโลกนี้…หรือที่นี่คือเซี่ยงไฮ้ทาวเวอร์จริงๆ ?” จินถามหยุนในความคิดของเขา
“โลกทั้งใบที่คุณเคยเยี่ยมชม แม้แต่อาหารที่คุณขายและกินก็มาจากโลกคู่ขนานต่างๆ มันก็จะเกิดขึ้นได้หากมีการเปลี่ยนแปลงในไทม์ไลน์ของโลกเดิม” หยุนกล่าวอย่างเคร่งขรึม
“คือโลกที่ฉันอยู่ ไทม์ไลน์เดิมหรือเปล่า” หยุนส่ายหัวกับคำถามของจิน
“อย่าหัวเสียสิ ไทม์ไลน์เดิมไม่ได้แปลว่าโลกจะน่าอยู่ขึ้นเสมอไป บางสิ่งมีไว้เพื่อเป็นความลับ คุณได้รับสิทธิพิเศษในการเรียนรู้หนึ่งในความลับมากมายของโลก ตอนนี้ลืมเรื่องนี้ไปซะและมุ่งความสนใจไปที่ภารกิจของคุณ”
(1) การโจมตีของเชื้อแอนแทรกซ์ anthrax ปี 2001 มีการโจมตีด้วยการส่งจดหมายที่มีสปอร์ของโรคแอนแทรกซ์ หรือเรียกว่า อเมริแทรกซ์ (Amerithrax) ทำให้มีติดเชื้อ 17 ราย และผู้เสียชีวิต 5 ราย