NOVEL / Number One Dungeon Supplier · September 18, 2021 0

42- สี่พลังคนงาม ส่วนที่ 2

ระบบพื้นที่มิติของระบบทำงานอย่างลึกลับซึ่งไม่มีใครสามารถอนุมานได้ เมื่อจินเปิดใช้งานประตูแพนด้า ระบบได้สร้างร่างโคลนของก็อบลินตัวจริงพร้อมกับสภาพแวดล้อมปัจจุบัน ซึ่งระบบได้จัดเตรียมไว้สำหรับพวกเขาในฐานะอินสแตนซ์ดันเจี้ยน ในเวลาและวันนั้นๆ

เมื่อจินเปิดใช้งานสถานี 6 พวกก็อบลินกำลังทานอาหารอยู่ในบ้านมิติของพวกเขา ระบบได้คัดลอกสภาพแวดล้อมทั้งหมดไปยังสถานี 6 ราวกับว่าพวกก็อบลินเองก็กำลังประสบกับปรากฏการณ์ผีเสื้อกระพือปีก(1)ในไทม์ไลน์ของพวกมัน

ไม่ว่าพวกก็อบลินจะฆ่าคู่ต่อสู้ได้หรือไม่ก็ตาม พวกเขาจะได้รับค่าประสบการณ์และค่าประสบการณ์ร่างโคลนของก็อบลินจะรวมเข้ากับก็อบลินปัจจุบันผ่านการทำงานของระบบ

เมื่อสถานี 6 เปิดใช้งาน ก๊อบลินโคลนก็ได้ยินเสียงเตือนดังมาจากทางเหนือของที่ซ่อน มันเป็นสัญญาณเตือนภัยทั่วทั้งสภาพแวดล้อมที่พวกเขาเชื่อว่าเป็นเวทมนตร์ที่นายท่านวางไว้เพื่อเตือนก๊อบลินว่าผู้ฝึกตนศัตรูได้ถูกเคลื่อนย้ายเข้าไปในบ้านมิติปัจจุบันของพวกเขา

พวกก็อบลินรีบหยิบอาวุธและเศษผ้ามาสวมใส่ และทั้งหมดก็พร้อมที่จะวิ่งไล่ล่าคู่ต่อสู้ภายในไม่กี่นาที ขณะที่พวกเขากำลังจะออกจากที่ซ่อน พิราบแดงบินมายังที่ซ่อนของพวกเขา ซึ่งเป็นสัญญาณที่ส่งมาจากนายท่าน ข้อความมีว่าให้ก๊อบลินยกเลิกข้อจำกัดและต่อสู้ให้ดีที่สุดในการเผชิญหน้าครั้งนี้โดยเฉพาะ

Sponsored Ads

นอกจากนี้ นายท่านของพวกเขายังอนุญาตให้สวมชุดเกราะและอาวุธล่าสุดที่เพิ่งได้รับมา ก๊อบลินทั้งหมดกระโดดโลดเต้นด้วยความยินดี เพราะพวกเขาก็ต้องการลองพวกมันตั้งแต่ได้มันมาเมื่อสัปดาห์ก่อน

เกราะหนังชุดใหม่และอาวุธโลหะผสมเหล็กที่พวกเขาเก็บไว้ในที่ซ่อนนั้นไม่สามารถสวมใส่ได้เนื่องจากข้อจำกัดที่ได้รับจากเจ้านายของพวกเขา พวกเขาจะไม่สามารถสวมใส่อุปกรณ์ใหม่ได้ เว้นแต่จะได้รับคำสั่งให้ทำเช่นนั้น และยังมีพลังเวทมนตร์ที่ผูกมัดกับความสามารถของพวกเขาอีกด้วย

ด้วยการมาถึงของพิราบแดง มันไม่เพียงแต่ส่งข้อความถึงพวกก็อบลินเท่านั้น แต่ยังร่ายคาถาเพื่อลบข้อจำกัดความสามารถเหล่านั้นชั่วคราวออก

พวกก็อบลินวางอาวุธเก่าไว้ข้างๆ และช่วยกันสวมใส่อุปกรณ์ใหม่ก่อนที่จะออกไป

“มันเงียบเกินไปแล้ว พวกมันกำลังรอเวลากลางคืนมาถึงจริงๆ ดังนั้นมันจะง่ายที่จะโจมตีเรา?” เจียอิงเดินไปรอบๆ อย่างร้อนใจ โดยไม่หลงออกจากพื้นที่คุ้มครองของจิ่งอวี๋มากเกินไป

“จากปีศาจ” จิ่งอวี๋กระซิบผ่านเครื่องส่งรับวิทยุ ว่าเธอเห็นการเคลื่อนไหวบางอย่างจากทางตะวันออกเฉียงใต้และเริ่มเข้าสู่ขอบเขตของเธอ จิ่งอวี๋สังเกตและเฝ้าระวังการโจมตีใดๆ ก็อบลินถือหอกตัวหนึ่งออกมาจากพุ่มไม้ และเยว่เหวินตกใจกับการเปลี่ยนแปลงในรูปลักษณ์ของก็อบลินหอก

มันสวมชุดเกราะหนังเต็มตัวที่ติดด้วยชิ้นส่วนโลหะมันแตกต่างกับเศษผ้าที่มันเคยสวม หอกที่มันถืออยู่นั้นมีกระโหลกศีรษะคล้ายมนุษย์ติดอยู่ที่ปลายหอกสำหรับใช้เป็นเครื่องถ่วงน้ำหนัก

ก็อบลินชี้หอกมาทางเจียอิงราวกับว่าต้องการท้าดวล เยว่เหวินแจ้งจิ่งอวี๋ให้ระวังก็อบลินดาบสั้นในทันที มันเป็นกลอุบายเดียวกันกับที่พวกมันใช้กับบูดง

จิ่งอวี๋รับทราบและยังคงสำรวจบริเวณโดยรอบด้วยกล้องเล็งของเธอต่อไป แต่น่าแปลกที่ก็อบลินอีก 2 ตัวก็ออกมาในที่โล่งเช่นกัน พวกมันไม่ได้ซุ่มโจมตีเหมือนที่ทำในโหมดปกติ และนั่นทำให้เยว่เหวินกังวลใจเล็กน้อย “พวกมันอาจจะคิดว่าพวกเรากำลังต่อสู้ในการดวลที่เหมาะสมหรือนี่เป็นเพียงอุบาย? ยังมีก็อบลินตัวอื่นรอเราอยู่หรือ?” เยว่เหวินเริ่มตื่นตระหนกกับการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันของก็อบลิน ในทัศนคติต่อการดวลอย่างยุติธรรมและตรงไปตรงมา

Sponsored Ads

ในที่สุดก็อบลินดาบก็ชี้ดาบใส่ซื่อฮุ่ยและพูดด้วยความโกรธเป็นภาษาก๊อบลินราวกับว่ามันต้องการจะต่อสู้กับเธอ เยว่เหวินพยักหน้าเมื่อซื่อฮุ่ยมองไปที่เธอเพื่อขอคำแนะนำ และเธอก็ก้าวไปข้างหน้าเพื่อเผชิญหน้ากับก๊อบลินดาบ

ในขณะเดียวกันจิ่งอวี๋ได้เล็งเป้าไปที่ก็อบลินดาบสั้นตลอดเวลา อย่างไรก็ตามขณะที่เธอกำลังเล็งมันอยู่ ก๊อบลินก็ดูเหมือนจะรับรู้ถึงการมีอยู่ของเธอและยิ้มกลับให้เธอ

จิ่งอวี๋รู้สึกสับสนอย่างมาก “ก็อบลินรู้ตำแหน่งของฉันจริงๆ หรือแค่ยิ้มเฉย? ” ความคิดนี้เริ่มทำให้เหงื่อของเธอเย็น แม้จะเป็นความจริงที่เธอเป็นนักแม่นปืน แต่สิ่งที่เธอทำคือโจมตียังเป้าหมายที่ไม่ตอบโต้กลับ ถึงกระนั้นเธอก็กัดฟันและรักษาความสงบไว้โดยใช้หนึ่งในกระบวนท่าของเคล็ดวิชายีราฟปืนไฟ นั่นคือ ยีราฟปรัชญา

เมื่อเริ่มใช้กระบวนท่ายีราฟปรัชญา เธอรักษาอารมณ์ด้วยการหายใจยีราฟปรัชญาและชีพจรที่คงที่ โชคดีที่จิ่งอวี๋สามารถสงบจิตใจของเธอได้ทันเวลาขณะที่ดาบสั้นพุ่งเข้าหาเธอ ด้วยการยิงที่ชำนาญ กระสุนของเธอก็สัมผัสเข้าโดยตรงกับดาบสั้นที่บินได้ ดาบสั้นกระเด็นจากการปะทะกันกลางอากาศกับกระสุนพลังชี่และตกลงสู่พื้น

“แสดงว่ามันก็รู้ว่าฉันอยู่ที่ไหน” จิ่งอวี๋หายใจเข้าแรงๆ และบรรจุกระสุนอีกเม็ดเข้าไปในปืนไรเฟิล Winterwolf ของเธอ เธอรู้ว่าสิ่งที่ก็อบลินทำคือเตือนเธอไม่ให้มีความคิดที่ ‘ฉลาด’ ในการดวลของทั้งสอง ขณะที่มันจับตาดูเธออย่างใกล้ชิด

“สำหรับก็อบลิน พวกมันดูน่านับถือสำหรับการต่อสู้ครั้งนี้” จินแสดงความคิดเห็นอย่างไม่เป็นทางการซึ่งทำให้ลูกค้าในร้านทุกคนแทบกระอักเลือด

“บอส ถ้าคุณรู้ว่าพวกมันทำอะไรกับฉัน คุณจะพิจารณาคำพูดของคุณใหม่…” ลูกค้าคนหนึ่งตอบ

“ฉันเคยฝันร้ายเกี่ยวกับก็อบลินและหัวหน้ามัน พวกก็อบลินจากร้านของคุณ ทำให้ฉันคิดว่าฉันจะไม่เห็นก็อบลินแบบเดิมอีกเลย” ลูกค้าอีกรายเพิ่มเติม

“บอส คุณเป็นไข้หรือเปล่าที่คุณพูดอย่างนั้น? ถ้าเป็นเช่นนั้น โปรดกินยาของคุณด้วย” ลูกค้ารายอื่นเกือบทุกคนพยายามตอบกลับบอสจินอย่างประชดประชัน แต่สายตาของพวกเขาไม่เคยละจากหน้าจอเมื่อการดวลระหว่างสมาชิกสี่พลังคนงามกับพวกก็อบลินเริ่มต้นขึ้น

เจียอิงโจมตีก็อบลินโดยตรงเพื่อทดสอบความสามารถของมัน บางครั้งการแสดงความแข็งแกร่งเป็นสิ่งที่จำเป็นในการสรุปการต่อสู้ แต่พวกก็อบลินเท่านั้นที่มีเกียรติในคำพูดของพวกมันที่จะต่อสู้เพียงลำพัง

Sponsored Ads

ก็อบลินหอกเลื่อนหอกไปสกัดการจู่โจมของเจียอิงทันทีที่มือของเธอยื่นออกมา และมันตัดสินใจโจมตีด้านหลังของเธอ “หืม! คุณมีทักษะในการคาดการณ์ความแข็งแกร่งของฉัน จริงๆ แล้วมันเป็นกลลวง! เยว่เหวินอาจพูดถูกทั้งหมด! ฉันสามารถหาคู่ต่อสู้ที่คู่ควรเป็นสัตว์ประหลาดได้มากกว่าพวกผู้ชาย”

การโจมตีตรงๆ นั้นเป็นการหลอกลวงอย่างแท้จริงเมื่อพลังงานจากหอกพู่แดงถูกปล่อยออกมาที่ปลายหอก หากก็อบลินปะทะกับเจียอิง พลังจะระเบิดออกมาทำให้มันกระเด็นออกไป แม้ว่ามันจะสามารถต้านทานได้ แต่ก็เพียงพอที่จะเปิดโอกาสให้เจียอิง โจมตีซ้ำเพื่อสร้างความเสียหายเพิ่มเติม

เจียอิงตอบโต้การโต้กลับของก็อบลินด้วยการโจมตีออกไปตรงๆ เธอดึงหอกพู่แดงของเธอออกด้านข้างเพื่อหลีกเลี่ยงการโจมตีจากก็อบลิน

น่าเสียดายที่ก็อบลินไม่เร็วพอที่จะตอบสนองและทำให้เธอหนีไปอีกด้านหนึ่งของพื้นที่โล่ง จากนี้ไปการต่อสู้ก็จะเข้มข้นขึ้นอีก

(1) ปรากฏการณ์ผีเสื้อกระพือปีก butterfly effect ในปี 1961 ดร.เอ็ดวาร์ด ลอเรนซ์ (Dr.Edward Lorenz) พยายามจำลองสภาพอากาศโดยใช้การประมวลผลแบบจำลองอย่างง่ายทางคอมพิวเตอร์ แต่แทนที่จะทำซ้ำเหมือนการทดลองเดิมทั้งหมด เขากลับเริ่มโดยใช้แทนค่าเบื้องต้นด้วยตัวเลขที่ตัดทศนิยมออกไป เช่น 0.506127 เป็น 0.506 เมื่อใช้โปรแกรมเดิมกับแบบจำลองครั้งแรก รูปแบบของสภาพอากาศที่ออกมาก็ควรเป็นเหมือนครั้งแรก แต่ปรากฏว่ารูปแบบการพยากรณ์อากาศในครั้งหลังแตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากผลการจำลองครั้งแรก แต่เมื่อได้รับผลดังกล่าว เขากลับคิดว่าคงเป็นเพราะคอมพิวเตอร์ทำงานผิดพลาด แต่ก็มาเข้าใจในภายหลังว่า เป็นเพราะเขาใส่เงื่อนไขเบื้องต้นไม่ตรงกับครั้งแรก ซึ่งแม้จะต่างไปเพียง 0.1% แต่ก็ให้ผลในตอนท้ายที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง และได้บรรยายสรุปในหัวข้อ "ความสามารถในการทำนาย: ปรากฏการณ์ผีเสื้อกระพือปีกที่บราซิลจะส่งผลให้เกิดทอร์นาโดในรัฐเท็กซัสได้หรือไม่?" (Predictability: Does the Flap of Butterfly's Wings in Brazil Set Off a Tornado in Texas?)